|
เอล นีโญ
เอล นีโญ เป็นชื่อเรียกที่ปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิของน้ำทะเลนอกชายฝั่งประเทศเปรูร้อนขึ้นกว่าปกติโดยชาวประมงเปรูสังเกตุเห็นปรากฏการณ์นี้
เกิดขั้นทุกๆ 2 - 3 ปี มานานกว่า 25 ปี แล้ว และเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า
El nino ซึ่งภาษาเสปน แปลว่า "บุตรของพระเจ้า" เนื่องมาจากปรากฏการณ์นี้มักเกิดขึ้นอย่างลึกลับในช่วงเทศกาลคริสมาสต์
ปีที่เกิด เอล นีโญ จะเริ่มต้นจากการที่ลมสินค้าซึ่งปกติพัดข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก
จากฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตกตามแนวเส้นศูนย์สูตรจากทวีปอเมริกาใต้มายังประเทศอินโดเนเซีย
พัดเอื่อยลงมาก ซึ่งปกติลมสินค้านี้จะทำหน้าที่พัดกระแสน้ำอุ่นมารวมตัวอยู่ทางฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก
ทำให้อุณหภูมิของน้ำทะเลบริเวณนี้สูงกว่าฝั่งตะวันออกบริเวณประเทศเอกวาดอร์ประมาณ
15 องศาฟาเรนไฮต์ และระดับน้ำทะเลสูงกว่าถึง 2 ฟุต แต่เมื่อลมสินค้าพัดเอื่อยลงมาก
จึงทำให้น้ำอุ่นบริเวณประเทศอินโดเนเซีย ไหลย้อนกลับข้ามแปซิฟิกไปทางฝั่งตะวันออกคือทวีปอเมริกาใต้
ทำให้น้ำทะเลนอกฝั่งทวีปอเมริกาใต้ มีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติ
ผลที่เห็นได้อย่างชัดเจนของปรากฏการณ์ เอล นีโญ ก็คือ เมื่อลมสินค้าที่เคยพัดพาความชุ่มชื้นมาสู่ประเทศอินโดเนเซียและออสเตรเลีย
พัดเอื่อยลงมากทำให้ฝนไม่ตกและเกิดความแห้งแล้งอย่างผิดปกติในบริเวณดังกล่าว
ในทางตรงข้ามกระแสน้ำอุ่นที่ไหลย้อนกลับมาสะสมบริเวณนอกชายฝั่งทวีปอเมริกาใต้ทำให้เกิดการระเหยน้ำและการรวมตัวของเมฆมากมีผลทำให้เกิดพายุรุนแรงและฝนตกหนักมากกว่าปกติมากจนทำให้เกิดวาตภัยและอุทกภัย
ไฟป่ากับ เอล นีโญ
ไฟป่า ในประเทศอินโดเนเซีย สิงหาคม 2540
ปกติแล้วประเทศอินโดเนเซีย
จะพบกับปัญหาไฟป่าเป็นประจำทุกปี ปัจจัยหลักก็เช่นเดียวกันกับการเกิดไฟป่าในประเทศไทย
และประเทศอื่นๆ ในอนุภูมิภาคเดียวกันที่ยังมีทรัพยากรป่าไม้เหลืออยู่มาก
ปัจจัยหลักที่กล่าวคือ ไฟป่าที่มีมนุษย์เป็นตัวต้นเหตุ
โดยปกติแล้ววไฟป่าที่เกิดขึ้นในประเทศอินโดเนเซียจะเกิดขึ้นประมาณเดือนกันยายน
ของทุกปีแล้วก็หมดไปเอง เพราะฤดูฝน น้ำฝนจะดับไฟป่าเองโดยทีมนุษย์ไม่ต้องเข้าไปจัดการ
"ปรากฏการณ์ เอล นีโญ" ได้ส่งผลกระทบให้ประเทศอินโดเนเซียเกิดความแห้งแล้งทั่วไปกินพื้นที่กว้างขวาง
ความร้อนแล้งของพื้นที่ เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ไฟป่าที่เกิดขึ้นในประเทศอินโดเนเซียกินพื้นที่อย่างกว้างขวางและการเกิดหมอกควันปกคลุมไปทั่วอนุภูมิภาค
ทั้งในประเทศอินโดเนเซียเอง มาเลเซีย สิงคโปร์ และประเทศไทยตอนล่าง
ก็เป็นผลจากการเกิด "การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์" อันเนื่องมาจากพื้นที่ที่ถูกเผาแต่เดิมเป็นป่าดงดิบ
ลักษณะป่าชนิดนี้จะมีเศษไม้ ปลายไม้ และซากพืชที่ถมทับกันซับซ้อนและมีความชื้นค่อนข้างสูง
หรือบางแห่งจะเป็นป่าพรุ ซึ่งมีชั้นดินอินทรีย์หนา เพราะสะสมมานานปี
เมื่อเกิดไฟไหม้ ปฏิกริยาการเผาไหม้จะไม่สมบูรณ์
ผลเสียที่ตามมาเมื่อเกิดการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ก็คือ เกิดควันไฟในปริมาณมหาศาล
ควันไฟจะลอยอ้อยอิ่ง ปกคลุมอยู่ทั่วพื้นที่ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี
และผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจเมื่อสูดดมควันเหล่านี้เข้าไป
|