Enjoy # 2
Story

  BY :  Kratae

   ENJOY VOL.2   HomE | WeBBoarD | GueSTBook | CoNtact Us    

 

"ด้ ว ย ส า ย ใ ย แ ห่ ง รัก"

กริ๊งๆๆๆ  กริ๊งๆๆๆๆ
"
กิ่ง  กิ่ง  รับโทรศัพท์ทีซิลูก"
"
โธ่ แม่  กิ่งอาบน้ำให้ปุ๊กปิ๊กอยู่นะ เสียงสาวน้อยตะโกนตอบผู้เป็นมารดา
"
แม่ล้างจานอยู่  เห็นมั๊ยล่ะ  กิ่งอยู่ใกล้ก็รับหน่อยสิ ผู้เป็นมารดาตะโกนตอบมาเช่นกัน
"
ก็ได้ เธอตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก  แต่ก็ยอมทำตามคำสั่งผู้เป็นมารดาแต่โดยดี

................................................

"สวัสดีค่ะ  บ้านคุณแก้วกาญจน์ค่ะ เธอเอ่ยนามผู้เป็นมารดากรอกไปตามสาย
"
สวัสดีครับ  น้ากาญจน์เหรอครับ  ผมรพีนะครับ  เดี๋ยวกับคุณแม่จะเข้าไปหาตามที่นัดกันไว้นะครับ"
"
เอ่อ....................."
"
แล้วเจอกันนะครับคุณน้า  สวัสดีครับ"
"
เดี๋ยวค่ะ  เดี๋ยว......."
อ้าว วางไปซะแล้ว  คนอะไรเนี่ยมาพูดๆๆๆ แล้วก็วาง  ที่สำคัญมาเข้าใจว่าเราเป็นแม่ได้ไงเนี่ย  เสียงเราออกจะไพเราะ   คิดแล้วก็แค้นจริงๆ ตาบ้านี่อย่าให้เจอเชียวนะ
คิดได้แค่นั้น  ฉับพลันสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างวิ่งผ่านหน้าบ้านไป
"
ปุ๊กปิ๊ก  ปุ๊กปิ๊ก  จะไปไหนน่ะ   ยังอาบน้ำไปเสร็จเลยนะ  กลับมานี่  ได้ยินไหม  บอกให้กลับมา เธอตะโกนลั่นบ้าน
"
อะไรกันอีกล่ะ แม่กิ่ง  แล้วใครโทรมาล่ะ?" เสียงผู้เป็นมารดาถามมา
"
เพื่อนแม่มั้งคะ  รู้สึกว่าจะชื่อ รพี  อะไรนั่นแหละค่ะ   แม่นะแม่  ให้กิ่งรับโทรศัพท์  ปุ๊กปิ๊ก มันหนีไปเลยเห็นไหม  ยิ่งจับตัวยากอยู่ด้วย เธอบ่นออกมา
"
อ้อ  พ่อรพี  กลับมาไม่ทันไร  ก็จะเริ่มแล้วรึเนี่ย คุณแก้วกาญจน์เดินออกมาจากในครัว  แล้วมามองดูลูกสาวที่มอมแมมไปทั้งตัวจากการอาบน้ำให้เจ้าปุ๊กปิ๊ก  
"
กิ่งไปตามปุ๊กปิ๊กนะแม่"
"
เดี๋ยวสิ  กิ่ง  แม่............."  คุณแก้วกาญจน์พูดได้แค่นั้นก็ต้องหยุด  เพราะแม่ลูกสาวตัวดีวิ่งไปซะไกล  ผู้เป็นแม่ได้แต่มองดูลูกสาว  แล้วก็อมยิ้ม  ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา   เฮ้อ  ลูกสาวฉันจะขายออกมั๊ยเนี่ย  ไม่รู้ว่าพ่อรพีมาหลงรักเข้าได้ยังไง

...................................................

"ปุ๊กปิ๊ก  ปุ๊กปิ๊ก  อยู่ไหนน่ะ  ออกมานะ   ปุ๊กปิ๊ก กิ่งแก้วก้มๆ เงยๆ  สอดส่ายสายตาหาเจ้าปุ๊กปิ๊ก  สุนัขอัลเซเชี่ยนตัวโตของเธอ     "หายไปไหนนะ ตัวเบ้อเร้อ ไปหลบอยู่ไหนเนี่ย
ขณะที่กิ่งแก้วกำลังหาเจ้าตัวดีอยู่นั้น  เธอไม่รู้ตัวเลยว่าอีกข้างหนึ่ง   มีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมาที่เธอด้วยความรักอย่างยิ่ง
"
โฮ่ง  โฮ่ง เจ้าของสายตานั้นตะโกนเรียก     หญิงสาวหันไปตามเสียงเรียกทันที
"
ปุ๊กปิ๊ก  อยู่ตรงนั้นนะ  อย่าไปไหน เธอตอบ  แล้ววิ่งข้ามถนนไปทันที

เอี๊ยด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงรถเบรกดังลั่น
"
โอ๊ย!!" เธอพูดออกมาได้แค่คำเดียว  ก็ล้มตัวลงไป
"
แย่แล้ว  ตายหรือเปล่าก็ไม่รู้ เสียงชายหนุ่มในรถ อุทานออกมา
"
ลงไปดูเค้าหน่อยสิ   คงไม่เป็นอะไรมากหรอก  แค่เชี่ยวๆ เสียงผู้หญิงอีกคนกล่าวตอบ
"
ครับ ชายหนุ่มเปิดประตูรถลงไป  แล้วเข้าไปช้อนตัวหญิงสาว
"
คุณ  คุณ  คุณครับ  เป็นอะไรหรือเปล่า
กิ่งแก้วขยับตัว  เธอมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากสีดำ  เธอกะพริบตาปรับสายตาสองสามครั้ง  แล้วคิดว่า  บีเอ็มซะด้วย  รวยน่าดูเลยนะ   ไม่ใช่สิ  เค้าขับรถชนเรานี่ 
"
คุณ  คุณ  คุณครับ  เป็นอะไรหรือเปล่า ชายหนุ่มเรียกพร้อมกับเขย่าตัวหญิงสาวเล็กน้อย  กิ่งแก้วจึงหันไปตามเสียงเรียก  สายตาทั้งสองสบประสานกัน  ทำให้ชายหนุ่มชะงักไปชั่วขณะ  ใบหน้าเป็นสีชมพูเล็กน้อยพร้อมกับอุทานเบาๆ "น้องกิ่ง"
กิ่งแก้ว ซึ่งในขณะนี้สติกลับคืนมาแล้ว  ค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้น
"
ขอโทษครับ  เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ชายหนุ่มถามด้วยความห่วงใย
"
เป็นสิ  ไม่เห็นเหรอว่าถูกรถชน  สึกหรอตรงไหนบ้างก็ไม่รู้ หญิงสาวสำรวจตัวเองไปทั่ว
"
ดีนะ  ที่ไม่เป็นอะไร  ว่าแต่คุณเถอะจะชดใช้ยังไงก็ว่ามา เธอถาม
"
อ้าว! คุณ ไหนว่าไม่เป็นอะไร  แล้วจะให้ผมชดใช้อะไรล่ะ"
"
ถามแปลก  ก็ค่าทำขวัญไง"
"
ค่าทำขวัญ ชายหนุ่มทวนคำ ด้วยความงุนงง
"
ใช่สิ ค่าทำขวัญ  ไม่ต้องมาทำหน้างง  จะชดใช้ยังไงก็ว่ามา เธอถามอีกครั้ง
"
นี่คุณ  จะให้ผมชดใช้ได้ไง  คุณเป็นคนผิดนะที่วิ่งมาชนรถผมเอง  ดูสิ รถผมบุบไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้"
"
นี่คุณ !!!"  หญิงสาวขึ้นเสียงทันที
"
ความจริง คุณควรจะขอบคุณผมด้วยนะ ที่ไม่เอาผิดคุณ  ยังไงผมก็ไม่จ่ายค่าทำขวัญคุณแน่ๆ  ถ้าตกลงกันไม่ได้ ผมโทรเรียกตำรวจก็แล้วกัน ชายหนุ่มแกล้งพูดขู่   พร้อมกับยกมือถือขึ้นมา  แล้วก็ได้ผลซะด้วย  หญิงสาวหน้าถอดสีทันที
"
ไม่ต้อง  ไม่ต้อง  ฉันไม่เอาค่าเสียหายก็ได้ กิ่งแก้วตอบมาเสียงอ่อยๆ 
"
ไป  ปุ๊กปิ๊ก  กลับบ้าน  เพราะแกทีเดียวทำให้ฉันถูกรถชน  กลับถึงบ้านนะแก โดนล่ามแน่"    เมื่อทำอะไรชายหนุ่มไม่ได้ เธอจึงหันมาลงกับเจ้าสุนัขข้างตัวแทน
น่าสงสารเจ้าปุ๊กปิ๊ก  อุตส่าห์พามาพบเนื้อคู่แล้วยังจะโดนลงโทษอีก

.......................................
"
เค้าเป็นอะไรมากหรือเปล่าน่ะลูก  มีอะไรหรือเปล่า  เห็นคุยกันตั้งนาน อีกเสียงหนึ่งถามมาทันทีที่ชายหนุ่มก้าวขึ้นรถ
"
ไม่เป็นอะไรหรอกครับแม่  แค่คุยกับเด็กดื้อเท่านั้น  ไปกันดีกว่าครับ  ป่านนี้เด็กดื้อคงไปรอที่บ้านแล้ว ชายหนุ่มพูดแล้วอมยิ้ม
"
ว่าอะไรนะลูก รพี มารดาของชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย
"
เอ่อ.......ผมขับรถชนน้องกิ่งครับแม่"
"
ตายแล้ว!!!"  เสียงคุณแม่อุทาน
"
ยังไม่ตายครับ  ดูสิ  เดินไปนู่นแล้ว ชายหนุ่มตอบแล้วออกรถทันที

 .....................................

หญิงสาวกลับมาถึงบ้านก็รีบไปอาบน้ำทันที  ไม่แม้จะตอบคำถามผู้เป็นมารดาว่าลูกสาวตัวเองไปทำอะไรมาถึงได้มอมยิ่งกว่าเจ้าปุ๊กปิ๊กตกน้ำแบบนั้น
เสียงรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน  สงสัยเพื่อนแม่คงจะมาแล้วมั้ง  วันนี้นี่แย่จริงๆ  เจอคนขับรถชน แล้วยังต้องเจอตาคนที่หาว่าเราเป็นแม่อีกหรือเนี่ย  เฮ้อ  อีกเดี๋ยว แม่ต้องเรียกไปรับแขกแน่เลย
“
กิ่ง  อาบน้ำเสร็จแล้ว  ลงมาไหว้คุณป้านะลูก”   นั่นไง  เสียงอันศักดิ์สิทธิ์  พูดไม่ทันขาดคำเลย

.........................................

“อ้าว  กิ่ง  มาไหว้คุณป้ากับพี่ เค้าซะสิลูก”  เสียงประกาศิตดังขึ้นทันที ที่เธอก้าวเท้ามาถึงห้องรับแขก
“
สวัสดีค่ะ”  กิ่งแก้วก้มลงไหว้  ก่อนที่จะเงยหน้าสบตาคนทั้งสอง
“
นี่นาย...........”  เธออึ้งไปเล็กน้อย  ต่อหน้าผู้เป็นแม่เธอก็ไม่กล้าแผลงฤทธิ์อะไรมาก
“
นี่คุณป้ารวิวรรณกับพี่รพีภัทร  เพื่อนพี่ก้านเค้าน่ะ  กิ่งจำได้มั๊ยลูก” คุณเอ่ยนามผู้เป็นแขกให้ลูกสาวฟัง
“
จำไม่ได้ค่ะ”  หญิงสาวตอบออกมาทันที  เธอหันไปสบตารพีภัทรอีกครั้ง  สายตานั้นมองมาที่เธอด้วยความเอ็นดู  เธอมองกลับไปด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรนัก  ดูสิ  ทำเป็นยิ้ม  คิดดังนั้น หญิงสาวก็ขว้างค้อนใส่ชายหนุ่มเสียหลายอัน
“
ไม่เป็นไรครับ  น้องกิ่งคงจะยังเด็กมากเลยจำไม่ได้”  ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ
“
แม่คะ  กิ่งขออนุญาตไปมหาลัยนะคะ  ตอนบ่ายกิ่งนัดกับแจนไว้ค่ะแม่  จะไปทำงานที่ชมรมกัน”
“
จ้ะ  ให้พี่รพีเค้าไปส่งซิลูก”
“
ไม่เป็นไรค่ะ  กิ่งนั่งรถเมล์ไปได้  ไม่อยากรบกวน”
“
ไม่รบกวนอะไรหรอกลูก กิ่ง  พี่เค้าเต็มใจ  จริงมั๊ย รพี”  คุณรวิวรรณช่วยสนับสนุนอีกแรง
“
เอ่อ…แล้วคุณป้าจะกลับยังไงล่ะคะ”
“
ไม่เป็นไรลูก  แม่กลับได้” คุณรวิวรรณเปลี่ยนสรรพนามของตัวเองทันที
“
พี่เต็มใจไปส่งนะ”  คำพูดที่จริงจังบวกสายตาที่จริงใจนั้น  ทำเอาสาวน้อยหัวใจไหวไปเหมือนกัน

.................................................

ด้วยเหตุนี้  กิ่งแก้วจึงมีรถคันหรูมาส่งถึงมหาลัย
“
ตรงนี้แหละค่ะ  ขอบคุณนะคะ”   เธอพูดแค่นั้น  แล้วลงรถไปทันที
“
น้องกิ่ง พี่จะรอนะ” รพีภัทรพูดอย่างอารมณ์ดี
“
ใครอ่ะกิ่ง  ท่าทางหล่อเชียว  แฟนเหรอ  แอบไปมีตั้งแต่เมื่อไรไม่บอกกันบ้างเลยนะ”  เสียงยัยแจนเพื่อนสาวทักมา
“
แฟนบ้าอะไรเล่า  เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของพี่ชายชั้นย่ะ  ความจริงเมื่อก่อนเคยอยู่บ้านติดกันด้วย  หายไปตั้งนาน  อยู่ก็โผล่มา  แถมยังมาขับรถชนชั้นอีก”  คำพูดนั้นแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เคยลืมชายหนุ่มเหมือนกับที่ตอบมารดาไปเลยแม้แต่น้อย  ใครจะไปลืมล่ะ  พี่รพีที่แสนดีของเธอคนนั้น  คนที่คอยดูแลปกป้องเธอยิ่งกว่าพี่ชายซะอีก  พี่รพีเค้าดูแลเธอทุกอย่าง  จะยกเว้นอยู่ก็เรื่องเดียว คือ เรื่องหมา
“
กิ่ง  เมื่อกี้ เธอบอกว่าเค้าขับรถชนเธอเหรอ  ไหนลองเล่าให้ฉันฟังสิ”
กิ่งแก้วพยักหน้าแทนคำตอบ  ก่อนที่จะเริ่มเล่าให้เพื่อนสาวฟัง

..........................................................

กิ่งกับแจนทำงานกันในห้องชมรมได้สักพัก
“
นี่แจน  เห็นป่ะ  ข้างนอกน่ะ ไม่รู้หนุ่มที่ไหนเนอะ หล่อชะมัด  แต่ไม่รู้ว่าเค้ามารอสาวที่ไหนเนอะ” เพื่อนสาวอีกคนที่เพิ่งเข้ามากล่าวขึ้น
“
ไหนไหน ขอชั้นดูมั่ง”  ยัยแจน  ชะโงกหน้าออกไปดู  แล้วก็หันมายิ้มกับกิ่ง
“
ยัยกิ่ง  พี่รพีของเธอน่ะ  เค้ารอเธออยู่นะ” ยัยแจนบอกเสียงอ่อยๆ
กิ่งชะงักไปนิดนึง ก่อนที่จะตอบกลับมาเสียงแข็ง
“
ช่างเค้าสิ  อยากรอก็ให้รอไป”
ผ่านไป 3 ชั่วโมง
“
กิ่ง”  ยัยแจนเรียก
“
ไม่” 
ผ่านไป 4 ชั่วโมง
“
กิ่ง” ยัยแจนเรียกอีกครั้ง
“
ไม่”
“
ชั้นจะบอกว่า ชั้นจะกลับแล้ว  ไปนะ”
“
บายแจน”
“
กิ่งยังไม่กลับเหรอ”
“
อีกสักพักน่ะ  ขอทำงานให้เสร็จก่อน”
 
ประมาณหกโมงเย็น  กิ่งเดินลงมาจากตึก  ชะเง้อมองไปตรงบริเวณที่รถของรพีภัทรจอดอยู่  ไปแล้วจริงๆ  คนบ้า  ไหนบอกว่าจะรอเราไง
“
จะกลับบ้านหรือจ๊ะ  น้องสาว ให้พี่ไปส่งนะ”
“
ไม่ต้อง กลับเองได้”  กิ่งหันไปตอบกลับ
“
กิ่ง ทิ้งให้พี่รอตั้งห้าชั่วโมง แล้วยังมาบอกว่าจะกลับด้วยอีกเหรอ  เร็ว ขึ้นรถ”  ชายหนุ่มกวักมือเรียก  ขณะที่หญิงสาวยังยืนนิ่ง  มือใหญ่จึงคว้าข้อมือเล็กพาไปขึ้นรถทันที
“
พี่รพี  จะไปไหนคะ  นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่”  เธอถามเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มขับรถออกนอกเส้นทางที่จะไปบ้านเธอ
“
พี่หิวข้าว” 
“
แต่กิ่งไม่หิว”  ปากก็ปฏิเสธแต่ท้องเจ้ากรรมก็ดันร้องขึ้นมาซะนี่
กิ่งพูดอะไรไม่ออก  ได้แต่นั่งนิ่ง  รพีภัทรได้แต่กลั้นหัวเราะ

รพีภัทรมาส่งหญิงสาวจนถึงบ้าน
“
ขอบคุณนะคะ พี่รพี” กิ่งแก้วพูดแค่นั้นก็เข้าบ้านทันที
“
นี่กิ่งจะไม่เชิญพี่เข้าบ้านหน่อยเหรอ” 
หญิงสาวนิ่งคิดนิดนึง  แต่เมื่อเห็นเงาดำๆ โตๆ เดินออกมาจากหลังบ้านเธอก็ตอบทันทีว่า “เชิญค่ะ”
 
รพีภัทรขยับจะเดินตาม
“
โฮ่ง  โฮ่ง”  เสียงเจ้าของบ้านอีกตัวทักทายนายสาว  แต่ก็ทำให้ผู้ชายข้างหลังสะดุ้ง หน้าซีดลงทันที
“
เชิญสิคะ”  เธอกล่าวอีกครั้ง
“
พี่ว่าพี่ไม่รบกวนดีกว่า  พี่กลับก่อนแล้วกันนะ  แล้วพี่จะมาใหม่”  เขาคิดว่าถึงเจ้าตัวโตนั่นจะไม่เคยทำร้ายใครก็เถอะ  แต่ว่าเขาก็ไม่ค่อยอยากเข้าใกล้นัก  เลี่ยงได้เป็นดีที่สุด
 
หญิงสาวแอบยิ้มอยู่ในความมืด  มองตามรถชายหนุ่มที่ขับออกไปช้าๆ  พี่รพีก็ยังเหมือนเดิม กลัวหมาแค่ไหนก็ยังกลัวอยู่  คนอะไรตัวโตยังกับตึกแต่กลัวหมา  ใครรู้ล่ะอายเค้าตาย

.......................................................


หลังจากนั้นรพีภัทรก็แวะเวียนมาที่บ้านของกิ่งแก้วเสมอๆ  ถึงแม้ว่าจะโดนเจ้าปุ๊กปิ๊กกลั่นแกล้งอยู่ทุกครั้ง  แต่วันนี้เขากลับเดินเข้ามาในบ้านได้อย่างสบายใจ ไม่มีแม้แต่เงาเจ้าตัวยุ่ง
“
อ้าว  เข้ามาได้ไงคะ แล้วปุ๊กปิ๊ก”  เธอถามพร้อมกับมองไปด้านหลังของชายหนุ่ม  เขาสั่นหัวเป็นคำตอบให้เธอ  กิ่งแก้วส่งยิ้มให้เขาพลางคิดว่าเจ้าปุ๊กปิ๊กยอมญาติดีกับพี่รพีตั้งแต่เมื่อไร
“
หนูกิ่ง  หนูกิ่ง  แย่แล้วลูก  ปุ๊กปิ๊กถูกรถชนแน่ะลูก”
เธอวิ่งออกไปหน้าบ้านทันที  ภาพแรกที่เห็นคือเจ้าปุ๊กปิ๊กสุดที่รักของเธอ นอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน  น้ำใสๆ หล่นจากตาของเธอ
เธอวิ่งเข้าไปหาแต่ก็ช้ากว่าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ  เขาอุ้มปุ๊กปิ๊กขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วตะโกนสั่ง
“
น้องกิ่ง  เปิดรถเร็ว”  เธอทำตามตามคำสั่งของเขาอย่างรวดเร็วเช่นกัน

................................................

ปุ๊กปิ๊กถึงมือหมอแล้ว  คุณหมอบอกว่าปลอดภัยแต่ว่ากระดูกหัก  คงจะต้องนอนพักรักษาตัวอีกหลายวัน  กิ่งแก้วยิ้มออกทั้งน้ำตา  ก่อนที่จะนึกขึ้นมาได้  จริงสิ  พี่รพีกลัวหมานี่นา  แล้วอุ้มปุ๊กปิ๊กมา…………..
เธอเหลียวมองหาชายหนุ่ม  จนกระทั่งเห็นเขานั่งอยู่มุมหนึ่งของโรงพยาบาล  เธอยิ้ม  ก็ตาคนนั้นน่ะ  เลือดเต็มตัว นั่งหน้าซีดขนาดนั้น  ใครกันแน่นะที่ถูกรถชนเนี่ย
“
ยาดมค่ะ  พี่รพี”  ยาดมถูกส่งให้พร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ จากหญิงสาว
“
ขอบคุณ มากนะคะ”  เสียงหวานใสพูดขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มที่หวานยิ่งกว่าเดิม
นี่คงจะเป็นยาที่ดีกว่าขวดไหนๆ  ใบหน้าซีดขาวของรพีภัทรกลับมีสีเลือดฝาดขึ้นมาทันใจ
“
เพื่อกิ่ง  พี่ทำได้เสมอ”  สีหน้าของหญิงสาวก็อมชมพูไม่แพ้กัน
ตาประสานตา  ใจประสานใจ  เป็นสายใยแห่งรัก

.......................................................
 
หลังจากวันนั้น  รพีภัทรก็มาแวะเวียนที่บ้านของกิ่งบ่อยยิ่งขึ้น  เพราะเจ้าปุ๊กปิ๊กตัวดีก็ทำสัญญาสงบศึกกับพี่รพีเรียบร้อยแล้ว  แถมดูท่าทางจะรักนายใหม่มากกว่านายคนเก่าเสียอีก  พี่รพีนั้นถึงจะยังไม่หายดีจากโรคกลัวหมานักแต่ก็ดูจะเข้ากับเจ้าปุ๊กปิ๊กได้ดีทีเดียว เขากับเธอก็สนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น จนถึงวันรับปริญญาของเธอ  มีคนมาร่วมแสดงความยินดีกับเธอมากมาย  รวมทั้งเขาที่หอบตุ๊กตาเจ้าปุ๊กปิ๊กตัวโตมาฝากเธอด้วย  งานเลี้ยงวันรับปริญญาในช่วงกลางคืน  ก็จัดกันที่บ้าน มีแต่คนสนิทๆ เท่านั้น ถึงแม้อย่างนั้นก็ส่งเสียงหนวกหูไม่เบา  กิ่งแก้วจึงเลี่ยงออกมาที่สนามหน้าบ้านเงียบๆ 
“
กิ่ง  พี่ดีใจด้วยนะ”  รพีภัทรบอกกับเธอ
“
ขอบคุณค่ะ  พี่รพีมาตั้งแต่เมื่อไรคะ”
“
สักพักแล้วล่ะ  กิ่งคงคุยกับคนอื่นๆ อยู่ เลยไม่เห็นพี่  พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปด้วยตนเองเมื่อเช้า  พี่กำลังยุ่งๆน่ะ”
“
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  กิ่งไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
“
กิ่ง  พี่มีเรื่องจะบอก”
“
เรื่องอะไรเหรอคะ”  หญิงสาวถามออกไป  ทั้งๆ ที่หัวใจตัวเองก็เต้นแรง
“
พี่กำลังจะแต่งงาน”  เขาตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก
หัวใจที่เต้นแรงของหญิงสาวแทบจะหยุดลงเดี๋ยวนั้น  ก่อนที่กลั้นใจพูดว่า
“
เหรอคะ  ยินดีด้วยนะคะ”  เธอตอบแล้วหันหลังกลับเข้าบ้าน  ด้วยกลัวว่าเขาจะเห็นน้ำที่เอ่อขึ้นมาจากนัยน์ตาหวานคู่นั้น
เขาดึงมือเธอไว้
“
กิ่งจะไม่ถามพี่หน่อยเหรอว่าพี่จะแต่งงานกับใคร”
“
ไม่ค่ะ  กิ่งไม่อยากรู้”  เธอพยายามควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ
“
แต่พี่อยากจะบอก  พี่กำลังจะแต่งงานกับนางสาวกิ่งแก้ว  เจ้านายปุ๊กปิ๊กน่ะ”
“
พี่รพี”  หญิงสาวอุทาน  หัวใจของเธอตอนนั้นเหมือนจะหยุดเต้นลงไปซะจริงๆ  เธอหันกลับมาสบตากับเขาอีกครั้ง
เธอพอจะรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร
“
ใครบอกว่ากิ่งจะแต่งงานกับพี่คะ”
“
ก็พี่บอกอยู่นี่ไง”  เขาตอบ
“
คนบ้า  คนเอาแต่ใจ ปล่อยมือกิ่งนะ”
ชายหนุ่มทำตามที่หญิงสาวพูดทันทีโดยการดึงหญิงสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอด  แล้วก้มลงกระซิบข้างหู
“
กิ่งจะแต่งงานกับพี่รพีได้ยังไงคะ  ก็พี่รพีไม่เคย..........”
“
พี่รักกิ่ง  แต่งงานกับพี่นะ แล้วพี่จะชดใช้ให้กิ่งตลอดชีวิตเลย”  เขาพูดสวนขึ้นมา
“
ชดใช้อะไรคะ”  เธอถาม
“
ก็ชดใช้ค่าทำขวัญ ที่กิ่งเรียกร้องจากพี่ตอนที่พี่ขับรถชนกิ่งไง”  พูดแล้วชายหนุ่มก็ขโมยหอมแก้มหญิงสาวซะหนึ่งฟอด
“
ส่วนนี่เป็นค่ามัดจำก่อนก็แล้วกัน  ตกลงว่ากิ่งแต่งงานกับพี่นะ”
หญิงสาวไม่ตอบอะไร  ได้แต่เอนซบลงบนไหล่กว้างอย่างมีความสุข

“Love is thinking of two instead of just one”