ปลายทางระหว่างเรา - 1

 

เป็นแฟนกันไหมปลาย น้ำเสียงของคนถามเรื่อยๆ ราวกับพูดเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป แต่กลับทำให้คนฟังสะดุ้งสุดตัว เกือบสำลักกาแฟร้อนที่เพิ่งจิบไปเมื่อครู่ 

ไม่สบายรึเปล่าหม่อน ศวัสใช้หลังมืออังหน้าผากเพื่อนสาวเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง 

สบายดีย่ะ พัฐสุดาปัดมือชายหนุ่มก่อนจะจ้องหน้าเขาตรงๆ แค่ชวนมาเป็นแฟนแค่นี้ ถึงกับคิดว่าชั้นไม่สบายสติไม่สมประกอบเลยเหรอ” 

ไม่ใช่อย่างนั้น ชายหนุ่มหันซ้ายหันขวาเมื่อฝ่ายตรงข้ามชักเริ่มเสียงดัง ดีที่ยังเป็นเวลาเช้าอยู่ คนในร้านกาแฟแห่งนี้ยังไม่มาก แถมโต๊ะที่ทั้งสองนั่งเป็นโต๊ะตัวในสุดเสียด้วย เลยไม่มีใครมาให้ความสนใจ 

ไม่ใช่อย่างนั้นแล้วอย่างไหน คนที่ถูกขอป็นแฟนทำท่าจะไม่เลิกซัก  

ศวัสมองหน้ากลมๆ ของคนตรงหน้าอย่างค้นหา พัฐสุดาไม่ใช่คนสวย แต่ใครก็ปฎิเสธไม่ได้ได้ว่าตาของหล่อนสวยอย่าบอกใคร จนเพื่อนๆ ล้อกันเป็นประจำว่าดวงตาของหล่อนมาอยู่ผิดที่ น่าจะไปอยู่บนใบหน้าดาราสาวสวยแสนบอบบาง มากกว่าบนใบหน้าของวิศวกรสาวหน้าตาธรรมดาแถมสูงเกินมาตรฐานหญิงไทยอย่างหล่อน 

ก็แค่สงสัยว่าจู่ๆ มาชวนเราเป็นแฟนเนี่ย เลิกกรี๊ดพี่วิธได้แล้วเหรอ ก็เท่านั้น ชายหนุ่มตัดสินใจถามไปตรงๆ ทำเอาอีกฝ่ายอึ้งไปพักใหญ่ 

ไงล่ะ ใจบอกไม่ให้ถามต่อ แต่พลั้งปากออกมาเรียบร้อย เมื่อเห็นว่าคนที่เพิ่งขอเขาเป็นแฟนเมื่อครู่กลับไปสนใจกาแฟเย็นตรงหน้าราวกับว่ามันเป็นสิ่งแปลกประหลาดที่สุดในโลก ถ้าไม่จ้องแล้วจะหายไปยังไงยังงั้น        

... ชายหนุ่มรู้ว่าควรจะหยุด หรือไม่ก็ควรจะให้เวลาหญิงสาวตรงหน้า แต่มือเจ้ากรรมกลับไม่ทำตาม เพราะกว่าจะรู้ตัวอีกทีเขาก็เอื้อมมือไปดึงแก้วกาแฟเย็นมาไว้ตรงหน้าตัวเองแทน คนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตามองแก้วกาแฟเลยจำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาโดยปริยาย 

จะเป็นแฟนกันไหม ถามแค่นี้ ถ้าเป็นก็ตอบตกลง ถ้าไม่เป็นก็ปฎิเสธ จะถามเรื่องอื่นทำไมให้มากความ หญิงสาวตรงหน้า ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับเขามาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย บอกอีกครั้ง ท่าทางไม่ยอมตอบคำถามของเขาสุดฤทธิ์ 

... ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนทิ้งตัวลงพิงพนักเก้าอี้อย่างอ่อนใจเมื่อเห็นความดื้อดึงในแววตาคู่สวย เพราะสนิทกันนั่นแหละ เขาถึงรู้ดีว่าหญิงสาวแอบชอบวิธวินท์ เพื่อนสนิทของพี่ชายเขามาตั้งนานแสนนาน แม้ว่าวิธวินท์จะไม่เคยรับรู้แต่หล่อนก็ยังยืนยันจะชอบชายหนุ่มรุ่นพี่ต่อไป 

แล้วจู่ๆ ลุกขึ้นมาขอเขาเป็นแฟนเนี่ยนะ มันอารมณ์ไหนกันหว่า ไม่น่าไว้ใจแฮะ 

จะบอกดีๆ หรือจะบอกด้วยน้ำตา ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้มาขอเราเป็นแฟนแบบนี้น่ะ ศวัสขู่แบบไม่จริงจังด้วยรูปประโยคที่เคยใช้จนติดปากตั้งแต่สมัยเรียนด้วยกัน  

ปกติพัฐสุดาซึ่งเป็นหญิงสาวคนเดียวในกลุ่มหนุ่มๆ วิศวะจะหัวเราะ ก่อนสลัดผมสั้นๆ ของหล่อนไปข้างหลังราวกับจะเรียกความมั่นใจ แล้วเริ่มแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ หรือว่าปัญหาให้แก่เพื่อนๆ ได้ร่วมรับรู้ 

แต่ในวันนี้ หล่อนเลือกที่จะก้มหน้าแล้วเริ่มร้องไห้ 

เฮ้ย ศวัสถึงกับอึ้งไป ผู้ชายที่ไหนก็ต้องแพ้น้ำตาผู้หญิงวันยังค่ำ ยิ่งเป็นผู้หญิงที่เขาแทบจะไม่เคยเห็นหล่อนร้องไห้เลยสักทีอย่างพัฐสุดา มันคงต้องเป็นเรื่องร้ายแรงมากเลยทีเดียวล่ะ ถึงจะทำให้หล่อนร้องไห้ได้น่ะ 

หม่อน ใจเย็นๆ สิ ร้องไห้เดี๋ยวตาบวมไม่สวยนะ ชายหนุ่มเริ่มทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ส่งผ้าเช็ดหน้าผืนโตของเขาไปให้หล่อน ไม่กล้าแม้จะเลื่อนตัวไปนั่งใกล้ๆ ก็ถ้าหล่อนเกิดมาซบอกเขาร้องไห้ จะทำยังไงต่อไปดีล่ะเนี่ย 

หม่อนจ๋า ใจเย็นๆ สิ ร้องแบบนี้เดี๋ยวคนคิดว่าเราไปทำอะไรเธอเข้าล่ะยุ่งเลย ศวัสหน้าเสียเมื่อเพื่อนสาวไม่มีทีท่าว่าจะหยุดร้องไห้เสียที 

ไอ้บ้า แทนที่จะห่วงว่าชั้นร้องไห้ทำไม แกดันไปห่วงว่าคนเค้าจะมองแกยังไงอย่างนั้นเรอะ หญิงสาวต่อว่ามาด้วยเสียงสะอื้น ผ้าเช็ดหน้าผืนโตของเขาเปียกหมดสภาพอยู่ในมือหล่อนเรียบร้อยแล้วตอนนี้ 

เออ ก็ห่วงเธอด้วยแหละ จู่ๆ มาเป่าปี่กลางร้านกาแฟแบบนี้ ไหนบอกว่าเป็นปกติดี ไม่ได้ไม่สบายตรงไหนไง ชายหนุ่มใจชื้น เพราะถ้าหล่อนเริ่มต่อว่าได้แบบนี้ พัฐสุดาโหมดเข้มแข็งคนเดิมต้องกลับมาแล้วแน่ๆ 

เป็นอะไร ไหนบอกปลายสิครับ น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นห่วงใยของเพื่อนสนิททำให้หญิงสาวซึ่งกำลังจะหยุดร้องแทบจะร้องไห้โฮอีกรอบ ดีนะที่ห้ามตัวเองไว้ได้ 

ไม่มีอะไร พัฐสุดาตอบด้วยประโยคยอดฮิตที่เมื่อตอบเสร็จก็ดุตัวเองว่าตอบไปได้อย่างไร หล่อนร้องไห้โฮต่อหน้าเพื่อนท่ามกลางที่สาธารณะชนแบบนี้ ตอบว่าไม่มีอะไรนี่โกหกกันซึ่งๆ หน้าเลยนะเนี่ย 

... ศวัสอยากจะเกาหัว ทึ้งผมตัวเอง หรืออะไรก็ได้ให้เขาไม่ต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ ท่าทางฝนจะตกหนัก สาวแกร่งอย่างพัฐสุดาถึงได้ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าขนาดนี้  

จะรุกถามอีกก็ไม่กล้า ถ้าหล่อนร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ เขาคงไม่รู้จะทำอย่างไรล่ะทีนี้ 

“…” หญิงสาวพยายามกลั้นสะอื้น ตอนหยุดร้องไห้นี่มันยากกว่าตอนเริ่มร้องเยอะเลยแฮะ 

ตกลงว่า พัฐสุดาพยายามพูดทั้งที่เสียงสั่นพร่าด้วยแรงสะอื้น จะตอบตกลงเป็นแฟนเราหรือไม่เป็นกันแน่” 

เอ่อ ศวัสอยากจะถามเหตุผลเหลือเกิน ว่าเกิดอะไรขึ้นจู่ๆ เธอถึงได้มาขอเขาเป็นแฟน แถมร้องห่มร้องไห้ขนาดนี้  

แต่เมื่อดวงตาคู่สวยที่เริ่มบวมเพราะการร้องไห้ แถมยังมีน้ำตาคลออยู่ มองสบมา ชายหนุ่มก็แทบไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองพยักหน้าและตอบตกลงไปเรียบร้อย 

ขอบใจมากนะปลาย นายช่วยชีวิตชั้นไว้เลยล่ะคราวนี้ คนที่เพิ่งหยุดร้องไห้หมาดๆ กลับร่าเริงขึ้นทันตาเห็น เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าตอบตกลงว่าจะเป็นแฟน 

คนที่เพิ่งตอบตกลงไปต่างหาก ทำท่าอยากตายขึ้นมากะทันหัน นี่มันอะไรกันล่ะเนี่ย!!! 

                                                                                     

            ศวัสไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใคร ขืนไปปรึกษากับครอบครัวล่ะก็ มีแต่จะดีใจกันทั้งนั้นแหละ เพราะหลังจากที่พี่ชายคนโตแต่งงานไป และพี่ชายคนกลางเพิ่งประกาศหมั้นข้ามทวีปมาหยกๆ ก็เหลือแต่เขาซึ่งเป็นน้องชายคนสุดท้อง ที่พ่อแม่เริ่มจับตามองอย่างเป็นห่วง ว่าเมื่อไหร่จะมีคู่กับเขาเสียที 

            อันที่จริงเขาน่ะเป็นคนแรกด้วยซ้ำที่พ่อแม่มองอย่างหมดห่วงเรื่องคู่ เนื่องจากความสนิทสนมกับกทลี พี่สาวของหญิงสาวที่มีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้คนโตของเขาตอนนี้ ทำให้ทุกคนคิดว่าเขากับกทลีต้องลงเอยกันแน่ๆ 

            แต่แล้วเหตุการณ์ก็เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ แต่ไม่เป็นอย่างที่ทุกคนคาด นั่นก็คือชายหนุ่มลูกครึ่งหน้าหล่อที่อยู่เคียงข้างหัวใจของกทลีมานานโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ ได้กลับมาตามหาหัวใจของเขา ตามมาเปิดใจของหล่อนให้รู้ว่าใครกันแน่ที่ยึดพื้นที่ในใจของหล่อนมาเนิ่นนาน 

            ศวัสไม่มีใครนับแต่นั้น ไม่ใช่เพราะเขาอกหักเนื่องจากปักใจกับกทลีมานานแสนนานอย่างที่ใครๆ คิด แต่เป็นเพราะเขายังไม่คิดว่าเขาเจอคนที่ใช่ต่างหาก 

            แล้วจู่ๆ ก็มามีแฟนกะทันหันแบบนี้ แถมเป็นคนที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นคนที่ใช่ด้วย มันยังไงกันล่ะเนี่ย? 

            รอนานไหมคะพี่ปลาย น้ำเสียงร่าเริงที่แสนจะคุ้นหูดังขึ้นข้างหลัง ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่ากทลีนั่นเองที่กำลังตรงเข้ามาหาเขา 

            เพิ่งมาเมื่อกี้นี่เอง ศวัสบอกก่อนเลื่อนเก้าอี้ข้างๆ ให้หล่อนนั่ง หญิงสาวหันไปสั่งโค้กจากพนักงานที่ดูแลบาร์ที่ทั้งสองนั่งอยู่ก่อนหันมาหาเขา 

            วันนี้จะเกิดอะไรกับชีวิตกล้วยอีกน้า อยู่ดีๆ พี่ปลายมาอาสาเลี้ยงข้าว หญิงสาวเย้า จำได้ดีถึงหนสุดท้ายที่เขาอาสาว่าจะเลี้ยงข้าว นั่นคือวันที่เขาตัดสินใจบอกให้หล่อนสำรวจใจตัวเอง ว่ามีใครคนหนึ่งแอบซ่อนอยู่ในนั้นเนิ่นนาน 

            คราวนี้ตาพี่ ไม่ใช่ตากล้วยหรอก ศวัสบอกอย่างปลงๆ จับแก้วโค้กที่เหลือเพียงน้ำแข็งตรงหน้าไว้แน่นราวกับจะใช้มันเป็นที่ยึดเหนี่ยว 

            มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าคะพี่ปลาย น้ำเสียงของกทลีอ่อนโยนลง แววขี้เล่นลดลงไปกว่าค่อน เมื่อเห็นท่าทางไม่สบายใจของอีกฝ่าย 

            พี่เพิ่งตอบตกลงเป็นแฟนกับหม่อนไป ชายหนุ่มบอกเบาๆ เงยหน้าขึ้นเมื่อกทลีเงียบไปพักใหญ่ เพื่อจะพบกับท่าทางอ้าปากค้างของหญิงสาวรุ่นน้อง 

            เป็นอะไรรึเปล่ากล้วย ชายหนุ่มโบกมือผ่านหน้าหญิงสาวเป็นการทดสอบ กทลีหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะรวบรวมสติให้อยู่กับเนื้อกับตัว 

            พี่ปลาย หญิงสาวพูดทวนอย่างไม่แน่ใจ ตอบตกลงเป็นแฟนกับพี่หม่อนเนี่ยนะคะ 

            อืม ชายหนุ่มพยักหน้า รู้สึกดีขึ้นเมื่อเห็นคนอื่นตกใจบ้าง

             พี่หม่อน เอ่อ... กทลีมีท่าทางเกรงใจก่อนพูดต่อ ที่แอบชอบพี่วิธมาตั้งนานแล้วเนี่ยนะ 

            นั่นแหละ ศวัสถอนหายใจ จนป่านนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าอะไรทำให้พัฐสุดามาขอให้เขาเป็นแฟน แถมร้องไห้ซะยกใหญ่     เสียด้วย 

            อารมณ์ไหนเนี่ยพี่ กทลีชักเริ่มรู้สึกว่าตัวเองจะโดนอำยังไงไม่แน่ใจ นี่ถ้าท่าทางศวัสกลุ้มน้อยกว่านี้อีกนิดนะ หล่อนจะมั่นใจว่าโดนอำชัวร์ๆ ก็พี่หม่อนชอบพี่วิธจะเป็นจะตาย 

            พี่ก็ไม่รู้แฮะ ถึงได้เรียกเราออกมานี่ไง ศวัสสารภาพ ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กทลีฟัง ตั้งแต่ที่จู่ๆ พัฐสุดาก็มาขอเขาเป็นแฟน จนกระทั่งเขาแพ้สายตาของหล่อน และตอบตกลงไปโดยไม่รู้ตัว 

            กทลีที่นั่งรับฟังอย่างสงบใช้นิ้วลูบแหวนหมั้นตัวเองอย่างใจลอย วิญญานคนอ่านทั้งการ์ตูนและนิยายนักสืบเข้าสิง แววตาของหญิงสาวมุ่งมั่น พยายามจะหาเหตุผลของเรื่องราวที่ดูจะไม่มีเหตุผลเอาซะเลยของชายหนุ่ม 

                                                                                     

            หญิงสาวเหม่อลอยจนคนข้างๆ ที่รับหน้าทีเป็นสารถีขับรถให้ชักเป็นห่วง ได้จังหวะรถติด ชายหนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน-อิตาเลียน ที่รับตำแหน่งสารถี ที่ปรึกษาส่วนตัว และคู่หมั้น ถึงได้หันไปมองหน้าคนที่นั่งข้างๆ ตรงๆ 

            เกล น้ำเสียงที่เรียกดังพอจะดึงคนข้างๆ ให้ออกมาจากภวังค์ได้ 

            คะ หญิงสาวมองหน้าคนรักงงๆ ถึงบ้านแล้วเหรอคะ 

            ยังหรอก รถยังติดไฟแดงอยู่เลย นาธาเนียลบอกก่อนเอื้อมมือไปโยกหัวหญิงสาวเบาๆ อย่างเอ็นดู ใจลอยไปถึงใครเนี่ย ผมน้อยใจนะ 

            แหม เนทก็ กทลีจับมือใหญ่ๆ ที่วางแปะบนหัวหล่อนมาแนบแก้มอย่างเอาใจ นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนอย่าหวังเลยว่าหล่อนจะทำอะไรหวานแหววขนาดนี้ แต่ก็นั่นล่ะนะ...ที่เค้าว่าความรักเปลี่ยนคนได้ ท่าจะจริงแฮะ 

            คิดถึงคุณปลายล่ะสิ ชายหนุ่มเดาได้ถูกเผง แต่ไม่มีแววหึงหวงในน้ำเสียง เพราะรู้ว่าระหว่างกทลีและศวัสไม่มีอะไรพิเศษไปมากกว่ามิตรภาพดีๆ ที่มีให้กันมาแสนนาน จริงๆ ศวัสถือเป็นผู้มีพระคุณด้วยซ้ำ เพราะเป็นคนทำให้กทลีได้ลองสำรวจใจตัวเอง เพื่อที่จะพบว่ามีเขาอยู่เต็มหัวใจ 

            ค่ะ หญิงสาวรับคำ พอดีกับสัญญานไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว นาธาเนียลกลับมาใช้สมาธิส่วนมากในการขับรถ  ตามเคย  

            กล้วยกำลังสงสัย ว่าอารมณ์ไหนกัน พี่หม่อนถึงได้ไปขอพี่ปลายเป็นแฟนน่ะ กทลีพูดเหมือนรำพึงกับตัวเองมากกว่าจะบอกให้คนข้างๆ ฟัง นาธาเนียลยักไหล่ 

            เรื่องราวของความรัก มีแต่คนที่กำลังพบเจอมันอยู่เท่านั้นแหละถึงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร คนนอกอย่างเขาและคู่หมั้น คิดไปให้ปวดหัวก็คงหาสาเหตุไม่พบหรอก 

            แต่ท่าทางว่าที่คู่หมั้นเขาจะไม่คิดเหมือนกันแฮะ เห็นแววตาครุ่นคิดอย่างนี้แล้ว เขาไม่น่าปล่อยให้หล่อนอ่านการ์ตูนและนิยายสืบสวนสอบสวนมากไปเลยจริงๆ ให้ตายสิ 

                                                                                           

 

          

 

 

 

Home NtG  ตอนที่ 2