สำรวจท้องฟ้าด้วยกล้องสองตา
กล้องส่องทางไกลแบบสองตาเป็นอุปกรณ์ดูดาวอย่างหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง เพราะพกพา สะดวก และช่วยให้เห็นดาวที่มีความสว่างน้อย ๆ ได้ชัดเจนขึ้น กล้องสองตามีหลายชนิดและหลาขนาด ให้เลือกใช้ ถ้ากำลังขยายน้อยก็จะดูได้เป็นบริเวณกว้างแต่เห็นรายละเอียดได้น้อยกว่ากล้องที่มีกำลัง ขยายมาก โดยทั่วไปมักนิยมใช้ขนาด 7x 50 (เพราะเมื่อคำนวณด้วยการนำเลขตัวหน้าไปหารเลขตัวหลัง จะได้ค่าประมาณ 7 ซึ่งจะเหมาะกับรูม่านตาของคนเรา) และถ้าใช้กล้องสองตาที่มีกำลังขยายมาก ๆ ก็ควรใช้ขาตั้งกล้องด้วยเพื่อกันกล้องสั่น
เรามาดูกันนะคะว่าจะใช้กล้องสองตาสำรวจอะไรในท้องฟ้าได้บ้าง

ดวงอาทิตย์

ห้ามใช้กล้องสองตาดูดวงอาทิตย์โดยตรงเด็ดขาด ถึงแม้จะมีแผ่นกรองแสงสำหรับใช้ดูดวงอาทิตย์ โดยเฉพาะก็ยังต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง

ดวงจันทร์

ถ้าใช้กล้องที่มีกำลังขยายสูงสักหน่อยก็จะสามารถเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา หลุมอุกกาบาตบนดวงจันทร์ด้านใกล้ได้ และแสงจากดวงจันทร์ก็ไม่เป็นอันตรายกับสายตาเนื่องจากเป็นเพียงแสงสะท้อนเท่านั้น
[ภาพแผนที่พื้นผิวดวงจันทร์ด้านใกล้] 535.5 KB - ภาพจาก Sky&Telescope

ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเรา

ดาวพุธ จะเห็นได้ง่ายด้วยกล้องสองตาในเวลาเช้ามืดหรือหัวค่ำ ถ้าดูในสถานที่ที่เหมาะสม และควรเป็นตอนที่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้นหรือลับขอบฟ้าไปแล้วเท่านั้น ถ้ากล้องมีกำลังขยายสูงอาจจะมองเห็นดาวพุธเป็นเสี้ยวได้

ดาวศุกร์ จะเห็นเป็นเสี้ยว และจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นเมื่ออยู่ในช่วงที่เห็นดาวศุกร์ได้เกือบเต็มดวง

ดาวอังคาร เห็นเป็นเพียงดวงกลม ๆ สีแดง

ดาวพฤหัสบดี เห็นเป็นดวงกลม ๆ ได้ชัด แต่จะไม่เห็นรายละเอียดของพื้นผิว ถ้าหากกล้องมีกำลังขยายและคุณภาพดีพอก็จะมองเห็นดวงจันทร์กาลิเลียน*ของดาวพฤหัสบดีทั้ง 4 ดวงได้เป็นจุดเล็ก ๆ
(* ดวงจันทร์กาลิเลียน ได้แก่ ไอโอ ยุโรปา คาลลิสโต และแกนีมีด)

ดาวเสาร์ เช่นเดียวกับดาวพฤหัสบดี คือ จะเห็นแค่เป็นดวงกลม ๆ ซึ่งถ้ากล้องมีกำลังขยายมากพอก็อาจสังเกตเห็นว่ามีวงแหวนได้ โดยจะเห็นว่าดวงกลม ๆ นั้นมีรูปร่างผิดปกติเล็กน้อย

ดาวยูเรนัส มองเห็นได้เป็นจุดแบบดาวทั่วไป แต่ถ้ากล้องมีกำลังขยายสูงก็อาจจะมองเห็นเป็นดวงกลม ๆ ตามลักษณะของดาวเคราะห์ได้

ดาวเนปจูนและดาวเคราะห์น้อย อาจมองเห็นได้ แต่ก็เห็นเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ แบบดาวทั่วไป ซึ่งเราจะสามารถแยกแยะออกจากดาวฤกษ์ได้ก็โดยการสังเกตการโคจรของดาวในแต่ละคืนเท่านั้น

ดาวพลูโต มองด้วยกล้องสองตาไม่เห็นค่ะ


ดาวหาง

การดูดาวหางด้วยกล้องสองตาจะมีข้อได้เปรียบกว่ากล้องโทรทรรศน์ตรงที่เห็นได้ทั้งส่วนหัวและหางพร้อม ๆ กัน จึงเป็นที่นิยมใช้ในหมู่นักล่าดางหาง โดยส่วนใหญ่เขาจะใช้กล้องที่มีกำลังขยาย 12 เท่า

ดาวเทียม

สามารถดูได้โดยการหันกล้องตามดาวเทียมที่กำลังเคลื่อนที่ หรืออีกวิธีหนึ่ง คือ ส่องกล้องดูดาวดวงที่เราทราบล่วงหน้าแล้วว่าดาวเทียมจะโคจรผ่าน แล้วรอให้ดาวเทียมเคลื่อนที่เข้ามาในฟิลด์ที่เราดูอยู่

ดาวฤกษ์

จะทำให้เราเห็นสีของดาวได้ชัดเจนขึ้นโดยเฉพาะดาวที่มีสีแดง ทั้งยังใช้ดูระบบดาวคู่ และส่องหา Nova ได้ โดยควรใช้กล้องที่เห็นได้มุมกว้างแต่มีเลนส์ตัวหน้าใหญ่พอสมควร ซึ่งเราเองก็ต้องมีความรู้เกี่ยวกับตำแหน่งของสิ่งที่เราจะดูด้วย คุณ Patrick Moore (นักดาราศาตร์ผู้ให้ความรู้ในการใช้กล้องสองตานี้) บอกว่าแถว ๆ ทางช้างเผือกจะมี Nova ปรากฏมากที่สุด

กระจุกดาว

กระจุกดาวขนาดใหญ่ เช่น กระจุกดาวลูกไก่(Pleiades) ควรใช้กล้องที่มีกำลังขยายต่ำจะทำให้เห็นได้มุมกว้าง ซึ่งถ้าใช้กำลังขยายสูงจะเห็นได้ไม่เต็มกระจุกดาว แต่สำหรับกระจุกดาวอื่น ๆ โดยทั่วไปควรใช้กล้องที่มีกำลังขยายสูง

เนบิวลาและดาราจักร

ส่วนใหญ่จะต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ในการดูสิ่งเหล่านี้ แต่ที่ดูได้ด้วยกล้องสองตาก็มีอยู่บ้าง เช่น Orion nebula, Andromeda galaxy เป็นต้น

ดาวตก

ไม่เหมาะที่จะใช้ส่องหาดาวตกเพราะเราไม่สามารถทราบตำแหน่งของดาวตกได้ วิธีดูดาวตกที่ดีที่สุดก็คือดูด้วยตาเปล่าค่ะ
เห็นตัวเล็ก ๆ อย่างนี้แต่มีประโยชน์มากเลยนะคะ ก่อนจบหน้านี้มีวิธีเลือกซื้อกล้องสองตาซึ่งเคยอ่านพบใน Blue Planet มาฝาก พอสรุปได้ดังนี้

1. เมื่อส่องดูที่ที่สว่างมาก ๆ จะไม่เห็นเป็นภาพฝ้ามัว(แฟลร์)
2. เห็นสีสันตรงกับความเป็นจริง
3. ส่องดูเส้นตรงแล้วไม่เห็นว่าโค้งงอ
4. ดูนาน ๆ แล้วไม่ปวดตา

แล้วก็เลือกราคาที่ไม่ปวดใจด้วยนะคะ จะได้ดูดาวอย่างมีความสุขค่ะ

เค้าโครงและข้อมูลโดยรวมมาจากบทสรุปในหนังสือ Exploring the Night Sky with Binoculars โดย Patrick Moore