กากบาทสัญจร

วันที่ 29-30 มีนาคม 2546

ณ หาดทรายแก้ว สัตหีบ ชลบุรี

นอนกินดาวกันตรงนี้
ฟ้าแจ่ม มองเห็นด้วยตาเปล่า
ทะเลใส ลมระรื่นเรื่อยมา
ครัวไม้ของเรา
อุปกรณ์ยังชีพ
อาหารว่างระหว่างมื้อ
เบื้องหลังต้องมีสาว ๆ ไปนั่งบังลม
รอ
ยิ้ม
เขิน ..
เหม่อ ...
เมิน ...
เอนกเขนก ..
สุขขี ..
สุโข ..
ปลดปล่อย
ล่องลอย
โพล้เพล้
น้ำใส มองเห็นตาปลาที่ตาตุ่ม ปลาดาวว่ายมาเกยหาด เสียงลมหวีดหวิวอยู่ข้างใบหู ปล่อยให้ใจให้ถึงเธอผู้อยู่ไกล และด้วยจรรยาบรรณแพทย์ มิอาจให้เห็นหน้าและรู้ใจได้ .. ทะเล ทะเล โอ้ ทะเล รสขาติยังเค็มเช่นเดิม
หลังจากลงไปแหวกว่ายธาราเค็ม เจ้าเณรน้อยชวนเล่นเกมส์ดำน้ำหนี คือ ให้คนหนึ่งเป็นหมา คอยไล่จับ วิธีจะหนีรอด คือ ถ้าดำน้ำแล้วหมาไม่มีสิทธิ์ที่จะจับ ปรากฏว่าเกมส์นี้ดำน้ำหนีเหนื่อยสาหัสยิ่งกว่าวิ่งหนีในทะเล เสียอีก สายลมทำให้น้ำแข็งละลายเร็วกว่าที่คิด แต่ก็ไม่เร็วไปกว่าอาหารมื้อนี้ที่หมดภายในดาวกะพริบ
มาทะเล ไม่รู้อะไรดลใจให้ต้องสั่งข้าวผัดปู (ทุกที) ต้มยำทะเลรวม ปลาทอดหอมกอบ หอยแมลงภู่รู้ใจ นั่งเคียงข้างกลอยใจที่ติดตัว
ทะเลเค็มกับปลาดาว เทพธิดาของเจ้าสมุทร ที่หนีมาเล่นน้ำกับหมู่มวลมนุษย์ เสียดายที่กล้องลงน้ำทะเลไม่ได้ มิฉะนั้นจะได้ภาพเทพธิดา 8 แฉกมาฝากคุณ ๆ กัน ขึ้นมาจากทะเลอย่างหิวโหย อาหารพร้อมแล้วตั้งแต่ 18.00 น. เพราะเราสั่งไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่เที่ยงที่มาถึง พอได้เวลาทหารหนุ่มก็ยกสำรับมาเสริฟถึงชายหาด น่ารักจริง ๆ ..

ตื่นเช้ามา มีกาแฟ (ปราศจากน้ำตาล) เสริฟถึงหน้าเต้นท์ และเมนูเช้านี้คือ มาม่าราดซอสสปาเก็ตตี้ โดย ultra bee

(ขวา) การเตรียมเส้นมาม่า ลวกเส้นให้นิ่มเสียก่อน

พ่อครัวหัวหงษ์
แอ่น แอน แอ้น ...
อย่ามัวแต่เหม่อเด้ .. ลูกค้ารออาหารอยู่
เราเตรียมอุปกรณ์เบื้องต้นในการทำอาหารง่าย ๆ คือ เตาสนาม แก้สกระเป๋า และกะทะของ US army แค่นี้ก็สามารถเนรมิต the mobile kitchen ได้แล้ว อย่างน้อยก็รอดตายไปหนึ่งมื้อ
   
ม่ะ ขอหนูชิมก่อนว่าอะไรขนาดไหน
ยังไม่แส่บ ต้องเติมอีก ..
โมษณา
โมษณา