My Love Is Gone From Me...2

 

**************************

“จุนโนะ..จุนโนะ.... “ เสียงเรียกนั้นทำให้จุนโนะสะดุ้งสุดตัว กำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่เชียว เพื่อนคนนั้นปิดปากหัวเราะเมื่อเห็นหน้าตื่นๆ ของจุนโนะ
“จินไม่มาอีกแล้วนะ มีอะไรกันหรือเปล่า”
จุนโนะส่ายหน้าปฏิเสธ
“ก็อยู่ด้วยกันไม่ใช่หรือ?”
“เอ้อ...เปล่า ฉันกลับไปอยู่บ้านญาติแล้ว” จุนโนะว่าพลางเหลียวมองโต๊ะของจินอีกครั้ง

จินจะเตลิดไปไหนกันนะ
จุนโนะหลับตาลงอย่างอ่อนล้า เมื่อเพื่อนคนนั้นเดินกลับที่นั่งไม่ได้ติดใจจะซักถามอะไรอีก
“จินไปไหน.....” จุนโนะบ่นพึมพำ เขายังเห็นสีหน้าเจ็บปวดของจินได้ดีเสมอ ใบหน้าซีดขาวที่เขาบอกเลิกนั้น คงจะเป็นใบหน้าที่คาเมะอยากเห็น แววตาแดงก่ำเจ็บร้าว คงจะเป็นดวงตาที่คาเมะอย่างให้มันเป็น และความรวดร้าวในอกของจินล่ะ เป็นสิ่งที่เขาไม่อาจเห็นได้ แต่ก็คงจะรู้สึกได้แบบเดียวกัน เพราะเขาเองก็กำลังเป็นอยู่ ไม่ต่างกันนักเลย

หูแว่วได้ยินเสียงเยาะหยันของคาเมะลอยมา

“หวังว่านายคงดูแลรักษาหัวใจของนายให้ดีล่ะ อย่าหลงรักคนที่ฉันต้องการแก้แค้นเด็ดขาด ไม่งั้นนายเจ็บกลับมาก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้นะ”
จริงสิ ตอนนี้จุนโนะบาดเจ็บอย่างยับเยินจริงๆ ด้วย การที่ทำให้จินหลงรักนั้นน่ะเขาทำได้ และเขาเองก็หลงรักจินด้วยเช่นกัน ยิ่งรู้จักก็ยิ่งหลงรัก
วันคืนที่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่เคยเลยสักครั้งที่ต้องฝืนใจทำ ความรู้สึกดีๆ หลั่งไหลมาหาเขาและจินตลอดเวลา
ถ้อยคำเอ่ยรักกันนั้น ก็ออกมาจากความจริงใจล้วนๆ เมื่อไรกันนะที่เขารู้สึกแบบนี้ คงจะแรกเห็นหน้า แรกรู้จัก และสิ่งที่เขารู้สึกว่าเกิดขึ้นทันที นั่นก็คือ ... ความรัก...
เขารักจินตั้งแต่ที่ได้เห็นรูปถ่ายนั่นเลยล่ะมัง...
...รักทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักตัวจริง...
ยิ่งคบกันไป จุนโนะก็ยังได้รู้มาอีกอย่างก็คือ
คนอย่างอะกานิชิ จิน ไม่ใช่เพลย์บอยอย่างที่คาเมะบอก จินรักจริงและเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าที่เขาคิด และที่จินเบื่อคาเมะก็เพราะตัวคาเมะเองนั่นแหล่ะ คอยวางตัวเหนือจิน ข่มจิน และเป็นเจ้าของจินมากจนอีกฝ่ายรำคาญ
เท่าที่จุนโนะได้เห็น ได้สัมผัสคาเมะมาแล้ว ก็เดาเหตุการณ์ได้ตลอดว่า คนที่ทำให้จินตีจากคาเมะไม่ใช่ใครที่ไหนก็ตัวคาเมะเองนั่นแหล่ะ

........ขอโทษนะจิน....เราขอโทษ....

จุนโนะแอบปาดน้ำตาทิ้ง เมื่อน้ำหยดหนึ่งกำลังคลอหน่วยที่ดวงตาคู่สวยของเขา

วันนั้นทั้งวันจุนโนะเรียนแทบไม่รู้เรื่อง เพราะจินไม่มา เพราะเขาเองไม่มีกระจิตกระใจจะเรียน พิษรักเมื่อไม่สมหวังมันเจ็บปวดแบบนี้เองน่ะหรือ.......

******************************

จินเดินเกาะผนังห้องจนเข้ามาฟุบกับเตียงนอน เมากลับบ้านสุดๆ เลยวันนี้ เพราะเพื่อนของจินที่จินไปปรับทุกข์นั้น แนะให้เขากลับห้องเสียบ้าง บางทีจุนโนะอาจจะเปลี่ยนใจกลับมาแล้วก้ได้ แต่เมื่อมาถึง มันก็อ้างว้างเหลือเกิน ห้องนอนของเขาเย็นเฉียบ ที่นอนที่ทอดร่างอยู่นั้นก็เย็นชืด เหมือนห้องหอร้างรัก ความอบอุ่นที่เคยกรุ่นกระจายทั่วห้องเลือนหายไปเมื่อไม่มีคนรักอยู่เคียงกาย
จุนโนะไปแล้ว ไปจากชีวิตของเขาจริงๆ
รักคนคนนี้สุดหัวใจ ไม่เคยรักใครได้ถึงขนาดนี้
หลงรักตั้งแต่เห็นจุนโนะยืนแนะนำตัวอยู่หน้าชั้นเรียน
เป็นเด็กมาจากไหนเขาไม่รู้ แต่ที่แจ่มชัดที่สุดก็คือ ...
... เขาตกหลุมรักจุนโนะอย่างถอนตัวไม่ขึ้น.....
จุนโนะสุเกะผู้อ่อนหวาน แสนดี คนที่มาชุบหัวใจให้แช่มชื่น .... คนที่เอ่ยปากฝากรักอยู่ทุกค่ำคืน และเป็นคนคนเดียวกับที่กำลังทำให้หัวใจของเขากำลังร้องไห้อยู่ในขณะนี้

จินไล้มือไปตามรอยของที่นอนที่เขาเคยใช้ร่วมกับจุนโนะ เคยนอนกอดกันและกันบนเตียง ถ้อยคำหวานหูที่ต่างกระซิบให้กันนั้น เขาไม่เคยลืมเลือน ....แม้แต่คำพูดอันแสนจะเอียงอายที่ออกมาจากปากของจุนโนะนั้น เขาก็ยังจำได้แม่นยำ
“รักจินที่สุดเลย... เรารักจินนะ.. รัก .... คงจะรักใครอีกไม่ได้แล้ว” จุนโนะพูดพร้อมกับน้ำตาใสๆ เอ่อท้นออกมา เพราะความเต็มตื้นในรสรักที่เขามอบให้
เขาเองก็กระซิบตอบด้วยถ้อยคำหวานไม่แพ้กัน
“เราก็รักจุนโนะ ไม่เคยรักใครมากเท่านายมาก่อน ....รักนะ ...รักจุนโนะที่สุดในโลกเลย”

.......................................
ในเมื่อเรารักกัน แล้วทำไม... ทำไมถึงจากไปอย่างไม่ใยดี แล้วนายโชอะไรนั่นน่ะ ไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไรกัน เขาสาบานได้ว่าตั้งแต่คบกับจุนโนะนั้น จุนโนะก็อยู่ในสายตาของเขาตลอด และคนรักของเขาเอาเวลาไปพบกับแฟนใหม่ตอนไหนกัน
จินนอนหงาย ท่อนแขนข้างหนึ่งยกขึ้นปิดดวงตาทั้งสอง แรงสะอื้นสะท้อนขึ้นลงจนทรวงอกกระเพื่อม
“จุนโนะ..... นายจากฉันไปจริงๆ หรือฉันฝันไปกันแน่....” น้ำตาไหลออกมาทางด้านข้างๆ จินปล่อยให้ไหลอยู่เช่นนั้น ไม่คิดจะเช็ดออกแต่อย่างใด
เขาต้องรู้ความจริงให้ได้ ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้จุนโนะเปลี่ยนไป ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีวี่แววว่าจุนโนะจะนอกใจเขาเลย

จินผุดลุกขึ้นนั่ง เขาเหลียวมองรอบห้อง เห็นกุญแจห้องที่จุนโนะเอามาวางไว้ข้างหมอน หยิบขึ้นมาลูบคลำอย่างทนุถนอม ตั้งแต่วันที่จุนโนะมาเก็บของ จินก็เอาแต่ไปค้างบ้านเพื่อน เพราะไม่อาจทนอยู่ในห้องที่ไม่มีจุนโนะได้
เขาเปิดประตูตู้เสื้อผ้าที่เคยใช้ร่วมกัน ของใช้ของจุนโนะหายไปจริงๆ ด้วย จินยืนกัดปากนิ่งงัน ...ไปแน่แล้ว..ไม่ใช่ฝันไปเองหรอก

เขาเดินซังกะตายเข้าไปในห้องแคนทีน ครัวเล็กๆ ที่ถูกจัดเอาไว้เป็นคู่ๆ ถ้วยชามหรือของใช้ที่เป็นคู่ยังอยู่เหมือนเดิม แก้วกาแฟของเขาสีแดง ของจุนโนะสีชมพู ลายเดียวกัน จินยืนยิ้มฝืนๆ ยังมีเหลือไว้เป็นอนุสรณ์ อย่างน้อยก็ยังมีให้ดูต่างหน้า เขาเก็บถ้วยกาแฟของตัวเอง และหยิบเอาของจุนโนะมาใช้ เอาไว้ระลึกถึงเจ้าของ
“กลับมาเถอะนะ อยากให้นายกลับมา กลับมาเป็นของจินเหมือนเดิม” เขาซบหน้ากับท่อนแขน นั่งหมดอาลัยตายอยากบนโต๊ะกินข้าว แล้วต่อไปนี้ เขาต้องกินข้าวคนเดียวใช่มั้ย?

เขาพบกับจุนโนะครั้งแรก เมื่อร่างสูงโปร่งก้าวตามหลังอาจารย์โฮมรูมมาติดๆ ในเช้าวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันที่จุนโนะย้ายเข้ามาเรียนที่นี่เป็นวันแรก และเป็นวันที่ อะกานิชิ จินจะไม่ลืมเลือน
ดวงหน้าสวยงาม แย้มพราย ดวงตาเรียวที่ยิ้มให้เพื่อนใหม่ยิบหยี ดูน่ารัก มีชีวิต ชีวาเหลือเกิน
“เราชื่อ ทางุจิ จุนโนะสุเกะ ย้ายมาจากคานางาว่า ขอฝากตัวด้วยครับ” ร่างสูงก้มหัวคำนับฝากตัวกับเพื่อนร่วมห้อง ทำเอาใครๆ ต่างก็ชื่นชม จุนโนะเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ทุกคน แต่หยุดยิ้มให้จินมากเป็นพิเศษ เล่นเอาจินใจเต้นผิดจังหวะ
...บอกตัวเองในยามนั้นเลยว่า ... คนนี้แหล่ะ ที่รอคอยมานาน....

และแล้วจินก็ตามจีบจุนโนะ และจุนโนะเองก็ดูเหมือนจะเข้ามาในรัศมีการตามจีบของจินได้ทุกที จนเพื่อนๆ ต่างล้อเลียน และในวันสารภาพรักของจินนั้น จุนโนะก็ยอมตกลงคบกับจินด้วยความเต็มใจ
“คบกับเรานะ จุนโนะ”
“จินชอบเราเหรอ?” จุนโนะถามกลับ ซึ่งจินก็ยิ้มแป้น พยักหน้าแรงๆ ด้วยความมั่นใจ เขาเอื้อมมือกระชับอุ้งมือนุ่มนิ่มของจุนโนะแล้วก็บอกย้ำว่า
“ใช่... เรารักนาย”
จุนโนะอมยิ้มแก้มปริ เขาพยักหน้ารับคำรักของจินอย่างอายๆ ใบหน้าสวยหวานแดงระเรื่อขณะแย้มคำพูดว่า
“เราก็รักจิน....”

หลังจากคบหาดูใจกันได้หนึ่งเดือน จินก็ขอให้จุนโนะย้ายมาอยู่กับเขาซะเลย จุนโนะอยู่ที่ไหนมาก่อนจินไม่ทราบ เพราะจุนโนะไม่ยอมให้จินไปส่งถึงหน้าบ้าน ดังนั้นจินก็เลยชวนมาอยู่ด้วยกันที่อพาร์ตเมนต์ซะ จุนโนะก็จะได้อยู่กับจินตลอดเวลา จุนโนะมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบหนึ่ง ซึ่งมีเสื้อผ้า ชุดนักเรียนและของใช้ส่วนตัว
ดังนั้น เตียงใหญ่ของจินจึงเป็นที่รองรับความร้อนแรง เร่าร้อนของคู่รักทั้งสองทุกค่ำคืน

.......เฮ้อ........

จินเงยหน้าจากท่อนแขน เขาลุกมาต้มน้ำในกา ท้องร้องบอกว่าหิว ถึงจะไม่อยากกินแต่ท้องก็ร้องจ๊อกๆ เพราะเขาไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้ว
เขาค้นในลิ้นชักได้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหนึ่งถ้วย ... เขาพิจารณาบะหมี่ แล้วก็ทำหน้าเศร้า นี่ถ้าจุนโนะอยู่นะ เขาก็ไม่ต้องทำเอง เพราะหน้าที่จัดหาอาหารการกิน เป็นของจุนโนะ จินทำแต่เอาชามไปล้าง แล้วก็ซักผ้า ส่วนจุนโนะจะปัดกวาดเช็ดถู จนห้องสะอาดสะอ้านน่าอยู่ ถึงห้องจะแคบแต่ก็อยู่ด้วยความรัก ... หัวใจของทั้งสองทำให้อาณาบริเวณห้องของจินกลายเป็นห้องหอที่เต็มไปด้วยความรักได้อย่างไม่น่าเชื่อ...........

แล้วนี่จุนโนะจะต้องไปเป็นแม่บ้านให้คนๆ นั้น ใช่ไหม คนที่จุนโนะเลือก...คนรักคนใหม่คนนั้น หนุ่มหุ่นเท่ที่ชื่อ ซากุราอิ โช............

***************************

จินขี่รถมอเตอร์ไซค์มาเรียนในวันรุ่งขึ้น ยังไม่ทันจะถึงหน้าโรงเรียนดี เขาก็ต้องจอดรถเข้าข้างทางเมื่อสายตาเห็นร่างโปร่งบางกำลังลงมาจากรถมอเตอร์ไซค์ของใครคนหนึ่งที่เขาจำได้ว่าชื่อ ซากุราอิ โช.....
....เป็นการตอกย้ำให้รู้ถึงความจริง จุนโนะมากับเจ้าหมอนั่น ซ้อนรถมาด้วยกัน ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเคยเกาะเอวของจินแนบแน่นทั้งขาไปและขากลับ จินเม้มปากแน่น เห็นจุนโนะยืนร่ำลากับคนรักคนใหม่แล้วมันเจ็บนะ เจ็บเข้าไปถึงทรวง และดูเหมือนจุนโนะจะเห็นเขาด้วยล่ะซิ ร่างโปร่งถึงได้ยื่นหน้าไปหอมแก้มนายโชได้อย่างหน้าตาเฉย
“จุนโนะ........” จินครางออกมา เขาเร่งเครื่องยนต์ ขี่เฉียดร่างสองร่างนั้นไป โดยมีสายตาร้าวรานของจุนโนะมองตามไปจนลับตา
โชมองตามจินไปเหมือนกัน แต่พอเขาเบือนหน้ามามองญาติสนิท เขาก็ถอนหายใจ
จุนโนะยืนน้ำตาคลอเบ้า เม้มริมฝีปากแน่น
“ถ้ามันทรมานมาก พี่ว่าจุนโนะคืนเงินเขาไปเถอะนะ แล้วไปบอกให้จินเข้าใจ ...เรื่องแม่ของนาย เราจะหาเงินกันเองคงพอไหว” โชออกความเห็นด้วยความเป็นห่วงในสภาพจิตใจของญาติตัวเอง แต่จุนโนะก้มหน้านิ่ง
“ไม่ทันแล้วล่ะโช มันสายไปแล้ว วางเงินเขาไปแล้วล่ะ ถ้าโชจะช่วยเรา ช่วยเล่นให้สมบทบาทหน่อยก็ดีนะ”
“เฮ้อ....... จุนโนะ.......” โชถอนหายใจเฮือกด้วยความเห็นใจ เขาเองก็ช่วยน้องได้แค่นี้ล่ะ นี่ถ้าเกิดมารวยเสียหน่อย จุนโนะก็คงไม่ต้องเสียน้ำตาถึงเพียงนี้หรอก

จุนโนะเดินเข้าห้องโฮมรูมด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาแอบปรายตามองไปทางที่นั่งมุมห้อง เห็นจินมองเขม็งมาอยู่ก่อนแล้ว เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก ขาแทบพันกันกว่าจะเข้ามานั่งที่ของตัวเองได้
“อย่ามองด้วยสายตาแบบนี้ได้ไหมจิน มันเจ็บนะ นายไม่รู้หรือว่าฉันเจ็บมากกว่านายหลายเท่านัก” จุนโนะไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบแลไปทางด้านหลังห้อง เพราะรู้สึกถึงรังสีร้อนแรงแผ่ซ่านทั่วแผ่นหลังของเขา รู้ดีทีเดียวว่า ตกอยู่ในสายตาของ อะกานิชิ จิน ตลอดเวลา.....

เมื่อหมดชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนต่างเก็บของเตรียมจะไปเรียนอีกตึกหนึ่ง จุนโนะรีบเก็บของแต่ก็ไม่ทันเมื่อจินเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
“จุนโนะ... สบายดีหรือ?” เขาถามเสียงเบา ทำให้จุนโนะหยุดชะงัก รวมถึงเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วย ทุกคนดูเหมือนจะสนใจเรื่องของจินและจุนโนะกันทั้งนั้น
“ฮื่อ..สบายดี สบายมาก” จุนโนะพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น
“กับคนนั้น นายไปอยู่กับเขาหรือ?”
“ก็.. เขาชวน” ร่างสูงพยักหน้า
“ชวนปุ๊บนายก็ไปเลยซินะ เหมือนที่เราเคยชวนแล้วนายก็ตามเรามา” จินยิ้มเยาะที่มุมปาก การที่จุนโนะไปอยู่กับคนอื่นอย่างง่ายดายเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกผิดหวังในตัวจุนโนะเหลือเกิน ทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้....
“ฉันก็น่าจะรู้นะว่านายน่ะ... มันง่าย..”
“จิน.....” จุนโนะเงยหน้าขึ้นทันที ถ้อยคำที่จินพูดนั้นเรียบ ไม่มีเสียงเยาะ แต่ก็กัดกินใจให้จุนโนะเจ็บในอก
“นายง่ายจริงๆ กับฉันนายก็ง่าย คบกัน รักกัน แม้แต่จะเลิกกัน มันง่ายไปหมด แม้แต่การยอมเป็นของนายคนนั้น นายก็ยังง่าย....”
“หยุดเถอะจิน เราน่ะ.....เราไม่ได้ง่ายแบบนั้นน่ะ”
“ง่ายซิ ...จุนโนะใจง่าย...” จินพูดด้วยความร้าวรานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคนฟัง
“ใจง่ายแล้วยังหลอกลวงอีกด้วย หลอกให้รัก ถ้อยคำที่นายพูดว่ารักฉันน่ะ มันเป็นคำพูดของคนจอมโกหก”
“จิน.......ฮึก...” คำพูดนั้นราวกับเข็มที่เสียดแทงหัวใจให้ร้าวลึก เจ็บจนน้ำตาซึม
จินมองดวงตาสวยงามของจุนโนะมีน้ำตาขังเอ่อท่วม แต่เจ้าตัวเชิดหน้าขึ้น ไม่ยอมปล่อยให้มันไหลมาง่ายๆ
เพื่อนที่นั่งข้างๆ จุนโนะกระตุกแขนของจินแรงๆ เป็นเชิงให้สติ
“จิน...นายว่าจุนโนะแรงไปนะ”
“นายอย่ายุ่งได้มั้ย ทำไมล่ะ จุนโนะทำเราเจ็บถึงขนาดนี้ นายยังปกป้องเขาอีกหรือ? จุนโนะมีแฟนใหม่ แอบมีชู้ลับหลังเรา พวกนายก็คงรู้เห็นเป็นใจด้วยซินะ” จินเครื่องเริ่มติด เขามองกราดไปรอบๆ เพื่อนของเขาและจุนโนะทั้งนั้นที่ยืนฟังอยู่ในห้อง แต่ทำไมทุกคนไม่เห็นใจเขาสักคน เขาหยุดสายตาที่จุนโนะสุเกะ เห็นใบหน้าที่หมองเศร้าของจุนโนะก้มต่ำลง
“ขอโทษนะ มันเป็นความผิดของเราคนเดียว เราทิ้งจิน .เรามีคนใหม่ เราไม่ได้รักนายแล้ว แต่เราไม่ได้ง่ายนะ อย่าว่าเราแบบนั้น...เราไม่เคยใจง่าย....ฮึก....” จุนโนะสุดจะกลั้น เขายอมปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเป็นทาง ก้มหน้าสวยมองกระเป๋าของตัวเอง ไม่กล้ามองหน้าของจิน

“ช่างเถอะ ยังไง ยังไง เราก็เลิกกันแล้ว ฉันขอโทษก็แล้วกันถ้าทำให้นายร้องไห้ เราไม่ได้ตั้งใจจะว่าแบบนั้น แต่ว่า ในความรู้สึกตอนนี้ เราเห็นนายเป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้าจุนโนะไม่อยากได้ยิน เราจะไม่พูดก็ได้ งั้น......ก็ขอให้นายกับคนรักใหม่ของนายมีความสุขก็แล้วกัน หวังว่าจุนโนะคงไม่ทิ้งเขาไปง่ายๆ แบบที่ทิ้งฉันก็แล้วกัน” จินพูดจบลงเพียงเท่านั้น เขาแหวกวงล้อมของเพื่อนๆ เดินไปทางตึกเรียนของวิชาต่อไป โดยที่ไม่ได้ยินเสียงสะอื้นของใครคนหนึ่งเบื้องหลังเลย

เขาเดินปัดผ่านร่างเล็กของใครคนหนึ่ง โดยที่ไม่ทันมองว่าร่างของคนนั้นได้มองเขาอย่างสะใจแค่ไหน
คาเมะหัวเราะน้อยๆ ตามหลังจิน เห็นคราบน้ำตาของจินด้วย นี่น่ะซิ สะใจเป็นบ้าเลย....
“ดี..... สม.... อยากทิ้งฉันไปทำไมล่ะ ต้องเจอแบบนี้ซะบ้าง” ร่างเล็กมองเข้าไปในห้องโฮมรูมของจุนโนะ เห็นร่างของน้องชายคนละแม่ซบหน้านิ่งกับท่อนแขนของตัวเอง แรงสะท้อนขึ้นลงของร่างนั้นทำให้คาเมะรู้ว่า จุนโนะกำลังร้องไห้ แค่นั้นเขาก็เดาเรื่องถูก...
“บอกแล้วไงว่า อย่าหลงรักนายคนนั้น นายทำตัวเองนะจุนโนะ” เสียงเปรยขึ้นดังอยู่นอกห้อง จุนโนะเงยหน้าขึ้นมา สบตาดำคมของคาเมะ จุนโนะผุดลุกขึ้นทันที เขาฉวยกระเป๋านักเรียนขึ้น กำลังจะตามเพื่อนๆ ไปเรียน แต่คาเมะเดินเข้ามา เขากดไหล่ของจุนโนะให้นั่งลง
“สัญญาว่าจ้างนายหมดแล้ว พ่อจะย้ายนายกลับไปเรียนที่เดิม นายไม่มีความจำเป็นต้องเรียนที่นี่อีก” คาเมะพูดหน้าตาเฉย ทำเอาคนฟังอ้าปากค้าง
“หมายความว่าเราต้องกลับไปเรียนที่เดิมงั้นหรือ?”
“ใช่ แย่หน่อยนะ ที่ได้เรียนโรงเรียนแพงๆ แบบนี้ได้ไม่นาน ต้องกลับไปเรียนโรงเรียนกระจอกๆ เหมือนเดิม” คำพูดเยาะหยันของคาเมะทำให้จุนโนะกัดริมฝีปากจนเจ็บ ร่างเล็กอมยิ้มมุมปาก เขาเดินล้วงกระเป๋าจากไป ทิ้งให้จุนโนะน้ำตาซึม ร่างสูงหันไปมองโต๊ะเรียนที่จินเคยนั่ง

.....หมายความว่า เขาจะไมได้พบกับจินอีกแล้วซินะ......

************************

อะกานิชิ จินชะลอคันเร่งเมื่อเขาเห็นจุนโนะกำลังขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์คันที่มาส่งเมื่อเช้า ความเจ็บแล่นมาทิ่มแทงหัวใจ เจ็บจี๊ดอย่างบอกไม่ถูก เขากัดริมฝีปากล่างจนห้อเลือด พยายามระงับอารมณ์ที่จะไม่กระชากร่างโปร่งให้ลงมาจากรถ ... อยากทำอย่างนั้นใจจะขาด แต่ก็เลิกกันแล้วนี่นะ จุนโนะเป็นเหมือนคนอื่นไปแล้ว ไม่ใช่คนที่เขานอนกอดทุกค่ำคืน
จินตัดสินใจขี่รถตามคันของโชไปเรื่อยๆ รักษาระยะห่างไม่ให้อีกฝ่ายจับได้ว่าถูกตาม อยากรู้ว่ารังรักรังใหม่ของจุนโนะสุเกะอยู่ที่ไหนกัน
โชขี่รถไปเรื่อยๆ เข้าไปในย่านจอแจ จนมาถึงสี่แยก เขาก็เลี้ยวขวาเข้าไปในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยหารู้ไม่ว่ามีผู้ติดตามด้วยความอยากรู้ตามมาไม่ห่าง

......................

โชและจุนโนะแวะรับเอกสารที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าก่อนจะเดินขึ้นลิฟต์ไป จินหยุดถามว่าสองคนนั่นจะไปเยี่ยมใคร และชั้นไหน เมื่อได้รับคำตอบแล้ว เขาก็ไม่รอช้าที่จะตามไป สงสัยเหลือเกินว่าคนไข้เป็นอะไรกับจุนโนะสุเกะ
เขาเดินไล่สายตา หาห้อง 506 ที่หน้าห้องมีชื่อคนไข้แสดงไว้
......ทางุจิ เซโกะ ....
เป็นอะไรกับจุนโนะนะ หรือว่าเป็นแม่
จินขมวดคิ้ว ขณะหยุดยืนอยู่หน้าห้องคนไข้ เขามองผ่านบานกระจกใสที่ส่องให้เห็นภายในห้อง นั่นไง จุนโนะนั่งกุมมือของคนป่วย ซึ่งรูปร่างหน้าตาเป็นแบบใด จินเห็นไม่ชัดนัก จากที่เขามองผ่านเข้ามานั้น เห็นแต่จุนโนะและส่วนกลางของเตียงคนไข้ ที่ริมเตียงอีกด้านหนึ่งมีร่างของโชยืนเอาอาหารใส่ชามอยู่ เห็นได้ชัดเลยว่า ทั้งจุนโนะและโชมีท่าทางจะมาที่นี่บ่อยมาก ....... ใครกันแน่นะ ทางุจิ เซโกะ.....
ไม่เคยได้ยินจุนโนะพูดถึงคนที่ชื่อนี้มาก่อน รู้แต่ว่านามสกุลเดียวกัน หรือว่าเป็นแม่......
ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นบุคคลสำคัญของจุนโนะอย่างแน่นอน ก็ท่าทางที่ประคมประหงมนั้นน่ะ จินเม้มริมฝีปาก จุนโนะอยู่กับเขามานานหลายเดือน แต่ไม่เคยปริปากเล่าอะไรเลย แต่กับเจ้าหมอนั่น ซากุราอิ โช จุนโนะยอมให้มีส่วนร่วมด้วย จินไม่เข้าใจ ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ได้ เขามองภาพในห้อง ความรู้สึกชนิดหนึ่งตอกย้ำให้เขารู้ตัวเองว่า เป็นส่วนเกิน ....
เขาออกจากโรงพยาบาล แทนที่จะกลับบ้าน ก็ตรงดิ่งไปบ้านเพื่อนคนหนึ่ง ที่อยู่ชมรมนักสืบของโรงเรียนมัธยมชายล้วน เป็นเพื่อนนักเรียนสมัยเรียนประถมด้วยกัน และเป็นคนที่เขาจะปรับทุกข์ได้ตลอดเวลา

*********************

กริ่งประตู แผดเสียงดังแหลมจนคนกดเองก็ยังสะดุ้ง จินชะเง้อมองเข้าไปในรั้วบ้านชั้นเดียวสีครีม สักพักหนึ่งร่างบอบบางของหนุ่มน้อยก็โผล่แต่หัวออกมามอง
“เฮ้ย... จินเองเหรอ...” ร่างนั้นผลุบหายเข้าไป และก็เดินแกมวิ่งมาเปิดประตูให้
“อะไรวะ ทำหน้าเหมือนหมาถูกทิ้งมาอีกแล้ว” เจ้าของบ้านถาม เดินนำจินเข้ามาในบ้าน
“ไอ้พี... ช่วยอะไรหน่อยเด่ะ”
“อะไรวะ ไอ้จิน”
“แกอยู่ชมรมนักสืบไม่ใช่เหรอ ช่วยสืบอะไรให้หน่อยซิ” จินทิ้งตัวลงนั่ง เสยผมที่ยุ่งเหยิง เค้าหน้าเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน ยามะพีมองเพื่อนแล้วก็ส่ายหน้า ปัญหาของจินคราวนี้ดูหนักหนาสาหัสยิ่งนัก โรคอกหักกระทันหัน ถูกคนรักบอกเลิกชนิดที่ไม่ทันให้ตั้งตัว นี่ถ้าเป็นเขามั่งก็คงเจ็บปางตายแบบนี้แหล่ะ
“เรื่องอะไรวะ?” ยามะพีถาม
จินเล่าเรื่องให้ฟัง โทโมะฟังเสร็จแล้วก็แย้งว่า
“ก็เลิกกันแล้ว ก็แล้วกันไปซิ ทำไมต้องไปอยากรู้อะไรด้วย”
“ถึงจะเลิกกันก็จริง แต่ฉันก็ไม่เลิกรักจุนโนะหรอกนะ ...ฉันคงต้องมาหาแกบ่อยๆ ว่ะ”
“ก็เอาเด่ะ ตอนเลิกเรียนฉันถึงจะไปสืบให้แกได้ ช่วงนี้เราอาจจะไปป้วนเปี้ยนแถวโรงเรียนแกมากหน่อย จะสืบทั้งทีก็ต้องหาข้อมูลกันหน่อย” ยามะพีมีท่ากระตือรือร้นแบบนี้ ก็ทำให้จินเบาใจขึ้น

***************************

และในอาทิตย์นั้น แม่ของจุนโนะก็เข้ารับการผ่าตัด แต่ว่าไม่ได้มีความแน่นอนว่าแม่ของเขาจะปลอดภัยทุกอย่าง ก้อนเนื้อที่ได้รับการผ่าออกมาจากกระเพาะนั้นต้องนำมาตรวจด้วยผลแลบด้วยว่า จะเป็นเนื้อร้ายหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้จุนโนะยังไม่อาจหายใจได้ทั่วท้อง ... ถ้าแม่ของเขามีเนื้อร้าย นั่นก็ย่อมหมายถึง .... มะเร็ง...
“ทำใจดีๆ ไว้นะ จุนโนะ อาจจะไม่ใช่เนื้อร้ายก็ได้” คุณป้า ซึ่งเป็นแม่ของโชลูบหลังลูบไหล่ของเขาอย่างเห็นใจ อย่างน้อยคนที่เจ็บก็คือน้องสาวของเธอเอง
“จุนโนะจะกลับบ้านเลยหรือเปล่า?”
“ผมอยากอยู่ที่นี่ฮะ”
“แต่ว่าเขายังไม่ให้เยี่ยมนะจ๊ะ”
“จะนั่งรอหน้าห้องฮะ” จุนโนะยืนกราน ดังนั้นทั้งคุณป้าและโชก็เลยต้องจำใจกลับบ้าน โดยมีจุนโนะเดินตามไปส่งหน้าโรงพยาบาล
“แล้วพรุ่งนี้ ป้าจะมาแต่เช้านะ”
“ฮะคุณป้า” เด็กหนุ่มโค้งให้ ดวงตาแดงช้ำมองทั้งคุณป้าและโชพากันขี่รถกลับบ้าน ... ลมหายใจแห่งความอัดอั้นถูกระบายออกมาจากริมฝีปากบาง จุนโนะหันหลังกลับเดินดุ่มเข้าไปในโรงพยาบาล โดยมีร่างสูงของใครคนหนึ่งเดินตามอยู่ไม่ห่าง

จินแอบมองจุนโนะอยู่มุมระเบียง เห็นร่างโปร่งบางเอาแต่ชะเง้อเข้าไปในห้องคนไข้หนัก แต่อาการที่เขาเห็นจุนโนะอยู่กับโชนั้น ยิ่งทำให้จินสงสัย เวลาอยู่ด้วยกัน ทั้งสองไม่เห็นแสดงอาการเฉกเช่นคนรักกันทำต่อกันเลย ..... นายโชเป็นใครกันแน่นะ....
..........ยามะพียังสืบอะไรไม่ได้เรื่อง เพราะรายนั้นมาเอาแต่ข้อมูลของจุนโนะที่โรงเรียน แต่สิ่งที่จินต้องการรู้ ยามะพียังสืบไม่ได้.......
“เห่ย... รอก่อนน่า กำลังสืบอยู่ ต้องเข้าใจนะเว้ย ฉันว่างแค่ช่วงเย็นๆ ให้เวลาฉันเรียนมั่งซิว้อย” ยามะพีเคยแหวใส่โทรศัพท์เมื่อโดนจินทวงงานหนักๆ เข้า

************

ร่างสูงของจินสะพายกระเป๋าเข้าห้องเรียนในวันต่อมา สิ่งที่เขาคิดเอาไว้เป็นความจริง ... วันนี้เป็นอีกวันที่จุนโนะไม่มาเรียน เมื่อปลายอาทิตย์ที่แล้ว จุนโนะก็ขาดเรียน และยังวันนี้ วันจันทร์อีกวัน ข้อสงสัยของเขาพุ่งตรงไปที่โรงพยาบาล รู้ดีทีเดียวว่า ที่จุนโนะหยุดไปก็ไม่ได้ไปไหนหรอกนอกจากที่นั่น
อาจารย์โฮมรูมก้าวฉับๆ เข้ามาในตอนเช้าของวันนั้น จินกำลังนั่งเซ็งอยู่ที่โต๊ะด้านหลัง สายตามองร่างของคุณครูด้วยความเบื่อหน่าย นับวันโรงเรียนของเขาก็ยิ่งจะน่าเบื่อมากขึ้นทุกที ไม่เห็นน่าเรียนเหมือนเมื่อยังคบกับจุนโนะเลยล่ะ......
เสียงเคาะโต๊ะของครูทำให้จินเบือนหน้ามามอง เธอบอกนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องทั่วๆ ไป และตบท้ายด้วยเรื่องสุดท้าย...
“ครูขอแจ้งให้ทราบว่า ทางุจิ จุนโนะสุเกะ จะไม่กลับมาเรียนกับเราอีกแล้วนะคะ จุนโนะลาออกตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ครูเองก็ลืมบอกไป”
“อะไรนะ??” จินลุกพรวดพราดขึ้น เขาตะโกนถามคุณครูเสียงดัง จนใครๆ ก็หันมามอง
“จุนโนะลาออก ไม่จริง!!”
“อะไรของเธอ อะกานิชิ จิน... เบาๆ หน่อยซิจ๊ะ...”
“ก็จารย์บอกว่า จุนโนะลาออก นี่มันกลางเทอมนะครับ” จินทรุดตัวลงนั่งเมื่อได้สติ คุณครูยืนยันคำพูดเดิม และบอกว่า จุนโนะมาลาออกเอง และจะไม่กลับมาที่โรงเรียนนี้อีกแล้ว.......

จินนั่งซึม ดวงตาเหม่อลอย อะไรกันนักหนา... ทำไมชีวิตของเขาถึงได้มาเจอเรื่องที่ต้องเจ็บปวดหัวใจติดๆ กันได้ถึงขนาดนี้
จุนโนะลาออก....ให้ตายซิ ... หมายความว่า เขาจะไม่ได้เรียนกับจุนโนะอีกแล้วใช่มั้ย...
จะไม่ได้เห็นจุนโนะนั่งเรียนด้วยกันอีกแล้ว.... ไม่รู้หรือว่า ในช่วงของความทรมานหลายวันที่ผ่านมานับตั้งแต่จุนโนะบอกเลิกนั้น จินนั่งเรียนอยู่หลังห้อง สายตาจับจ้องอยู่ที่แผ่นหลังของจุนโนะอย่างโหยหาและอาวรณ์ ไม่ว่าจะทำร้ายเขาอย่างแสนสาหัสเพียงไหน จินก็ไม่แคร์ ขอให้ได้เฝ้ามองจุนโนะต่อไป เขาก็พอใจแล้ว.........

**************************

to be con

กดเม้นต์ที่นี่ก็ได้จ้า