แ ผ น ผั ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า คันถะธุระ
การศึกษาพระไตรปิฎก
พร้อมด้วยอรรถกถาฏีกาจารย์วิปัสสนาธุระ
การลงมือปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์
คั น ถ ะ ธุ ร ะ พระวินัยปิฎก
(เรื่องศีล) มี ๒๑๐๐๐ พระธรรมขันธ์มหาวิภังค์
ว่าด้วยข้อห้ามที่เป็นหลักใหญ่ๆ ของพระภิกษุ มี ปาราชิก เป็นต้นภิกขุณีวิภังค์
ว่าด้วยข้อห้ามของภิกษุณีมหาวัคค์
พระพุทธประวัติตอนแรกๆ และพิธีกรรมทางพระวินัยจุลวัคค์
ว่าด้วยพิธีกรรมทางพระวินัยและความเป็นมาของภิกษุณีปริวาร
ว่าด้วยข้อเบ็ดเตล็ดของพระวินัยพระสุตตันตปิฏก
(เรื่องสมาธิ) มี ๒๑๐๐๐ พระธรรมขันธ์ทีฆนิกาย
ว่าด้วยพระสูตรหรือพระธรรมเทศนาขนาดยาวๆมัชฌิมนิกาย
ว่าด้วยพระสูตรหรือพระธรรมเทศนาขนาดปานกลาง คือ ไม่ยาวและไม่สั้นสังยุตตนิกาย
ว่าด้วยการประมวลเหตุการณ์ต่างๆ ไว้เป็นพวกๆ เช่น
ว่าด้วยเรื่องพระกัสสป ก็เรียกว่ากัสสปสังยุตเป็นต้นอังคุตตรนิกาย
ว่าด้วยการแสดงธรรมเทศนาเป็นข้อๆ ตามลำดับ
เช่น แสดงว่าธรรมหมวด ๑ ธรรมหมวด ๒ เป็นต้นขุททกนิกาย
ว่าด้วยพระธรรมเทศนาประเภทเบ็ดเตล็ด มีชาดกเป็นต้นพระอภิธรรมปิฎก
(เรื่องปัญญา) มี ๔๒๐๐๐ พระธรรมขันธ์ธรรมสังคิณี
ว่าด้วยการรวบรวมปรมัตถธรรมทั้งหมดวิภังค์
ว่าด้วยการจำแนกปรมัตถธรรมเป็นส่วนๆ มี ขันธ์วิภังค์ อายตนวิภังค์ เป็นต้นธาตุกถา
ว่าด้วยการจัดปรมัตถธรรมเข้าไว้เป็นพวกๆ ที่พอจะสงเคราะห์เข้ากันได้
และไม่ได้ถือโดยธาตุเป็นหลักปุคคลบัญญัติ
ว่าด้วยการแสดงปรมัตถธรรมโดยบัญญัติ มีขันธบัญญัติ อายตนบัญญัติ เป็นต้นกถาวัตถุ
ว่าด้วยการแสดงปรมัตถธรรมโดยปุจฉา-วิสัชชนา ซึ่งกันและกันยมก
ว่าด้วยการแสดงปรมัตถธรรมที่เป็นคู่ๆ เป็นทำนองปุจฉา-วิสัชชนา โดยพระพุทธองค์มหาปัฏฐาน
ว่าด้วยการแสดงปรมัตถธรรมที่เป็นอุปการะแก่กันและกันมี ๒๔ อย่างพระวินัย-พระสูตร-พระอภิธรรม
เมื่อสงเคราะห์แล้วก็ได้แก่ ปรมัตถธรรม ๔ คือ จิต - เจตสิก - รูป - นิพพาน
ปรมัตถธรรมทั้ง ๔ นี้ มีอยู่ในคัมภีร์ 'พระอภิธัมมัตถสังคหะ' ซึ่งมีอยู่ ๙ บท คือจิตตสังคหะวิภาค
ว่าด้วยการจำแนกจิตโดยประเภทต่างๆ เป็นต้นเจตสิกสังคหะวิภาค
ว่าด้วยการจำแนกเจตสิกที่ประกอบกับจิต เป็นต้นปกิณณกสังคหะวิภาค
ว่าด้วยการแสดงจิตและเจตสิกโดยประเภทแห่งเวทนา เหตุ กิจ ทวาร อารมณ์ วัตถุวิถีสังคหะวิภาค
ว่าด้วยการแสดงความเป็นไปของจิตแต่ละประเภทๆ เป็นต้นวิถีมุตตสังคหะวิภาค
ว่าด้วยการแสดงเรื่องของจิตที่พ้นวิถีและเรื่องของกรรมต่างๆ เป็นต้นรูปสังคหะวิภาค
ว่าด้วยการแสดงการจำแนกเรื่องของรูปต่างๆ มี มหาภูตรูป เป็นต้นสมุจจยสังคหะวิภาค
ว่าด้วยการแสดงเรื่องของวัตถุธรรม ๗๒ มีจิต เป็นต้นปัจจยสังคหะวิภาค
ว่าด้วยการแสดงเรื่องปฏิจจสมุปบาทและปัจจัย ๒๔ มีเหตุปัจจัย เป็นต้นกัมมัฏฐานสังคหะวิภาค
ว่าด้วยเรื่องสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน
วิ ปั ส ส น า ธุ ร ะ สมถกรรมฐาน
(การกระทำให้ใจสงบด้วยการเพ่ง)สมถกรรมฐาน
(การกระทำให้ใจสงบด้วยการเพ่ง)ที่ตั้งแห่งการเพ่ง ๗ หมวด คือ
กสิณ ๑๐
อสุภ ๑๐
อนุสติ ๑๐
อัปปมัญญา ๔
สัญญาสังคหะ ๑
ววัตถานสังคหะ ๑
อารุปปสังคหะ ๑ผลที่เกิดจากการภาวนาสูงสุด
คือ ได้โลกียอภิญญา ๕ ประการ
(๑) มีฤทธิ์หลายอย่าง
(๒) หูทิพย์
(๓) รู้จิตใจของผู้อื่น
(๔) ระลึกชาติได้
(๕) ตาทิพย์โลกียอภิญญานี้ พ้นจากความทุกข์และความเศร้าโศกไม่ได้ กิเลสก็ไม่หมด ไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลย กิเลสเพียงแต่สงบไปชั่วคราวเท่านั้น วิปัสสนากรรมฐาน
(การมีสติเพียรกำหนดความเป็นไป
ของกายและใจให้ทันปัจจุบัน)วิปัสสนากรรมฐาน
การมีสติเพียรกำหนดความเป็นไปของกายและใจให้ทันปัจจุบันที่ตั้งแห่งการเข้าไปกำหนดรู้ ๖ อย่างคือ
ขันธ์ ๕
อายตนะ ๑๒
ธาตุ ๑๘
อินทรีย์ ๒๒
อริยสัจจ์ ๔
ปฏิจจสมุปบาท ๑๒ทั้ง ๖ หมวด ย่อลงแล้วก็คือ
การกำหนดสติรู้ตัวทั่วพร้อมให้ทันปัจจุบัน
ของกายและใจมีผล ๓ ขั้น คือ ขั้นต้น
ทำลายความหยาบคายของกิเลสที่นำไปสู่อบายภูมิได้
แม้ชีวิตในปัจจุบันก็อยู่ด้วยการไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่นขั้นกลาง
ทำลายความโกรธและความกระหายในกามคุณอารมณ์ได้
มีอุปการะแก่สังคมมากขั้นสูง
สิ้นความทุกข์และความเศร้าโศกทั้งปวง
มีอุปการะแก่สังคมมากอย่างหาประมาณไม่ได้
และไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด หมดทุกข์โดยสิ้นเชิง