The Rainbow LOVER

 

vol8

***************************

เมื่อบ่ายจัดของเย็นวันนั้น ทั้งสองมาหยุดอยู่ข้างสะพานเรนโบว์

ณ อ่าวโตเกียว ฝนขาดเม็ดแล้ว และมีแสงอาทิตย์เจิดจ้าตรงตามที่จุนโนะคาดเอาไว้ทุกอย่างเลย ร่างสูงมองไปบนท้องฟ้า เห็นสายรุ้งพาดผ่านขอบฟ้าชัดเจน และเป็นครั้งแรกที่คาเมะเองก็เห็นว่า เรนโบว์บริดจ์ยามนี้สดสวยมากกว่ายามค่ำคืนมากมายนัก
“เห็นมั้ยว่ามันสวย” จุนโนะพูดเหมือนรำพึงกับตัวเอง แสงแดดงามระยับจับต้องร่างโปร่งของจุนโนะ เหมือนมีรังสีออร่ากระจายออกมา เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนพลิ้วไปตามสายลม กลมกลืนไปกับละอองของสายรุ้ง
จุนโนะดูเท่เหลือร้ายในสายตาของใครบางคน จนคนนั้นต้องมองหน้าหล่อเหลาอย่างเผลอไผล แต่พอเริ่มรู้สึกตัว คาเมะจึงต้องเฉไฉคำออกมาว่า
“ไหนว่าไม่ค่อยชอบสายรุ้งไง ทีงี้ล่ะแจ้นมาดูเชียว”
“ฉันก็ไม่ได้ชอบนักหนาหรอก แต่กำลังมองหาหม้อทองอยู่ ..นี่ คาเมะนายช่วยไปยืนตรงนั้นหน่อยได้มั้ย?” จุนโนะชี้ไปที่อีกฝั่งตรงกันข้ามของสะพาน ที่เป็นส่วนริมโค้งของเส้นรุ้งตก นี่ถ้าคาเมะไปยืนก็จะเหมือนกับว่าได้ไปยืนตรงกับสุดปลายสายรุ้งพอดี....
“จะบ้าเรอะ...ฉันไม่อยากถูกรถชนตาย ข้ามไปข้ามมาเดี๋ยวรถมันเสยฉันจะว่าไง”
“นายจะปฏิเสธเรอะ?” จุนโนะเดินสามขุมเข้ามาใกล้ พอมาถึงก็เห็นคาเมะเงื้อหมัดรออยู่ก่อนแล้ว
“ก็เอาเด่ะ ฉันไม่ข้ามถนนไปเด็ดขาด นายจะถลกก้นฉันตีตรงนี้ก็เข้ามาเด่ะ”
“ร้ายจริงเชียว” จุนโนะบ่น แล้วก็หันหลังให้ร่างเล็ก เขาสนใจมองสายรุ้งมากกว่า

จุนโนะหยิบกล้องถ่ายรูปเล็กๆ ออกมาจากอกเสื้อ แล้วก็กดถ่ายรูปสายรุ้งเอาไว้ แถมยังหันมุมกล้องมาทางคาเมะอีก กดแชะไปที่ร่างเล็กอีกสองสามรูป
“จะกลับได้หรือยัง ฉันง่วงแล้วนะ” คาเมะบ่นต่อ
“อะไรยังไม่ทันเย็นเลย จะชวนนอนแล้วหรือไง?”
“ฉันบอกว่าฉันง่วงนอน ไม่ได้บอกว่าจะนอนกับนายซะหน่อย” ร่างเล็กแก้มร้อนผ่าว เมื่อเห็นประกายตาขบขันจากจุนโนะ
“กลับก็ได้...เอาไว้ว่างๆ จะพาไปเที่ยวไกลๆ แถวน้ำตกน่ะมีสายรุ้งเยอะหน่อย”
“บ้าชะมัดเลย สายรุ้งอีกแล้ว...” คาเมะบ่นขณะเดินนำไปที่รถ พอใกล้จะถึง ไหล่ข้างหนึ่งก็ถูกรั้งเอาไว้
“นี่....คาเมะ...” เสียงจุนโนะดังขึ้นใกล้ตัว
“อะไร?” คาเมะแหงะหน้ามามอง ร่างสูงโปร่งของจุนโนะยืนอยู่ตรงหน้า สีหน้าเรียบเฉยแต่ทว่าหล่อเหลา อาจจะหน้าตาดีกว่าทุกคนที่คาเมะเคยเห็นเลยด้วยซ้ำ...
“คืนนี้ฉันนัดกับยูกิเอะเอาไว้ คงจะไม่กลับมานอนกับนายนะ”
“ว่าไงนะ?” คาเมะทำตาโต อ้าปากค้าง
“ฉันบอกว่านัดกับน้องนายไว้ที่คลับบิลเลียด จะอยู่เล่นกันจนดึก อาจจะนอนค้างแถวนั้น นายต้องนอนคนเดียวนะ ฉันให้นายฟรีคืนหนึ่ง”
“หมายความว่านายจะเอาน้องฉันไปนอนด้วยงั้นซิ” คาเมะถามเอาตรงๆ
“ก็ไม่แปลกอะไรนี่นะ” จุนโนะตอบกวนประสาทจนคาเมะต้องหรี่ตามองแบบพร้อมจะมีเรื่อง
“ทำไมต้องกระเตงน้องฉันไปที่คลับเส็งเคร็งนั่นด้วย”
“คลับบิลเลียด” จุนโนะแก้คำพูดของคาเมะ
“เออ...นั่นล่ะ ที่นั่นน่ะมันซกมกมากเลย เด็กสาวๆ ไม่ควรไปยุ่งแถวนั้น หรือจะพูดอีกอย่างก็คือว่า น้องฉันไม่ควรไปเกลือกกลั้วกับคนอย่างนาย จุนโนะสุเกะ”
“ทำไม? คนอย่างฉันเป็นไง?” จุนโนะถาม หน้าเริ่มแดง แต่เป็นเพราะเริ่มจะโกรธที่ถูกคาเมะประเมินเขาต่ำขนาดนั้น แต่คาเมะคงยังไม่รู้ตัว ยังพูดต่อไปอีก
“คนอย่างนายก็ไอ้พวกเลวไง...อันธพาล เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น ยูกิเอะน่ะตาต่ำจริงๆ ที่ไปควงกับนาย”
“คาเมนาชิ!!”
“ฉันจะไม่ยอมให้น้องฉันไปไหนมาไหนกับคนอย่างนายอีกแล้ว”
“นี่จะบอกให้นะ.....ฉันพบกับน้องของนายครั้งแรกก็ที่นั่น น้องนายไปเที่ยวกับแฟนคนหนึ่ง และฉันก็ซิวเธอมาจนได้.... อย่างงี้จะเรียกว่าฉันฉุดน้องนายให้ต่ำได้มั้ย?”
“ฉันไม่เชื่อหรอก น้องของฉันถึงจะแก่นแก้วแค่ไหน ก็คงไม่กล้าไปในที่แบบนั้นหรอก”
“ไม่กล้างั้นเรอะ?” จุนโนะตะคอกถาม ยืนค้ำหัวคาเมะและหลุบตาลงต่ำ เห็นปากของคาเมะเผยอออกแบบพร้อมจะเถียงต่อก็นึกหมั่นไส้ขึ้นมา

......เจ้าหมอนี่จะดูถูกกันมากเกินไปแล้วนะ........

จุนโนะคว้าคอเสื้อของคาเมะเอาไว้ แล้วก็ดึงทั้งคนทั้งเสื้อขึ้นมาใกล้ๆ

“นายน่ะยังรู้จักน้องสาวของนายน้อยเกินไป ...ถามจริงๆ เหอะ วันๆ เคยคิดสนใจน้องบ้างมั้ยว่า เลิกเรียนแล้วเจ้าหล่อนไปไหน ไปทำอะไร กับใคร เคยตามน้องไปดูมั้ยว่าเธอควงผู้ชายไปไหนยามค่ำคืน และไปกับใครบ้าง ...อย่าเที่ยวคอยแต่จะส่องความผิดของฉันฝ่ายเดียวเด่ะ ฉันไม่ชอบนะโว้ย!!”
“ก็ฉันเห็นแต่นายที่ตามมาส่งน้องของฉันเกือบทุกคืนนี่หว่า” คาเมะเริ่มเสียงอ่อยเมื่อเห็นจุนโนะคงไม่ปล่อยเขาแน่ ร่างบางดิ้นกระแด่วอยู่ในอุ้งมือของจุนโนะ เท้าแทบจะลอยจากพื้นอยู่แล้ว เพราะอีกฝ่ายยังรั้งคอเสื้อของเขาอยู่
“คาเมะ นายเห็นฉันมาส่งน้องนาย......ใช่.....ฉันมาส่ง แล้วไง? ไอ้หนุ่มคนอื่นมันเคยส่งยูกิเอะถึงหน้าบ้านหรือเปล่า มันเคยมาให้พี่ชายเธอสับเอาสับเอาแบบฉันหรือเปล่า.....อย่างดีก็ส่งแค่หน้าปากซอย แล้วปล่อยให้เธอเดินกลับคนเดียวท่ามกลางความมืดในซอยเปลี่ยว.....นี่ฉันถามจริงๆ เหอะ ที่นายอยากรู้เรื่องของฉันกับน้องนายน่ะ มันลึกซึ้งกว่านี้ใช่มั้ย?” จุนโนะเขย่าคอเสื้อของคาเมะเร่าๆ
“ปละ...ปล่อยเด่ะ...ฉัน...แค่...” คาเมะร้องเสียงหลง
จุนโนะจึงปล่อยคอเสื้อ ปลายเท้าของคาเมะจึงสัมผัสพื้นได้อย่างเต็มที่ เขามองร่างสูงนั้นด้วยดวงตาที่ขุ่นเคือง

.........หนอยแน่ะ........

จะมากไปแล้วนะ...

เอาน้องเค้าไปควง ไปคลับอบายมุขนั่น แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าตัวเองไม่ผิดอีก อยากรู้จริงๆ ว่า นอกจากนี้แล้ว จุนโนะจะพายูกิเอะไปหาความสุขกันที่ไหนอีกหรือเปล่า

“หน้าตาอยากรู้มากเลยนะ อยากจะถามอะไรก็ถามมา” ร่างสูงเปิดโอกาสให้ถาม เมื่อเห็นคาเมะยังมองเขาแน่วแน่

จุนโนะเปิดโอกาสมาแบบนี้ ทำให้คาเมะนึกอยากจะถามออกมาตรงๆ ตามปัญหาที่ค้างคาใจมานานแล้วว่า

...ยูกิเอะเคยเสียตัวให้จุนโนะหรือเปล่า....

แต่ว่าหน้าตาของคาเมะคงจะถูกอีกฝ่ายมองออก จุนโนะจึงถอนหายใจ แล้วบอกว่า
“ฉันเคยนอนกับน้องสาวนาย”
“เอ๊ะ!” คาเมะก้าวถอยหลังห่างออกมา ขณะตะลึงมองคนพูด

....เขาไม่ได้ถามนี่นะ จุนโนะรู้ได้ไงว่าเขาอยากจะถามคำถามนี้ใจแทบขาด....

“นายนี่ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย ผู้หญิงที่นายกำลังพูดถึงนั่นน่ะ น้องสาวของฉันนะ”
“ก็นายอยากรู้ไม่ใช่หรือไง?”
“ฉันอยากรู้?...ใช่...แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้ถามนี่หว่า นายมาบอกทำไม?” คาเมะตะโกน มือกำหมัดแน่น อยากจะซัดหน้าหล่อจอมยียวนนั่นเหลือเกิน แต่ประโยคต่อไปนี่ซิ ทำให้เขาอยากมีหมัดที่ใหญ่โตมากขึ้นกว่าเดิมจริงๆ เมื่อจุนโนะบอกอีกว่า
“แต่น้องสาวนาย ไม่ได้นอนกับฉันคนเดียว”
“จุนโนะสุเกะ!!” คาเมะชักจะเหลืออด ตอนนี้หน้าของเขาคงจะแดงแป๊ดไปแล้วล่ะ แต่แดงไม่ใช่เพราะอาย แต่เพราะว่ากำลังโกรธจัดต่างหากล่ะ
“ไอ้กล่องถุงยางที่นายเห็นเหลืออยู่ครึ่งน่ะ ยูกิเอะเป็นคนเอามาโยนใส่หน้าฉัน เธอบอกว่าให้ฉันเก็บที่เหลือเอาไว้ เพราะแฟนอีกคนของเธอเอาไปส่วนหนึ่ง แล้ว........”

........พลั่ก..........

หมัดของคาเมะชกเข้าที่ใบหน้าของจุนโนะพอดี ร่างเล็กผวาเข้าหาจุนโนะทั้งตัว ถึงหมัดจะไม่หนัก แต่ก็ส่งให้จุนโนะผงะและเสียหลัก คาเมะจึงคว้าไหล่ของร่างสูงเอาไว้ และตีเข่าเข้าที่ช่องท้องของจุนโนะเต็มๆ เล่นเอาตัวงอเป็นกุ้ง
“ไอ้เลว!!” คาเมะตะโกนออกมา กำปั้นถูกยกสูงขึ้น คราวนี้หมายจะกระแทกปากที่พ่นวาจาดูถูกน้องของเขาอีกหลายหมัด แต่จุนโนะตั้งตัวได้แล้ว เขาจับข้อมือของคาเมะเอาไว้ทัน บิดทีเดียว คาเมะก็ร้องลั่น ลำตัวงอเพราะเจ็บข้อมือ
จุนโนะฉวยเอวของคนตัวเล็กกว่า แล้วยังจับข้อมือสองข้างของคาเมะเอาไว้ด้วยมือเดียวได้อีกต่างหาก
“นายมาต่อยฉันทำไม ในเมื่อฉันตอบคำถามที่นายอยากจะถามจนตัวสั่นแล้วนี่นะ หรือว่าคำตอบของฉันไม่เป็นที่พอใจของนาย ...นายกำลังอิจฉาน้องของนายใช่มั้ย ที่เขาได้เข้ามาใกล้ชิดพัวพันกับฉันก่อนนาย... นายอยากเข้ามาแทนที่น้องของนายใช่หรือเปล่า...หือ...คาเมะ...”

.......พลั่ก......

คราวนี้จุนโนะตัวงอจริงๆ เมื่อโดนคาเมะเตะท้อง เขาจุกแต่ก็ยังจับข้อมือของคาเมะเอาไว้ ลากร่างบางเข้ามาจนชิดลำตัว กอดเอาไว้ทั้งตัว ทั้งแน่นและแถมยังกดปลายคางกับซอกไหล่ของคาเมะเพื่อให้ร่างนั้นหยุดดิ้น
“ปล่อยนะโว้ย...” คาเมะตะโกนออกมา
“ไม่ปล่อย ...บอกก่อนว่า นายกำลังเริ่มตกหลุมรักฉันแล้วน่ะ” เสียงกระซิบของจุนโนะแหบพร่าอยู่ริมหู
คาเมะสะบัดตัวเร่าๆ แต่ก็ไร้ผล เขาได้ร้องออกมาอย่างอัดอั้น
“ไม่....ฉันเกลียดนาย...ไอ้คนวิปริต...เกลียด...!!”
“ไม่จริง นายไม่ได้เกลียดฉันหรอก นายกำลังจะรักฉัน หรือรักไปแล้วด้วยซ้ำ”
“เฮอะ... โคตรหลงตัวเองเลย”
“บอกความจริงมาซิ ที่ทำเป็นห่วงน้องอย่างงั้นอย่างงี้ ก็เป็นเพราะอิจฉาน้องสาวตัวเองใช่มั้ยล่ะ?”
“โธ่เว้ย...ไม่จริงว้อย!!”

..................พลั่ก........พลั่ก......

คาเมะเสยหมัดเข้าที่ปลายคางของจุนโนะสองครั้งด้วยหมัดคนละข้าง จุนโนะซึ่งไม่ทันระวังตัวถึงกับปล่อยร่างของคาเมะทันที แหวนที่คาเมะใส่คงจะเกี่ยวที่มุมปากของเขาจนเลือดออก แสบๆ คันๆ ชะมัด
คนทำรีบถอยหลังฉากหลบเมื่อเห็นเลือดสดๆ ไหลย้อยออกมาจากปากของจุนโนะ คาเมะเห็นร่างสูงเช็ดเลือดออกด้วยหลังมือ จากนั้นเขาต้องกลืนน้ำลายดังเอื๊อกเมื่อจุนโนะก้มมองหลังมือตัวเองแล้วหันขวับมามองคนทำร้ายเขาทันที

“เอ้อ........ฉัน.....ฉันไม่ได้ตั้งใจ” คาเมะโบกมือให้ว่อน เหลียวหน้าเหลียวหลังหาทางหนีทีไล่ หน้าถอดสีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายถ้าจะเอาจริง
แต่จุนโนะเพียงแต่ก้าวตามมาสองสามก้าว แล้วทำให้ผวาโดยการฉวยข้อมือคาเมะเอาไว้
“จะพาไปส่งที่คอนโดฯ ง่วงไม่ใช่เรอะ”
คาเมะก้าวขาตามแทบไม่ทันเมื่อจุนโนะจู่ๆ ก็รีบร้อนจะกลับเหลือเกิน .....นึกว่าจะตามมาขย้ำเขาเสียอีก
......หมอนี่....ดูไม่ออกเลยจริงๆ แฮะ......

ในขณะที่จุนโนะส่งหมวกกันน็อคให้คาเมะ เลือดยังไหลอยู่ที่มุมปากข้างหนึ่ง เขาไม่สนใจสักเท่าไร แค่หมัดเล็กๆ เหมือนแมวข่วน แต่มันเจ็บใจต่างหากล่ะ นี่ถ้าเป็นคนอื่น เขาคงจะซัดตอบเข้าให้แล้ว แต่นี่........

แต่กระนั้นเขาก็ยังอดใจแปลบปลาบไม่ได้ ที่คาเมะมองเขาในแง่ไม่ดีตลอด......เขาไม่ดีตรงไหนกัน....

.......คอยดูเหอะ.....จะทำให้เจ้าเต่าน้อยแสนเฮี้ยวคนนี้มาสยบ และหลงรักเขาให้ได้.......

ขอเอาพ่อเป็นตัวอย่างสักหน่อยเหอะ....มันทนไม่ไหวแล้ว...

นี่เป็นครั้งแรกที่จุนโนะเกิดนึกเห็นใจพ่อของตัวเองขึ้นมากระทันหัน......

.......สงสัยจะเจริญรอยตามพ่อก็เพราะเจ้าเต่าคนนี้ละมัง.......

****************************

แสงไฟยามราตรีที่เห็นจากภายนอกอาคารเริ่มติดไฟหลากสีสัน มองออกไปจากบนตึกสูงแบบนี้ ทำให้เห็นท้องถนนและร้านรวงข้างล่างดูสวยงามมากกว่ายามกลางวันหลายเท่านัก ร่างเล็กยืนพิงหน้าต่างทรงสูงพลางทอดถอนใจ เขามาค้างที่ห้องนี้กี่วันแล้วนะ

....สามวันแล้วซิ.......

นอนกับจุนโนะสองคืน แต่วันนี้ต้องนอนคนเดียว .....ห้องก็ไม่ใช่ห้องของเขา แถมยังโดนขังเอาไว้อีก อยู่ตามลำพังกับทีวีที่เปิดทิ้งไว้เป็นเพื่อน ....มันช่างเงียบเหงา วังเวงจริงๆ

คาเมะยกมือถือขึ้นดู เขาปิดมันเอาไว้ทั้งวัน เพราะกลัวพ่อ แม่และยูกิเอะจะโทรฯ หา แต่ว่ามันเหงานี่นะ

.........

ถ้อยคำที่จุนโนะกล่าวหา หวนคืนมาให้คิดอีก

หมอนั่นบังอาจมาหาว่าเขาหลงรัก....จะบ้าหรือไง.....เกลียดจะแย่อยู่แล้วต่างหากล่ะ.....
เขาจะรักเจ้าหมอนั่นได้ไง.....เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด......

ว่าแต่......จุนโนะทำไมถึงมองเขาในแง่นั้น หรือว่าปฏิกิริยาอะไรในตัวเขาที่ทำให้เขาแสดงออกมา ...ยูอิจิเองก็พูดแบบนี้เหมือนกัน......ทำไมง่ะ.......ไม่นะ......เขาต้องไม่รักจุนโนะ......ไม่เอาง่ะ.....

ร่างเล็กยกมือปิดหูส่ายหน้าแรงๆ พยายามไล่ความคิดเรื่องจุนโนะออกไปจากสมอง เขาเดินซังกะตายไปในห้องนอน ล้มตัวลงนอนคุดคู้อยู่เดียวดายในห้องกว้าง
“คืนนี้จะหลับมั้ยเนี่ย......บ้านคนอื่นแบบนี้ มันกลัวนะเว้ย...ไอ้บ้า...ทิ้งฉันไว้คนเดียวได้ไงกัน”

***********************

ท่ามกลางห้องอันอบอวลด้วยควันบุหรี่ เสียงลูกบิลเลียดกระทบหัวไม้คิวและหล่นลงรู และเสียงหัวเราะเฮฮาของบรรดาสมาชิกที่กำลังแทงบิลเลียดอย่างเมามัน กระนั้นก็ไม่ทำให้ร่างสูงของจุนโนะจะขยับกายมาเล่นเกมที่เขาชอบแต่อย่างใด
ชายหนุ่มได้แต่นั่งมองเพื่อนร่วมก๊วนเล่นกันอย่างสนุกสนาน นานๆ ครั้งถึงจะชายตามองสาวน้อยในชุดเสื้อยืดคอตลบกับกางเกงเอวต่ำที่เผยให้เห็นช่วงเอวขาวและบริเวณที่ต่ำกว่าสะโพกยั่วยวนตา ยามที่เจ้าตัวก้มลงแทงไม้คิว จุนโนะอมยิ้มกับตัวเอง......นึกไปถึงคำพูดของคาเมะ......

<<<<.......ฉันไม่เชื่อหรอก น้องของฉันถึงจะแก่นแก้วแค่ไหน ก็คงไม่กล้าไปในที่แบบนั้นหรอก.....>>>>

นี่ไงล่ะ....ยูกิเอะ......เด็กสาวที่ตอนนี้ทำให้จุนโนะเชื่อแล้วว่า ต่างกับพี่ชายอย่างลิบลับ....
ยูกิเอะผู้ไม่เคยแคร์สายตาของผู้ชายคนไหน .....และวันนี้เธอคนนี้ก็กำลังยิ้มแย้มกับผู้ชายคนอื่น ที่เคยเป็นอดีตคู่ควง โดยที่จุนโนะเองก็นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ด้วย
....อยากให้คาเมะมาเห็นน้องสาวสุดที่รักจริงๆ สาวเปรี้ยว และจอมเซ็กซี่คนนี้ จะทำให้พี่ชายช็อคไปแค่ไหนก็ไม่รู้ได้......

“จุนโนะ..ะ...ะ ยูกิเอะกำลังเสียแต้มให้กับโทมะคุงล่ะ แย่ชะมัดเลย...จุนโนะไม่เล่นล่ะจ๊ะ มานั่งทำอะไรอีก หรือว่าเจ็บแผล” สาวน้อยแตะปลายนิ้วที่มุมปากของเขา ทำให้จุนโนะรีบเบนหน้าหนีเพราะความเจ็บ
“เดี๋ยวค่อยเล่น..ดูเธอเล่นก็เพลินดี มิเสียแรงสอน เล่นเก่งใช้ได้” เขาสอดแขนรอบเอวบาง ปลายนิ้วแตะอ้อยอิ่งที่ผิวเนื้อที่พ้นร่มผ้า กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ โชยมาแตะจมูก....ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะซุกหน้าซุกตากับซอกคอของเจ้าหล่อน แล้วสูดดมความหอมหวานนี้ไปแล้วล่ะ

แต่ยามนี้......ทำไมเขากลับคิดไปถึงกลิ่นสบู่และยาสระผมจากคนอีกคนหนึ่งได้นะ......

“ยูกิเอะ...กับผู้ชายคนนั้นน่ะ ดูสนิทกันเกินไปนะ” จุนโนะบุ้ยหน้าไปที่โทมะคุง ที่กำลังแทงลูกอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ
“โทมะคุงง่ะเหรอ? ก็แค่แฟนเก่าฉัน จุนโนะหึงด้วยเหรอ?”
“เปล่า....”
“แหม....ไม่หึง....ชริ......คิดถึงใครอยู่เอ่ย....อย่าบอกนะว่าคิดถึงสาวคนอื่น จะข่วนให้เลือดซิบจริงๆ ด้วย ...แล้วนี่....นี่... แผลนี้ท่านได้แต่ใดมา” เธอชี้ไปที่มุมปากของเขาแต่คราวนี้ไม่ให้โดนแผลที่เจ็บ เพราะจุนโนะทำหน้าเฉยจนเธอไม่กล้า
“นึกว่าจะไม่ถามเสียอีก”
“ไปโดนอะไรมาคะ?”
“โดนชก....มีเรื่องกับนักเลงข้างคอนโดฯ”
“ฮู้....ใครกันแน่นักเลงง่ะ จุนโนะล่ะซิ ไปหาเรื่องเขาก่อน” ยูกิเอะแซว เธอหัวเราะเสียงใส ชินเสียแล้วที่เห็นบาดแผลบนตัวของจุนโนะ ...
“ใช่ ฉันไปหาเรื่องเขาก่อน....”
“จุนโนะเนี่ยล่ะน้า.......นี่ถ้าพี่ชายฉันรู้ง่ะนะว่าแฟนฉันชอบไปชกต่อยกับใครเขาก่อนแบบนี้ มีหวังให้ฉันเลิกคบกับจุนโนะแน่เลย”
ยูกิเอะพูดไปเรื่อยเปื่อย แต่คนที่เธอเอ่ยถึงนั้น ทำให้คนฟังต้องหันไปลอบยิ้มทางอื่น นี่ถ้าเด็กสาวคนนี้รู้ความจริงว่าใครเป็นคนชกเขาล่ะก็ ....จะทำหน้าแบบใดนะ...

จุนโนะปล่อยแขนที่โอบกอดเอวของยูกิเอะ หันมาคว้าไม้คิวของตัวเองได้ก็ลุกอย่างเกียจคร้านไปสู่โต๊ะบิลเลียด ปล่อยให้ยูกิเอะนั่งไขว่ห้าง เอนหลังพิงพนักมองเขาเล่นอยู่ตามลำพัง
เล่นไปได้สักพัก จุนโนะก็เห็นว่ายูกิเอะไม่ได้นั่งคนเดียวอีกต่อไปแล้ว เพราะข้างกายของเธอนั้นมีหนุ่มน้อย อิคุตะ โทมะนั่งตัวติดกัน และก็กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน
จุนโนะเริ่มหงุดหงิด...ไม่ได้หึง ไม่ได้หวง แต่ว่ามันเหมือนกับถูกเตะหน้าอย่างไรก็ไม่รู้ วันนี้ยูกิเอะมากับเขา เป็นผู้หญิงของเขา แต่ก็ถูกเจ้าแฟนเก่าที่สาวเจ้าบอกว่าเลิกราไปนานแล้ว มานั่งก้อร่อก้อติก...แบบนี้มันเสียเชิงชายมากกว่า
“นี่.....นาย.....” จุนโนะยกไม้คิวชี้หน้าโทมะ พอรายนั้นเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก เขาก็แกว่งปลายไม้ไปรอบๆ ใบหน้าของโทมะ
“มาแข่งกันสักรอบเป็นไง”
“เอ้อ.....ผมน่ะ....ไม่ค่อยเก่งนะครับ” โทมะคุงทำคอย่นเมื่อสบกับสายตาเขียวจัดของจุนโนะ
“ว่าไง.....จะเล่น...ไม่เล่น หรือว่าจะยอมแพ้” จุนโนะส่งเสียงยียวนท้าทายมาอีก ทำให้โทมะคุงกลืนน้ำลายดังเอื๊อก มองตามปลายไม้คิวที่ลอยไปลอยมาอยู่ตรงหน้า
“เอ้อ.....ครับก็ได้....” ชายหนุ่มลุกขึ้นอย่างอิดออด มองยูกิเอะอย่างขอความเห็นใจ แต่สาวน้อยก็ได้แต่นั่งปิดปากหัวเราะ ชอบอกชอบใจที่ทำให้ผู้ชายรูปหล่อสองคนมารุมแย่งเธอกันได้
“สู้เขานะ โทมะคุง” ยูกิเอะแกล้งตะโกนเชียร์โทมะแฟนเก่าเพื่อจะยั่วจุนโนะเล่น แต่คนตัวสูงกลับทำหูทวนลม แต่ก็แอบตั้งใจเอาไว้ว่า จะเล่นงานโทมะให้หมอบไปเลย
“ถ้าชนะเอายูกิเอะไปเลย” จุนโนะร้องท้ามาจากอีกด้านหนึ่งของโต๊ะ
“เอ๋??? หมายความว่าไงครับ?” โทมะยังคงงง จุนโนะจึงอธิบายเสริมไปว่า
“ก็เห็นยังตัดความสัมพันธ์กันไม่ขาด ถ้าชนะฉันได้ก็เอาผู้หญิงไป ถ้าแพ้ก็อย่ามาเหยียบที่นี่อีก เข้าใจมั้ย?”
“ผมเล่นไม่เก่งหรอก คงจะสู้คุณไม่ได้”
“พนันกันมั้ยล่ะ?” จุนโนะหรี่ตามองคนตัวเล็กกว่า ที่ทำหน้าเลิกลั่ก เห็นโทมะหันไปมองยูกิเอะแล้วทำตาโต
“อูย....จะไหวเหรอผมน่ะ......แต่ว่า.....เอ้อ.....เอางั้นก็ได้ ว่าแต่ทำไมต้องมาท้าผมด้วยง่า...?” โทมะอดใจไว้ไม่ให้ถามไม่ได้แล้ว เพราะหน้าตาจุนโนะเหมือนกับจะเตรียมพร้อมเสมอที่จะขย้ำเขา ..เอ...หรือว่าเขาบังอาจไปอี๋อ๋อกับอดีตแฟนเก่าเข้า
“ฉันอยากจะเล่นบิลเลียดกับนาย ก็เท่านั้นไม่มีอะไรมาก...ว่าไงพร้อมหรือยัง?” จุนโนะฝนหัวไม้คิว เลิกคิ้วมาทางโทมะ สายตาคมกริบจนอีกฝ่ายทำคอย่น
“พร้อมคร้าบบ...บ...”
.......................

คืนนั้นจุนโนะจบเกมด้วยการชนะโทมะ และระหว่างการแข่งขัน ยูกิเอะเสนอความคิดว่า ใครเสียแต้มก็ให้กรอกเหล้าเข้าปากครั้งละครึ่งแก้ว การแข่งขันก็แล้วแต่ทั้งสองฝ่ายว่าจะเล่นกันกี่เกม และผลสุดท้ายด้วยสภาพที่แทบทรงตัวไม่อยู่ โทมะเห็นลูกบนโต๊ะละลานตา ทั้งๆ ที่เขากำลังจ่อหัวไม้คิวไปที่ลูกเป้า...แต่ก็แทงพลาดทั้งลูกเป้าและลูกอื่นๆ กระจายร่วงลงพื้น พร้อมกับคนสอยไม้คิวก็ลงไปนอนเหยียดขา ยิ้มแก้มแดงอยู่บนพื้นอีกต่างหาก
“โทมะแพ้......อย่างราบคาบ” ยูกิเอะซึ่งก็กรึ่มได้ที่ นั่งยองๆ มองสภาพของอดีตแฟนหนุ่มอย่างเวทนา
“แย่ชะมัดแล้วจะกลับยังไงล่ะเนี่ย”
“เธอก็ไปส่งเขาซิ...รู้จักบ้านเขาไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันจะช่วยแบกไปขึ้นรถแท็กซี่ให้” จุนโนะพูดประชด แต่ว่า
“...อือ..ก็ดีเหมือนกัน โทมะอยู่คนเดียวเสียด้วยซิ..เมาแบบนี้คงจะช่วยตัวเองลำบาก”
“หมายความว่าไง?” จุนโนะถาม ก้มมองยูกิเอะสอดแขนรอบเอวโทมะแล้วพยายามจะพยุงตัวชายหนุ่มขึ้น ซึ่งก็ทุลักทุเลเต็มทน
“หมายความว่า ฉันต้องไปส่งเขาที่บ้านจริงๆ น่ะซิ...อึ๊บ...”
“เฮ้อ.......นี่เธอมากับฉันนะยูกิเอะ” จุนโนะฉวยแขนยูกิเอะเอาไว้ ซึ่งการทำแบบนั้นก็ทำให้ร่างของโทมะร่วงผล็อยลงกับพื้น ลงไปนอนยิ้มอีกรอบ
“บ้าน่าจุนโนะ ไม่เห็นเหรอว่าเธอทำเขาเมา”
“เอ๋???” ร่างสูงเกาหัวแกรก...

..นี่เป็นความผิดของเขาด้วยหรือ.....

************************

คาเมะนอนพลิกกายกระสับกระส่าย ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ เขานอนนับหนึ่งถึงสิบ จนถึงร้อยก็ยังไม่หลับ แถมยังขมวดคิ้วหัวเสียเมื่อนับเลขผิดไปจำนวนหนึ่ง
“ทำไมมันไม่ง่วงวะ” ลุกขึ้นนั่งเสยผมตัวเองแล้วยีจนมันยุ่งฟูไปหมด
เขาล้มตัวลงนอนอีกรอบ ตามองเพดานห้องนิ่งนาน พลางนึกไปถึงห้องของตัวเอง ถ้าเป็นเตียงที่บ้าน ป่านนี้ก็คงจะหลับปุ๋ยไปแล้ว
...กี่โมงกันเนี่ย...

คาเมะลุกขึ้นดูแสงไฟบอกตัวเลขจากนาฬิกาดิจิตอลข้างเตียง มันบอกเวลา สองนาฬิกาของวันใหม่
พรุ่งนี้ความจริงเขามีเรียนช่วงเช้า แต่เมื่อต้องอยู่ในสภาพนี้ที่ห้องของจุนโนะ เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปเรียน ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องห่วงเรื่องการตื่นสาย ...แต่จริงๆ แล้ว สาเหตุที่นอนไม่หลับนี่ก็เพราะ........

.......บนเตียงกว้างขนาดนี้ นอนคนเดียวนี่มันช่างอ้างว้างเหลือเกิน........

.....................

“นอนให้หลับซี่.....” คาเมะส่งเสียงครางออกมา ท่ามกลางความมืดมิดยามราตรี เขาได้ยินแต่เสียงนาฬิกาเดินและเสียงเครื่องบินบินผ่านในที่ไกลแสนไกลเป็นระยะๆ
และอีกเสียงหนึ่ง......
.....เสียงแกร๊ก....แกร๊ก....ดังขึ้นที่ห้องรับแขกด้านนอก เสียงเหมือนฝีเท้าคนตามมาอีกด้วย

.....ใครกัน?......

ก็จุนโนะนอนค้างที่อื่นนี่นา...หรือว่า...จะเป็นขโมย......

คาเมะใจหายวาบ โอย.....ถ้าเป็นคนร้ายล่ะ จะทำยังไง อยู่คนเดียวแบบนี้ อาวุธอะไรก็ไม่มี ...นี่เขาจะทำอย่างไรดี
มือไวเท่าความคิด..คาเมะค่อยๆ ย่องไปข้างห้องน้ำ คลำได้ไม้ถูพื้นก็กำเอาไว้แน่น ...เอาไงเอากัน โผล่เข้ามาจะฟาดให้หัวแตกเลยคอยดู
คาเมะย่องไปแอบอยู่หลังประตูห้องนอน เพราะฝีเท้าของคนร้ายนั่นเดินวนเวียนมาหยุดอยู่หน้าห้องนอนแล้ว
หัวใจเต้นแรงจนแทบจะดังออกมานอกอก เมื่อลูกบิดประตูค่อยๆ หมุนและถูกเปิดออกอย่างช้าๆ.......
พร้อมกับไม้ถูพื้นในมือของคาเมะฟาดไปที่เจ้าหมอนั่น

.........ผัวะ...........

“นี่แน่ะ...นี่แน่ะ...!!”

“โอ๊ย...!!”
เสียงร้องดังลั่นออกมาจากปากของผู้บุกรุก เสียงนี้มันคุ้นอย่างไรชอบกลแฮะ และนั่นก็ทำให้คาเมะรีบปล่อยไม้ถูพื้น

เมื่อแสงไฟสว่างไปทั่วห้อง เขาก็ต้องยกมืออุดปากเมื่อเห็นสภาพของขโมยนั่น
“จุนโนะ.....”

จุนโนะนั่งแอ้งแม้งกับพื้น บนศีรษะมีเส้นผ้าม็อบถูพื้นแปะอยู่บนหัว ส่วนปลายไม้ก็ห้อยร่องแร่งเรี่ยพื้นอยู่ ร่างสูงเหยียดขามาข้างหน้า ยกมือกุมขมับข้างที่โดนตี ...และตอนนี้คาเมะก็เห็น จุนโนะสลัดเจ้าไม้ถูพื้นออกไปจากตัวได้แล้ว และร่างนั้นก็ลุกขึ้นยืนอย่างเซนิดๆ แต่หน้าตานี่ซิ จ้องคาเมะอย่างจะเขมือบเข้าไปทั้งตัว


โอย....เห็นแล้ว คาเมะอยากจะวิ่งหนีไปจากตรงนั้นเหลือเกิน ..เพราะร่างสูงของจุนโนะกำลังย่างสามขุมมาหาเขาแล้ว....ว....ว

“ไอ้เต่า!!”

***************************

 

to be con

เม้นต์ที่นี่จ้า