My Love Is Gone From Me...4

 

*********************

จินเดินกลับเข้าไปในโรงเรียนด้วยหัวใจที่หดหู่ เขาเหลียวมองรอบกาย โรงเรียนอันกว้างใหญ่ หรูหรา สนามกีฬาที่มีนักเรียนออกมาเล่นพละดูวุ่นวาย แต่อีกซอกหนึ่งของโรงเรียนกลับอ้างว้าง เขาเดินไปที่นั่น ... ข้างโรงเรียนบริเวณริมสระน้ำที่เขาบอกรักจุนโนะเป็นครั้งแรก ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่บัดนี้ใบไม้แปรเปลี่ยนเป็นสีทองแห่งฤดูใบไม้ร่วง เขานึกเห็นภาพจุนโนะยืนยิ้มพริ้มเพราอยู่ที่นั่น พิงหลังกับลำต้นและมองเขาเดินมาหา สองมือยื่นออกมาข้างหน้าเพื่อให้จินกอบกุมไว้ และจากนั้นทั้งสองก็จะนั่งลงคุยกัน บอกรักกันและกันอย่างไม่มีวันเบื่อหน่าย
เขาลูบคลำเปลือกไม้สีคล้ำที่เย็นชืด ซบหน้ากับผิวขรุขระของมัน


......ไม่มีอีกแล้วซินะ วันเวลาอันหวานชื่นแบบนั้น......


.....จบลงแล้ว...นับตั้งแต่จุนโนะได้ก้าวออกไป.......

เสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งดังเป็นจังหวะตามถนนเล็กๆ ใกล้เข้ามาจนจินเงยหน้าขึ้นมอง
“คาเมะ........” จินคราง สบดวงตาคมกริบคู่นั้น ...
เขาเห็นแววตาแห่งความสะใจฉายฉาบบนใบหน้าของอดีตคนรัก รอยยิ้มมุมปากและใบหน้าที่เชิดหยิ่ง บ่งบอกให้รู้ว่า คาเมะรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเขาและจุนโนะดีอย่างยิ่งเชียวล่ะ
“เป็นไง อะกานิชิ จิน... เศร้าเลยซิ...หึ...หึ... ทีนี้ก็รู้รสของความผิดหวัง เสียใจแล้วซินะ อยากถามจริงจิ๊งว่า ไอ้อารมณ์ที่เรียกว่าอกหักน่ะ มันให้รสชาติดีพิลึกมั้ย?” เสียงเยาะหยันลอยตามลมกระทบหูซ้ายและออกทางหูขวา จินยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ในขณะที่คาเมะเคลื่อนกายเข้าหา


ร่างเล็กยกแขนกอดอก ปลายเท้าเคาะเป็นจังหวะช้าๆ ขณะยิ้มให้จินอย่างสมเพช ดวงหน้าที่จินเคยเห็นว่าสวยงามนั้นดูราวกับปีศาจที่คอยตอกย้ำให้เจ็บ
“มันเรื่องอะไรของนายด้วย คาเมะ?”
“ก็เปล่านี่.. แค่ถามดูเฉยๆ เห็นกินน้ำตาต่างข้าวมาหลายวันแล้วนี่นา ... เชอะ... ดี สมน้ำหน้า... พอโดนเข้าเองแล้วเป็นไงล่ะ ช้ำละซิทีนี้”
“ฉันกับจุนโนะจากกันด้วยดี”
“ดีอย่างไง? โดนมันทิ้งง่ะ เขาเรียกว่าดีเหรอ?”
“อย่างน้อยจุนโนะเขาก็ยังเป็นคนดีในสายตาของฉัน ไม่เหมือนนาย... คนอย่างนายก็ดีแต่ทำให้ฉันเบื่อ เวลาเลิกกันแล้ว ความรู้สึกดีๆ มันหายไปหมด”
“จิน!!”
“คาเมะ... นายก็รู้ดีนะ ว่าฉันเลิกกับนายเพราะอะไร ถ้านายทำตัวดี ไม่เอานิสัยแย่ๆ ของนายมาใช้กับฉัน ฉันก็คงไม่เลิกกับนายหรอก”
“และนายก็คงจะไม่ได้รู้จักกับจุนโนะสุเกะด้วยง่ะซิ”
“หือ? หมายความว่าไง” จินรีบถามทันที ทำให้ร่างเล็กของคาเมะสะดุ้ง รีบส่ายหน้า
“เปล่านี่”
“เรื่องที่เราเลิกกัน มันก็ไม่เกี่ยวกับจุนโนะอยู่ดี ... ฉันรู้จักกับเขาหลังเลิกคบกับนายตั้งหลายอาทิตย์”
“ก็ใครว่าเกี่ยวกันล่ะ ไอ้หมอนั่นน่ะ รู้จักกันก็ดีแล้ว คนเลวๆ มาอยู่ด้วยกัน ก็สมกันดี”
“คนเลวๆ งั้นเรอะ คาเมะ!! นายว่าฉันเลวได้ แต่กับจุนโนะ นายไม่มีสิทธิ์ว่า” เสียงพูดพร้อมกับหน้าตาถมึงทึงของจิน ทำให้คาเมะยิ้มเยาะ
“ทำไมไม่มีสิทธิ์ ไอ้หมอนั่นมันก็......เฮอะ......อย่าให้พูดดีกว่า.......”
“คาเมะ.....นายพูดเหมือนรู้จักจุนโนะดีงั้นซิ? บอกมาเด๊ะว่าจุนโนะเลวตรงไหน?” จินย้อนถาม คาเมะนิ่งอึ้ง จะพูดไปก็ชักจะเข้าตัว เขาทำท่าจะเดินหนีแต่จินก็คว้าแขนเอาไว้ กระชากร่างบางให้หันมา
“เดี๋ยวก่อนเด่ะ นายกับจุนโนะมีอะไรกันหรือเปล่า เท่าที่ฉันรู้มา จุนโนะเป็นลูกพ่อเดียวกับนาย”
คาเมะเบิกตากว้างเมื่อได้ยิน
“นายรู้ได้ไง?”
“รู้ล่ะกัน และรู้อีกอย่างด้วยว่า นายสองคนไม่ถูกกัน นายทำอะไรจุนโนะของฉันหรือเปล่า?”


คาเมะขวางเหลือเกินกับคำว่า

... จุนโนะของฉัน..... ที่จินเอ่ย


ถ้อยคำนั้น ดูเหมือนจะกดคาเมะให้ด้อยค่าไปในสายตาของจิน

คำพูดแสดงความรักและเป็นเจ้าของของจินนั้นทำให้เขาแทบทนไม่ได้
“ปล่อยฉันนะ นายมาบีบแขนฉัน เจ็บนะจะบอกให้”
“ก็บอกมาก่อนซิ!!”
“ไอ้หมอนั่น มันลูกของพ่อฉันก็จริง แต่ฉันก็ไม่ได้นึกอยากไปเสวนาด้วย ไม่นับเป็นพี่น้อง และฉันก็ไม่ได้ชอบขี้หน้ามันอีกต่างหาก ที่บอกว่ามันเลว ก็เพราะมันคบกับนาย เลวกับเลวมาเจอกันไงล่ะ” คาเมะหัวเราะทิ้งท้าย เขาสะบัดแขนจนหลุด สีหน้ายิ้มสะใจของคาเมะ ไม่ทำให้จินเชื่อว่ามันจะมีเรื่องเพียงแค่นั้น .... มันต้องมีอีก วันนี้เขาจะไปหายามะพีที่โรงเรียน ดูว่าจะมีอะไรคืบหน้าหรือเปล่า....

********************

คาเมะกำลังสะพายกระเป๋าออกมานอกโรงเรียน เมื่อยามะพีก้าวเท้าเข้าขวางทาง ทำให้ร่างบางชะงัก..ตวัดตามองด้วยใบหน้าบึ้งตึง เมื่อเห็นหน้าหล่อๆ ของยามะพีเข้า คาเมะก็ขมวดคิ้ว
“นาย.... ที่เดินชนฉันวันนั้นนี่”
“ถูกต้องคร้าบบบ... คนสวย......แหมดีใจจังที่ยังจำได้ ... “
“แล้วนายมาขวางทางฉันทำไมกัน? ฉันจะกลับบ้าน” คาเมะต่อว่าพลางมองร่างโปร่งที่ขยับเข้ามาใกล้เขาอีกนิด ...
ยามะพีกำลังยิ้ม......ส่งยิ้มชนิดที่เรียกว่าเท่สุดๆ มาให้ เล่นเอาหน้าบึ้งของคาเมะค่อยคลายลง ยามะพีกระแอมแล้วก็พูดเสียงเซ็กซี่ว่า
“ไม่รู้เป็นไงนะ นับตั้งแต่ที่ชนกับคุณวันนั้น มันทำให้ผมกินไม่ได้นอนไม่หลับ พอหลับตาลงทีไรก็เห็นแต่ใบหน้าคุณลอยไปลอยมา วันนี้ก็เลยมาดักรอ ถ้าไม่รังเกียจอยากชวนไปคาราโอเกะ”
“อะไร? เพิ่งจะเจอกัน ไม่ทันได้รู้จักมาชวนกันได้ไง บ้าหรือเปล่า นายชื่ออะไรฉันยังไม่รู้เลย...”


.......นี่คือการถามชื่อกันทางอ้อม...รู้ตัวหรือเปล่า...


ยามะพียิ้มนิดๆ แล้วบอกชื่อเสียงเรียงนามออกไป จากนั้นก็ตามประกบตลอด เดินตามคาเมะทุกฝีก้าว และท้ายสุด เขาก็จับท่อนแขนของคาเมะไว้ ก้มหน้าจนแทบจะติด
“ตกลงนะฮะ ไปคาราโอเกะกัน?” ยามะพีชวนอีกครั้ง
คาเมะมองหน้าคนชวนด้วยความรู้สึกที่อยากจะหยั่งเชิง
ความจริงไอ้หมอนี่ หน้าตาก็ไม่เลว มาจีบเขาก่อนแบบนี้น่าภูมิใจในเสน่ห์ของตัวเองพิลึกล่ะ ควงไว้ก็คงไม่เสียหลาย ดีกว่าปล่อยหัวใจให้ว่าง
“นะครับ” เสียงชักชวนเร่งเร้ามาอีก ซึ่งคราวนี้ฝ่ายถูกชวนก็ไม่ปฏิเสธ
ร่างเล็กพยักหน้าขึ้นลง เดินไปตามแรงจูงแต่โดยดี แต่ก็ยังรักษาความห่างเหินเอาไว้ในท่าที ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรของยามะพี ก็เขาสืบดูแล้วนี่นาว่า นายคาเมนาชิ คาซึยะคนนี้ ชอบไปคาราโอเกะ และร้านที่ชอบไป ยามะพีก็รู้ด้วย

......วันนี้คงจะได้รู้อะไรดีๆ มาบ้างล่ะมัง ...ไอ้จินเอ๋ย... รอก่อนนะเพื่อน ....

ยามะพีมองร่างบางที่เดินเคียงข้าง นายคาเมะคนนี้ สวยก็จริง แต่เท่าที่ได้พูดคุย ก็เห็นจริงอย่างที่จินว่า ... หยิ่ง... และเอาแต่ใจ... แต่หลอกง่ายแบบนี้เห็นทีจะไม่ค่อยฉลาดนัก

*****************************

...วันต่อมา...


จินไปโรงพยาบาลที่แม่ของจุนโนะรักษาอยู่ โรงพยาบาลเอกชนที่ค่าพยาบาลแพงเอาการ แต่ก็เป็นโรงพยาบาลที่ติดอันดับต้นๆ เขาถามถึงแม่ของจุนโนะได้ความว่า ออกไปพักฟื้นที่ในคานางาว่าแล้ว ตั้งแต่เมื่อวาน ตรงตามที่จุนโนะบอกเอาไว้ทุกอย่าง แต่ถึงกระนั้นคนไข้ก็ยังต้องเข้ามารักษาโรคไตที่ยังรักษาไม่หายขาดและต้องใช้เงินมากอยู่
จุนโนะไปเอาเงินมาจากไหนกันมากมาย หรือว่าพ่อของจุนโนะออกให้ แต่เท่าที่ยามะพีสืบดู ก็น่าสงสัยอยู่ จุนโนะกับพ่อไม่เคยญาติดีกัน แต่นั่นก็ไม่น่าเป็นปัญหานี่นา เพราะอย่างน้อยพ่อของจุนโนะก็เคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อน


....อืมมม... ไม่ใช่เรื่องแปลก.......

ยามะพีโทร. นัดเขาให้ไปหาที่บ้านเมื่อเย็นจัดแล้ว บอกว่า
“พอจะรู้เรื่องล่ะ”
“ดีมาก ยามะพี.... นายนี่เจ๋งจริงๆ”
“เอาเหอะรีบมาเถอะวะ ฉันอยากเล่าเต็มแก่แล้ว” น้ำเสียงของนักสืบตาโตดูร้อนรน จนจินต้องบึ่งมอเตอร์ไซค์ไปหา
และทันทีที่จินมา ยามะพีก็ผวาเข้าหาทันที
“ได้เรื่องแล้วแก.....กว่าจะคาดคั้นได้ เสียเงินไปเยอะเลยนะเฟ้ย...”
“เออน่า... เดี๋ยวฉันมีรางวัลให้อย่างงามเลยล่ะ ว่าแต่แกพาหมอนั่นไปไหนมา?” จินถาม ยามะพีกรอกตาแล้วก็ทำท่าเซ็งๆ
“ไปคาราโอเกะง่ะเด่ะ เอาเหล้ากรอกปาก แค่นั้นก็เรียบร้อย....”
“ได้เรื่องว่าไงมั่งง่ะ”
“ได้มาเยอะเลยเชียว...ฟังให้ดีนะ.......”

*************************

ริมลำธารใสสะอาด ริ้วคลื่นของลำน้ำกระเพื่อมตัวเพราะแรงลมเย็นที่พัดผ่าน ใบหญ้าที่รายล้อมกรอมเท้าพัดเอนลู่ไปตามลม จุนโนะทรุดตัวลงนั่งที่ริมโค้นต้นไม้ เขาเอนหลังพิงกับเปลือกไม้หนาสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาคู่สวยทอดมองสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ

..... สายน้ำไม่มีวันไหลย้อนกลับ ไหลผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ... เหมือนกับความรักที่เขาละทิ้งเอาไว้แต่หนหลัง มันก็คงเหมือนๆ กัน ไหลผ่านไปเรื่อยๆ และไม่มีหนทางที่จะให้มันไหลหวนคืน


......จิน...... ป่านนี้นายทำอะไรอยู่นะ คงจะจมกับความเศร้า หรือว่าจะมีคนรักใหม่แล้ว....


.....ไม่หรอกน่า ... พอคิดถึงว่าหากจินจะมีใครสักคนมาแทนที่เขา จุนโนะก็เจ็บปวดขึ้นมาซะแล้ว.....

“จุนโนะมาหลบอยู่ที่นี่เอง” เสียงเรียกนั้นดังมาจากทางเบื้องหลัง
“โช.....” จุนโนะฝืนยิ้มให้ เมื่อโชเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างริมสายน้ำใส เส้นผมสีดำปลิวสะบัดจนยุ่งเหยิง เขาเบือนหน้ามายิ้มให้
“คิดถึงจินเหรอ?” เสียงญาติผู้พี่ถามเบาๆ จุนโนะฝืนยิ้มแล้วก็ส่ายหน้าช้าๆ
“เปล่านี่ฮะ”
“งั้นเหรอ งั้นก็คิดถึงแม่”
“ฮะ...”
“ต้องพาคุณน้าไปหาหมออีกเมื่อไร?”
“พรุ่งนี้ฮะ”
“แล้ว....เอ้อ.....เงินล่ะ”
“คุณคาซึโอะจะโอนเงินให้ แต่ย้ายมาโรงพยาบาลแถวๆ นี้คงไม่เสียเยอะเท่าไร แล้วแม่ก็พ้นช่วงอันตรายแบบนั้นแล้วด้วย ตอนนี้ก็แค่เช็คไต ล้างไต ส่วนเรื่องลำไส้ก็ค่อยยังชั่วแล้ว ที่หนักก็เรื่องไตนี่ล่ะฮะ ตอนนี้ผมสบายใจแล้ว”
“สบายใจแล้ว ทำไมยังทำหน้าเศร้าเหมือนจะร้องไห้อยู่อีกล่ะ?”


คราวนี้จุนโนะไม่ตอบคำถามนั้น เขาเบือนหน้าไปมองสายน้ำอย่างเดิม มือสองข้างจิกแน่นที่ขากางเกงของตัวเอง
“เรื่องจินน่ะ.... ถ้าจะตัดใจก็ไม่ต้องคิดถึง ... หนทางข้างหน้านายเลือกเอง นายคิดว่าทำแบบนี้แล้วมันจะดี นายก็ไม่ควรมานั่งคร่ำครวญเสียอกเสียใจ.....”
“ครับ.......” เสียงตอบรับเอื่อยๆ ดังมาจากปากบางที่ขบเม้มจนเจ็บระบบ ดวงตาหลุบมองต้นหญ้าที่ปลายเท้า
“คิดแต่เรื่องสดใสดีกว่า อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดของนายแล้วนี่นา.... ทำวันนั้นให้ยิ่งใหญ่สำหรับนายดีกว่าจุนโนะ ทำตัวเองให้มีความสุข เมื่อผ่านพ้นวันนั้นไปแล้ว ตั้งต้นชีวิตใหม่นะจุนโนะ ลืมเรื่องเศร้าไว้ในวันเก่าๆ เหอะ” โชให้โอวาทแต่คนฟังเพียงแต่พยักหน้างึกๆ รับทราบเท่านั้น แต่จะทำให้วันเกิดมีพลังชีวิตขึ้นมาหรือเปล่า โชยังสงสัย ...สงสัยเหลือเกินว่า จุนโนะจะมีเรี่ยวแรงทำให้วันนั้นเป็นวันของเขาหรือไม่.......
“เฮ้อ..... น้องเอ๊ย...... ดูท่าทางอาการของนายจะหนักกว่าคุณน้าอีกล่ะนะ”
“พี่โช........”
“เอางี้......วันเกิดอยากได้อะไรเอ่ย?” โชถาม ญาติผู้น้องพยายามนึกถึงสิ่งที่อยากได้


....เขาไม่ต้องการอะไรนอกจาก ให้แม่หายดี และอีกอย่างก็คือ.......


...จินไง...... ความรักที่มีต่อจินมันยิ่งใหญ่นัก จนเขาเองไม่เคยคิดว่าทุกข์เพราะรักมันจะสาหัสถึงเพียงนี้


“หือ....อยากได้อะไรจุนโนะ”
“สายน้ำฮะ.... อยากให้มันหวนกลับ.....” จุนโนะเอ่ยเบาๆ ราวกับเสียงกระซิบจากสายลมพัดผ่าน สายตาทอดมองลำน้ำที่ไหวเป็นระลอกห่างไกลออกไปทุกทีๆ

*********************************

และแล้วในตอนบ่ายของวันหนึ่ง คาเมนาชิ คาซึโอะก็ได้มีโอกาสต้อนรับการมาเยือนของแขกที่ไม่ได้รับเชิญคนหนึ่ง ...
“คุณคะ นายอะกานิชิ จินขอเข้าพบค่ะ” เสียงเลขาหน้าห้องดังมาจากเครื่องอินเทอร์คอม
คาซึโอะมองหน้าคาเมะ ลูกชายที่เปิดหนังสือค้าง คิ้วของสองพ่อลูกขมวดเป็นรูปเดียวกัน
“แกนัดมันมาที่นี่เรอะ?” ผู้เป็นพ่อถาม
“เปล่านี่ฮะ....”
คาซึโอะมองหน้าลูกรักแล้วก็กรอกเสียงลงไป
“ให้เขาเข้ามา”

จินก้าวฉับๆ เข้ามาในห้องทำงานอันโอ่โถง ผนังบุด้วยไม้เนื้อแข็งขัดจนขึ้นเงา เขามองดูทั่วห้องอย่างคร่าวๆ หรูหราไม่แพ้ตัวตึกภายนอกเลย


.... รวย... หรู.... และฟุ่มเฟือย....


ความโอ่อ่าของห้องไม่ได้ทำให้จินสะทกสะท้าน เขาเลิกคิ้วนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่านอกจากคนที่ต้องการมาพบแล้ว ยังมีใครอีกคนที่มานั่งเสนอหน้าอยู่ด้วย...... คาเมะ........


......ก็ดี อยู่กันทั้งพ่อทั้งลูก.... จะได้พูดกันให้รู้เรื่องกันเสียที......


“มาทำไม?” เสียงห้วนดังขึ้นมาจากโซฟากว้าง
คาเมะนั่นเอง ร่างเล็กลุกขึ้นยืนช้าๆ เขาเดินมาใกล้พ่อ และก็กอดอกมองอดีตคนรักด้วยสายตาเหยียดๆ
“นายต้องการอะไร?” เสียงของคาซึโอะถามขึ้นบ้าง
“....ผม....” จินล้วงเอาสิ่งหนึ่งออกมา กระดาษแผ่นหนึ่งร่อนลงบนโต๊ะทำงาน แค่ปรายตามองดูก็รู้ว่า มันคือเช็คเงินสดที่พร้อมจะขึ้นเงินได้ตลอดเวลา คาซึโอะหยิบขึ้นมาดู จำนวนเงินในนั้นทำให้เขาต้องมองจินเขม็ง
“อะไรของเธอ...?”
“เงินทุกเยนที่คุณเสียไปกับการรักษาพยาบาลและค่าจ้างที่คุณให้จุนโนะทำลายหัวใจตัวเอง... ผมหามาใช้คืนแล้ว”
“นาย!!” คาเมะสะอึกกับบอกกล่าวนั้น จินยิ้มนิดๆ เขาชี้ไปที่เช็กในมือของผู้อาวุโส แล้วก็บอกว่า
“หวังว่าคงจะครบตรงกับจำนวนเงินที่คุณเสียไปนะครับ ผมใช้แทนจุนโนะ และต่อจากนี้ไป ถือว่าจุนโนะไม่ได้เป็นหนี้คุณ ไม่จำเป็นต้องทำตามที่คุณสั่ง คุณคาซึโอะ... ผมขอจ่ายเงินทั้งหมดแทนคุณเอง และหวังว่าจะไม่เหยียบย่ำความเป็นคนของลูกชายนอกสมรสของคุณอีก... อย่าลืมนะครับ คุณเป็นคนทำให้เขาเกิดมา นอกจากจะไม่รับผิดชอบแล้วยังซ้ำเติมลูกของคุณเองอีกด้วย... คุณนี่มันเลวจริงๆ!!”
“นายอะกานิชิ จิน!! นายกล้าดียังไงมาด่าฉัน ปากกล้านักนะ... ไอ้เด็กอ่อน!!”
“ผมไม่ได้ด่า ผมพูดตามความจริง คุณเลวอย่างที่ผมว่าหรือเปล่าล่ะ ถ้าคิดว่าตัวเองไม่เลว ก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อนอะไรเลยนี่”
“นายรู้เรื่องเงินที่ฉันให้จุนโนะได้อย่างไร ไอ้เด็กนั่นมันปากสว่างคาบมาบอกนายเรอะ?” คาซึโอะคาดคั้นถามจิน
เด็กหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ ก่อนที่จะหันไปทางคาเมะ
“จุนโนะไม่ได้บอกอะไรซักคำ เขารักษาสัญญาเสมอ แต่ลูกชายสุดที่รักของคุณอีกคนน่ะซิครับ... พอเหล้าเข้าปากก็เที่ยวโพทนาหมด... ลูกชายที่คุณหวังให้เขาสืบทอดกิจการ... หึๆ... แย่หน่อยนะครับ... ผมรู้เรื่องนี้มาจากคาเมะครับ ...”
“เอ๊ะ!!” คาเมะผุดลุกขึ้นทันที
“ฉันยังไม่เคยพูดเรื่องนี้กับนายเลยนะ อย่าปากพล่อยเด่ะจิน...”
“นายไม่ได้บอกฉัน แต่ฉันได้ยินนายพูดที่ร้านคาราโอเกะ นายบอกกับไอ้หนุ่มคนที่นายหิ้วไปฟังเพลงหมดเปลือกยังไง นายไม่รู้ตัวหรอกหรือ... คาเมะ... นายนี่มันเลวพอๆ กับพ่อของนายนั่นแหล่ะ ฉันดีใจจริงๆ ที่หลุดพ้นจากการเป็นคนรักของนายมาได้” จินว่าเข้านั่น ... นี่ถ้าเขาไปได้ยินว่าคาเมะพูดอะไรตอนเมาจริงๆ ล่ะก็ คงกระโดดชกปากบางนั่นแล้วล่ะ
“นายได้ยินได้อย่างไรกัน? ก็ฉัน..... เอ้อ.....”


จินโบกมือตั้งแต่คาเมะเริ่มอ้าปาก เขาพูดโมเมตามคำบอกเล่าของยามะพีว่า
“ฉันเห็นนายเดินควงกับเจ้าหนุ่มตาโตนั่น ก็ลองตามไป และก็ได้ผล ได้รู้อะไรดีๆ เสียด้วยซิ ขอบใจนะคาเมะที่ทำให้ตาสว่าง รู้เห็นความเป็นไปทั้งหมด และได้รู้อีกว่า จุนโนะน่ะกตัญญูแค่ไหน สิ่งที่นายต้องการ คือความเจ็บปวดของฉัน ฉันขอคืนให้กับนายด้วยล่ะกัน เพราะต่อจากนี้ไป ฉันจะไม่มีวันเจ็บปวดอีกแล้ว” จินพูดพร้อมกับสูดลมหายใจเมื่อจบประโยค สีหน้ายิ้มอย่างสุขใจนั้นทำให้คนฟังต้องกัดปาก เมินหน้าไปทางอื่น
คาเมะโทษตัวเองที่ได้เผลอไปกินเหล้าเคล้าเสียงเพลงกับเจ้าหนุ่มที่ชื่อยามะพี ไม่รู้ตัวหลอกว่าได้พูดคุยอะไรกับฝ่ายนั้นไปบ้าง ความโอ้อวดตัวเองของเขาอย่างไรซะก็ยังแก้ไม่ได้


....เขามองไปทางบิดาที่ยืนนิ่ง หน้าบึ้งอยู่ไม่ห่าง พ่อคงรู้สึกเสียหน้า เพราะเขาคนเดียวจริงๆ ที่คายเรื่องราวทั้งหมดออกมา ไม่คิดจริงๆ ว่าจินจะแอบไปรู้ไปเห็นด้วย เขานี่มันโง่จริงๆ

“เก็บเช็คไปซิครับ จุนโนะจะได้เป็นอิสระ และส่วนค่าพยาบาลที่เหลือนับแต่นี้ต่อไป ผมจะช่วยจุนโนะเอง คงไม่ต้องสงสัยหรอกนะฮะว่าผมจะไปเอาเงินมาจากไหน......” จินว่าแล้วก็โค้งตัวให้อย่างงดงาม ก่อนจะไปก็ยังมองหน้าคาเมะอย่างเยาะๆ ไปด้วย หน้าขาวซีดของอดีตคนรักเผือดลง ไม่รู้ว่าพอเขากลับออกไป คาเมะจะโดนบิดาเล่นงานแค่ไหน ... จินไม่สนใจหรอก... มันไม่ใช่เรื่องของเขาที่จะรับรู้ สิ่งที่เขาต้องการจะรู้ก็คือว่า ....

ในตอนนี้จุนโนะมีสภาพเป็นอย่างไรบ้างเท่านั้นเอง......

******************************

จินเดินกลับมายังชั้นล่าง ณ. ลานจอดรถข้างตึก เขาเปิดประตูหลังของรถหรูหราสีขาวสะอาด ก้าวเข้าไปนั่งอย่างสง่าผ่าเผย คนในรถที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว ขยับตัว เอื้อมมือมาแตะที่บ่าของจิน
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
“ครับพ่อ...”
“อย่าลืมสัญญาล่ะ ... กลับไปอยู่บ้านอย่างเดิม ย้ายออกจากอพาร์ตเมนต์นั้นซะ พ่อจะขาย ไม่ให้จินอยู่แล้วล่ะ” คนพูดมองหน้าคนเป็นลูกชายที่นั่งเม้มปาก น้ำตาคลอ ท่าทางอาลัยอาวรณ์ต่ออพาร์ตเมนต์นั่นเหลือเกิน
“อยากรู้จังว่า เด็กหนุ่มคนนั้นมันมีดีอะไรถึงทำให้ลูกต้องกลืนคำพูดของตัวเอง ยอมกลับเข้าบ้าน”
“เพราะผมรักเขาไงครับพ่อ ... ความรักทำให้เราทำได้ทุกอย่าง ไม่มีเหตุผล ถ้าพ่อได้รู้จักเขาแล้ว พ่อจะชอบจุนโนะสุเกะ เขาน่ารักนะฮะพ่อ น่ารักมาก....” ดวงตาดำคมของจินปิดลงอย่างดื่มด่ำ ขณะเอ่ยถ้อยคำเหล่านั้นออกมา คุณอะกานิชิ ถอนหายใจ เห็นทีจะต้องศึกษาในตัวลูกชายคนนี้ใหม่ซะแล้วละมัง


ความหยิ่งยะโสที่ไม่ยอมลงให้ใครของจิน ทำให้เขาต้องย้ายตัวเองออกมาจากบ้านอันใหญ่โต ธุรกิจของพ่อเป็นสิ่งที่จินไม่ชอบ เขาตั้งเป้าหมายว่าจะสอบเข้าเรียนมหา’ ลัยศิลปะให้ได้ และนั่นก็ทำให้เขามีปากเสียงกับผู้เป็นพ่อจนต้องออกมาอยู่ตามลำพังในอพาร์ตเมนต์ที่แม่ซื้อเอาไว้แห่งหนึ่ง เงินค่าเล่าเรียนก็นำมาจากเงินในบัญชีที่แม่แอบใส่ไว้ให้ แต่ถ้านอกเหนือจากนั้นจินก็จะทำงานพิเศษหลังเลิกเรียน ซึ่งก็เป็นที่เดียวกับที่จุนโนะเคยทำอยู่จนถึงวันเกิดเรื่อง

เงินที่จินอยากได้ เอาไว้ต่อรองกับนายคาเมนาชิ คาซึโอะนั้น มันมากมายมหาศาลเกินกว่าที่เขาจะหาได้ มีอยู่ทางเดียวก็คือพึ่งทางพ่อ ยอมละทิฐิทั้งหมดเพื่อให้ได้มา แต่ก็ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อคนคนหนึ่งต่างหาก คนที่เป็นยอดดวงใจ....


“แล้วเรื่องเรียนล่ะจะเอายังไง ศิลปะนั่นน่ะถ้าจะเรียนเป็นอาชีพพ่อไม่เอานะ ไม่ยอม อะกานิชิ ต้องเป็นนักธุรกิจเข้าใจมั้ย?”
“เข้าใจฮะ” คราวนี้เขาตอบอย่างไม่เกี่ยงงอน แต่เสียงนั้นก็แผ่วจนแทบไม่ได้ยิน รวมทั้งสีหน้าสีตาที่ละเหี่ยใจนั่นก็อีก ทำให้ผู้สูงวัยกว่าลูบเส้นผมของเขาอย่างเห็นใจ
“แต่ถ้าจินจะเรียนเกี่ยวกับศิลป์นอกเวลาก็ได้ พ่ออนุญาต ไม่จำเป็นต้องบรรจุไว้ในหลักสูตร เดี๋ยวนี้มีโรงเรียนสอนศิลปะเอกชนอยู่เยอะแยะ ถ้าจินอยากเรียนพ่อจะจัดการให้ แต่ขออย่างเดียว ต้องเรียนทางด้านบริหารเป็นหลัก ตกลงมั้ย?”
“จริงหรือฮะพ่อ!!” จินทำตาโต หันมาจับมือพ่อมากุมไว้ ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างดีใจ บทพ่อจะพูดง่ายก็ง่ายสุดๆ ความจริงเขาก็ลืมนึกถึงข้อนี้ไป เรื่องศิลป์น่ะเรียนที่ไหนก็ย่อมได้
“ขอบคุณฮะพ่อ....” จินระล่ำระลักบอก
“อืองั้นก็ดี แล้วต่อจากนี้ล่ะจะเอายังไง?”
“ผมอยากไปหาจุนโนะฮะ... จะบอกเขาว่า ผมกับพ่อยินดีจ่ายค่ารักษาแม่ของเขาต่อไปให้ เอาให้หายขาดไปเลย มีเงินเท่าไรก็ทุ่มไม่อั้น...”
“อือ....ก็ดีนะ ไม่รู้ว่ามันกลายเป็นเงินใครกันแน่เนี่ย... เฮ้อ...ลูกชายฉัน... เอ...... ชักอยากจะเห็นหน้าพ่อหนุ่มหน้าหวานของลูกคนนี้แล้วล่ะซิ พามาให้พ่อดูตัวซะทีเป็นไง” พ่อพูดจริงๆ เล่นเอาลูกชายหน้าเหวอ ....
“พามาให้พ่อรู้จักหน่อยนะ” คุณอะกานิชิย้ำ จินก็เลยได้แต่พยักหน้า
“ได้เลยฮะ แต่ขอไปปรับความเข้าใจกับจุนโนะก่อน... พ่อต้องชอบจุนโนะแน่นอน...ทีนี้ล่ะลูกชายของพ่อจะยอมทำตามใจพ่อทุกอย่างถ้าพ่อให้ผมพาจุนโนะไปอยู่ที่บ้านด้วย”
“อ้าว ไอ้จิน เอาแล้วมั้ยล่ะแก.... เอางั้นเลยเรอะ?”
“ฮะ... ถ้าเขายอมให้ผมช่วย.....”
“ถ้าฉันไม่ยอมแกก็คงหนีออกจากบ้านอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย?” พ่อดักคอ คุณลูกก็เลยทำคอย่น หัวเราะแห้งๆ
“.........แหะ...แหะ....” จินยิ้มให้กับความรู้ทันของพ่อ เขาชะโงกบอกคนขับรถให้เลี้ยวรถไปอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง เก็บข้าวของย้ายกลับบ้าน แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอาของบางส่วนของจุนโนะไปด้วย .... เหมือนกับเป็นการบอกใบ้ให้ใจตัวเองรู้ว่า เขาต้องเอาจุนโนะกลับคืนมาให้ได้.......และกลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง...

**************************

to be con

กดเม้นต์ที่นี่ก็ได้จ้า