กลับสู่ 100 MAG on the WebSiriraj Home Page - คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลVote me for Thai Top 100 - โหวตให้เวบนี้สู่ Sanook Thai Top 100Rama 25 Home Page - เวบไซท์ รามา 25Nattawit - Our beloved friend - ณัฏฐวิทย์ ผู้เป็นที่รักของเพื่อน ๆComment about this Web - ให้ข้อเสนอแนะแก่เรา

เฉพาะศิริราช 100 เท่านั้น - Siriraj 100 Only!



Main Menu

บรรณาธิการแถลง
เฉพาะชาวศิริราช 100 เท่านั้น - Siriraj 100 only!
ความรู้ทางการแพทย์
ถาม - ตอบปัญหาทางการแพทย์
รำลึกถึง ณัฏฐวิทย์
ให้ข้อเสนอแนะกับเรา

Thai Clinic ตอบปัญหาสุขภาพ

Site by
Siriraj 100
Best view with only
Browser แนะนำในการเยี่ยมชมเวบนี้ครับ
Special Thank
Geocities
คำแนะนำในการดู Site นี้

คลิกที่นี่ครับ
Vote me to Sanook 100 Hot

spacer.gif (40 bytes)
Medicine Review - สาระความรู้ทางการแพทย์เพื่อประชาชน

สาระความรู้ทางการแพทย์ เพื่อประชาชน อ่านได้ที่นี่

Update 7 Oct'98
พิษสุนัขบ้า โรคร้าย รักษาไม่หาย ตายลูกเดียว

พิษสุนัขบ้า เป็นโรคติดต่อร้ายแรง ที่เกิดจากเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า ติดต่อได้โดยการได้รับสารน้ำหรือสิ่งคัดหลั่งจากสิ่งมีชีวิตที่ติดเชื้อนี้ เข้าสู่ทางบาดแผล เมื่อเชื้อเข้าสู่เส้นประสาท หรือเนื้อเยื่อของระบบประสาท จะแบ่งตัวและเดินทางเข้าสู่สมอง ทำให้เกิดสมองอักเสบชนิดรุนแรง และเสียชีวิตในที่สุด

สิ่งมีชีวิตที่ติดเชื้อนี้ได้ มิใช่แต่สุนัขอย่างเดียว หากแต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด สามารถติดเชื้อนี้ได้ทั้งสิ้น เช่น แมว, กระต่าย, กระรอก, หนู เป็นต้น แต่พบว่าสุนัขเป็นพาหะที่สำคัญที่สุด

เมื่อถูกสุนัข หรือแมวกัด ทำอย่างไร

เนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้า มีความรุนแรงมาก เมื่อใดที่มีความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อดังกล่าว ไม่ว่าทางใดก็ตาม จำเป็นต้องได้รับวัคซีนทั้งสิ้น ส่วนใหญ่ของการได้รับเชื้อ มักเกิดจาก สุนัขหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม กัด ข่วน หรือทำให้เกิดแผล

ข้อแนะนำสำหรับผู้สัมผัสหรือมีโอกาสได้รับเชื้อ

  • การปฐมพยาบาลเมื่อเกิดบาดแผลสุนัขกัด มีความสำคัญมาก เนื่องจากการทำความสะอาดแผล สามารถลดปริมาณเชื้อไวรัสนี้ และช่วยป้องกันการติดเชื้อจากสิ่งสกปรกที่อาจเข้าไปในบาดแผล รวมทั้ง บาดทะยักด้วย วิธีที่แนะนำได้แก่ การล้างแผลด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำสบู่ แล้วเช็ดแผลด้วย แอลกอฮอล์, สารละลายไอโอดีน หรือทิงเจอร์ไอโอดีน ก็ได้
  • ไปพบแพทย์เพื่อประเมินว่าควรได้รับการป้องกันพิษสุนัขบ้าโดยวิธีใด รวมทั้งเพื่อรับวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักด้วย
  • เฝ้าสังเกตอาการสุนัข หรือแมว อย่างใกล้ชิด อย่างน้อย 10 วัน หากสัตว์ถูกทำลายควรส่งหัวของสัตว์ดังกล่าวเพื่อชันสูตรด้วยเสมอ แต่ถ้าไม่สามารถเฝ้าสังเกตอาการสัตว์ และส่งสัตว์เพื่อชันสูตรได้ ให้สันนิษฐานว่าสัตว์นั้น มีเชื้อไวรัสพิษสุนัขบ้า เสมอ
เมื่อใด จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า

ในกรณีที่ได้รับการสัมผัสหรือถูกทำร้ายจากสัตว์ที่สงสัย หรือไม่มีประวัติได้รับการฉีดวัคซีน และยังไม่ได้รับการชันสูตรยืนยันว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่ ควรปฏิบัติดังนี้

  • ถ้าเพียงแต่ถูกสัตว์เลีย ตามผิวหนังไม่มีบาดแผล ไม่จำเป็นต้องให้การป้องกันใด ๆ เพียงแต่ให้สังเกตอาการสัตว์อย่างน้อย 10 วัน
  • ถ้าถูกสัตว์งับ ข่วนเบา ๆ   บริเวณผิวหนังเกิดแผลถลอกไม่มีเลือดออก, สัตว์เลียผิวหนังบริเวณแผล จำเป็นต้องได้รับ วัคซีนทันที และสามารถหยุดได้ถ้าสัตว์นั้นยังคงสุขภาพดีใน 10 วัน หรือผลชันสูตรยืนยันว่าไม่มีโรคพิษสุนัขบ้า
  • ถ้าถูกสัตว์กัด ข่วน เป็นแผลลึก หรือ มีเลือดออก หรือถูกน้ำลายสัตว์บริเวณเยื่อเมือก เช่นถูกเลียบริเวณปาก ให้ฉีดวัคซีน และอิมมูโนโกลบูลิน ทันที และหยุดให้วัคซีนได้ เมื่อสัตว์นั้นยังคงสุขภาพดีใน 10 วันหรือผลชันสูตรยืนยันว่าไม่มีโรคพิษสุนัขบ้า

 

วัคซีนพิษสุนัขบ้า ต้องฉีดรอบสะดือ ฉีด 21 เข็มบ้าง 28 เข็มบ้าง ?

เลิกใช้แล้วครับ เนื่องจาก วัคซีนในสมัยก่อน ทำจากสมองสัตว์ซึ่งมีประสิทธิภาพต่ำ จึงจำเป็นต้องฉีดบริเวณใต้ผิวหนังรอบสะดือ 21 หรือ 28 เข็ม แล้วแต่การเตรียมและคุณภาพ แต่ปัจจุบัน มีการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามาอย่างต่อเนื่อง จนได้วัคซีนที่มีคุณภาพดี ประสิทธิภาพสูง และฉีดเพียง 5 เข็ม เข้ากล้ามบริเวณหัวไหล่ ตามคำแนะนำดังนี้คือ วันที่ถูกสุนัขกัด, วันที่ 3, วันที่ 7, วันที่ 14 และวันที่ 28 หลังจากถูกสุนัขกัด

วัคซีนในปัจจุบันที่มีใช้ ทำจากเซลล์เพาะเลี้ยง หรือไข่ไก่/ไข่เป็ดฟัก และถือเป็นมาตรฐานการรักษาในประเทศไทยในปัจจุบัน จึงเลิกใช้วัคซีนจากสมองสัตว์แล้ว

สำหรับอิมมูโนโกลบูลินนั้น จะได้รับการฉีดโดยแพทย์ ในขนาด 40 ยูนิต ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม แบ่งฉีดรอบ ๆ แผลที่ถูกกัดทุกแผล ส่วนที่เหลือให้ฉีดเข้ากล้ามทั้งหมด (สำหรับกรณี อิมมูโนโกลบูลินที่ทำจากมนุษย์นั้น ใช้ขนาดน้อยลงครึ่งหนึ่ง ฉีดวิธีเดียวกัน)

 

เด็ก และสตรีมีครรภ์ จะฉีดได้หรือไม่ ต้องเปลี่ยนแปลงขนาดหรือเปล่า ?

ฉีดได้ครับ เพราะวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้รับการศึกษาชัดเจนแล้วว่า มีความปลอดภัย ในสตรีตั้งครรภ์ และเด็ก ไม่มีผลทำให้เกิดความผิดปกติแต่อย่างใด สำหรับขนาดการใช้วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้านั้น ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงขนาดในเด็กครับ

หวังว่าคงได้รับความกระจ่างในการรับวัคซีน ป้องกันพิษสุนัขบ้า ไม่มากก็น้อยครับ


รูปแบนเนอร์ของเวบไซท์ 100 MAG on the Web ครับ
สนใจจะทำ Link กับเวบไซท์ของเรา เพียงแต่เพิ่ม HTML tag นี้ลงไปในเวบเพจของคุณ

<a href="http://www.biogate.com/100mag">
<img src="http://www.oocities.org/CollegePark/Union/4033/banner.gif" border=0 width=480 height=60></a>


มีผู้เยี่ยมชมแล้ว  คนนับแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2540

Copyright 1997-8. Siriraj 100. All right reserved.