.......................................   ..,,,,,,............
 

ชุมชนธารน้ำใจ

คุณเป็นอีกคนหนึ่งหรือเปล่าที่มีความเบื่อหน่ายกับสังคมเมือง ไม่ว่าจะเป็นรถติด มลพิษ ความฟุ้งเฟ้อทางด้านวัตถุและอื่นๆอีกมากมายที่คุณคิดว่าบั่นทอนคุณค่าของชีวิตคุณ เมื่อความรู้สึกอึดอัดกับสิ่งเหล่านี้มีมากขึ้น จนถึงจุดที่คุณนึกอยากจะหลบหนีจากชีวิตที่ผูกติดอยู่กับกระแสบริโภคนิยม ที่สร้างภาระอย่างมากมาย ในการหารายได้เพื่อให้พอเพียงที่จะเสพวัตถุ ที่ถูกโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต

แต่เมื่อคุณพร้อมจะหันหลังให้กับสังคมที่บูชาวัตถุ หาที่ทางลงหลักปักฐานใช้ชีวิตเรียบง่าย ใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ
คุณก็จะพบกับความจริงที่ว่า มันยากที่คุณจะดำรงชีวิตในรูปแบบที่คุณอยากเป็น ถ้าคุณยังไม่พร้อมในฐานะ
และเมื่อคุณใช้เวลาสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อให้มีเงินในกระเป๋าได้พอเพียงแล้ว ถ้าคุณไม่เป็นผู้ที่เสพติดวัตถุนิยมจนถอนตัวไม่ขึ้นไปเสียก่อน คุณก็อาจจะพบว่าตัวเองติดบ่วงยึดต่างๆนานา จากภาระที่คุณต้องรับผิดชอบ จนไม่สามารถทำความฝันในอดีตให้เป็นจริงได้
อย่างไรก็ดีถ้าคุณคิดจะทวนกระแสคุณก็ต้องมีคำถามมากมายที่คุณต้องตอบให้ได้เสียก่อน

เช่นในท้องถิ่นใหม่ สังคมใหม่ คุณจะมีช่องมีช่องทางหารายได้อย่างไร
ที่ชีวิตคุณถูกยึดตรึงอยู่กับสังคมเมืองก็เป็นเพราะเรื่องการทำมาหากินไม่ใช่หรือ
ถ้าคุณต้องไปอยู่ในสังคมใหม่ที่แตกต่างออกไปจากสังคมที่คุณคุ้นเคย
คุณแน่ใจแล้วหรือว่าที่ที่คุณเลือก จะยังคงความงดงามอย่างที่เป็นอยู่ได้ในอนาคต
ในเมื่อสังคมเกือบทุกแห่งของไทยกำลังวิ่งไล่ตามหรือเอาอย่างสังคมเมืองหลวงกันทั้งนั้น
มีคำกล่าวว่า "ไม่มีทางที่คุณจะใช้ชีวิตโดยยึดถือคุณค่าที่แตกต่างจากคนอื่นในสังคมได้ เว้นเสียแต่คุณจะมีชุมชน มีเครือข่ายทางสังคมที่เข้มแข็งพอที่จะทวนกระแส"
ถ้าคุณเห็นด้วยกับคำกล่าวข้างต้น ผมกำลังเสนอชุมชนทางเลือกให้คุณได้พิจารณา


ผมมีทีดินอยู่ 80ไร่ที่ เวียงป่าเป้า เชียงราย เป็นสวนเกษตรธรรมชาติที่ใช้เวลาดูแลมา15 ปี วันนี้สวนนี้ร่มครึ้มเหมาสมที่จะสร้างชุมชนเล็กๆ ที่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย
ทำให้ชีวิตมีความต้องการในการเสพน้อยลง มีเวลาและพลังงานมากขึ้น สำหรับสิ่งที่จำเป็นกว่า เช่นการพัฒนาตนทั้งร่างกาย จิตใจและทักษะการพึ่งตนเอง และมีเวลาที่จะสัมพันธ์ครอบครัว มิตรสหายและธรรมชาติได้อย่างราบรื่นกลมกลืน


แนวคิดของชุมชนนี้คือ การรวมตัวกันของบุคคลหรือครอบครัวที่ยึดถือในแนวคิดดังข้างต้น
มาอยู่รวมกันโดยมีการพึ่งตนเอง ช่วยกันผลิตและหารายได้สำหรับชุมชน
มีการใช้ทรัพยากรส่วนรวมร่วมกัน มีกิจกรรมร่วมกันทั้งการสร้างรายได้และการใช้ชีวิต
มีความเสมอภาค เชื่อในความรักและการแบ่งปัน

เพื่อให้ภาพชัดเจนขึ้นผมจะอธิบายเพิ่มเติมในรายละเอียดส่วนที่ผมคิด
สำหรับชุมชนในความคิดของผม ในการอยู่อาศัยจะมีการแบ่งพื้นที่สวนออกเป็น2ส่วน
ส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวเพื่อสร้างบ้านพักและปลูกต้นไม้จัดสวนอย่างที่ตนเองชอบ
ส่วนที่สองจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง เป็นสวนสาธารณะที่ทุกคนช่วยกันดูแล
ความคิดตรงนี้ก็คืออยากจะทำให้ทุกคนได้มีบ้านที่อยู่ใกล้ๆกัน โดยมีสวนสาธารณะของชุมชนล้อมรอบ
การอยู่ร่วมกันเป็นชุมชนอย่างนี้จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น,การดูแลสวน การติดตั้งสาธารณูปโภค น้ำ ไฟ หรือภาระในการหาคนเฝ้าสวน
ซึ่งการลดภาระเรื่องการเงินจะทำให้เรามีเวลาในเรื่องที่ประโยชน์ในชีวิตมากขึ้น


ในการหารายได้ ก็คงต้องมาคุยกันว่าแต่ละคนมีไอเดียอย่างไร
มีความถนัดด้านไหนจะหลอมรวมความรู้มาสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างไรได้บ้าง
โดยที่กิจกรรมนี้จะยึดหลักในการให้อิสระในการตัดสินใจการเข้าร่วมตามความสมัครใจ

ในด้านการใช้ชีวิต สมาชิกของชุมชนต้องเป็นผู้ที่มีทัศนคติและค่านิยมในการใช้ชีวิตสอดคล้องกัน
ยอมรับในการแบ่งบันการใช้ทรัพยากรของชุมชนร่วมกัน โดยเราอาจสร้างกฎเกณฑ์บางอย่างเพื่อสร้างคุณค่าให้ชีวิตเช่น มีการหมุนเวียนเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพมื้ออาหารเย็นในแต่ละอาทิตย์ มีการร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม(ไอเดียผมก็คือสอนอาชีพให้กับคนที่ยังต้องการความช่วยเหลือในสังคม)

อย่างไรก็ดี สิ่งดังกล่าวเป็นเพียงแนวความคิดที่ผมพร้อมจะรับฟังความคิดเห็นจากทุกท่าน กว่าสิบห้าปีมาแล้วที่ผมเป็นเหมือนปลาที่วิ่งทวนกระแสน้ำ ว่ายจากสังคมเมืองมาสร้างความฝันของตัวผมเองในสังคมชนบท สิ่งที่อยู่ในใจลึกๆในตอนนั้น ก็คืออยากจะสร้างที่นี่ให้เป็นชุมชนทวนกระแส
เป็นกระแสที่สร้างความสุขให้กับทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งในนั้น
ตอนนี้ผมคิดว่าพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์แล้วและทรัพยากรที่มีแล้ว
ไม่ว่าท่านสนใจจะเข้าร่วมหรือไม่ โปรดให้คำแนะนำมาได้
ต้องการผู้สนใจเข้าร่วมกันสร้างชุมชน "ธารน้ำใจ"


สรุปย่อ
ถ้าคุณอยากใช้ชีวิตที่เรียบง่ายในชนบทที่เชียงใหม่ มีที่พักของตัวเองหลังเล็กๆในสวนเกษตรธรรมชาติเนื้อที่80ไร่ ได้ทำงานที่มีคุณค่าต่อสังคมขณะเดียวกันก็มีรายได้พอเพียงกับการดำรงชีพ ร่วมกันกับเพื่อนคนอื่นๆสร้างชุมชนพึ่งตัวเองกลุ่มเล็กๆ มีการช่วยกันทำงาน อยู่ด้วยกันแบบแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีเวลาค้นหาความหมายของชีวิต
โดยที่กิจกรรมของชุมชนจะเป็นงานเกี่ยวกับการรวบรวมและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ ศิลปวัฒนธรรม สังคม เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับ นักเดินทางทั้งชาวต่างชาติและคนไทย
ให้บริการอาหารและที่พักแบบโฮมสเตย์ แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยสำนึกของผู้เป็นเจ้าบ้านโดยไม่หวังกำไร
นำเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม
ให้ความรู้และฝึกอบรมอาชีพให้กับเยาวชน
กิจกรรมต่างๆเพื่อการพึ่งตนเองในชุมชน เช่นสร้างที่พัก ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ดูแลสวน
ผู้สนใจเข้าร่วมควรเป็นผู้สามารถทำงานดังกล่าวข้างต้นได้และพร้อมจะอาศัยอยู่ในชุมชนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ fonsiam@hotmail.com