My Love Is Gone From Me...1

 

**************************

อากาศยามค่ำเริ่มมืดลงทุกขณะ เมื่ออาทิตย์ลับหายไป แสงจากไฟฟ้าริมถนนเริ่มสว่างไสว ส่องให้เห็นหนทางที่มีผู้คนเดินกันขวักไขว่...

ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง......ภายในร้านตกแต่งสไตล์คันทรี... เรียบง่ายแต่ดูคลาสสิก..
หนุ่มน้อยร่างโปร่งบางคนหนึ่งนั่งมองถ้วยกาแฟตรงหน้า เขามองควันสีเทาที่ลอยอ้อยอิ่งเหนือถ้วยนั้นอยู่นานแล้ว จนควันที่ดูเหมือนม่านหมอกแทบจะเลือนหายไปในอากาศอย่างช้าๆ ครีมข้นที่อยู่บนกาแฟเริ่มแตกตัวเป็นฟอง เหลือไว้แต่น้ำกาแฟที่เริ่มจะเย็นชืด
มือเรียวไล้แผ่วเบาบนขอบถ้วย นิ้วกรีดวนอยู่เช่นนั้น โดยที่ไม่ยอมแตะต้องน้ำกาแฟเลย บางครั้งดวงตาเรียวคมจะมองไปนอกกระจกของร้าน เห็นผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่เห็นวี่แววของคนที่นัดกันไว้จะย่างกรายเข้ามาในร้านเลย.....
จุนโนะสุเกะเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ จินเลยเวลานัดมาเกือบชั่วโมงแล้ว เมื่อก่อนที่จะคบกัน เขาเคยลิมิตเวลาในการนัดพบกับเพื่อน ถ้าเกินครึ่งชั่วโมงเขาจะกลับ ไม่มีการรอไปมากกว่านี้ แต่เมื่อเริ่มคบกับจิน เขาก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เมื่อได้รักใครสักคน ต่อให้เวลาผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด เขาก็เต็มใจที่จะรอ.... จุนโนะรอจินได้เสมอ แม้กระทั่งในยามนี้...

“จะรับอะไรเพิ่มไหมครับคุณ?” บริกรเดินเข้ามาถามพร้อมด้วยรอยยิ้ม
จุนโนะยิ้มเจื่อนๆ เขาสั่งชีสเค้กมาเพิ่มด้วยความเกรงใจ สั่งกาแฟถ้วยเดียว แต่นั่งซะนานเชียว
จินยังไม่มา เขามาก่อนเวลาหรือเปล่านะ .... ไม่หรอก เขามาตรงเวลาเป๊ะ แต่อีกฝ่ายนี่ซิมาล่ากว่าเคย

บริกรนำชีสเค้กมาเสิร์ฟให้อย่างนอบน้อม พร้อมกับที่เสียงกรุ๋งกริ๋งของประตูร้านเปิดออก นำพาร่างของชายหนุ่มหน้าตาดีมาด้วย ร่างสูงโปร่งเดินมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าจุนโนะด้วยรอยยิ้มขอโทษ
“อ๊ะ... จินมาแล้ว....” จุนโนะสุเกะยิ้มกว้างอย่างดีใจ ความโกรธที่จินมาช้าไม่เคยปรากฏในจิตใจ เพียงแค่จินมาเขาก็ดีใจจะแย่อยู่แล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้จินยิ่งละอายใจ ...
“ขอโทษจริงๆ จุนโนะที่มาช้า กว่าจะเคลียร์เรื่องประชุมชมรมได้เสียเวลานานพอดู” จินนั่งลงตรงกันข้าม เขาสั่งกาแฟดำหนึ่งที่ มองเค้กของจุนโนะแล้วก็อมยิ้ม
“ทานเค้กอีกแล้วน้า....ระวังอ้วนนะ”
“ไม่อ้วนหรอก แล้วก็สั่งให้จินนั่นแหล่ะ” จุนโนะเลื่อนจานเค้กมาตรงหน้าจิน ซึ่งฝ่ายนั้นก็ยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งทีเดียวล่ะ
“ความจริง จุนโนะน่าจะรอซ้อนมอเตอร์ไซค์มาด้วยกันนะ อยู่โรงเรียนเดียวกันแท้ๆ” จินพูดพลางตักเค้กเข้าปาก

จุนโนะไม่ตอบ เขาประสานมือไว้ใต้คาง เหม่อมองไปนอกกระจก อากาศเริ่มขมุกขมัว ไฟข้างถนนเส่องสว่าง แต่ภายในร้านกาแฟนั้น มีตะเกียงโคมไฟสีแสดส่องอยู่เหนือศีรษะ จับละอองความอ่อนโยนของจุนโนะให้ฉาบฉายไปทั่ว
....งดงามและอ่อนหวาน...
คือสิ่งที่จินเห็น แต่ทำไมดวงตาคู่สวยที่มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นนั้นถึงได้ดูเศร้าสร้อยนัก
“เป็นอะไรหรือจุนโนะ..?” จินเอื้อมมือไล้ปลายนิ้วที่ประสานใต้คางของคนตรงหน้า ทำให้หน้าสวยเบือนหน้ามามอง
จุนโนะกลืนน้ำลาย มองจินนิ่งนาน ก่อนที่เขาจะหลุบตาลงมองถ้วยกาแฟของตัวเอง ริมฝีปากบางเผยอออกราวกับจะตัดสินใจได้แล้วในตอนนั้น
“จิน.......เราเลิกกันเถอะ.....” เสียงสั่นพร่าของจุนโนะสะกิดใจจินอย่างรุนแรง เขาชะงัก ดวงตาเบิกกว้าง ปากบางอ้าค้างเหมือนกับจะถาม แต่ก็ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดมาจากปากของจิน นอกจากเสียงหัวเราะขื่นๆ ของจุนโนะสุเกะ
“เราเลิกกันนะ...ตั้งแต่วันนี้เลย.....”
“หมายความว่าไง จุนโนะ ทำไมถึงพูดแบบนั้น” มือที่ถือถ้วยกาแฟสั่นจนเขาต้องวางลง... ขนลุกซู่ไปหมด
“ไม่มีเหตุผลละมัง”
“ไม่!! ไม่มีทาง!!” เสียงสูงของจินเป็นการยืนยันในคำพูดของเขา ในขณะที่จุนโนะนั่งกัดปากนิ่ง ไม่แม้แต่จะเหลือบแลมาทางเขา
“จิน.. เวลาของเราสองคนมันจบลงแล้ว” จุนโนะส่ายหน้า เขาคว้าช้อนมาคนกาแฟ คนวนไปวนมาแต่ไม่คิดจะดื่ม จินคว้ามือขาวๆ นั้นไว้ ดึงช้อนออกไป แล้วกุมมือนั้นเอาไว้แน่น
“จุนโนะโกรธจินเรื่องมาช้าใช่มั้ย? โธ่... แค่ครั้งเดียวเอง”
“ไม่ใช่หรอกจิน... เรื่องแค่นั้นเราไม่ใส่ใจหรอก...”
“งั้น...ทำไมล่ะ... ทำไมจุนโนะต้องบอกเลิกด้วย ไม่เอาง่ะ จุนโนะต้องไม่พูดแบบนี้อีกนะ เราไม่ชอบ ไม่มีเหตุผล” จินบีบกระชับอุ้งมือชื้นเหงื่อของคนรัก
“มีสิ เหตุผลน่ะมี คือเราอยากเลิกกับนาย”
“จุนโนะ!!” จินอุทานออกมา เขาเห็นหยาดน้ำใสเอ่อท้นรอบดวงตาคู่สวย จุนโนะชักมือกลับ เขาปาดน้ำตาทิ้งไป สูดจมูกเบาๆ
“เราเบื่อ....เบื่อที่ต้องอยู่กับนายทุกวัน...เบื่อ..เข้าใจมั้ย?”
จินส่ายหน้า ดวงตาเบิกกว้างกับคำบอกกล่าวนั้น
“ไม่...ไม่เข้าใจ...ทีเรายังไม่เบื่อเลย การอยู่กับจุนโนะ ทำให้เรารักนายมากขึ้นต่างหาก .... จุนโนะอย่าล้อเล่นแบบนี้นะ ใจหายหมดเลย” จินพยายามยิ้ม แต่ก็เหยเกเต็มทน แต่ใบหน้าของคนรักที่เขาเห็นยามนี้ มันไม่มีวี่แววว่าจะพูดเล่นเลย
จินงงสุดๆ ทำไมคนที่นอนกอดกันทุกคืนจะมาบอกว่าเลิก... มันเป็นไปไม่ได้
จุนโนะลุกขึ้น เขาวางเงินบนโต๊ะเป็นค่ากาแฟทั้งของเขาและของจิน ร่างโปร่งคว้าเสื้อโค้ทที่พนักเก้าอี้มาพาดแขนขณะบอกว่า
“เราจะไปเก็บของนะ จะย้ายกลับบ้าน ... เสียใจนะจิน เราสองคนคงจะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอีกแล้ว”
“จุนโนะ.........” เสียงที่จินครางออกมา มันแหบแห้งจนคนฟังแทบทนไม่ได้

จุนโนะกำลังจะเดินผ่านหน้าจิน แต่ก็ถูกรั้งข้อมือไว้
“มาพูดกันก่อนจุนโนะสุเกะ นี่เราไม่เข้าใจอะไรสักอย่างเดียว อยู่ๆ ก็นัดมาที่นี่ บอกเลิกหน้าตาเฉย ทีเมื่อคืนยังรักกันอยู่เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับนายกันแน่นะ บอกให้ฉันรู้ได้มั้ย งงไปหมดแล้ว”
“เรา.... เรามีแฟนใหม่แล้วจิน” จุนโนะพูดเสียงเรียบ
“หา? ว่าไงนะ? มีแฟนใหม่?” จินตะโกนด้วยความลืมตัว จนใครต่อใครหันมามองเป็นตาเดียว และนั่นก็ทำให้จุนโนะสะบัดมือจินออก เขาเดินจ้ำออกนอกนอกร้าน โดยมีจินกระโจนตามมาติดๆ
“เดี๋ยวซิ มาพูดกันก่อน!!” จินคว้าท่อนแขนของร่างบางเอาไว้แน่น
“จุนโนะหยุดก่อน!!”
ร่างบางผวาไปตามแรงฉุด จินเลือดขึ้นหน้าแล้ว ยังไงๆ ก็ต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับจุนโนะกันแน่ ทำไมจู่ๆ ก็มาบอกเลิกกันแบบนี้ ยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่หน้าร้าน จนใครต่อใครเหลียวมอง แต่จินดูจะไม่สนใจ จุนโนะพยายามสะบัดแขนออกจนอีกฝ่ายต้องบีบมันไว้แน่น กลัวว่าถ้าปล่อยจุนโนะไปแล้ว ร่างบางจะหายไปในอากาศ
“ปล่อย!! เราเจ็บนะ” จุนโนะร้องออกมา
“ไม่......พูดกันให้รู้เรื่องก่อน”
“ไม่พูด เราไม่มีอะไรจะพูดแล้ว...ฮึก...จินเราเจ็บ.....”

“เอ้อ... ขอโทษครับ คุณกำลังทำให้จุนโนะเจ็บนะครับ” เสียงๆ หนึ่งดังแหวกอากาศมากระทบหูจิน เขาหันขวับไปมองทันที พบกับร่างสูงโปร่งของชายแปลกหน้าในชุดโอเวอร์โค้ทสีดำ ยืนเด่นอยู่ด้านหลัง
“มาพอดีเลย... จินนี่แฟนใหม่เรานะ ... ซากุราอิ โช” จุนโนะสะบัดแขนหลุดจากอุ้งมือของจิน เขาก้าวไปหามือของอีกคนนั้น ที่เอื้อมออกมาหาเขา จุนโนะก้าวสู่อ้อมแขนนั้นอย่างง่ายดาย ทิ้งให้จินมองตามแบบไม่เชื่อสายตา
“นี่นายจะบ้าไปแล้วเหรอ? จุนโนะออกห่างเจ้าหมอนั่นเดี๋ยวนี้นะ นายเป็นของฉัน เป็นเมียฉันนะ!!”
“ได้โปรดเหอะจิน ปล่อยเราไป... ให้เราไปเหอะนะ” จุนโนะพูดน้ำตาคลอ เขาสะอื้นฮักออกมา จากนั้นน้ำตาก็พรั่งพรูลงมาอาบแก้ม เขาส่ายหน้าให้จิน แล้วก็พูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“ให้เรามีความรักใหม่เถอะ เรารักโช” จุนโนะก้มหน้าร้องไห้กับอกกว้างของโช
“จุนโนะ.....” จินร้องครางเสียงพร่า มองคนรักซบหน้านิ่งอยู่ในอ้อมกอดของคนแปลกหน้า
“เรางงไปหมดแล้ว..... ใครก็ได้ช่วยบอกฉันที ว่าเกิดอะไรกับนายกันแน่นะ จุนโนะ........”

*******************************

ธนบัตรปึกใหญ่ปึกหนึ่ง ถูกวางตรงหน้าของจุนโนะสุเกะ เด็กหนุ่มเอื้อมมือออกไปรับ สายตาตวัดมองหน้าเจ้าของเงิน ที่เป็นเด็กหนุ่มร่างเล็ก กำลังทำหน้าสะใจอยู่ตรงหน้า
“นับดูซิ” ร่างเล็กชี้ไปที่เงินที่จุนโนะถือไว้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” จุนโนะส่งเงินให้โชเก็บเข้ากระเป๋า เขามองหน้าเหยียดๆ ของหนุ่มน้อยคนนั้นแล้วก็ต้องกัดริมฝีปาก ... สายตาเหยียดหยามที่มองเขาราวกับเป็นคนต่ำต้อยนั้น ทำให้ผิวแก้มร้อนซู่ ... ความจริงเขากับโชก็ต่ำต้อยจริงๆ ง่ะแหล่ะ ถ้าเขามีทุกอย่างพรั่งพร้อม จ้างให้เขาก็ไม่มีวันทำเรื่องที่สุดแสนจะเจ็บปวดนี้ขึ้นหรอก
“หวังว่านายคงไม่มายุ่งกับอะกานิชิ จินอีกนะ เงินนั่นก็มากอยู่ ถ้านับให้ดีๆ จะเห็นว่ามันมากกว่าที่นายขอฉันเสียอีก ให้เป็นรางวัลที่นายทำงานได้ดีเกินคาด ..... ความเจ็บปวดของจิน เป็นสิ่งที่ฉันต้องการ .....”
“คุณคาเมะ....” จุนโนะครางอย่างเหลืออด เขามองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างปวดร้าว
คาเมะกำลังยิ้มแย้มอย่างสะใจ แต่เขาสิ กลับต้องเป็นคนที่ก้มหน้าร้องไห้
ดูเหมือนจุนโนะจะได้ยินเสียงหัวเราะของร่างเล็กที่กำลังเดินผิวปากหวือออกไปอย่างคนอารมณ์ดี

“ไม่เป็นไรแน่นะ จุนโนะ?” ร่างสูงของโชถามขึ้นมา มองดวงหน้าเศร้าสร้อยแล้วก็สงสาร รู้สึกดีทีเดียวล่ะว่า เวลาที่อยู่ร่วมกันของจินและจุนโนะนั้น ทำให้ร่างบางนี้อ่อนไหวเพียงใด
“คงไม่ได้หลงรัก อะกานิชิ จินจริงๆ หรอกนะ?” เสียงคนเดิมถามมา จุนโนะก้มหน้าเงียบ เขาปาดน้ำตาออกเป็นการบอกให้คนถามล่วงรู้ถึงคำตอบ
โชจึงโอบกอดร่างโปร่งเพรียวของจุนโนะมาแนบอก ปล่อยให้เด็กหนุ่มร้องไห้เสียให้พอ
“ร้องไห้ให้พอเถอะนะ แล้วไปโรงพยาบาลกันเถอะ อย่าให้แม่เห็นน้ำตาของนายนะจุนโนะ”
“ฮื่อ..... ขอบใจนะโช”

*********************************

ร่างซีดเซียวบอบบางของหญิงวัยกลางคนที่นอนให้น้ำเกลือระโยงระยางอยู่นั้น สะกิดใจจุนโนะและโชอย่างแรง ความสวยงามที่เคยเห็นเมื่อในอดีตดูเลือนหายไป มีแต่ความทรุดโทรมเข้ามาแทนที่ ริมฝีปากแห้งผาก แตกระแหง ดวงตาราวกับจะฉ่ำน้ำตาอยู่ตลอดเวลา และในเวลานี้มันก็ทำให้ขนตาเปียกเป็นกระจุก ทั้งๆ ที่ร่างนั้นยังหลับอยู่
จุนโนะทรุดตัวนั่งข้างเตียงคนไข้ ได้กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโชยมาเขาจมูก เขาลูบไล้ท่อนแขนที่วางเหนือทรวงอก ลมหายใจหอบน้อยๆ นั้นเป็นสิ่งเดียวที่บอกให้รู้ว่า ผู้หญิงคนนี้ยังมีลมหายใจอยู่
“แม่... ผมมาเยี่ยมนะฮะ ... ได้เงินมาแล้ว แม่จะได้หายเสียที...” เสียงของจุนโนะขาดเป็นห้วงๆ น้ำตาเอ่อล้น จนชายหนุ่มอีกคนเอื้อมมือมาบีบกระชับที่ไหล่เป็นเชิงปลอบใจ
“วันนี้คุณน้าตื่นมาทานอาหารเหลวได้บ้างแล้วนะ เมื่อกี้พยาบาลบอกมา” โชบอก จุนโนะพยักหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มแห้งแล้งให้
“แม่ฉันคงหายเร็วๆ นี้แหล่ะ” จุนโนะพูดด้วยความมั่นใจ เขาหันไปมองใบหน้าซีดของผู้เป็นมารดาด้วยสายตาเศร้าสร้อย แม่เจ็บ.... เขาก็เจ็บ .... และในยามนี้ เขาดูเหมือนจะเจ็บยิ่งกว่า เสียคนที่รักอย่างจินไป.... แต่เขากำลังจะได้ชีวิตของแม่กลับคืนมา

เสียงบานประตูเปิดและปิดทำให้สองหนุ่มหันไปมองพร้อมกัน จุนโนะเมินหน้าหนีทันทีที่เห็นว่าเป็นใครเข้ามาในห้อง
ร่างสูงใหญ่ของชายวัยกลางคน สูทสีเทาที่ใส่ดูเน้นมาดนักธุรกิจให้เข้มขึ้น ผิดกับเด็กกะโปโลเช่นเขา จุนโนะเมินสายตามามองแม่ ริมฝีปากขบย้ำจนชอกช้ำ
เสียงฝีเท้าของชายคนนั้นเดินมาหยุดยืนข้างๆ ใบหน้าที่มีริ้วรอยของคนอยู่บนโลกมานาน ทอดมองเขาอย่างเฉยเมย ดวงตาเรียวรีคล้ายคลึงกับของจุนโนะจับนิ่งที่ใบหน้าที่ก้มต่ำของผู้อ่อนวัยกว่า
“ทำไมไม่ทักทายกันสักคำ” ชายผู้นั้นกล่าวขึ้นลอยๆ แต่คนฟังย่อมรู้ว่า เขาคนนั้นจงใจพูดกับใคร
จุนโนะสบสายตากับโช ทำให้โชต้องเอ่ยปากขอตัวออกไปรอด้านนอก ปล่อยให้จุนโนะอยู่กับชายผู้นั้นตามลำพัง
“ว่าไงเรา? จะไม่ทักทายพ่อสักคำหรือไง?” เสียงติดจะเยาะดังย้ำขึ้นมาอีก จุนโนะตวัดดวงตาเรียวขึ้นมองอย่างเสียไม่ได้ เสียงเรียบเฉยหลุดออกมาจากปากบาง
“คงไม่ต้องทักก็ได้มั้งครับ ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ทักทายกัน เวลานี้ก็คงไม่จำเป็น”
“จองหอง!! แม่เราน่ะ จะตายวันตายพรุ่งอยู่รอมร่อ ยังจะหยิ่งอวดดีอยู่อีก”
“ขอโทษ... ผมลูกแม่นะครับ ไม่ได้เจตนาหยิ่ง”
“อวดดีนักนะเรา... แต่เอาเหอะ... ไหนๆ เธอก็ทำตามสัญญาแล้ว ฉันจะช่วยแม่เธอดูสักหน ได้เงินจากคาเมะแล้วใช่ไหมล่ะ?”
“ครับ...” จุนโนะพยักหน้ารับ ในใจปวดแปล๊บขึ้นมาทันที ก็เพราะเงินก้อนนี้ไม่ใช่หรือที่ทำให้เขาต้องทำการทรยศหัวใจตัวเองอย่างรุนแรงและเจ็บช้ำที่สุดด้วย
“ดี... เอาให้ไอ้หมอนั่นมันเจ็บ ให้มันเสียผู้เสียคนได้ยิ่งดี อยากมาทำร้ายหัวใจลูกชายคนเดียวของฉัน”

......ลูกชายคนเดียว.....

เฮอะ... คาเมะซินะ ที่ถูกยกย่องเช่นนั้น แล้วเขาล่ะ ไม่ได้อยู่ในสายตาเลยใช่มั้ย?
จุนโนะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นมาในอก บั่นทอนความสดใส ร่าเริงของเขาได้ในพริบตา
คาเมะลูกรักลูกสวาท ไม่ว่าต้องการสิ่งใด ผู้เป็นพ่อก็จะหามาประเคนให้ ทั้งๆ ที่ก็พ่อเดียวกัน แต่จุนโนะกลับถูกทิ้งขว้างอย่างไม่ใยดี

แม่หอบเขาออกจากบ้านเมื่อตอนเขาเกิดใหม่ๆ ไปอาศัยญาติอยู่ที่ชานเมือง แม่ของซากุราอิ โชเป็นพี่สาวคนเดียวของแม่ รับอุปการะทั้งเขาและแม่เสมอมา .... โชจึงเป็นเหมือนพี่ชายและเพื่อนสนิท ผ่านความทุกข์ยากมาด้วยกัน ผ่านเรื่องราวของความลำบากอย่างแสนสาหัส และโชก็เป็นคนหัดให้เขาทำงานทุกอย่าง ทำเพื่อให้ได้เงินมาเรียนหนังสือและดูแลแม่ ที่เริ่มจะเจ็บกระเสาะกระแสะ
สำหรับพ่อน่ะหรือ ตายไปแล้วในสายตาของเขา
คนที่ทำให้เขาเกิดมา ... ถ้อยคำที่ผู้มีศักดิ์เป็นปู่ตอกย้ำให้ชายคนนั้นทิ้งเขากับแม่เร็วขึ้น
“มีเมียแต่งอยู่แล้ว ยังเอาคนใช้เป็นเมียอีก แกนี่มันใฝ่ต่ำจริงๆ คาซึโอะ แล้วทีนี้จะทำไง ไอ้เด็กเถื่อนนั่นเกิดมาแล้ว แกมีคาเมะแล้วนะ จะเอายังไง?”

.................................

“หมอนัดวันผ่าตัดเมื่อไร?” เสียงชายคนนั้นถาม ทำให้จุนโนะสะดุ้ง หยุดนึกเรื่องราวในอดีต
“วันเสาร์ที่จะถึงนี้ครับ”
“อืมมม... ก็ดี ขาดเหลืออะไรก็บอก ถ้าเงินนั่นไม่พอจะให้อีก”
“ไม่เป็นไร... ผมคงไม่ขอรับเงินใครด้วยวิธีนี้อีกแล้ว”
“จุนโนะสุเกะ แกอย่าหยิ่งให้มาก ... ไอ้ที่แกรับเงินจากลูกชายฉันนั่น มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่า แกน่ะหยิ่งไม่ตลอด ถ้าแกหยิ่งจริง แกคงไม่ทำงานที่ฉันสั่งให้ทำหรอก”
“คุณคาซึโอะ ที่ผมทำก็เพราะแม่เท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะชีวิตของแม่ จ้างให้ผมก็ไม่มีวันทำเรื่องนี้ขึ้นมาหรอก ผมรู้ว่าความรักทำให้คนตายทั้งเป็น และการทำให้คนเจ็บปวดนั้นน่ะ บาปยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เหมือนที่คุณทำกับแม่ ทำให้แม่เจ็บ ผมเองน่ะ ถ้าเป็นไปได้ ผมก็ไม่อยากให้ใครเจ็บเพราะผมหรอก.... คุณน่ะ ไม่ได้มีบุญคุณอะไรกับผม ที่คุณทำให้ลูกชายคุณพอใจได้ก็เพราะเงินของคุณ ไม่ใช่เพราะผมเต็มใจทำ”
“เชอะ... ปากดีอย่างนี้นี่เล่า มันถึงจะอดตายทั้งแม่และลูก” พูดเสร็จร่างสูงก็ล้วงเช็กมาหนึ่งฉบับ เขากรอกตัวเลขลงไป และเซ็นชื่อกำกับไว้ด้วย เศษกระดาษแผ่นนั้นถูกร่อนลงตรงหน้าจุนโนะพอดี
“เงินพิเศษ อย่านับเป็นค่าจ้างที่ทำให้อะกานิชิ จินมันเจ็บเลยนะ เป็นเงินค่าล่วงเวลาและค่าสึกหรอที่แกเสียไปกับเจ้าหมอนั่น”
คำพูดเสียดแทงนั้น ดังลอยกระทบหู ก่อนที่ร่างสูงจะผละจากไป จุนโนะขยำเศษกระดาษแผ่นนั้น แล้วขว้างไปที่ประตูห้องเป็นเวลาเดียวกับที่ประตูบานนั้นปิดสนิทลง พร้อมการจากไปของผู้ที่ทำให้เขาเกิดมา
“ไอ้บ้าเอ๊ย!!” จุนโนะสบถออกมา น้ำตาของเขาหยดต้องแขนของผู้เป็นมารดา เขาก้มมองแล้วปาดมันทิ้งไป
“แม่ต้องหายนะฮะ แค่นี้ผมก็ช้ำจะแย่อยู่แล้ว”

*****************************

จุนโนะเข้าห้องเรียนอย่างซังกะตาย ห้องทั้งห้องมีแต่เสียงอึกทึกของเด็กวัยคะนอง ขว้างปาของใส่กัน เด็กหนุ่มชำเลืองมองโต๊ะเรียนมุมห้องด้านในสุดที่เป็นที่นั่งของ อะกานิชิ จิน ... มันว่างเปล่า
จินไม่มา เมื่อวานก็ไม่มา .......
จุนโนะจำสายตาของจินได้ เมื่อวันที่เขาไปเก็บเสื้อผ้า ของใช้จากห้องของอดีตคนรัก สายตาตัดพ้อแดงช้ำนั้น ทำให้จุนโนะไม่กล้ามอง เมื่อจินพยายามอ้อนวอนขอร้องให้จุนโนะกลับมาหาเขา จุนโนะก็ต้องหักใจ หัวเราะเยาะใส่หน้าจิน เป็นทำนองไม่ใยดีเขาอีกแล้ว
จินเอามือวางบนกระเป๋าเดินทางที่เปิดอ้าของจุนโนะ ดวงตาโศกเศร้าสร้อย จนคนมองถอนหายใจด้วยความร้าวในอก
“ฉันจะทำตัวให้ดี..... จุนโนะไม่พอใจเราตรงไหนบอกเรา เราจะปรับปรุงตัวเองให้นายรักเหมือนเดิม เราทำทุกอย่างเพื่อนายได้เสมอ แต่ขออย่างเดียว อย่าทิ้งเราเลยนะ...”
“ไม่ว่าจินจะทำอย่างไร เราก็ต้องไปจากนาย เราอยู่กับนายมาพอแล้ว... เราเบื่อ...จะให้เราย้ำสักกี่ครั้งว่า เบื่อ... จินเข้าใจมั้ย?” จุนโนะปัดมือออกไปจากกระเป๋าของเขา และก้มหน้าเก็บเสื้อผ้าต่อ จุนโนะซ่อนหน้ากับเส้นผมยาวสลวยที่ลงมาปรกบดบังใบหน้าบางส่วนของตัวเอง ซ่อนความเจ็บช้ำนั้นไว้ไม่ให้จินเห็น เสียงจินยังเอ่ยขึ้นด้วยความสั่นเครือ
“แต่เรารักกัน... จุนโนะบอกว่ารักเรา... ลืมเสียแล้วหรือ?” จินยังอ้อนวอนไม่เลิก ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน จินก็เดินตาม แต่ฝ่ายที่เดินเก็บของส่วนตัวลงกระเป๋านั้นจะหันมามองสักนิดก็ไม่มี
“เราไม่ได้รักนายแล้ว ไม่ได้รัก... จิน....เรา ..เราขอโทษ” เสียงจุนโนะพูดไม่เกินเสียงกระซิบจากสายลม

...ไม่ได้รักนายแล้ว ... กับ... รักนายไม่ได้แล้ว... มันคนละความหมายกันในความรู้สึกของจุนโนะในยามนี้
...........................

“จุนโนะ!! เก็บของเสร็จหรือยัง??” เสียงตะโกนจากใครคนหนึ่งดังอยู่หน้าห้อง ทั้งจินและจุนโนะชะงัก และโดยสัญชาตญาณ จุนโนะหันขวับมามองหน้าจินทันที เขาเห็นร่างสูงของเจ้าของห้องยืนเม้มปากแน่น ดวงตาแดงช้ำนั้นมองเขาอย่างตัดพ้อ
“ที่แท้ก็เอาคู่รักใหม่มาด้วย...ฮึ... งั้นเราคงไม่ต้องพูดจาอ้อนวอนอะไรนายแล้วซินะ จุนโนะ!!” แล้วจินก็กระแทกเท้าเดินจากไป ทิ้งให้เขาเก็บของอยู่คนเดียวด้วยน้ำตาที่นองหน้า

จุนโนะวางพวงกุญแจอพาร์ตเม้นต์ไว้ที่เตียง เขาสะพายกระเป๋าขณะเหลียวมองรอบกาย หลังจากย้ายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของจินได้ครึ่งปี เขาก็ต้องจากห้องนี้ไป ยอมรับว่า ห้องๆ นี้ มีความหมายกับเขามากมายเพียงไหน และเขาไม่เคยต้องฝืนใจเลยสักนิดในการที่ต้องทำตัวสนิทสนมและคบหากับจินตามคำจ้างของสองพ่อลูกคาเมนาชินั่น


ก่อนที่จะรู้จักกับอะกานิชิ จิน

คาซึโอะกับคาเมะยื่นรูปถ่ายของหนุ่มน้อยหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งให้จุนโนะดู และบอกว่า ถ้าอยากมีเงินมารักษาอาการป่วยของแม่เขาล่ะก็
“ทำให้ไอ้หมอนี่มันเจ็บปวดที่สุดเท่าที่จะทำได้” เป็นเสียงเฉียบขาดของคาเมะ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของเขา
“ทำไมผมต้องทำด้วย” จุนโนะเอ่ยถาม ขณะรับรูปของจินมาพิจารณา
“ก็เพราะมันทำให้ฉันเจ็บ มันทิ้งฉัน มันฆ่าฉันทั้งเป็น”
จุนโนะตวัดสายตามองคาเมะ หนุ่มน้อยผิวขาว หน้าตาสวยงามคนนี้ ทำไมถึงมีความเจ็บแค้นได้ถึงขนาดนี้
“ก็เขาเคยเป็นคนรักของคุณไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงได้เกลียดเขา”
“ฉันเกลียดมัน พอๆ กับที่เคยรักมัน ไอ้จินมันเจ้าชู้ พอได้คนใหม่มันก็ทิ้งฉัน บอกเลิกฉันอย่างไม่ใยดี มันเห็นฉันไม่มีค่า ดังนั้น ฉันอยากให้มันรักใครสักคน หลงจนหัวปักหัวปำ ... นายต้องทำให้มันหลง และรักนายอย่างเลิกไม่ได้ เมื่อถึงวันนั้น นายต้องถีบหัวมันส่ง เอาให้มันเสียผู้เสียคนไปเลย แล้วฉันกับพ่อจะช่วยค่าใช้จ่ายในการรักษาแม่นายเอง” คาเมะยิ้มมุมปาก แล้วหันมาพยักหน้ากับพ่อของเขาเป็นเชิงให้เห็นด้วยกับคำพูดของเขา ซึ่งฝ่ายผู้สูงวัยกว่าก็เห็นดีด้วยทุกอย่าง

จุนโนะมองใบหน้าที่เขาเห็นจากรูปถ่าย ... ใบหน้าหล่อคม มีเสน่ห์นัก เขาสะดุดตากับดวงตาสดใสมีชีวิตชีวา
ผู้ชายคนนี้น่ะเหรอที่เขาต้องเอาตัวเข้าไปพัวพันด้วย .. และต้องทำให้คนคนนี้รักให้ได้ และทรยศทีหลัง จะทำได้เหรอ...
...ไม่อยากทำเลย... วูบหนึ่งเขากลัว.. กลัวว่าการกระทำของเขาจะย้อนเข้ามาหาตัวเอง... ผู้ชายอย่างคนที่เห็นในรูป แค่เห็นเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้จุนโนะใจเต้นได้ ...
“ผมต้องทำอย่างไรบ้าง” จุนโนะถามโดยไม่เงยหน้าจากรูปถ่ายของจิน
“พ่อจะย้ายนายเข้าโรงเรียนเดียวกับเรา นายต้องตีสนิทเจ้าหมอนี่ให้ได้ ทำไงก็ได้ให้มันรัก และถอนตัวจากนายไม่ได้” คาเมะพูดเหมือนจะง่าย ...ใช่สิ สิ่งที่เขาพูดต้องง่ายเสมอ

คาเมะสำรวจหนุ่มน้อยที่นั่งตรงหน้า ...ทางุจิ จุนโนะสุเกะ... คนที่ใครต่อใครบอกว่า เป็นลูกของพ่ออีกคนที่เกิดกับคนรับใช้ ก่อนจะมาพบจุนโนะเขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรว่า จุนโนะจะทำงานนี้ได้ แต่พอเห็นรูปร่างหน้าตาแล้ว เขาก็เพิ่มความมั่นใจ
หน้าตาสวยสดงดงาม ผิวขาวเนียนอมชมพู รูปร่างสูงโปร่ง เพรียวและมีเสน่ห์ ทำให้คาเมะอดอิจฉาไม่ได้ โดยเฉพาะดวงตาเรียวรีที่สดใสและเปล่งประกายเจิดจ้า

เสน่ห์ ลุ่มลึก ของจุนโนะสุเกะจะต้องทำงานให้เขาได้แน่ จินต้องหลงรักจุนโนะอย่างไม่ต้องสงสัย

และทำไมต้องเป็นจุนโนะสุเกะคนนี้ด้วย

คาเมะเองก็ไม่แน่ใจ หลังจากเอาความมาปรึกษากับพ่อของเขา คาซึโอะก็เสนอจุนโนะให้เขาพิจารณา เพราะพ่อของเขารู้มาว่า คงไม่มีเด็กหนุ่มคนไหนจะทำงานแบบนี้ได้แน่ แต่กับจุนโนะแล้ว รายนั้นน่ะกำลังหาเงินตัวเป็นเกลียวในการรักษาตัวแม่ให้อยู่รอดในโลกใบนี้ .... พ่อของเขาจึงวางแผนการทุกอย่างให้ แต่ด้วยจุดประสงค์อื่นอีกหรือไม่ คาเมะเองก็ไม่อาจทราบได้ บางทีเขาอดคิดไม่ได้ว่า การที่คาซึโอะทำเช่นนี้ อาจเป็นเพราะต้องการเข้ามาใกล้ชิดกับสองแม่ลูกนั่นอีกก็ได้......

**************************

to be con

กดเม้นต์ที่นี่ก็ได้จ้า