พระมเหศวร

ป็นหนึ่งในตำนานอันยิ่งใหญ่ของพระเนื้อชิน

ซึ่งได้รับการจัดเข้าชุดยอดขุนพลเนื้อชิน ประกอบด้วย

พระร่วงหลังรางปืน จ.สุโขทัย

พระหูยาน จ.ลพบุรี

พระท่ากระดาน จ.กาญจนบุรี

พระชินราชใบเสมา จ.พิษณุโลก

พระมเหศวร จ.สุพรรณบุรี

รวมเป็น ๕ ขุนพลจาก ๕ เมือง ที่เป็นแหล่งพระเครื่องและอารยธรรมสำคัญของประเทศ

พระมเหศวรแตกกรุจากพระปรางค์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองสุพรรณบุรี เทื่อปี ๒๔๕๖ ร่วมกรุเดียวกับ ผงสุพรรณ พระกำแพงศอก พระท่ามะปราง พระลีลาระเวง พระลีลาหลังซุ้มอรัญญิก พระซุ้มจิก พระซุ้มระฆัง พระปทุมมาศ พระกำแพงนิ้ว พระสุพรรณยอดโถ พระสุพรรณหลังพระ ฯลฯ

คำว่า มเหศวร หมายถึง พระอิศวร ซึ่งมีฤิทธิ์อำนาจมากในบรรดาเทพเทวดาทั้งปวง เหมาะสมและเป็นมงคลอย่างยิ่งต่อการนำมาเรียกชื่อพระพิมพ์นี้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหารย์จากประสบการณ์ของผู้บูชาพระมเหศวรเป็นประจักษ์พยานยืนยัน

จากหลังฐานในใบลานทองที่พบในกรุ บ่งชี้ว่า พระมเหศวรแะพระในกรุนี้ สร้างโดยพระเจ้าอู่ทอง ประมาณปี ๑๘๘๖ โดยจัดเป็นพิธีหลวง มีฤาษีผู้ทรงฤทธิ์เป็นผู้ทำพิธีปลุกเสก

ศิลปะของพระมเหศวร เป็นแบบอู่ทองยุคกลาง จุดเด่นอยู่ตรงการวางรูปแบบพิมพ์พระให้มี ๒ ด้านกลับหัว ซึ่งไม่เคยปรากฎใรพระกรุใดมาก่อน ถือเป็นการสร้างพระที่แปลกพิสดารเปี่ยมสีสันน่าสนใจยิ่ง

สันนิษฐานว่า แม่พิมพ์ของพระมเหศวร จะมีลักษณะแบบเบ้าประกบ มีเดือยอยู่กลางองค์ระหว่างองค์พระ พระบางองค์จึงยังมีรอยก้านชนวนให้เห็นอยู่

นอกจากพิมพ์ ๒ หน้า หรือสวนคู่แล้ว ยังมีพิมพ์สวนตรง คือทำเป็นพระสองหน้าแต่ไม่กลับหัวกัน และพิมพ์สวนเดี่ยวที่มีพระหน้าเดียว ด้านหลังเป็นลายผ้า ตัดขอบชิดองค์พระไม่เหลือปีกบนและล่าง อย่างพิมพ์สวนคู่พิมพ์สวนเดี่ยวบางองค์ด้านหลังเป็นพิมพ์ซุ้มระฆังหรือนาคปรกก็มี แต่พบน้อยมาก

สำหรับพิมพ์สวนคู่ แบ่งเป็นพิมพ์ใหญ่ กลาง เล็ก แตะละพิมพ์มีเอกลักษณืเฉพาะตัว

เนื้อพระมเหศวร มีเฉาพะเนื้อชินเงินและชินตะกั่วเท่านั้น ส่วนชินเขียวไม่ใช่พระของเมืองสุพรรณ

เนื้อพระจะต่างกับจากเนื้อชินของเมืองอื่นๆอย่างเช่น พระเมืองอยุธยา จะเป็นเนื้อชินแข็งหรือชินกรอบ ผิวประทุขาวหรือพรายเงิน ส่วนพระมเหศวรเป็นพระเนื้อชินสังฆวานร คือชินค่อนข้างอ่อนกว่า

พระมเหศวรบางองค์ที่เนื้อแก่ดีบุกและปรอท เนื้อจะเป็นสีเงินยวง ถ้าสภาพสมบรูณ์ ผิวจะปรากฎคราบปรอทและคราบไขมันที่เป็นเกร็ดสีน้ำตาลแทรกแซมกัน เมื่อผสมกันแล้ว ทำให้ผิวปรอทเป็นสีทอง กลายเป็นเอกลักษณ์ของผิวพระมเหศวรอย่างหนึ่ง

แต่หากผ่านการบูชาใช้ สัมผัสเหงื่อไคลจึงจะเกิดสนิมดำ บางองค์อาจเกิดสนิมขุม และรอยผุระเบิดเกิดจากความร้อนในกรุ แต่ตามซอกยังต้องมีผิวปรอทสีทองหลงเหลืออยู่บ้าง

ถ้าเนื้อแก่ตะกั่ว ผิวจะออกสีเทา แต่เนื้อในยังคงเจือสีเงิน เพราะเป็นเนื้อตะกั่วผสมปรอทและดีบุก ไม่ใช่เนื้อตะกั่วล้วนๆ ส่วนคราบไขและสนิมต่างๆเหมือนกัน

พระมเหศวรมีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนาน ผู้พกพาบูชาไม่เคยพบความผิดหวัง เป็นพระที่สร้างมาสำหรับ "ใช้" อย่างแท้จริง นอกจากจะเชื่อถือได้ทาวคงกระพันและมหาอุตแล้ว ยังช่วยเสริมส่งความเจริญรุ่งเรืองแก่ชีวิต องค์พระมีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการแขวนบูชา ดูมีสง่าราศีเป็นอย่างยิ่ง

 

Copy right 1999-2002, BestAmulet All rights reserved