จันทร์เจ้าขา ภาค ๑๙๕ อย่างนี้เสมอ...
จันทร์เจ้าขา ภาค ๑๙๕ อย่างนี้เสมอ...


    กรานต์ ธรรมากรณ์ คำร้อง ทำนอง
    
    ...ท้องฟ้าสดใส ลมพัดเย็น ชื่นใจ 
    สบายสบาย สุขใจ เมื่ออยู่ใกล้เธอ
    มีเธอเคียงข้างกาย เป็นสุขสบายอย่างนี้เสมอ...
    
    ...สายลมแห่งรัก พัดเธอมาอยู่ใกล้ฉัน
    มาพร้อมความฝัน กันคืนวันที่แสนสุขขี
    วันนี้มีเธอ เป็นเพื่อน คลายเหงา
    มีเพียงสองเรา อยู่หลังเงาจันทร์ อย่างนี้เสมอ...
    
    ...อยากให้มีเพียงสองเรา 
    อยู่หลังเงาจันทร์ อย่างนี้เสมอ...
    
    ...อย่างนี้เสมอ...
    พร้อมให้ทำการดาวน์โหลดได้แล้วขอรับ เพลง mp3 ขนาด 2.5 Mb
    http://www.oocities.org/citythai3/4.MP3
    
    	


    ...แสงสีจากยอดตึกพีเอ็มข้างโบสถ์แม่พระฟาติมา 
    ในค่ำคืนนี้ส่องประกายพราวพร่าง 
    ดูสวยแปลกตาคราเมื่อยามแหงนขึ้นไปมอง 
    เสียงเครื่องยนต์ของบรรดารถ
    ที่ติดอยู่บนถนนอโศกดินแดง 
    ทำให้ผมรู้สึกนึกรำคาญขึ้นมาตงิด ๆ 
    คงจะเป็นเรื่องลำบากไม่น้อยหากจะต้องย้ายบ้านหนีถนน 
    เลยต้องปลอบใจตัวเองดีกว่า 
    ว่า อย่างไรก็ยังดีกว่าไม่มีที่จะซุกหัวนอน
    
    ความแออัดในสังคมกรุงเป็นเรื่องธรรมดา 
    การแย่งกันขึ้นรถเมล์ แย่งกันซื้ออาหารรับประทาน 
    หรือแม้แต่แย่งกันเข้าห้องสุขา ถือเป็นเรื่องปกติ 
    นี่แหละสังคมที่คนส่วนใหญ่ของประเทศคิดว่ามันดีเลิศ 
    และต่างก็มุ่งหน้าที่จะเข้ามาแสวงโชคในเมืองใหญ่นี้
    
    	


    ...ย่านอนุสาวรีย์ไม่ไกลจากที่ผมอาศัยอยู่นัก 
    ผมมักจะปั่นจักรยานคันเล็ก ๆ คู่ใจไปเดินเตร็ดเตร่บ่อย ๆ 
    ที่นี่แออัดมาก สภาพย่ำแย่ที่สุด เพราะเต็มไปด้วยยวดยาน 
    ทั้งฝุ่นทั้งควันพิษจากท่อไอเสียรถ 
    คราคร่ำไปด้วยฝูงชนที่มารอขึ้นรถเมล์ 
    สายตาก็ชะเง้อมองหมายเลขรถที่ตนเอง
    จะต้องอาศัยเดินทางไปสู่จุดหมาย
    
    24 มีนาคม 2544 เวลา 21.30 น. 
    ขณะที่ผมกำลังเขียนต้นฉบับอยู่นี่ …แฟลตดินแดง… 
    สังคมหนึ่งที่มีคนอาศัยอยู่หนาแน่น 
    ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวชุมชนแฟลต 
    ผู้คนหลากหลายมาอาศัยอยู่ร่วมกันโดยมิได้นัดหมาย 
    เมื่อยามอาทิตย์อัสดง ผมมักจะออกเดินเล่น
    และก็ทักทายพูดคุยไปตามเรื่อง 
    ความจริงผมก็ไม่ได้รู้จักกับใครมากนักหรอก 
    อาศัยว่าเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีเป็นเลิศ 
    เจอใครผมก็ทักเขาไปทั่วแหละ
    
    
    	


    ...ม้าหินอ่อนด้านนอกตัวแฟลตสงบเงียบพอสมควร 
    เป็นที่ผมมักจะมานั่งพักผ่อน ทอดถอนอารมณ์และผ่อนคลาย
    จากภาระกิจหน้าที่การงาน ที่ต้องพบปะกับผู้คนจำนวนมาก 
    ความเครียดกับวิถีชีวิตในเมืองใหญ่ ทำให้ผมอดนึกขำตัวเองไม่ได้ว่า 
    …นี่ตูเสือกมาทำอะไรในสังคมเมืองฟ้า ที่มิพึงปรารถนาเช่นนี้…
    
    
    	


    ...ที่ปลายฟ้างามนั่น หลังจากที่พระอาทิตย์ได้ลับหายไปแล้ว 
    จันทร์นวลผ่องแจ่มตาก็คราเคลื่อนขึ้นมาแทนที่ 
    แสงสุรีย์ที่ลาจากไป ทำให้ผมอดคิดถึงวิถีชีวิตในชนบทไม่ได้ 
    ค่ำ ๆ อย่างนี้ จักจั่นเรไร ร่ำร้องลั่น สนั่นดง 
    ที่ปลายทุ่ง ผมกับพ่อมักจะออกไปหาปลาหากบที่หนองน้ำ 
    เพื่อมาเป็นอาหารในมื้อเช้าของวันถัดไป
    
    พ่อมักจะสอนให้ผมเป็นคนสู้ชีวิต 
    ความเป็นลูกชาวนายากจน ผมต้องพยายามเอาตัวรอดให้ได้ 
    โรงเรียนของผมสอนให้ผมมีความรู้ และคิดฝันทะเยอทะยานไต่เต้า 
    เพื่อให้สามารถเป็นที่พึ่งพาของครอบครัวในอนาคต 
    การหาปลา หาผัก หาหน่อไม้มาทำกับข้าว 
    การหุงข้าวด้วยฟืน การหาบน้ำมาใส่โอ่ง และอื่น ๆ นี่คืองานที่แสนจะจำเจ 
    และหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในอดีตที่ผ่านมาเนิ่นนาน
    
    	


    ...ใครบ้างจะรู้ว่า ณ ปัจจุบัน ไปรษณีย์หนุ่มรูปร่างพอใช้ได้ 
    จะมานั่งเขียนหนังสือ เขียนเรื่องราว 
    เล่าวิถีชีวิตในเมืองใหญ่ และบ้านเกิดให้คนอื่นฟัง 
    คงจะน่าขันไม่น้อย หากจะมีใครพูดว่า 
    …ว่างนักหรือไง… ผมคงจะได้แต่เพ้อเจ้อกับตัวเองว่า 
    ชีวิตของผมเมื่อยามว่างเว้นจากภาระกิจใด ๆ แล้ว
    …ตัวหนังสือ คือชีวิตของผม…
    
    นิยายน้ำเน่าในรายการโทรทัศน์เมืองไทย 
    ทำเอาผมนึกสะอิดสะเอียน และเสียดายสตางค์ที่ไปซื้อมาประดับห้องพัก 
    ตามแฟชั่นสมัยใหม่ เสียงเพลงแผ่วเบาสุดแสนจะไพเราะ 
    ที่ผมแต่งเอง เขียนเอง ร้องเอง และก็บันทึกเอง 
    ทำให้ผมเพลิดเพลินเจริญหู แถมอารมณ์ดีเสมอ 
    ส่วนหนึ่งในเนื้อความเพลงนั่น 
    นอกจากผมจะสอดแทรกความรู้สึกส่วนลึก ๆ ไว้แล้ว 
    มันยังมีประสบการณ์และความหลังเก่า ๆ ของผมไว้ด้วย
    
    	


    ...จันทร์เอ๋ยจันทร์จ๋า นภายามนี้งามน่ามองยิ่งนัก 
    ฝากความรักความคิดถึง ไปสู่เธอผู้ซึ่งอยู่ห่างไกล 
    สายลมแผ่วพริ้ว โปรดช่วยวานกระซิบข้าง ๆ หูเธอด้วยว่า 
    ...จันทร์เจ้าขา... สื่อแห่งมิตรภาพที่แสนยาวนาน ได้ผ่านมาหลายตอนแล้ว 
    เรี่ยวแรงย่อมอ่อนล้า ...แม่หญิงจ๋า... คิดถึงฉันบ้างไหม 
    วานตอบสานส์แห่งความอ่อนไหวนี้ สักนิดเถิดว่า 
    ...เจ้ายังเป็นเพื่อนคู่คิด เป็นมิตรแท้ ที่แสนห่วงใย อยู่ตลอดไป…
    
    	
โดยคุณ : โก๋จ๊ะ [วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2544 - 23:39:35 น.]

กลับหน้าหลักครับ back to memu