จันทร์เจ้าขา ภาค ๑๙๗ จินตนาการ...
จันทร์เจ้าขา ภาค ๑๙๗ จินตนาการ...


    กรานต์ ธรรมากรณ์ คำร้อง ทำนอง
    
    ...เหตุใดฟ้าวันนี้มืดไป เหตุใดฝนไม่ยอมโปรยปราย
    เหตุใดรักยังคงอ่อนไหว เปลี่ยนแปรไปตามจินตนาการ...
    
    จินตนาการ..................จินตนาการ
    จินตนาการ..................จินตนาการ
    
    ...เหตุใดเธอไม่ยอมพูดจา เหตุใดหนาเธอจึงเปลี่ยนไป
    เหตุใดคนทำไมหลายใจ เปลี่ยนแปรไปตามจินตนาการ..
    
    จินตนาการ............. ของฉันมีเธอ
    จินตนาการ............. ของเธอมีใคร
    
    ...เหตุใดรักไม่เคยสมหวัง เหตุใดฉันจึงต้องช้ำใจ
    เหตุใดรักไม่มีเยื่อใย เปลี่ยนแปรไปตามจินตนาการ...
    
    ...จินตนาการ...
    พร้อมให้ทำการดาวน์โหลดได้แล้วครับเพลง mp3 ขนาด 4.3 Mb
    
    	


    ...บ่ายสามโมงกว่า ๆ หลังจากไปส่งข้อมูลเรื่องสั้นเข้าทัวร์ไทย 
    เว็บไซด์สุดโปรดที่ผมมักจะเล่นอยู่เป็นประจำ วันนี้ผมเลือกที่จะส่งเรื่องของผม
    ที่ห้างสรรพสินค้าไอทีมอล ใกล้สี่แยก อสมท. ถนนรัชดาภิเษก 
    ผมมักจะมาเล่นที่นี่ประจำ เพราะมีเครื่องให้เล่นฟรีอยู่หลายเครื่อง 
    ประกอบกับรู้จักคุ้นเคยกับผู้ควบคุมระบบที่นี่ 
    รวมทั้งเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และวิธีการใช้งานอินเตอร์เน็ต 
    ผมรู้สึกประทับใจในไมตรีจิตดีงามที่ได้รับ...
    
    
    	


    ...สักพักใหญ่ ๆ ที่ได้เดินเล่นอยู่ในห้าง เพื่อดูอุปกรณ์ หนังสือเกี่ยวกับคอมฯ  
    และสาวน้อย สาวใหญ่ ที่ต่างแข่งขันกันแต่งกายให้วาบหวาม ทั้งสายเดี่ยว สายคู่ 
    จนอิ่มตา บางทีก็นึกเบื่อเหมือนกัน เพราะที่ทำงานของผม ลูกค้าสาว ๆ 
    มักจะแต่งแบบนี้มาให้ผมดูเกือบจะทุกวัน ผมช่างเป็นพนักงานไปรษณีย์หนุ่ม
    ที่แสนจะโชคดีอะไรเช่นนี้...
    
    ...ผมปั่นเจ้าจักรยานคู่ชีพ ลัดเลาะฝ่าไอร้อนของกรุงเทพฯมาทางซอยสุทธิพร 
    ซอยที่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น ยวดยานจอแจตลอด ไม่เว้นแม้แต่วันเสาร์-อาทิตย์ 
    แฟลต 62 ถนนประชาสงเคราะห์คือที่หมายสำหรับนั่งเขียนเรื่องราวเบา ๆ สบาย ๆ 
    ให้ฟังเป็นเพื่อนคลายเหงา...
    
    
    	


    ...เสียงมอเตอร์ไซดังแผดกังวานจนแสบแก้วหูที่หน้าถนน จนทำให้ผมรู้สึกรันทดใจ 
    ในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่เช่นนี้ น้ำมันมีราคาแพง แต่บรรดาสิงห์นักบิดทั้งหลาย 
    ที่คุณพ่อตัวเองก็ไม่ได้ร่ำรวยเป็นเจ้าของปั้มน้ำมัน กลับไม่นึกเสียดาย 
    สงสารก็แต่ชาวแฟลต ที่อยู่อาศัยอยู่ใกล้ถนน ต้องทนฟังเสียง 
    แป๊ด ๆ ของเหล่านักบิดจอมซ่า...
    
    ...ใต้ร่มหูกวางใบหนา แผ่กิ่งก้านขยายไปทั่วทุกทิศทาง ให้ความชื่นฉ่ำเย็นกับชาวแฟลต 
    ที่มานั่งคุยเป็นเพื่อนนักเขียนอย่างผม ความจริงผมไม่ได้รู้หรอกว่าแฟลตหลังนี้มีชื่อว่า 
    แฟลต 62 แต่ด้วยความเมตตาของคนที่นี่ ผมจึงได้ข้อมูลต่าง ๆ มาพอสมควร...
    
    
    	


    ...ม้าโยกที่ผมชอบเล่นกับเพื่อน ๆ ในสมัยเด็ก วันนี้ดูเงียบเหงา เด็ก ๆ สมัยใหม่ 
    ส่วนใหญ่ใช้เวลาในร้านเกมส์ หรือเดินโฉบเฉี่ยวแถวย่านการค้า ที่มีแฟชั่นโก้หรูทันสมัย 
    เด็กไทยยุคนี้ผิดกับสมัยก่อนเยอะ จำได้ว่าในวัยเด็กผมมักจะชอบท่องเที่ยว
    ตะลอนยิงนกตกปลาไปตามเรื่องที่หัวไร่ปลายนาโน่น รอจนบ่ายคล้อย ๆ เช่นนี้ 
    จึงได้คิดกลับบ้าน เพราะได้เวลาอาหารมื้อเย็นแล้ว...
    
    ...สนามเด็กเล่นไม่ครึกครื้นอย่างที่ควรจะเป็น ไม่มีแม้แต่เด็กสักคนหนึ่งมาเล่นอุปกรณ์ 
    ที่ทางราชการหาซื้อมาให้เล่นกันถึงที่ น่าเสียดายงบประมาณที่นำมาจัดซื้อ 
    อาจจะเป็นเพราะว่าของเล่นเหล่านี้ ล้าสมัยไปเสียแล้วสำหรับเด็กแถวนี้ 
    มันจึงกลายเป็นเพียงเศษเหล็กที่ตั้งประจาน ไว้อวดโชว์ความฟุ่มเฟือยของสังคมบ้านเรา...
    
    
    	


    ...แถวนี้มีรถเก่า ๆ จอดเสียอยู่หลายคัน ดู ๆ ไป อาจจะคล้ายกับสุสานรถย่อม ๆ เลยก็ว่าได้ 
    รถเฟียต รถซิมคา เบนซ์ บีเอ็ม จากค่ายฝรั่งมีให้พบเห็น โตโยต้า นิสสัน ซูบารุ มาสด้า 
    จากค่ายปลาดิบแดนอาทิตย์อุทัย ก็มีอย่างละคันสองคัน...
    
    ...เจ้าโตโยต้าคราวน์กระโห้สีขาว เครื่องเบนซินขนาด 3000 ซีซี ที่นอนเอ้งแม้งคันเก่านั่น 
    อายุอานามของมันน่าจะคงราว ๆ 30 กว่าปีเห็นจะได้ ปี คศ.1970 รถรุ่นนี้จัดได้ว่าเป็นรถใหม่
    ที่น้อยคนนักจะมีโอกาสได้นั่ง เพราะเป็นรถยนต์หรูหรา ระดับผู้บริหารมีไว้ใช้กัน...
    
    	


    ...ปีเอ็ม 2002 สปอร์ตคูเป้ก็ไม่เบาเลยที่เดียว กับเครื่องยนต์ขนาด 2000 ซีซี 
    ผมเองเห็นรถรุ่นนี้ครั้งแรก ก็รู้สึกงง ๆ เหมือนกัน เพราะด้านหน้ากับด้านหลังมองไกล ๆ 
    คล้ายกันมาก เล่นเอานักเขียนหนุ่มสับสนไปเลย...
    
    ...ดัทสันที่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นนิสสัน จำได้ว่ารุ่นช้างเหยียบ 
    เจ้ากระบะจากค่ายซามูไรที่มีโครงสร้างแคชซีทนทายาท เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากในอดีต 
    เป็นกระบะที่บรรทุกของได้เยี่ยมยอด เลยครองใจบรรดาเหล่าพ่อค้าแม่ขาย
    ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1500 ซีซี ซึ่งเป็นตัวหลัง ๆ ครับ
    ก่อนหน้านี้คิดว่าเครื่องน่าจะอยู่ที่ 1300-1400 ซีซี ถ้าจำไม่ผิด 
    แต่ปัจจุบันนี้จะหาสภาพดี ๆ ก็คงจะยาก สนนราคาก็แสนถูก 
    ประมาณสองถึงสามหมื่นบาท กับสภาพที่พอจะยังใช้งานได้...
    
    	


    ...เจ้าเบนซ์หางปลาสีขาว วาระสุดท้ายของเขา ก็มาอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน 
    ผมมีเพื่อนทำงานเป็นศุลกากร เคยเล่าให้ฟังว่า มีการประมูลรถซึ่งยึดมาได้ของกรมศุลกากร 
    อย่างเจ้าเบนซ์คันงามมือสองจากประเทศแถบยุโรปนี่ เมื่อเขาประมูลกันได้แล้ว 
    แทนที่จะมาเอารถกลับไปใช้งานทั้งคัน ไม่หรอกครับมาถอดชิ้นส่วนเอาพวกเกียร์ไปเท่านั้นเอง 
    รถยุโรปพวกนี้อะไหล่จะมีราคาแพงมาก ๆ แม้จะเป็นแค่ของมือสองก็ตาม ราคาที่ประมูลได้เป็นแสน ๆ 
    แต่คนประมูลกลับไม่สนใจ เอาแค่อะไหล่บางอย่างเท่านั้น แถมยังกระซิบบอกด้วยว่า 
    แค่เกียร์อย่างเดียวก็เกินคุ้มแล้ว...
    
    	


    ...ที่นี่นอกจากจะมีรถเก๋ง รถกระบะแล้ว ยังมีรถมอเตอร์ไซด์รุ่นเก่า ๆ จอดเสียทิ้งไว้เหมือนกัน 
    ที่หัวมุมแฟลตนั่น มีช่างรับซ่อมเครื่องยนต์กำลังขะมักเขม้นซ่อมรถกันอยู่ยกใหญ่ 
    รายได้คงจะดีทีเดียว เพราะเกือบจะทุกมุมตึกมักมีช่างรับซ่อมเปิดให้บริการอยู่...
    
    ...ร้านขายของชำใต้แฟลต สร้างความอิ่มท้องและสดชื่นไม่น้อย 
    กับโค้กใส่น้ำแข็งถุงใหญ่ มันช่างทำให้ผมกระปี้กระเป่า มากโขทีเดียว...
    
    
    	


    ...ต้นนกยูงฝรั่งแผ่กิ่งก้านที่ใหญ่โต อวดโชว์กล้ามให้พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก 
    ส่วนใหญ่พื้นที่มีจำนวนจำกัด ต้นไม้เลยหมดโอกาสที่จะยืนต้นได้ยาวนาน 
    ใบหูกวางร่วงหล่นลงบนพื้นซีเมนต์ คราเมื่อตกกระทบถึงพื้น สายลมแผ่วเบา 
    ก็ค่อย ๆ ประคองให้ใบไม้น้อย ขยับลอยขึ้นสูงจากพื้นอีกเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ สงบนิ่ง 
    ชีวิตมนุษย์ก็ดุจเดียวกันกับใบไม้ จากใหม่สู่เก่า จากเก่าสู่ใหม่ 
    หมุนเวียนสลับ เข้าแทนที่ซึ่งกันและกัน จากใบที่เริ่มผลิแตกแทงจากกิ่งก้าน 
    วันเวลาผันผ่านก็ร่วงโรยลา คงไม่มีใครจะนึกถึงใบหูกวางใบนี้หรอก 
    คนเราก็เช่นกัน หากกระทำชีวิตมีคุณค่า ฝากความดีเอาไว้ในโลกา 
    ผู้คนก็คงจะให้ความเคารพนับถือ จดจำสิ่งดี ๆ นั้น และถือเป็นแบบอย่างแก่คนรุ่นต่อ ๆ ไป 
    สำหรับผมในวันนี้ ใบหูกวาง คือแบบอย่างให้ผมได้เรียนรู้ ธรรมชาติแห่งสัจธรรมของโลก 
    ใบหูกวางเปรียบเสมือนครูของผม...
    
    
    	


    ...รถยนต์หรูราคาแพงในอดีต จอดทิ้งไว้ให้รกร้าง 
    ใบหูกวางผู้อ้างว้าง และเดียวดายเอ๋ย เจ้าไม่เหงาหรอก 
    เพื่อนของเธอมีมากมาย มิตรภาพของเธอเบ่งบานเสมอ 
    ตราบใดที่เธอยังคง ส่องแสงประกายบนท้องฟ้า 
    เป็นจันทร์เจ้าขา สื่อความรัก ความเมตตา สื่อภาษาใจ…
    
    
    	


    ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับรถต่าง ๆ ได้ที่นี่ครับ
    http://www.oocities.org/carthailand
    
    ...สวัสดี...
    	
โดยคุณ : โก๋ขอรับ [วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม 2544 - 00:55:42 น.]

กลับหน้าหลักครับ back to memu