ดาบมังกรหยก

ชุดสร้างในปี ค.ศ. 1979

        ตัวละคร
        ภาพเล่าเรื่อง 1
        ภาพเล่าเรื่อง 2

ชุดสร้างในปี ค.ศ. 1984

        ภาพเล่าเรื่อง

ชุดสร้างในปี ค.ศ. 1986

        ตัวละคร 1
        ตัวละคร 2
        ภาพเล่าเรื่อง 1
        ภาพเล่าเรื่อง 2
        ภาพเล่าเรื่อง 3
        ภาพเล่าเรื่อง 4
        ภาพเล่าเรื่อง 5
        ภาพเล่าเรื่อง 6

ชุดสร้างในปี ค.ศ. 1993

        ตัวละคร
        เนื้อเรื่องย่อ
        ภาพเล่าเรื่อง

ชุดสร้างในปี ค.ศ. 1994

        ตัวละคร 1
        ตัวละคร 2
        ภาพเล่าเรื่อง 1
        ภาพเล่าเรื่อง 2
        ภาพเล่าเรื่อง 3
        ภาพเล่าเรื่อง 4
        ภาพเล่าเรื่อง 5
        ภาพเล่าเรื่อง 6
        ภาพเล่าเรื่อง 7
        ภาพเล่าเรื่อง 8
        ภาพเล่าเรื่อง 9
        ภาพเล่าเรื่อง 10

ชุดสร้างในปี ค.ศ. 2000

        ตัวละคร 1
        ตัวละคร 2
        ภาพเล่าเรื่อง 1
        ภาพเล่าเรื่อง 2

ชุดสร้างในปี ค.ศ. 2003

        ตัวละคร 1
        ตัวละคร 2
        ภาพเล่าเรื่อง 1
        ภาพเล่าเรื่อง 2

กลับหน้า ผลงานของกิมย้ง

ดาบมังกรหยก

              เรื่อง อี้เทียนโต้วเล้งกี่ (ภาษาจีนกลาง ออกเสียงเป็น ยี่เทียนถูหลงจี้ - Yi Tian Tu Long Ji ภาษาอังกฤษ คือ The Haven Sword And Dragon Sabre) เป็นผลงานการประพันธ์ชิ้นเยี่ยมของสุดผู้ประพันธ์นิยายจีน กำลังภายในของฮ่องกง นาม กิมย้ง (จินหยง) เป็นสุดยอดนิยายจีนกำลังภายใน ที่เป็นการพัฒนาไปสู่แนวทางใหม่อีกแนวทางหนึ่งของกิมย้ง เป็นการนำเอาลักษณะจินตนิยมเข้าผสมผสานกับอัถนิยมได้อย่างแนบเนียน สนุกสนานไปกับจินตนาการอันบันเจิดของผู้ประพันธ์

              Yi Tian Tu Long Ji ได้รับการแปล หลายสำนวน เริ่มตั้งแต่ของ จำลอง พิศนาคะ ที่แปลใช้ชื่อว่า มังกรหยกภาค 3 - 4 และต่อมา มีสำนวนของ น. นพรัตน์ และ คนบ้านเพ จุดเด่นของบทประพันธ์ชิ้นนี้อยู่ที่โครงเรื่องที่แทรกซ้อนกันอยู่หลายตอน มีตัวละครมาก แต่ กิมย้ง ก็สามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดูสนุก และ ไม่สับสน การเดินเรื่องเร็วน่าอ่านมีการหักเรื่องได้อย่างคากไม่ถึง

              ตัวละครเรื่องถูกจัดเป็น ตัวละครกลุ่ม ที่มีความเด่นแทบจะทุกตัวโดย กิมย้ง มีการกระจายบทได้ดีลักษณะแบบนี้มักจะปรากฏอยู่ในนิยายดัง ๆ หลายเรื่องของยอดนักเขียนผู้นี้ เนื้อหาหลักของ ดาบมังกรหยก แบ่งได้สองส่วนคือ ความรัก ระหว่าง จอมยุทธ์ห้า แห่งสำนักบู๊ตึ้ง เตียชุ่ยซัว และ บุตรีของจ้าวอินทรีคิ้วขาว แห่งพรรคมาร ฮึงซู่ซู่ กับ รุ่นลูก เตียบ่อกี้ กับบรรดาสาวงามทั้งสี่ คือ เตี๋ยเมี่ยง จิวจี้เยียะ เสี่ยวเจียว และฮึงลี้ อันมี เตี๊ยเมี่ยงและ จิวจี้เยียะ เป็นตัวหลัก

              นอกจากประเด็นความรัก แล้ว กิมย้ง ยังสอดแทรกสาระต่าง ๆ เข้ามามากมาย อาทิ ขนบธรรมเนียม ความคิดแบบคนหัวเก่า พรรคมารที่ผดุงคุณธรรม จอมยุทธฝ่ายธรรมะที่มีแต่ความโลภ คุณธรรมน้ำมิตร และเรื่องความรักระหว่างศิษย์พี่น้อง รวมถึงการเสียสละเพื่อชาติเพื่อราษฎร

             กระบี่อิงฟ้า ดาบฆ่ามังกร คือสุดยอดศาสตราวุธที่ถูกนำมาใช้เป็นปมเรื่องของ ดาบมังกรหยก ตัวละครที่เคยโผล่จาก มังกรหยกภาค 1 - 2 ต่างมาปรากฏตัวในภาคนี้ อาทิ ก๊วยเซียง ที่มีบทบาทสำคัญในช่วงต้นเรื่อง หรือบางตัวอาทิ ก๊วยเจ๋ง กับ อึ้งย้ง ก็ถูกนำมาเอ่ยถึง เช่นเดียวกับบรรดาลูกหลานของตัวละครสำคัญต่างเข้ามามีบทบาทในภาคนี้

             Yi Tian Tu Long Ji ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ทั้งจอเงินและจอแก้วหลายครั้ง และแทบทุกครั้งก็ประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับอย่างดี ซึ่งนอกจากความสนุกของเนื้อเรื่องแล้ว ยังได้ดาราดัง ๆ มาช่วยเสริมเพิ่มความน่าดูให้กับตัวเรื่องอีกด้วย

              ผู้กำกับมือทอง ฉวู่เหยีวน (Chor Yuen) ของ ชอว์บราเดอร์ สร้างเป็นภาพยนตร์จอเงินขึ้น ครั้งแรก เมื่อ ปี ค.ศ. 1978ใช้ชื่อ ว่า Haven Sword And Dragon Sabre (Chivalrous Killer) โดยให้ เอ๋อตงเซิน(Direk Yee-ER Dong-Sheng) รับบท เตียบ่อกี้ ร่วมด้วยดารานักแสดงชั้นนำ อาทิ หลอเล่ย(Lo Lieh) , จิงลี่(Ching Li) , เหวินเชียะเอ๋อ (Wen hsueh -Erh) , หลิวเว่ยหลิง (Lau Wai-Ling) ด้วยความยาวของตัวเรื่อง ดาบมังกรหยก จึงมีการสร้างถึง 3 ภาค สองภาคแรกจับเอาเรื่องราวในหนังสือมาย่อเรื่องลง เน้นวีรกรรมของ เตียบ่อกี้ และ ราชสีห์ขนทอง เจี่ยซุน และพรรคจรัส เป็นหลัก ซึ่งนับเป็น หนังกำลังภายใน ที่ดูสนุกและได้อรรถรสไม่แพ้บทประพันธ์ ซึ่งในฉบับนี้ประเด็นของ เตียชุ่ยซัว กับ ฮึงซู่ซู่ หรือสำนักบู๊ตึ้งถูกตัดไป แต่ก่อนหน้านี้ ชอว์บราเดอร์ ก็เคยนำประเด็นนี้ไปนำเสนอแล้ว ในชื่อเรื่อง ฤทธิ์แค้นไอ้แมงมุม โดยมี เยี่ยหัว รับบท เตียชุ่ยซัว

             ส่วนดาบมังกรหยก ภาค 3 นั้น เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาใหม่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเดิมที่ กิมย้ง ได้แต่งเอาไว้ มีการนำเอาดารานำจากสองภาคแรกกลับมาแสดงอีกครั้ง และเสริม ตี้หลุง ในบท ยอดฝีมือมองโกล เข้ามาเป็นตัวเพิ่มความสนุก ซึ่งภาคนี้เน้นเทคนิคพิเศษมากจนทำให้ความน่าดูลดน้อยลงเมื่อเทียบกับสองภาคแรก

เอ๋อตงเซิน
หลอเล่ย

              ภาพยนตร์โทรทัศน์สร้างครั้งแรก โดยทางTVB ของฮ่องกง ให้ หวังเทียนหลิน สร้าง Yi Tian Tu Long Ji ขึ้น ในปี 1979 มี เจิ้งเส้าชิว , หวังหมิงฉวน , หวงซู่อวี้, จ้าวหยาจือ , เฉินอวี้วเหลียน แสดงนำ โดย เจิ้งเส้าชิว (Zheng, Shaoqiu - มีชื่อภาษาอังกฤษว่าCheng, Adam ) รับบท เตียบ่อกี้ หวังหมิงฉวน (Lisa Wong )รับบท เตี๋ยเมี่ยง(Trieu meing )กับบท ฮึงซู่ซู่ จ้าวหยาจือ(Gigi Chiu) รับบท จิวจี้เยียะ (Chu chi nhouc) และเฉินอวี้เหลียน (Idy Chan) รับบท เสี่ยวเจียว และให้ดารานำ เซี่ยะหวี่ กับ หวงซู่อี้ จับคู่กันในบท เตียชุ่ยซัว กับ ฮึงซู่ซู่ จะโดดเด่นของฉบับนี้อยู่ที่ดารานำแสดงซึ่งต่างแสดงพลังทำให้เรื่องดูสนุกและดูเด่นขึ้น

เจิ้งเส้าชิว
รับบท เตียบ่อกี้
หวังหมิงฉวน
รับบท เตี๋ยเมี่ยง
จ้าวหยาจือ
รับบท จิวจี้เยียะ
เฉินอวี้เหลียน
รับบท เสี่ยวเจียว

              และเมื่อเวลาผ่านไป ใน ค.ศ. 1984 ทาง ไต้หวัน ก็ได้สร้าง Yi Tian Tu Long Ji ขึ้นมาเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์อีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ มากนัก มี หลิวเต๋อไค รับบท เตียบ่อกี้

หลิวเต๋อไค
รับบท เตียบ่อกี้
เตี๋ยเมี่ยง
จิวจี้เยียะ
เสี่ยวเจียว

              ต่อมาอีกปีหนึ่ง ในปี ค.ศ. 1986 ทางTVBของฮ่องกงก็สร้าง Yi Tian Tu Long Ji เป็นภาพยนตร์โทรทัศน์อีกครั้งหนึ่ง โดย ครั้งนี้ถือว่าเป็นงานชิ้นอมตะ ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดในการสร้าง Yi Tian Tu Long Jiลงบทแผ่นฟิล์ม ครั้งนี้ได้ พระเอกหนุ่ม เหลียงเฉาเหว่ย(Tony Leung Chiu Wai) ซึ่งดังจากเรื่อง Lu Ding Jiในปี ที่ผ่านมา (ปี ค.ศ. 1984) มารับบท เตียบ่อกี้ ร่วมด้วย หลี่เหม่ยเสียน (Kitty Lai Mei Han) รับบท เตี๋ยเมี่ยง(Trieu meing ) และ Sheren Tang Siu Man (เติ้งชุ่ยเหวิน) รับบท จิวจี้เยียะ (Chu chi nhouc) และ Maggie Siu( เส้าเหม่ยฉี ) รับบท เสี่ยวเจียว และได้ Simon Yam ( เยิ่นต๊ะหัว) และCarol Dodo Cheng ( เจิ้งอวี้หลิง) เข้ามาเป็นตัวเพิ่มความน่าดูกับบท เตียชุ่ยซัว และ ฮึงซู่ซู่

เหลียงเฉาเหว่ย
รับบท เตียบ่อกี้
หลี่เหม่ยเสียน
รับบท เตี๋ยเมี่ยง
เติ้งชุ่ยเหวิน
รับบท จิวจี้เยียะ
เส้าเหม่ยฉี
รับบท เสี่ยวเจียว

              ต่อมาในปี ค.ศ. 1993 บริษัท Win's Entertainment Productionได้ให้ผู้กำกับ หวังจิง สร้าง Yi Tian Tu Long Jiขึ้นเป็นภาพยนตร์จอเงินเป็นครั้งแรก วางโครงการไว้ว่าจะสร้างถึง 4 ภาค แต่เพียงภาคแรกออกฉาย กลับไม่ประสบสความสำเร็จ ดังนั้น อีก 3 ภาคหลังจึงไม่มีตามมา ครั้งนี้มี หลี่เหลียนเจี๋ย (Jet Lee) มารับบท เตียบ่อกี้ Sharla Cheung Man รับบท เตี๋ยเมียง และ บท ฮึงซู่ซุ่ Gigi Lai Chi รับบท จิวจี้เยียะ Chingmy Yau(Chiu Siu Chen) รับบท เสี่ยวเจียว มีหงจินเป่า เป็นผู้กำกับคิวบู๊ (ร่วมแสดงด้วย เป็น จางซานฟง-เตียซำฮง) โดยครั้งนี้ใช้ชื่อเรื่อง ภาษาอังกฤษว่า Kung Fu Cult Master

หลี่เหลียนเจี๋ย
รับบท เตียบ่อกี้
จางหมิ่น
รับบท เตี๋ยเมี่ยง
หลีจือ
รับบท จิวจี้เยียะ
ชิวซู่เจิน
รับบท เสี่ยวเจียว

              และครั้งที่ 4 เป็นของ ไต้หวัน (Taiwan film company ) สร้างขึ้นเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์ เมื่อปี ค.ศ. 1994 โดยมี หม่าจิ่งเทา (Steven Ma Jing Tao) รับบท เตียบ่อกี้ กับบท เตียชุ่ยซัว (บิดาของ เตียบ่อกี้) เยี่ยถง (Cecilia Yip Tung ) รับบท เตี๋ยเมี่ยง กับบท ฮึงซู่ซู่ (มารดาของเตียบ่อกี้) และ โจวไห่เม่ย (Kathy Chow ) รับบท จิวจี้เยียะ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 นำมาออกอากาศในไทย ใช้ชื่อเรื่องว่า กระบี่ฟ้าดาบมังกร(พากษ์ใช้ชื่อตัวละครเป็นภาษาจีนกลาง) และ ต่อมา ไอทีวี ได้นำมาออกอากาศอีกครั้ง ใช้ชื่อว่า ดาบมังกรหยก (พากษ์ใช้ชื่อตัวละครเป็นภาษาแต้จิ๋ว )

หม่าจิ่งเทา
รับบท เตียบ่อกี้
เยี่ยถง
รับบท เตี๋ยเมี่ยง
โจวไห่เม่ย
รับบท จิวจี้เยียะ
เสี่ยวเจียว

              ปี ค.ศ. 2000 ทาง TVB ของฮ่องกง ก็ได้นำ เอา ดาบมังกรหยกมาสร้างเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์อีกครั้งหนึ่ง โดยมี Lawrence Ng (อู๋ฉีหัว) รับบท เตียบ่อกี้( Tei bo ky ) Gigi Lai(หลี่จือ) รับบท เตี๋ยเมี่ยง(Trieu meing ) และ Sheramaine Sheh (เสอซือม่าน)รับบท จิวจี้เยียะ (Chu chi nhouc) รวมทั้งได้พระเอก นางเอก ชื่อดังในอดีตมารับบท เตียชุ่ยซัว และฮึงซู่ซู่ ด้วยนั่นคือ Damian Lau(หลิวสงเหยิน) ผู้โด่งดังจาก เล็กเซี่ยวหงส์ ในอดีต มารับบท เตียชุ่ยซัว และ ได้สาวสองพันปี Mei Seut(หมีเซียะ) รับบท ฮึงซู่ซู่ ร่วมด้วย Cheung Siu Fai (จางเสี่ยวเฟย) รับบท เอี้ยเซียว Chan Choi Lan (เฉินชุ่ยหลัน) รับบท จูยี้ และ Tang Lai Ming (ถังลี่หมิง) รับบท กี้เฮียวฟู้ และบท เอี้ยปุ๊กฮุย

อู๋ฉีหัว
รับบท เตียบ่อกี้
หลี่จือ
รับบท เตี๋ยเมี่ยง
เสอซือม่าน
รับบท จิวจี้เยียก
เสี่ยวเจียว

              และฉบับล่าสุดปี ค.ศ. 2003 ทาง CCTV ของสิงคโปร์ นำ เอา ดาบมังกรหยกมาสร้างเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์อีกครั้งหนึ่ง โดยมี Alec Su You Peng(ซูโหย่วเผิง) มารับบท เตียบ่อกี้ (จางอู๋จี้) และ บท เตียชุ่ยซัว (จางชุ่ยซาน) Alyssia Chia รับบท เตี๋ยเมี่ยง (จ้าวหมิ่น) และ Gao Yuan Yuan รับบท จิวจี้เยียะ (โจวจูยั่ว) Guo Fei Lai รับบท ฮึงซู่ซู่ Tao Hong รับบท กี้เฮี้ยวพู้ (จี้เสียวฝู)

ซูโหย่วเผิง
รับบท เตียบ่อกี้
Alyssia Chia
รับบท เตี๋ยเมี่ยง
Gao Yuan Yuan
รับบท จิวจี้เยียก
เสี่ยวเจียว


ออกแบบ และดูแลโดย ขลุ่ยผุไร้สำเนียง
niyayjeen@yahoo.com