.......................................   ..,,,,,,............
 

โครงการคนไทยใจดี


สมมุติว่าคุณเดินทางไปต่างประเทศ และเผอิญได้ยินสิ่งที่คนในประเทศนั้นพูดถึงเมืองไทย
คนแรกบอกว่า คนไทยมีนิสัยหลอกลวง ชอบเอาฉวยโอกาสในทุกๆสถานการณ์ เป็นประเทศที่ล้าหลัง ไม่พัฒนา อาหารสกปรก ไม่ปลอดภัยในการไปเที่ยว และชอบก่อปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับโลก
ขณะที่อีกคนบอกว่า ผู้คนเป็นมิตรอย่างที่ไม่เคยพบที่ประเทศไหนของโลก สิ่งแวดล้อมสวยงาม อาหารก็อร่อย


คุณว่าคุณจะคิดจะทำอย่างไรกับทั้งสองคนนั่น ถ้าเป็นผม สำหรับคนแรก ผมคงฉุนขาด อยากเข้าไปอัดมันให้น่วม โทษฐานที่มาว่าเมืองไทย
สำหรับอีกคน ผมคงอยากที่จะไปทักทาย จับไม้จับมือพูดคุยด้วย เพราะพูดได้ถูกใจ


ในความเป็นจริง คุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ คุณก็สามารถพบความเห็นเช่นที่ว่านี้ในอินเตอร์เนต มีเยอะเลยที่กล่าวถึงเมืองไทยด้วยความชื่นชม และก็มีอีกเพียบที่ด่าว่าเมืองไทยอย่างเสียๆหายๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาได้สัมผัสกับเมืองไทยแบบ ประทับใจหรือเจ็บใจ


จะว่าไป ถ้าเราทำความเข้าใจกับเหตุผลที่เขาว่าเมืองไทยว่าไม่ดีอย่างนั้น อย่างนี้ เราจะพบว่า เอ่อ!ที่เขาว่ามา มันก็จริงของเขาเหมือนกัน ปฏิเสธไม่ออกครับ ส่วนใหญ่มันก็ใช่ เราก็รู้ก็เห็นอย่างนั้นเหมือนกัน เลยไม่รู้ว่าจะเถียงยังไง ก็บ้านเราบางที่บางคนเป็นอย่างนั้นจริงๆ ทั้งหลอกลวง เอาเปรียบ ไร้ยางอาย ฯลฯ


แต่ก็นั่นแหละ มันก็มีบางเรื่องที่น่าโมโห ก็ไอ้พวกต่างชาติไม่รู้ข้อเท็จจริงแล้วพูดเรื่อยเปื่อย ไอ้อย่างนี้ถ้าสถานเบาก็ต้องด่ามันกลับ แต่ถ้าหนักหนาก็ท้าตีท้าต่อยมันซะให้รู้แล้วรู้แรด
พอหายโมโหมันแล้วก็มานั่งโมโหคนไทยด้วยกันเองว่า ขยันขันแข็งชวนเขามาเที่ยวบ้านเราได้ แต่ทำไมไม่ขยันทำการบ้านหน่อย(วะ) ว่าเขาอยากได้อะไร หรือต้องรู้เรื่องอะไร หรือต้องทำอย่างไร เพื่อที่จะได้รู้จักเมืองไทย ,คนไทย จะได้มีช่วงเวลาที่มีความสุขในเมืองไทยได้มากกว่านี้ ชวนเขามาแล้วต้อนรับให้ดีหน่อยไม่ได้รึไง


ใครที่คิดว่าเราทำดีแล้ว พอแล้ว กับการต้อนรับแบบไทยๆที่เป็นอยู่ น่าจะแวะไปอ่านเสียงบ่นจากนักท่องเที่ยวที่เคยมาเมืองไทยที่โพสเอาไว้ตามเว้บต่างดูบ้าง
ว่าบางอย่างก็เป็นปัญหาที่แก้ได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ยักจะมีผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องแก้ไขสักที ทำไมปล่อยให้เสียงบ่นมีเหมือนแผ่นเสียงตกร่องอย่างไงอย่างงั้นเลยแหละ และบางอย่างที่เป็นปัญหาที่ซับซ้อนขึ้นมาหน่อย ก็ไม่ต้องพูดถึงว่าจะได้รับการดูแล เพราะไอ้ที่ง่ายยังไม่แก้ จะมาหวังให้ทำเรื่องยากกว่า ฝันไปเหอะครับ
ผมว่ามันน่าอายนะคุณว่าอย่างนั้นไหม เราเชิญชวนเขามาเที่ยวบ้านเรา พอเขามาจริงๆเรากลับดูแลเขาให้การต้อนรับเขาไม่ดีทั้งๆที่เราสามารถทำได้ดีว่านี้ก็ได้


หันกลับไปดูด้านที่ชมเชยประเทศไทยบ้าง มีบางความคิดเห็นจากชาวต่างชาติ ที่ผมอ่านแล้วรู้สึกอิ่มไปกับความภูมิใจในความเป็นไทย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่พูดถึงความมีน้ำใจของคนไทย คุณลองหาอ่านดูสิครับ ผมว่าจะมีบางเรื่องที่คุณจะรู้สึกเหมือนอย่างผม คืออ่านแล้วมันขนลุกนะ
ผมว่าน้ำใจที่เรามีให้กันและกันไม่ว่าจะกับคนต่างชาติหรือคนไทยด้วยกัน บางครั้งแม้จะแสดงออกมาเพียงน้อยนิด แต่มันรู้สึกได้ว่า นี่คือความห่วงใย
ผมว่านะ บางทีเราคนไทยอาจจะชินกับน้ำใจแบบไทยๆ คือเราทำจนเป็นเรื่องธรรมดา แต่กับชาวต่างชาติต่างบ้านต่างเมืองมา เขาคิดล่วงหน้ามาแล้วว่าน่าว่าจะเจอกับการเฉยเมยวางท่าของเจ้าบ้าน แต่พอมาเจอน้ำใจแบบไทยๆ,รอยยิ้มสยามหรืออะไรแบบนั้น ผมว่ามันคงอยู่เหนือความคาดหมายก็เลยทำให้พวกเขาประทับใจ


ผมว่าจะไม่เล่าเรื่องที่ผมอ่านเจอเพราะอยากคุณไปลองค้นดูเอง แต่แหมมันก็นะ มันยังมีความรู้สึกดีๆที่ผมอินไปกับคนที่โพสอยู่เลยมาเล่าให้ฟังเล็กๆ


เรื่องนึงเป็น เรื่องเล่าของฝรั่งที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยช่วงปีใหม่พอดี
ฉากของเรื่องอยู่เมืองเหนือ เขาเล่าว่าค่ำของวันส่งท้ายปีใหม่ เขานึกขึ้นได้ว่าอยากได้ของขวัญปีใหม่ไปให้เพื่อนร่วมเดินทาง แต่ร้านรวงก็ดูเหมือนจะปิดไปซะทุกร้าน เขาก็เลยแวะถามถึงร้านที่ยังเปิดอยู่กับครอบครัวหนึ่งที่กำลังย่างบาร์บีคิวอยู่แถวนั้น(ผมว่าจะเป็นหมูกระทะมากกว่า) เผอิญว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ในวงบาร์บีคิวเป็นผู้จัดการร้านที่อยู่ใกล้ๆ เธอก็ให้คำตอบว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องของขวัญหรอก เดี๋ยวจะหากุญแจไปเปิดร้านให้ แต่ตอนนี้เชิญมาร่วมทานอาหารกันก่อน เขาเล่าในท้ายที่สุดว่าเมื่อเขากลับถึงที่พักในมือเขามี ถุงของขวัญและถุงบาร์บีคิว!


น่ารักมั้ยครับเรื่องนี้ ขอแสดงความชื่นชมเธอคนนั้นและครอบครัวเธอด้วยที่แม้จะทำในสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ฝรั่งต่างบ้านต่างเมืองประทับใจและเล่าเรื่องนี้ให้กับคนอื่นๆได้รับรู้ด้วยความชื่นชม


อีกเรื่องนึงครับ ความจริงเขาก็เล่ามายาวเหมือนกัน แต่ผมตัดทอนให้มันสั้นลง เรื่องนี้ไม่เล่าไม่ได้เพราะเป็นเรื่องคู่กรรมของฝรั่งกับตุ๊กๆ คุณคงนึกว่าเอาแล้วเป็นเรื่องหลอกลวงนักท่องเที่ยวแหงเลย ตรงกันข้ามครับ มาลองฟังกันดูว่าเรื่องราวมันจะเป็นอย่างไร

เรื่องนี้ฉากของเรื่องเกิดขึ้นในวันปีใหม่ ฝรั่งที่มาเที่ยวเมืองไทยพักอยู่ที่ถนนข้าวสาร อยากจะนั่งรถตุ๊กๆเที่ยวดูวัดต่างๆในกรุงเทพ เลยคิดจะเหมารถตุ๊กๆสักคัน พอโบกได้แล้วเธอก็เตรียมต่อราคาเลยล่ะ เพราะได้รับการบอกเล่ามาว่า ถ้าจะขึ้นรถตุ๊กๆให้ต่อราคาลงมาครึ่งนึง ทีนี้พออธิบายความต้องการว่าเธออยากจะเหมารถทั้งวันไปเที่ยววัดเรียบร้อยแล้ว เธอก็บอกราคาที่เธอต้องการเลยว่า สองร้อยบาท ไปไหม
คุณเดาสิว่าคนขับรถว่าอย่างไร
เขาบอกว่าอะไรกัน สองร้อยนี่นะ นี่วันปีใหม่นะคุณ ร้อยเดียวก็พอขึ้นมาเลย!


เรื่องนี้ก็ประทับใจนะผมว่า นี่แหละคนดีที่เป็นตัวแทนของคนไทยส่วนใหญ่ อ้าวแล้วคนไทยส่วนน้อยที่คอยหลอกลวงนักท่องเที่ยวล่ะ ไม่เล่าให้ฟังบ้างเหรอ ไม่หรอกครับเรื่องแบบนี้หามายกตัวอย่างได้ง่ายกว่าเรื่องดีๆเยอะเลย ทำให้คิดว่าถึงไม่เล่าคุณเองก็นึกภาพออกอยู่ดี ก็เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ออกบ๊อยบ่อย

อย่างเรื่องไอ้เจ้าเลวที่หลอกลวงว่าเจอลูกสาวของชาวต่างชาติที่ประสบภัยสึนามิชาวอิตาลีที่หายไปนั้นไงครับ คนทั้งประเทศเค้าสร้างเรื่องดีไว้คู่กับสึนามิไว้มากมาย ไอ้เจ้านี่มาทีหลังหากินบนน้ำตาของผู้ที่สูญเสีย ทำเรื่องเดียวอึ้งกันทั้งประเทศ ทำเอาพูดเรื่องน้ำใจไทยกันไม่เต็มปากเลยทีเดียว เซ็งไปเลย


ผมว่าเราคนไทยควรสร้างเรื่องราวดีๆที่น่าประทับใจให้เกิดขึ้นในใจของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนเมืองไทยกันให้มากๆครับ เรียกว่าทำไปเถอะครับทำเท่าที่ทำได้ตามโอกาสตามศักยภาพของตนเอง


สำหรับผมนะถ้ามีโอกาสผมจะรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นในการท่องเที่ยวในจังหวัดของผม ในรายละเอียดส่วนที่ผมคิดว่ายังไม่มี และเป็นข้อมูลที่ให้ข้อเท็จจริงไม่ใช่ข้อมูลเพื่อหวังผลเพื่อรายได้จากการท่องเที่ยว
ให้ผมอธิบายเพิ่มเติมของเรื่องข้อมูลที่พูดถึง เพราะผมคิดว่าถ้าไม่อธิบายกันให้เข้าใจ คุณก็อาจคิดว่าสิ่งผมตั้งใจว่าจะทำมันไม่ต่างกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว


ถ้าสมมุติคุณเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สนใจอยากจะรู้จักเมืองไทยให้มากขึ้น และอยากมาเที่ยวเมืองไทย ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเมืองไทยที่คุณอาจหาได้จากอินเตอร์เนต,หนังสือไกด์บุ๊ค,โบร์ชัวร์โฆษณาการท่องเที่ยวเมืองไทย สื่อต่างๆเหล่านี้บางส่วนจัดทำขึ้นเพื่อธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นข้อมูลในเชิงโฆษณาชวนเชื่อ บางส่วนก็จัดทำโดยมุ่งเน้นที่การให้ข้อมูลที่เป็นจริงไม่มีโฆษณาเพื่อการท่องเที่ยวแอบแฝง(ซี่งถ้ามีก็จะแบ่งแยกให้ทราบอย่างชัดเจน)เช่น หนังสือแนะนำการท่องเที่ยวโลนลี่แพลนเนต,เว้บชุมชนของคนท่องเที่ยวเดินทาง(ข้าวสาร.คอม) ข้อมูลประเภทนี้ส่วนใหญ่จัดทำขึ้นโดยชาวต่างชาติ ทำให้ข้อมูลที่นำเสนอออกไปอาจไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามความรู้สึกของคนไทยเท่าใดนัก


จากตรงนี้เองทำให้ผมคิดว่า เราน่าจะรวบรวมข้อมูลที่ไม่ได้โฆษณาชวนเชื่อเพื่อหวังผลทางด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว แต่เป็นข้อมูลที่ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเพื่อที่คนต่างชาติที่มีความสนใจในเมืองไทย,คนไทย จะได้เข้าใจในความเป็นไทยอย่างถูกต้อง


ผมเคยเห็นคนญี่ปุ่นหลายคนในหลายๆเมืองทำสิ่งที่ดีมากจนผมอยากทำตามอย่างนั้นได้บ้าง พวกเขามีความรักในท้องถิ่น มีการเก็บรวบรวมภาพถ่ายของผู้คน สถานที่ ธรรมชาติ บอกเล่าเรื่องราวสิ่งที่เปลี่ยนแปลงต่างๆในชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่ มีอยู่คนหนึ่งเขาถ่ายรูปเมืองที่เขาอยู่อย่างสม่ำเสมอ มีอยู่หลายสถานที่ที่เขาจะเลือกมุมกล้องเก็บภาพในมุมเดิม แต่ต่างเวลากันเท่านั้น เขาทำอย่างนั้นมาเป็นเวลา40ปี ลองนึกภาพตามดูสิครับคุณคงเดาได้ว่าภาพของเขาจะมีคุณค่ามากมายเพียงใด


สิ่งที่พบเห็นเหล่านี้ทำให้มีแนวคิดว่า นอกจากจะรวบรวมข้อมูลและเผยแพร่ออกไปแล้ว น่าจะมีการทำกิจกรรมที่แสดงออกถึง การน้ำใจแบบไทยๆที่มีให้กับชาวต่างชาติที่เปรียบเหมือนเป็นแขกของบ้านเรา
สิ่งที่ผมกะไว้ว่าสักวันผมจะได้มีโอกาสดัดแปลงรถมินิบัสสักคันเป็นรถโมบาย ใช้เป็นรถห้องสมุดเคลื่อนที่เพื่อการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว มีพื้นที่ในรถใช้เป็นที่นั่งคุยให้คำแนะนำหรือค้นหาข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ มีน้ำชากาแฟอาหารว่างไว้บริการไปด้วยก็ได้ ไม่รู้นะครับ ผมคิดว่างานที่ทำด้วยใจแม้จะมีข้อบกพร่องอยู่บ้างแต่มันน่าจะออกมาดี อย่างน้อยก็น่าจะได้ใจจากคนที่สัมผัสกับงานของผมได้ไม่มากก็น้อยล่ะ


สิ่งที่ผมเล่าให้คุณฟังแม้วันนี้จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ยังไม่มีเงินทุนมากพอ ยังไม่ได้รวบรวมข้อมูลมากมายนัก เนื่องจากมีภาระจำเป็นอีกหลายเรื่องที่จำเป็นต้องทำ แต่ผมก็อยากจุดประกายความคิดสำหรับผู้ที่คิดว่าสิ่งนี้เป็นความคิดที่ดี นำไปสร้างสรรค์ต่อเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม ช่วยกันคนละไม้คนละมือโลกนี้จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลยคุณว่ามั้ย