"ด้ ว ย ส า ย ใ ย แ ห่ ง
รัก"
กริ๊งๆๆๆ
กริ๊งๆๆๆๆ
"กิ่ง
กิ่ง
รับโทรศัพท์ทีซิลูก"
"โธ่
แม่
กิ่งอาบน้ำให้ปุ๊กปิ๊กอยู่นะ"
เสียงสาวน้อยตะโกนตอบผู้เป็นมารดา
"แม่ล้างจานอยู่
เห็นมั๊ยล่ะ
กิ่งอยู่ใกล้ก็รับหน่อยสิ"
ผู้เป็นมารดาตะโกนตอบมาเช่นกัน
"ก็ได้"
เธอตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
แต่ก็ยอมทำตามคำสั่งผู้เป็นมารดาแต่โดยดี
................................................
"สวัสดีค่ะ
บ้านคุณแก้วกาญจน์ค่ะ"
เธอเอ่ยนามผู้เป็นมารดากรอกไปตามสาย
"สวัสดีครับ
น้ากาญจน์เหรอครับ
ผมรพีนะครับ
เดี๋ยวกับคุณแม่จะเข้าไปหาตามที่นัดกันไว้นะครับ"
"เอ่อ....................."
"แล้วเจอกันนะครับคุณน้า
สวัสดีครับ"
"เดี๋ยวค่ะ
เดี๋ยว......."
อ้าว !
วางไปซะแล้ว
คนอะไรเนี่ยมาพูดๆๆๆ แล้วก็วาง
ที่สำคัญมาเข้าใจว่าเราเป็นแม่ได้ไงเนี่ย
เสียงเราออกจะไพเราะ
คิดแล้วก็แค้นจริงๆ ตาบ้านี่อย่าให้เจอเชียวนะ
คิดได้แค่นั้น
ฉับพลันสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างวิ่งผ่านหน้าบ้านไป
"ปุ๊กปิ๊ก
ปุ๊กปิ๊ก
จะไปไหนน่ะ
ยังอาบน้ำไปเสร็จเลยนะ
กลับมานี่
ได้ยินไหม
บอกให้กลับมา"
เธอตะโกนลั่นบ้าน
"อะไรกันอีกล่ะ
แม่กิ่ง
แล้วใครโทรมาล่ะ?"
เสียงผู้เป็นมารดาถามมา
"เพื่อนแม่มั้งคะ
รู้สึกว่าจะชื่อ รพี
อะไรนั่นแหละค่ะ
แม่นะแม่
ให้กิ่งรับโทรศัพท์
ปุ๊กปิ๊ก มันหนีไปเลยเห็นไหม
ยิ่งจับตัวยากอยู่ด้วย"
เธอบ่นออกมา
"อ้อ
พ่อรพี
กลับมาไม่ทันไร
ก็จะเริ่มแล้วรึเนี่ย"
คุณแก้วกาญจน์เดินออกมาจากในครัว
แล้วมามองดูลูกสาวที่มอมแมมไปทั้งตัวจากการอาบน้ำให้เจ้าปุ๊กปิ๊ก
"กิ่งไปตามปุ๊กปิ๊กนะแม่"
"เดี๋ยวสิ
กิ่ง
แม่............."
คุณแก้วกาญจน์พูดได้แค่นั้นก็ต้องหยุด
เพราะแม่ลูกสาวตัวดีวิ่งไปซะไกล
ผู้เป็นแม่ได้แต่มองดูลูกสาว
แล้วก็อมยิ้ม
ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
เฮ้อ
ลูกสาวฉันจะขายออกมั๊ยเนี่ย
ไม่รู้ว่าพ่อรพีมาหลงรักเข้าได้ยังไง
...................................................
"ปุ๊กปิ๊ก
ปุ๊กปิ๊ก
อยู่ไหนน่ะ
ออกมานะ
ปุ๊กปิ๊ก"
กิ่งแก้วก้มๆ เงยๆ
สอดส่ายสายตาหาเจ้าปุ๊กปิ๊ก
สุนัขอัลเซเชี่ยนตัวโตของเธอ
"หายไปไหนนะ
ตัวเบ้อเร้อ ไปหลบอยู่ไหนเนี่ย"
ขณะที่กิ่งแก้วกำลังหาเจ้าตัวดีอยู่นั้น
เธอไม่รู้ตัวเลยว่าอีกข้างหนึ่ง
มีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมาที่เธอด้วยความรักอย่างยิ่ง
"โฮ่ง
โฮ่ง"
เจ้าของสายตานั้นตะโกนเรียก
หญิงสาวหันไปตามเสียงเรียกทันที
"ปุ๊กปิ๊ก
อยู่ตรงนั้นนะ
อย่าไปไหน"
เธอตอบ
แล้ววิ่งข้ามถนนไปทันที
เอี๊ยด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงรถเบรกดังลั่น
"โอ๊ย!!"
เธอพูดออกมาได้แค่คำเดียว
ก็ล้มตัวลงไป
"แย่แล้ว
ตายหรือเปล่าก็ไม่รู้"
เสียงชายหนุ่มในรถ อุทานออกมา
"ลงไปดูเค้าหน่อยสิ
คงไม่เป็นอะไรมากหรอก
แค่เชี่ยวๆ"
เสียงผู้หญิงอีกคนกล่าวตอบ
"ครับ"
ชายหนุ่มเปิดประตูรถลงไป
แล้วเข้าไปช้อนตัวหญิงสาว
"คุณ
คุณ
คุณครับ
เป็นอะไรหรือเปล่า"
กิ่งแก้วขยับตัว
เธอมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากสีดำ
เธอกะพริบตาปรับสายตาสองสามครั้ง
แล้วคิดว่า
บีเอ็มซะด้วย
รวยน่าดูเลยนะ
ไม่ใช่สิ
เค้าขับรถชนเรานี่
"คุณ
คุณ
คุณครับ
เป็นอะไรหรือเปล่า"
ชายหนุ่มเรียกพร้อมกับเขย่าตัวหญิงสาวเล็กน้อย
กิ่งแก้วจึงหันไปตามเสียงเรียก
สายตาทั้งสองสบประสานกัน
ทำให้ชายหนุ่มชะงักไปชั่วขณะ
ใบหน้าเป็นสีชมพูเล็กน้อยพร้อมกับอุทานเบาๆ
"น้องกิ่ง"
กิ่งแก้ว ซึ่งในขณะนี้สติกลับคืนมาแล้ว
ค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้น
"ขอโทษครับ
เป็นอะไรหรือเปล่าครับ"
ชายหนุ่มถามด้วยความห่วงใย
"เป็นสิ
ไม่เห็นเหรอว่าถูกรถชน
สึกหรอตรงไหนบ้างก็ไม่รู้"
หญิงสาวสำรวจตัวเองไปทั่ว
"ดีนะ
ที่ไม่เป็นอะไร
ว่าแต่คุณเถอะจะชดใช้ยังไงก็ว่ามา"
เธอถาม
"อ้าว!
คุณ ไหนว่าไม่เป็นอะไร
แล้วจะให้ผมชดใช้อะไรล่ะ"
"ถามแปลก
ก็ค่าทำขวัญไง"
"ค่าทำขวัญ"
ชายหนุ่มทวนคำ ด้วยความงุนงง
"ใช่สิ
ค่าทำขวัญ
ไม่ต้องมาทำหน้างง
จะชดใช้ยังไงก็ว่ามา"
เธอถามอีกครั้ง
"นี่คุณ
จะให้ผมชดใช้ได้ไง
คุณเป็นคนผิดนะที่วิ่งมาชนรถผมเอง
ดูสิ รถผมบุบไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้"
"นี่คุณ
!!!"
หญิงสาวขึ้นเสียงทันที
"ความจริง
คุณควรจะขอบคุณผมด้วยนะ ที่ไม่เอาผิดคุณ
ยังไงผมก็ไม่จ่ายค่าทำขวัญคุณแน่ๆ
ถ้าตกลงกันไม่ได้ ผมโทรเรียกตำรวจก็แล้วกัน"
ชายหนุ่มแกล้งพูดขู่
พร้อมกับยกมือถือขึ้นมา
แล้วก็ได้ผลซะด้วย
หญิงสาวหน้าถอดสีทันที
"ไม่ต้อง
ไม่ต้อง
ฉันไม่เอาค่าเสียหายก็ได้"
กิ่งแก้วตอบมาเสียงอ่อยๆ
"ไป
ปุ๊กปิ๊ก
กลับบ้าน
เพราะแกทีเดียวทำให้ฉันถูกรถชน
กลับถึงบ้านนะแก โดนล่ามแน่"
เมื่อทำอะไรชายหนุ่มไม่ได้ เธอจึงหันมาลงกับเจ้าสุนัขข้างตัวแทน
น่าสงสารเจ้าปุ๊กปิ๊ก
อุตส่าห์พามาพบเนื้อคู่แล้วยังจะโดนลงโทษอีก
.......................................
"เค้าเป็นอะไรมากหรือเปล่าน่ะลูก
มีอะไรหรือเปล่า
เห็นคุยกันตั้งนาน"
อีกเสียงหนึ่งถามมาทันทีที่ชายหนุ่มก้าวขึ้นรถ
"ไม่เป็นอะไรหรอกครับแม่
แค่คุยกับเด็กดื้อเท่านั้น
ไปกันดีกว่าครับ
ป่านนี้เด็กดื้อคงไปรอที่บ้านแล้ว"
ชายหนุ่มพูดแล้วอมยิ้ม
"ว่าอะไรนะลูก
รพี"
มารดาของชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย
"เอ่อ.......ผมขับรถชนน้องกิ่งครับแม่"
"ตายแล้ว!!!"
เสียงคุณแม่อุทาน
"ยังไม่ตายครับ
ดูสิ
เดินไปนู่นแล้ว"
ชายหนุ่มตอบแล้วออกรถทันที
.....................................
หญิงสาวกลับมาถึงบ้านก็รีบไปอาบน้ำทันที
ไม่แม้จะตอบคำถามผู้เป็นมารดาว่าลูกสาวตัวเองไปทำอะไรมาถึงได้มอมยิ่งกว่าเจ้าปุ๊กปิ๊กตกน้ำแบบนั้น
เสียงรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน
สงสัยเพื่อนแม่คงจะมาแล้วมั้ง
วันนี้นี่แย่จริงๆ
เจอคนขับรถชน แล้วยังต้องเจอตาคนที่หาว่าเราเป็นแม่อีกหรือเนี่ย
เฮ้อ
อีกเดี๋ยว แม่ต้องเรียกไปรับแขกแน่เลย
กิ่ง
อาบน้ำเสร็จแล้ว
ลงมาไหว้คุณป้านะลูก
นั่นไง
เสียงอันศักดิ์สิทธิ์
พูดไม่ทันขาดคำเลย
.........................................
อ้าว
กิ่ง
มาไหว้คุณป้ากับพี่ เค้าซะสิลูก
เสียงประกาศิตดังขึ้นทันที ที่เธอก้าวเท้ามาถึงห้องรับแขก
สวัสดีค่ะ
กิ่งแก้วก้มลงไหว้
ก่อนที่จะเงยหน้าสบตาคนทั้งสอง
นี่นาย...........
เธออึ้งไปเล็กน้อย
ต่อหน้าผู้เป็นแม่เธอก็ไม่กล้าแผลงฤทธิ์อะไรมาก
นี่คุณป้ารวิวรรณกับพี่รพีภัทร
เพื่อนพี่ก้านเค้าน่ะ
กิ่งจำได้มั๊ยลูก
คุณเอ่ยนามผู้เป็นแขกให้ลูกสาวฟัง
จำไม่ได้ค่ะ
หญิงสาวตอบออกมาทันที
เธอหันไปสบตารพีภัทรอีกครั้ง
สายตานั้นมองมาที่เธอด้วยความเอ็นดู
เธอมองกลับไปด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรนัก
ดูสิ
ทำเป็นยิ้ม
คิดดังนั้น หญิงสาวก็ขว้างค้อนใส่ชายหนุ่มเสียหลายอัน
ไม่เป็นไรครับ
น้องกิ่งคงจะยังเด็กมากเลยจำไม่ได้
ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ
แม่คะ
กิ่งขออนุญาตไปมหาลัยนะคะ
ตอนบ่ายกิ่งนัดกับแจนไว้ค่ะแม่
จะไปทำงานที่ชมรมกัน
จ้ะ
ให้พี่รพีเค้าไปส่งซิลูก
ไม่เป็นไรค่ะ
กิ่งนั่งรถเมล์ไปได้
ไม่อยากรบกวน
ไม่รบกวนอะไรหรอกลูก
กิ่ง
พี่เค้าเต็มใจ
จริงมั๊ย รพี
คุณรวิวรรณช่วยสนับสนุนอีกแรง
เอ่อ
แล้วคุณป้าจะกลับยังไงล่ะคะ
ไม่เป็นไรลูก
แม่กลับได้
คุณรวิวรรณเปลี่ยนสรรพนามของตัวเองทันที
พี่เต็มใจไปส่งนะ
คำพูดที่จริงจังบวกสายตาที่จริงใจนั้น
ทำเอาสาวน้อยหัวใจไหวไปเหมือนกัน
.................................................
ด้วยเหตุนี้
กิ่งแก้วจึงมีรถคันหรูมาส่งถึงมหาลัย
ตรงนี้แหละค่ะ
ขอบคุณนะคะ
เธอพูดแค่นั้น
แล้วลงรถไปทันที
น้องกิ่ง
พี่จะรอนะ
รพีภัทรพูดอย่างอารมณ์ดี
ใครอ่ะกิ่ง
ท่าทางหล่อเชียว
แฟนเหรอ
แอบไปมีตั้งแต่เมื่อไรไม่บอกกันบ้างเลยนะ
เสียงยัยแจนเพื่อนสาวทักมา
แฟนบ้าอะไรเล่า
เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของพี่ชายชั้นย่ะ
ความจริงเมื่อก่อนเคยอยู่บ้านติดกันด้วย
หายไปตั้งนาน
อยู่ก็โผล่มา
แถมยังมาขับรถชนชั้นอีก
คำพูดนั้นแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เคยลืมชายหนุ่มเหมือนกับที่ตอบมารดาไปเลยแม้แต่น้อย
ใครจะไปลืมล่ะ
พี่รพีที่แสนดีของเธอคนนั้น
คนที่คอยดูแลปกป้องเธอยิ่งกว่าพี่ชายซะอีก
พี่รพีเค้าดูแลเธอทุกอย่าง
จะยกเว้นอยู่ก็เรื่องเดียว คือ เรื่องหมา
กิ่ง
เมื่อกี้ เธอบอกว่าเค้าขับรถชนเธอเหรอ
ไหนลองเล่าให้ฉันฟังสิ
กิ่งแก้วพยักหน้าแทนคำตอบ
ก่อนที่จะเริ่มเล่าให้เพื่อนสาวฟัง
..........................................................
กิ่งกับแจนทำงานกันในห้องชมรมได้สักพัก
นี่แจน
เห็นป่ะ
ข้างนอกน่ะ ไม่รู้หนุ่มที่ไหนเนอะ หล่อชะมัด
แต่ไม่รู้ว่าเค้ามารอสาวที่ไหนเนอะ
เพื่อนสาวอีกคนที่เพิ่งเข้ามากล่าวขึ้น
ไหนไหน
ขอชั้นดูมั่ง
ยัยแจน
ชะโงกหน้าออกไปดู
แล้วก็หันมายิ้มกับกิ่ง
ยัยกิ่ง
พี่รพีของเธอน่ะ
เค้ารอเธออยู่นะ
ยัยแจนบอกเสียงอ่อยๆ
กิ่งชะงักไปนิดนึง ก่อนที่จะตอบกลับมาเสียงแข็ง
ช่างเค้าสิ
อยากรอก็ให้รอไป
ผ่านไป 3
ชั่วโมง
กิ่ง
ยัยแจนเรียก
ไม่
ผ่านไป 4
ชั่วโมง
กิ่ง
ยัยแจนเรียกอีกครั้ง
ไม่
ชั้นจะบอกว่า
ชั้นจะกลับแล้ว
ไปนะ
บายแจน
กิ่งยังไม่กลับเหรอ
อีกสักพักน่ะ
ขอทำงานให้เสร็จก่อน
ประมาณหกโมงเย็น
กิ่งเดินลงมาจากตึก
ชะเง้อมองไปตรงบริเวณที่รถของรพีภัทรจอดอยู่
ไปแล้วจริงๆ
คนบ้า
ไหนบอกว่าจะรอเราไง
จะกลับบ้านหรือจ๊ะ
น้องสาว ให้พี่ไปส่งนะ
ไม่ต้อง
กลับเองได้
กิ่งหันไปตอบกลับ
กิ่ง
ทิ้งให้พี่รอตั้งห้าชั่วโมง แล้วยังมาบอกว่าจะกลับด้วยอีกเหรอ
เร็ว ขึ้นรถ
ชายหนุ่มกวักมือเรียก
ขณะที่หญิงสาวยังยืนนิ่ง
มือใหญ่จึงคว้าข้อมือเล็กพาไปขึ้นรถทันที
พี่รพี
จะไปไหนคะ
นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่
เธอถามเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มขับรถออกนอกเส้นทางที่จะไปบ้านเธอ
พี่หิวข้าว
แต่กิ่งไม่หิว
ปากก็ปฏิเสธแต่ท้องเจ้ากรรมก็ดันร้องขึ้นมาซะนี่
กิ่งพูดอะไรไม่ออก
ได้แต่นั่งนิ่ง
รพีภัทรได้แต่กลั้นหัวเราะ
รพีภัทรมาส่งหญิงสาวจนถึงบ้าน
ขอบคุณนะคะ
พี่รพี
กิ่งแก้วพูดแค่นั้นก็เข้าบ้านทันที
นี่กิ่งจะไม่เชิญพี่เข้าบ้านหน่อยเหรอ
หญิงสาวนิ่งคิดนิดนึง
แต่เมื่อเห็นเงาดำๆ โตๆ เดินออกมาจากหลังบ้านเธอก็ตอบทันทีว่า
เชิญค่ะ
รพีภัทรขยับจะเดินตาม
โฮ่ง
โฮ่ง
เสียงเจ้าของบ้านอีกตัวทักทายนายสาว
แต่ก็ทำให้ผู้ชายข้างหลังสะดุ้ง หน้าซีดลงทันที
เชิญสิคะ
เธอกล่าวอีกครั้ง
พี่ว่าพี่ไม่รบกวนดีกว่า
พี่กลับก่อนแล้วกันนะ
แล้วพี่จะมาใหม่
เขาคิดว่าถึงเจ้าตัวโตนั่นจะไม่เคยทำร้ายใครก็เถอะ
แต่ว่าเขาก็ไม่ค่อยอยากเข้าใกล้นัก
เลี่ยงได้เป็นดีที่สุด
หญิงสาวแอบยิ้มอยู่ในความมืด
มองตามรถชายหนุ่มที่ขับออกไปช้าๆ
พี่รพีก็ยังเหมือนเดิม กลัวหมาแค่ไหนก็ยังกลัวอยู่
คนอะไรตัวโตยังกับตึกแต่กลัวหมา
ใครรู้ล่ะอายเค้าตาย
.......................................................
หลังจากนั้นรพีภัทรก็แวะเวียนมาที่บ้านของกิ่งแก้วเสมอๆ
ถึงแม้ว่าจะโดนเจ้าปุ๊กปิ๊กกลั่นแกล้งอยู่ทุกครั้ง
แต่วันนี้เขากลับเดินเข้ามาในบ้านได้อย่างสบายใจ ไม่มีแม้แต่เงาเจ้าตัวยุ่ง
อ้าว
เข้ามาได้ไงคะ แล้วปุ๊กปิ๊ก
เธอถามพร้อมกับมองไปด้านหลังของชายหนุ่ม
เขาสั่นหัวเป็นคำตอบให้เธอ
กิ่งแก้วส่งยิ้มให้เขาพลางคิดว่าเจ้าปุ๊กปิ๊กยอมญาติดีกับพี่รพีตั้งแต่เมื่อไร
หนูกิ่ง
หนูกิ่ง
แย่แล้วลูก
ปุ๊กปิ๊กถูกรถชนแน่ะลูก
เธอวิ่งออกไปหน้าบ้านทันที
ภาพแรกที่เห็นคือเจ้าปุ๊กปิ๊กสุดที่รักของเธอ นอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน
น้ำใสๆ หล่นจากตาของเธอ
เธอวิ่งเข้าไปหาแต่ก็ช้ากว่าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ
เขาอุ้มปุ๊กปิ๊กขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วตะโกนสั่ง
น้องกิ่ง
เปิดรถเร็ว
เธอทำตามตามคำสั่งของเขาอย่างรวดเร็วเช่นกัน
................................................
ปุ๊กปิ๊กถึงมือหมอแล้ว
คุณหมอบอกว่าปลอดภัยแต่ว่ากระดูกหัก
คงจะต้องนอนพักรักษาตัวอีกหลายวัน
กิ่งแก้วยิ้มออกทั้งน้ำตา
ก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้
จริงสิ
พี่รพีกลัวหมานี่นา
แล้วอุ้มปุ๊กปิ๊กมา
..
เธอเหลียวมองหาชายหนุ่ม
จนกระทั่งเห็นเขานั่งอยู่มุมหนึ่งของโรงพยาบาล
เธอยิ้ม
ก็ตาคนนั้นน่ะ
เลือดเต็มตัว นั่งหน้าซีดขนาดนั้น
ใครกันแน่นะที่ถูกรถชนเนี่ย
ยาดมค่ะ
พี่รพี
ยาดมถูกส่งให้พร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ จากหญิงสาว
ขอบคุณ
มากนะคะ
เสียงหวานใสพูดขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มที่หวานยิ่งกว่าเดิม
นี่คงจะเป็นยาที่ดีกว่าขวดไหนๆ
ใบหน้าซีดขาวของรพีภัทรกลับมีสีเลือดฝาดขึ้นมาทันใจ
เพื่อกิ่ง
พี่ทำได้เสมอ
สีหน้าของหญิงสาวก็อมชมพูไม่แพ้กัน
ตาประสานตา
ใจประสานใจ
เป็นสายใยแห่งรัก
.......................................................
หลังจากวันนั้น
รพีภัทรก็มาแวะเวียนที่บ้านของกิ่งบ่อยยิ่งขึ้น
เพราะเจ้าปุ๊กปิ๊กตัวดีก็ทำสัญญาสงบศึกกับพี่รพีเรียบร้อยแล้ว
แถมดูท่าทางจะรักนายใหม่มากกว่านายคนเก่าเสียอีก
พี่รพีนั้นถึงจะยังไม่หายดีจากโรคกลัวหมานักแต่ก็ดูจะเข้ากับเจ้าปุ๊กปิ๊กได้ดีทีเดียว
เขากับเธอก็สนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น จนถึงวันรับปริญญาของเธอ
มีคนมาร่วมแสดงความยินดีกับเธอมากมาย
รวมทั้งเขาที่หอบตุ๊กตาเจ้าปุ๊กปิ๊กตัวโตมาฝากเธอด้วย
งานเลี้ยงวันรับปริญญาในช่วงกลางคืน
ก็จัดกันที่บ้าน มีแต่คนสนิทๆ เท่านั้น
ถึงแม้อย่างนั้นก็ส่งเสียงหนวกหูไม่เบา
กิ่งแก้วจึงเลี่ยงออกมาที่สนามหน้าบ้านเงียบๆ
กิ่ง
พี่ดีใจด้วยนะ
รพีภัทรบอกกับเธอ
ขอบคุณค่ะ
พี่รพีมาตั้งแต่เมื่อไรคะ
สักพักแล้วล่ะ
กิ่งคงคุยกับคนอื่นๆ อยู่ เลยไม่เห็นพี่
พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปด้วยตนเองเมื่อเช้า
พี่กำลังยุ่งๆน่ะ
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
กิ่งไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย
กิ่ง
พี่มีเรื่องจะบอก
เรื่องอะไรเหรอคะ
หญิงสาวถามออกไป
ทั้งๆ ที่หัวใจตัวเองก็เต้นแรง
พี่กำลังจะแต่งงาน
เขาตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก
หัวใจที่เต้นแรงของหญิงสาวแทบจะหยุดลงเดี๋ยวนั้น
ก่อนที่กลั้นใจพูดว่า
เหรอคะ
ยินดีด้วยนะคะ
เธอตอบแล้วหันหลังกลับเข้าบ้าน
ด้วยกลัวว่าเขาจะเห็นน้ำที่เอ่อขึ้นมาจากนัยน์ตาหวานคู่นั้น
เขาดึงมือเธอไว้
กิ่งจะไม่ถามพี่หน่อยเหรอว่าพี่จะแต่งงานกับใคร
ไม่ค่ะ
กิ่งไม่อยากรู้
เธอพยายามควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ
แต่พี่อยากจะบอก
พี่กำลังจะแต่งงานกับนางสาวกิ่งแก้ว
เจ้านายปุ๊กปิ๊กน่ะ
พี่รพี
หญิงสาวอุทาน
หัวใจของเธอตอนนั้นเหมือนจะหยุดเต้นลงไปซะจริงๆ
เธอหันกลับมาสบตากับเขาอีกครั้ง
เธอพอจะรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร
ใครบอกว่ากิ่งจะแต่งงานกับพี่คะ
ก็พี่บอกอยู่นี่ไง
เขาตอบ
คนบ้า
คนเอาแต่ใจ ปล่อยมือกิ่งนะ
ชายหนุ่มทำตามที่หญิงสาวพูดทันทีโดยการดึงหญิงสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
แล้วก้มลงกระซิบข้างหู
กิ่งจะแต่งงานกับพี่รพีได้ยังไงคะ
ก็พี่รพีไม่เคย..........
พี่รักกิ่ง
แต่งงานกับพี่นะ แล้วพี่จะชดใช้ให้กิ่งตลอดชีวิตเลย
เขาพูดสวนขึ้นมา
ชดใช้อะไรคะ
เธอถาม
ก็ชดใช้ค่าทำขวัญ
ที่กิ่งเรียกร้องจากพี่ตอนที่พี่ขับรถชนกิ่งไง
พูดแล้วชายหนุ่มก็ขโมยหอมแก้มหญิงสาวซะหนึ่งฟอด
ส่วนนี่เป็นค่ามัดจำก่อนก็แล้วกัน
ตกลงว่ากิ่งแต่งงานกับพี่นะ
หญิงสาวไม่ตอบอะไร
ได้แต่เอนซบลงบนไหล่กว้างอย่างมีความสุข
Love is thinking
of two instead of just one