banner

E-LAW รอบรู้

Web Site Designs and Copyright

กลับไปที่ Main Page in English | หน้าหลัก (ไทย) | ดัชนีบทความ | ข้อกฎหมาย |

การทำไฮเปอร์ลิงค์ (Hyberlinks) และแฟรมมิ่ง (Framing)กับกฎหมายลิขสิทธิ์

โดย นพมาศ ประสิทธิ์มณฑล


ประเด็นที่จะพิจารณาในเรื่องนี้

  • อะไรคือ ไฮเปอร์ลิงค์ และแฟรมมิ่ง
  • การทำไฮเปอร์ลิงค์ และแฟรมมิ่งละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์หรือไม่
  • แนวทางในการทำไฮเปอร์ลิงค์และแฟรมมิ่งเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากฎหมาย

ไฮเปอร์ลิงค์ คือ องค์ประกอบ (elements) ซื่งอาจจะเป็น คำ รูปภาพ สัญลักษณ์ หรือ ปุ่มในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งอยู่ในเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเชื่อมโยงไปสู่เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ในเว๊บไซต์เดียวกัน หรือไปยังเว๊บไซต์อื่น ๆ อาจกล่าวได้ว่า ด้วยคุณสมบัติในการเชื่อมโยงนี้เอง ทำให้ไฮเปอร์ลิงค์เป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบ world wide web ซึ่งไม่น่าแปลกใจว่า ไฮเปอร์ลิงค์ นี้เองที่เป็นที่มาของการขนานนาม เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตว่า Information Superhighway หรือ ทางด่วนสู่ข้อมูลข่าวสาร

วัตถุประสงค์ดั้งเดิมของไฮเปอร์ลิงค์ คือ การอำนวยความสะดวกในการใช้งานแก่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต หากแต่ว่าในปัจจุบันนี้ วัตถุประสงค์ในการทำไฮเปอร์ลิงค์ ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนไป ซึ่งเจ้าของเว๊บไซต์ทุกวันนี้ได้ทำไฮเปอร์ลิงค์เพื่อ

  • ลดค่าใช้จ่ายในการจัดทำ หรือหาข้อมูลสำหรับเว๊บไซต์ของตนเอง แต่ทำลิงค์เพื่อใช้ข้อมูลจากเว๊บไซต์ของผู้อื่น
  • เพื่อหารายได้จากการโฆษณา ตัวอย่างเช่น เจ้าของเว๊บไซต์อาจจะรับโฆษณาสินค้าให้โดยการทำลิงค์ผ่านแบนเนอร์ (banner) ของผู้จ่ายค่าโฆษณา
  • เป็นการดึงลูกค้ามาใช้บริการเว๊บไซต์ของตนเอง

    หลักการทำงานของไฮเปอร์ลิงค์
    ไฮเปอร์ลิงค์จะถูกเขียนเป็นโค๊ด ซึ่งประกอบด้วย ที่อยู่ (URL) ของเว๊บไซต์ที่ถูกลิงค์
    A HREF= ตามด้วยที่อยู่เว๊บที่จะลิงค์ ผลที่ปรากฎบนเว๊บเพจจะเป็นดังนี้ www.elaw.com เมื่อผู้ใช้คลิ๊กบนไฮเปอร์ลิงค์ โปรแกรมเว๊บบราวเซอร์ เช่น Netscape หรือ Internet Explorer/ IE จะตรงไปยังที่อยู่ของเว๊บที่ถูกลิงค์ จากนั้นจะทำการดาวน์โหลดสำเนาของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกลิงค์ (เหมือนกับการที่ผู้ใช้ทำการใส่ที่อยู่ หรือ URL ของเว๊บที่ถูกลิงค์โดยตรง) ในขณะเดียวกันคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้จะบันทึกข้อมูลที่ดึงมานั้นเก็บไว้ที่ แรม (RAM = random access memory หรือ หน่วยความจำหลักของคอมพิวเตอร์ในขณะที่ใช้งานอยู่) อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ถูกดึงมานั้นจะหายไปจากแรมเมื่อมีการปิดไฟการทำงานของคอมพิวเตอร์

    ประเด็นข้อกฎหมาย
    ลักษณะการทำงานของไฮเปอร์ลิงค์ เป็นที่โต้เถียงกันมากว่า เป็นการ "ทำซ้ำ" ( ตามพรบ ลิขสิทธิ์ของไทย โปรดพิจารณา มาตรา 4 และ 15 ประกอบกัน) อันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของเจ้าของสิขสิทธิ์ ในอันที่จะทำซ้ำ เผยแพร่ ใช้ประโยชน์อื่นๆ ซึ่งเป็นสิทธิแต่ผู้เดียวของเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือไม่

    ผู้เขียนขอแบ่งความเห็นของนักกฎหมายไอทีต่างประเทศเป็นสองกลุ่ม ซึ่งมีทั้งกลุ่มที่เห็นว่า การทำไฮเปอร์ลิงค์เป็นการละเมิดสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์ กับกลุ่มที่เห็นว่า ไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด โดยความเห็นของสองกลุ่มจะอ้างอิงคำพิพากษาของศาลเป็นหลัก

    กลุ่มแรก เห็นว่า การทำไฮเปอร์ลิงค์เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่น พิจารณาตามคดี Intellectual Reserve, Inc. v Utah Ligthouse Ministry, Inc. 75 F. Supp. 2d 1290 (D. Utah 1999) (USA) โดยศาลได้ให้เหตุผลว่า ทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิ๊กไปยังไฮเปอร์ลิงค์ จะทำให้เกิดการทำซ้ำงานอันมีลิขสิทธิ์บนแรม (RAM) เมื่อเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวถูกส่งมายังโปรมแกรมบราวเซอร์

    กลุ่มที่สองเห็นว่า การทำไฮเปอร์ลิงค์ โดยลักษณะของมันเองไม่ได้เป็นการละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ โดยไม่ถือว่าการดึงข้อมูลมาเก็บไว้ที่แรม เป็นการทำซ้ำ โดยศาลกล่าวว่า ผู้ใช้ได้ผ่านเข้าไปยังเว๊บดังเดิมซึ่งเป็นแหล่งที่มาของเอกสารนั้น ๆ ทั้งนี้การใช้ไฮเปอร์ลิงค์นั้น ผู้ใช้ก็ตระหนักดีว่าตนกำลังเข้าไปสู่อีกเว๊บไซต์หนึ่งแล้ว ซึ่งความเห็นนี้ ปรากฎในคดี Ticketmaster Corp v Tickets.Com Inc, US District Court, Californai 27 March 2000 ศาลในคดีได้เทียบเคียงการทำงานของ ไฮเปอร์ลิงค์ เช่นเดียวกับการใช้บัตรดัชนีที่ใช้หาหนังสือในห้องสมุด (a library's card index) ซึ่งแนะนำผู้ใช้ไปยังหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่ง หากแต่ว่า ไฮเปอร์ลิงนั้นใช้ได้ง่ายและทำงานได้รวดเร็วกว่าเท่านั้น

    นอกจากนี้ยังมีคดีซึ่งตัดสินโดยศาลอังกฤษ ในคดี Shetland Times Ltd v Wills [1997] 37 IPR 77 โจทก์ได้ทำกิจการหนังสือพิมพ์ภายใต้ชื่อ the Shetland Times ขณะที่จำเลยก็ได้ทำเว๊บไซต์โดยใช้ชื่อว่า the Shetland News โจทก์เองก็มีเว๊บไซต์ภายใต้ชื่อเดียวกับหนังสือพิมพ์ของตนด้วย จำเลยได้ทำไฮเปอร์ลิงค์ โดยการใช้หัวข้อข่าวจากหนังสือพิมพ์ของโจกท์ และทำการเชื่องโยงไปสู่เนื้อหาข่าวในเว๊บไซต์ของโจทก์ โจทก์ฟ้องจำเลยตาม the Copyright Design and Paten Act 1988 (UK) กล่าวหาว่าจำเลยกระทำการอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในบทความในหนังสือพิมพ์ของโจทก์

    ศาลชั้นต้นตัดสินว่า จำเลยละเมิดในงานของโจทก์ เนื่องจากหัวข้อข่าวเป็นงานวรรณกรรม (literary work) ตาม พรบ ข้างต้น อย่างไรก็ดี คำพิพากษาในศาลสูง ได้พิจารณาว่า หัวข้อข่าว ไม่ถือเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ เนื่องจากว่าไม่เพียงพอที่จะพิจารณาได้ว่าเป็นรูปแบบของการแสดงออก (the form of expression) ซึ่งอยู่ในประเภทเดียวกับชื่อเพลง หรือ ชื่อภาพยนตร์ จากประเด็นกฎหมายในคดีนี้ นักกฎหมายบางท่านเห็นว่า การทำไฮเปอร์ลิงค์ตรงไปยังหน้าหลักของเว๊บไซต์อื่น ๆ โดยตรง น่าจะหลีกเลี่ยงปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ แทนที่จะทำไฮเปอร์ลิงค์ตรงไปยังบทความใดบทความหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง อย่างไรก็ตามปัญหาในประเด็นนี้ยังไม่เป็นที่ยุติ

    คดีสุดท้ายเป็นคดีเกี่ยวกับ การทำแฟรมมิ่ง หรือ การล้อมกรอม ซึ่งเป็นอีกรูปแบบที่พัฒนามาจากการทำไฮเปอร์ลิงค์ แต่ต่างกันที่ว่า แทนที่หน้าจอจะแทนที่ใหม่ทั้งหมดด้วย หน้าจอของเว๊บไซต์ใหม่ที่ถูกลิงค์ กลับปรากฎว่า เว๊บที่ผู้ใช้ต้องการจะดู ปรากฎอยู่ในกรอบของเว๊บไซต์เดิม เปรียบเทียบง่าย ๆ ว่า เหมือนกับการเอารูปถ่ายใหม่มาใส่ในกรอบรูปเดิม มีคดีพิพาทในสหรัฐในเรื่องการทำแฟรม นี้ในคดี Washington Post Co v Total NEWS Inc 97 Civ 1190 (SDNY) จำเลย คือ Total News ได้ทำ ไฮเปอร์ลิงค์ไปสู่เว๊บไซต์ข่าว หรือ หนังสือพิมพ์ต่าง ๆ ซึ่งก็รวมทั้ง ทำลิงค์ไปยัง Washington Post ซึ่งก็คือ โจทก์ในคดีนี้ด้วย โดยเมื่อผู้ใช้คลิ๊กไปยังลิงค์ของจำเลย ปรากฎว่าเว๊บไซต์ของโจกท์มาปรากฎในจอเล็ก ๆภายในกรอบของ Total News ในขณะที่ URL หรือ ที่อยู่ของเว๊บยังถูกดึงอยู่ที่ Total News โจทก์จีงฟ้องจำเลยในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ในข่าวของโจทก์ การกระทำของจำเลยทำให้เกิดความสับสนต่อผู้ใช้ และเป็นการแข่งขันอันไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตามคู่กรณียอมความและระงับข้อพิพาท โดยจำเลยยอมยุติการทำแฟรมมิ่ง และเปลี่ยนไปสู่การทำไฮเปอร์ลิงค์แบบธรรมดาโดยไม่มีการดึง URL ไว้ที่เว๊บของจำเลย

    แนวทางในการทำไฮเปอร์ลิงค์ และแฟรมมิ่งเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากฎหมาย
    1. ไม่ควรทำแฟรมมิ่งในเนื้อหาของเว๊บไซต์ของผู้อื่น โดยมิได้รับอนุญาต
    2. ทำให้เว๊บไซต์ของท่านง่ายต่อผู้ใช้ในการออกจากเว๊บ ไปสู่เว๊บอื่นๆ ได้
    3. ผู้จัดทำเว๊บควรติดข้อจำกัด หรือ ปัดป้องความรับผิด (disclaimer) และอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลให้ชัด
    เจน โดยชี้แจงให้ผู้ใช้ทราบว่า ผู้ใช้กำลังเข้าไปสู่ข้อมูลของเว๊บอื่น ตัวอย่างเช่น การเขียนบอกแหล่งอ้างอิง หรือ ชื่อเจ้าของเว๊บที่ถูกลิงค์: www.oocities.org/elaw007 by Noppramart Prasitmonthon เป็นต้น
    4. ถึงแม้ว่า โดยทั่วไป การทำไฮเปอร์ลิงในลักษณะดัชนี ผู้ทำอาจมีสิทธิโดยนัย (implied right) ทำการลิงค์ไปสู่เว๊บของผู้อื่น เนื่องจากประเด็นกฎหมายในเรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน ข้อแนะนำ ก็คือ ท่านควรทำการขออนุญาตใช้ จากเจ้าของเว๊บที่ท่านต้องการลิงค์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง และยังเป็นการแสดงมารยาทของผู้ใช้ที่ดีด้วย
    5. เว๊บไซต์ของท่านความมีข้อกฎหมายในการใช้เว๊บไซต์ โดยมีข้อความต่อไปนี้

    • การจำกัดความรับผิดต่อข้อมูลใด ๆ ที่ทำการลิงค์ หรือ แฟรมมิ่ง ไปสู่เว๊บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งอาจละเมิดลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า หรือ อาจเป็นการหมิ่นประมาท
    • สร้างเงื่อนไขในการใช้เว๊บไซต์ของท่านโดยกำหนดให้ผู้ที่ต้องการทำไฮเปอร์ลิงค์ หรือแฟรมมิ่งเว๊บของท่าน ต้องได้รับอนุญาตจากท่านก่อน
    6. ท่านอาจจะออกแบบคำเตือน ให้แสดงข้อความจำกัดความรับผิด และเงื่อนไขการใช้เว๊บไซต์ก่อนที่ผู้ใช้งานจะสามารถคลิ๊กผ่านไปสู่เว๊บอื่น

    อย่างไรก็ตามผู้เขียนเห็นว่า การพิจารณาว่าการทำไฮเปอร์ลิงค์ และแฟรมมิ่งว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นหรือไม่นั้น อาจจะต้องพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไปตามลักษณะของการทำลิงค์ ซึ่งมีการพัฒนารูปแบบใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ รวมถึงต้องพิจารณาเจตนาของผู้ทำการลิงค์ประกอบกันไปด้วย นอกจากนั้นความเห็นของศาลต่างประเทศก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ และก็ไม่แน่ว่าศาลไทยจะมีความเห็นเช่นเดียวกับศาลต่างประเทศหรือไม่ บทความนี้ก็ได้ให้ภาพรวม ของการทำไฮเปอร์ลิงค์ และแฟรมมิ่ง กับประเด็นกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน ซึ่งสนใจในเรื่องกฎหมายกับการจัดทำเว๊บไซต์ไม่มากก็น้อย



Date Created: 14-Mach-2002
Last Modified: 14-Mach-2002
Author: Noppramart Prasitmonthon
Email: nop_elaw@hotmail.com
? Copyright นพมาศ ประสิทธิ์มณฑล 2001-2002 All rights reserved

กลับไปที่หน้าแรก
กลับไปหน้าดัชนีบทความ