The Rainbow LOVER
vol10
***************************
ประโยคแรกที่คนตัวเล็กเอื้อนเอ่ยพร้อมกับผิวหน้าแดงซ่านก็คือ
เอ่อ...ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ
ตั้งใจอะไร? จุนโนะถามเสียงต่ำ กระชับอ้อมแขนแน่นเข้าทำให้คาเมะอยู่ชิดกับเขาเข้าไปอีกจนแทบจะจมหายเข้าไปในอกกว้าง
ตั้งใจจะจูบนายน่ะซิ
แบบนี้เขาเรียกว่าลักหลับนะ
เอ๋??? เปล่านะ
แบบนี้ต้องถูกทำโทษ จุนโนะว่า แล้วกดริมฝีปากนาบลงกับปากที่เผยอค้างของคาเมะทันที
ชนิดที่เรียกว่าไม่ปล่อยให้มีการลังเลเกิดขึ้นอีกแล้ว
อื้อ...... คาเมะตัวสั่น คราวนี้สั่นเพราะอะไร เจ้าตัวก็ไม่อาจรู้ได้ รู้แต่ว่ามัน..สั่น...
..........ให้ตายเหอะ...นี่เขารนหาที่หรือเปล่านะ โดนจูบกลับมาแบบนี้
จุนโนะตั้งใจจะแกล้งเขา หรือว่ารู้สึกว่าอยากจะจูบเขาขึ้นมาเพราะบางส่วนภายในใจต้องการกันแน่....
แต่ที่รู้ๆ ไอ้ความคิดที่อยากจะผลักใสมันหายไปไหนกันหมด เมื่อริมฝีปากสองคู่ประทับกันหนักๆ
เข้า คาเมะก็เป็นฝ่ายโอบรัดต้นคอของจุนโนะเสียเอง สอดมือเข้าไปหลังท้ายทอยสัมผัสกับปอยผมนุ่มมือ
ขณะที่ริมฝีปากก็เสนอบดเคล้ากับร่างสูงไม่ยอมปล่อย
อืมมมม....... เสียงจุนโนะกับคาเมะครางออกมาพร้อมกัน
จุนโนะละจุมพิตจากปากหยักบางของคาเมะและหันมาไซร้ต่ำที่ซอกคอขาว มือที่กระชับเอวบางก็กดหนักแรงขึ้นเหมือนจะห้ามอารมณ์ไว้ไม่ไหว
อือ.......... คาเมะหวั่นไหว แต่ก็พอจะรู้สึกตัวว่าเหตุการณ์ชักจะล่อแหลมเข้าไปทุกที
เขาคิดว่า อาจเป็นเพราะหนัง AV ที่จุนโนะดูเข้าไปเมื่อก่อนจะนอนก็ได้
อื้อ.....ห....หยุดเหอะ... คาเมะเป็นฝ่ายยันหน้าอกและดันใบหน้าของจุนโนะออกจากตัวเองจนได้
พอจุนโนะคลายวงแขนออก เขาก็พรวดพราดลุกขึ้นยืนแข้งขาสั่นอยู่หน้าเตียง ดวงตาเรียวคมตวัดมองหน้าของจุนโนะ
ทำไมล่ะ ดูท่าทางนายจะชอบง่ะนะ จุนโนะกวักมือเรียก แต่คาเมะเป็นฝ่ายปัดมือนั้นออกไป
บ้าจริง..ฉันไม่ได้ชอบซะหน่อย ไอ้บ้า!! คาเมะวิ่งจู๊ดเดียวเข้าไปในห้องน้ำ
แต่กระนั้นก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ ของอีกฝ่ายดังแว่วมาให้ได้ยิน
.........
หลังจากสงบสติอารมณ์อันกระเจิดกระเจิงในห้องน้ำสักพักหนึ่ง เขาก็ต้องออกมาเผชิญหน้ากับเจ้าวายร้ายที่ตอนนี้กำลังจะขโมยหัวใจสะออนของเขาอยู่รอมร่อ
ใบหน้าที่หันมามองเขาตอนที่เดินออกมาจากห้องน้ำนั้น ทำให้คาเมะต้องรีบเมินไปซ่อนความรู้สึกทางอื่น
...จ...จูบกันแล้ว...
โอย...อยากตาย...เกิดมาในชีวิตก็เพิ่งจะเคยจูบกับผู้ชายด้วยกันก็อีคราวนี้แหล่ะ
..แต่แหม..มันก็ให้ความรู้สึกดีเหมือนกันนิ ....
คาเมะอดยกมือขึ้นสัมผัสแก้มใสของตัวเองไม่ได้ ...ดูมันจะร้อนวูบวาบชอบกลแฮะ
.....เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหลงรักจุนโนะสุเกะขึ้นมาจริงๆ ...
เขาจะแย่งแฟนของน้องสาวตัวเองได้ไง และอีกอย่างเขาก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคงจะเป็นแค่ความวูบวาบของคนสองคนเท่านั้นเอง
.......................
จุนโนะลุกขึ้นอย่างเกียจคร้านเดินปัดร่างคาเมะไปเข้าห้องน้ำบ้าง การได้เห็นหนุ่มน้อยร่างเล็กในชุดผ้าคลุมสีขาวกับเรือนผมเปียกชื้น ใบหน้าผ่องใสนั้นทำให้เลือดในการหนุ่มเดือดพล่าน คาเมะดูเร้าใจและเร้าความรู้สึกยามเช้าได้ดีเหลือเกิน ขณะเดินผ่านร่างบางของคาเมะ จุนโนะแอบสูดเอาความหอมกรุ่นเหมือนน้ำค้างยามเช้าเข้าไป ทางที่ดีเขาสองคนควรจะออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุดถ้าจะดี
*********
ถนนสายนั้นทอดยาวไปตามดวงตะวันอันจัดจ้าในยามกลางวัน จุนโนะหลบความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ภายใต้หน้ากากหมวกกันน็อค สายลมเย็นผสมกลิ่นแห่งความสดชื่นโชยมาปะทะ เขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปเรื่อยๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไรนัก เหมือนกับจะชมนกชมไม้ข้างทางเสียด้วยซ้ำ เพราะยามนี้มีร่างเล็กของคาเมะเกาะติดเบาะหลังไปด้วยกัน และร่างนั้นก็นั่งนิ่งมาตลอดทาง ไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไรกับเขา ซึ่งมันก็ผิดปกติอยู่สักหน่อย
เมื่อไม่มีเสียงพูดแย้งอะไรจากคาเมะ จุนโนะจึงเลี้ยวรถออกนอกเส้นทางกลับคอนโดฯ เขาขี่ต่อไปเรื่อยๆ ผ่านถนนลาดยางเส้นเล็กๆ ที่สองข้างทางมีแต่แมกไม้เขียวขจี รถแล่นตัดผ่านร้านค้าที่ดูมีลักษณะโบราณอยู่หย่อมหนึ่ง ลึกเข้าไปเรื่อยๆ ก็จะออกนอกเมืองแล้ว มีป้ายข้างทางชี้ไปทางด้านซ้ายมือ บอกว่าเป็นทางไป......
........โทยามะ วิลเลจ......
และจุนโนะก็เลี้ยวรถไปตามทางนั้นอย่างคุ้นเคย
เอ๋??? จะไปไหนง่ะ? คาเมะถามขึ้นทันที หลังจากนิ่งเงียบมานานนับแต่ออกมาจากโรงแรม
นึกว่าจะไม่ถามซะแล้ว จุนโนะเลิกหน้ากากหมวกออก แล้วเลี้ยวรถไปตามเส้นทาง ขี่ไปเรื่อยๆ
จนเมื่อรู้สึกว่าคนซ้อนสะกิดยิกๆ เขาจึงตอบว่า
ไปน้ำตกหลังวิลเลจนี่แหล่ะ
มีด้วยเหรอ?
ฮื่อ...เป็นน้ำตกจำลองของทางวิลเลจ สร้างหุบเขาจำลองได้เหมือนของจริงมากเลย
รู้จักดีหรือไง?
ก็เป็นของพ่อฉันเอง พ่อฉันเป็นหุ้นส่วนอยู่น่ะ จุนโนะบอก คาเมะก็เลยเงียบ ได้แต่อดทึ่งในใจไม่ได้
เจ้าหมอนี่มีอะไรแปลกๆ มาให้กังขาอยู่เสมอ
....เดี๋ยวพ่อเป็นนักธุรกิจ ...เป็นเกย์ ...และนี่พ่อยังเป็นเจ้าของวิลเลจอีก.....
ก็คงจะเป็นลูกคนรวยง่ะนะ ไม่งั้นจะมีรถมอเตอร์ไซค์คันหรูแบบนี้มาขี่โฉบเฉี่ยวร่อนไปร่อนมาได้ไง
...................................
คืนนี้เราจะค้างที่นี่ จุนโนะพูดหลังจากพาคาเมะเข้ามาในห้องกว้างแบบญี่ปุ่นแท้
ทั่วห้องกรุด้วยผนังกระดาษอย่างหนา ประตูบานเลื่อนมีลวดลายเป็นทุ่งหญ้าและสายน้ำ
ให้ความรู้สึกอบอุ่นดีแท้
คาเมะ...เรามาต่อเรื่องของเรากันมั้ย เมื่อเช้ามันยังค้างๆ อยู่เลย จุนโนะนั่งลงขัดสมาธิกลางฟูกที่ทางวิลเลจปูเอาไว้ให้
เขาตบแปะๆ บนที่นอนและกวักมือเรียกคาเมะหยอยๆ แต่อีกฝ่ายกลับยกมะเหงกให้
เรื่องอะไรล่ะ...บ้าเปล๊า?
จุนโนะหัวเราะ และบอกว่าล้อเล่น...
เมื่อเช้าแค่เคลิ้มๆ ไปหน่อยเท่านั้นเอง กับนายง่ะนะ กระเดือกไม่ลง กระดองแข็งเป็นบ้าเลย
หึ้ย...ไอ้บ้า!! หมอนใบใหญ่ตีเข้าไปที่หน้าหล่อๆ ของจุนโนะ ร่างสูงจึงคว้าเอาไว้
และกระชากนิดเดียว ทั้งหมอนและทั้งคนก็ลงไปนอนทับอยู่บนตัวของเขาแล้ว
อยากลองกันสักตั้งมั้ย? จุนโนะคว้าคอเจ้าเต่าน้อยแล้วก็ทำท่าจะโน้มใบหน้าลงมา
แต่ว่าคาเมะก็ยันหน้าอกฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ แบบไม่ต้องการให้เข้าใกล้กันมากไปกว่านี้
จุนโนะจึงจับร่างเล็กลงไปนอนบนฟูกแทน ส่วนตัวเองก็ล้มลงนอนใกล้ๆ กอดเอาไว้ทั้งตัว
จนเต่าน้อยดิ้นหนีไปไหนไม่ได้อีกต่อไป
นอนเฉยๆ เหอะน่า... เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้าแล้ว ขอนอนสักงีบแล้วจะพาไปเที่ยวน้ำตกนะ
ร่างสูงงึมงำ หลับตาพูด แต่ก็ยังคงนอนกอดคาเมะเอาไว้ไม่ยอมปล่อย จนคนที่ถูกกอดก็ต้องปล่อยเลยตามเลย
เพราะเขาเองก็ง่วงๆ เหมือนกัน มือเล็กกว่าจึงสอดไปรอบเอวของจุนโนะบ้างเพราะไม่รู้จะวางมือเอาไว้ตรงไหน
นอนอย่างเดียวนะ คาเมะยังไม่วายห่วงสวัสดิภาพตัวเอง ได้ยินเสียงรับคำว่า อื้อ
ออกมาจากปากของจุนโนะ
ดังนั้นคนสองคนจึงหลับกันต่อด้วยอาการที่เรียกว่า...กอดกันกลม....
******************************
ยามะพีจอดรถมอเตอร์ไซค์เอาไว้หน้ารั้วบ้านของนากามารุ ส่วนตัวเองก็เดินไปเดินมาอยู่หน้าบ้าน
บางทีก็หยุดเท้าเอวและชะเง้อเข้าไปภายในบริเวณตัวบ้าน กำลังคิดอยู่ว่า ...นี่เขาจะมาที่นี่ทำไมกัน?...
...แต่เพราะโทรศัพท์ของยูอิจิเมื่อคืนหรอก ที่ทำให้มาที่นี่อีกครั้ง ...
<<<...เจ็บขา...พ่อกับแม่ก็ไม่อยู่...>>>
เพราะเสียงครวญที่แว่วมาหรอกนะ ถึงทำให้เขาบึ่งมอเตอร์ไซค์ทันทีที่เรียนคาบแรกเสร็จ
แล้วนี่...จะเข้าไปได้มั้ยนะ เจ้าหมอนั่นจะทำหน้ายังไงกัน...คงจะดีใจจนเนื้อเต้นเลยละมัง
.....ยามะพีกดกริ่งที่หน้ารั้ว ......
แต่พอเห็นเจ้าของบ้านเดินกระโผลกกระเผลกด้วยไม้ค้ำยันมาแต่ไกล เขาก็เลยตัดสินใจเหนี่ยวรั้วที่ไม่ค่อยสูงเท่าไรนัก
กระโดดตุ้บลงไปยืนสง่าผ่าเผยในบ้าน ไม่ต้องเดือดร้อนให้ยูอิจิเดินมาเปิดประตูให้แต่อย่างใด
ไฮ...ดีใจอย่างสุดซึ้งที่เห็นหน้าสวยๆ ของนาย ยูอิจิเป็นฝ่ายเปิดฉากพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง
แถมหน้าตาก็ยังสดชื่นขึ้นมาเห็นๆ
ขณะนี้สองหนุ่มกำลังยืนเผชิญหน้ากันอยู่บนถนนเล็กๆ ซึ่งเป็นทางเข้าบ้าน ยามะพียืนตัวตรงกำลังชั่งใจว่าเขาน่าจะกลับบ้านดีมั้ย
เพราะยูอิจิท่าทางกระดี้กระด้าเกินกว่าจะเป็นคนคนเดียวกับที่โทรศัพท์มาโอดโอยกับเขาเมื่อคืน
ดวงตากลมโตลดต่ำลงมองขาข้างที่เจ็บ ก็ไม่เห็นอะไรเพราะมันหลบอยู่ภายใต้กางเกงตัวโคร่งของชายหนุ่ม
ขายังเจ็บอยู่... ยูอิจิบอกอย่างรู้ทันความคิดของยามะพี
ก็น่าจะใช่...สองวัน สามวัน จะหายเร็วได้ไง
ขอบใจนะที่มาอยู่เป็นเพื่อน พ่อกับแม่ของฉันยังไม่กลับ ก็เลย..แหะ...แหะ..ไม่มีเพื่อน
ฉันกำลังนึกอยู่ว่า ทำไมฉันต้องมาทำอะไรอยู่ที่นี่ด้วย ความจริงก็...ธุระไม่ใช่...
ยามะพีทำปากยื่น แก้มป่อง ตาโตกรอกขึ้นข้างบน เป็นกริยาที่ยูอิจิมองเห็นว่าน่ารักนักหนา
เข้าบ้านซิยามะพี ยูอิจิผายมือและเดินยอกแยกนำหน้าไป
ข้างในบ้านดูโอ่โถง แต่จะมีรกเป็นหย่อมๆ ก็ตรงที่ ยูอิจิชี้ให้ดูหน้าทีวี
ซึ่งเจ้าของบ้านบอกว่า
ฉันกิน นอน และนั่งเล่นตรงนี้แหล่ะ ไม่มีปัญญาลุกไปไหน นอกจากห้องน้ำ
ฮื่อ.. ยามะพีพยักหน้าและมองยูอิจิอย่างปลงสังเวช
เห็นก็รู้ โธ่เอ๋ย ...ของวางอยู่รอบตัวเลยนิ น่าขำฟ่ะ ยามะพีหัวเราะคิก เห็นข้าวของเครื่องใช้ของยูอิจิวางกองเอาไว้เป็นรูปตัวคนนอนเลยล่ะ
เว้นที่เอาไว้พอดีรูปร่างของยูอิจิ นี่คงจะไม่ลุกไปไหนจริงๆ ด้วยซินะ
เห็นหน้าแล้วหิวจัง จู่ๆ ยูอิจิก็โพล่งออกมา เขาเอนตัวบนโซฟา พิงไม้ค้ำยันไว้ข้างๆ
กัน แล้ววางขาทอดยาวอย่างสบายๆ ฝ่ายยามะพีก็หรี่ตามอง ทำปากยื่นแก้มป่อง ตาลุกวาว
ทะลึ่ง!! นายหิวฉันหรือไง?
ไม่ใช่น้า...ฉันหมายความว่า หิวข้าวง่ะ แหะ แหะ อยากมีคนทำอาหารให้กินมั่งนี่
อ๋อ...งั้นก็แล้วไป นึกว่าหิวฉัน ไม่งั้นจะให้หม่ำหน้าแข้งแทนข้าว พูดแล้วก็สะบัดหน้า
เดินหาทางไปห้องครัว แล้วก็เจอจนได้
บ้านนากามารุนี่กว้างขวาง แต่ไม่ยักกะมีคนรับใช้เลยแฮะ แล้วใครเป็นคนทำความสะอาดบ้านล่ะเนี่ย
ยามะพีอดสงสัยไม่ได้ พอคิดไปคิดมา เขาก็ชะงักอยู่หน้าตู้เย็น
นี่ฉันมาทำอะไรในครัวของบ้านคนอื่นวะเนี่ย???? ร่างบางยืนเกาหัวแกรกๆ พอหันมามองทางประตูทางเข้าห้องครัว
ก็เห็นยูอิจิยืนพิงขอบประตู และส่งยิ้มกว้างมาให้
ตามสบายเลยนะ อาหารสดอยู่ในตู้เย็น เขาตะโกนบอก
เอ๊ะ...แล้วทำไมฉันต้องทำให้นายด้วยล่ะเนี่ย ฉันแค่แวะมาดูว่านายขึ้นอืดหรือยัง
ถ้าตายแล้วจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาเก็บศพไป ทำไมฉันต้องเข้ามาในบ้านนายด้วยนะ
ก็เพราะยามะพีเป็นคนใจดี จิตใจสูง เห็นฉันน่าสงสารใช่มั้ยล่ะ เมื่อคืนก็อุตส่าห์ฟังฉันคุยจนหลับไปเลยนี่นา
ความจริงฉันก็ไม่ได้ฟังนายพล่ามอะไรเลย ฉันง่วง และก็ตอนนี้ก็หิวเหมือนกันแฮะ
ว่าแล้วคนพูดก็หันไปเปิดตู้เย็น หยิบได้วัตถุดิบสามสี่อย่างก็กะว่าจะต้มซุปให้คนป่วยทานเสียหน่อย
แต่ว่าเขาไม่ต้องการคนมาคอยตามมองนี่นา
นี่...ถ้าจะให้ฉันทำอาหารให้กิน ก็ช่วยไปนั่งให้เรียบร้อยที่ข้างนอกได้มั้ย?
เขาชี้มือไปด้านนอก ซึ่งยูอิจิก็ต้องพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ ปล่อยให้ยามะพีรับหน้าที่แม่บ้านไปตามลำพัง
....................
ยามะพีเดินถือหม้อซุปเข้ามาในห้องรับแขก คาดว่าจะได้พบกับยูอิจินั่งเรียบร้อยอยู่หน้าทีวี
แต่เขากลับพบร่างสูงนอนหลับปุ๋ยอยู่ที่พื้นหน้าโซฟา ก็ที่เดียวกับที่เขาเห็นร่องรอยของการนอนของเจ้าของบ้านนั่นแหล่ะ
เฮ้อ...ไหนบอกหิว หลับลงได้ไงกัน?
หม้อซุปถูกวางลงบนโต๊ะกระจกตัวเตี้ยข้างกันนั้น ยามะพีแกล้งปัดควันกลิ่นหอมฉุยเข้าใส่ร่างที่ยังนอนหลับ
ปัดอยู่ชั่วครู่ ยูอิจิถึงได้ขยับตัวยุกยิก และลืมตาขึ้นดู
อ้าว....คนป่วย ง่วงนอนหรือหิวกันแน่? ยามะพีอดหัวเราะไม่ได้ เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้าลุกขึ้นสูดกลิ่นหอมของซุป
ฮ้า..หอมจัง...ท่าทางจะอร่อยนะ...
ยูอิจิรับถ้วยซุปมาจากมือของยามะพี กินอย่างเอร็ดอร่อย ปากก็พร่ำชมไม่ขาด
อร่อยจริงๆ นายนี่มีพรสวรรค์จริงๆ เนอะ ทำกับข้าวอร่อย แถมยังน่ารักอีก
เฮอะ...ความจริงฉันทำขนมเค้กอร่อยกว่าทำกับข้าวอีก ยามะพีคุย มองคนตรงหน้าทานซุปของเขาอย่างชื่นใจ
เพราะยูอิจิยกถ้วยซุปขึ้นซดแบบถึงใจจริงๆ
โห...เหรอ? ฉันจะมีบุญได้กินเค้กฝีมือนายหรือเปล่าเนี่ย? ยูอิจิยื่นหน้ามาถามจนปากแทบจะติดกับแก้มของยามะพี
ซึ่งก็ทำให้ร่างบางผงะ
ไม่มีทางหรอก ดวงตากลมโตหลุบลง มือก็ดันหน้าของยูอิจิให้ไปห่างๆ
ว้า....ทำไมล่ะ? ยูอิจิถาม
นายเป็นไรกับฉันง่ะ ทำไมฉันต้องทำเค้กให้นายด้วย
เป็นแฟนไง ถ้าเป็นแฟนกันก็ทำให้กินได้ใช่มั้ยล่ะ เหมือนกับทำซุปหม้อนี้ไง
นี่...ชักจะมากไปแล้วนะ ยามะพีหน้าแดงขึ้นเห็นๆ
จริงนี่นา...เรามาคบกันมะ? ยูอิจิถามหน้าตาเฉย ทำเอายามะพีผลักไหล่หนาออกไป
นี่ไอ้บ้า!! ฉันทำให้นายกินเพราะสงสารนายหรอกนะ ไม่ได้ให้นายมานั่งจีบเอาจีบเอาแบบนี้
...โฮ้ย!! กลับดีกว่า ไม่สบอารมณ์ว้อย!! ว่าแล้วยามะพีก็ลุกขึ้นยืน แต่สีหน้าแดงระเรื่อย่อมปิดไม่มิด
ยูอิจิแอบอมยิ้มทางอื่น เพราะรู้ดีว่า หนุ่มน้อยหน้าสวยคนนี้คงจะอายล่ะไม่ว่า
เขารีบฉวยมือเรียวของยามะพีเอาไว้เมื่อเห็นว่ารายนั้นทำท่าจะไปจริงๆ
เดี๋ยวซิ
ปล่อยนะ!! มาจีบกันแบบนี้ฉันไม่ชอบ!!
ชอบเหอะ...
ไม่เอา ยามะพีสะบัดมือจนหลุด เขาเดินจ้ำพรวดออกไปนอกบ้าน ถึงยังไงยูอิจิก็เดินตามเขาไม่ทันอยู่แล้ว
.........
บ้าชะมัดเลย มาให้เจ้าบ้านั่นลามปามได้ไงกัน ร่างบางบ่นไปเดินไป คิดว่าป่านนี้ยูอิจิคงจะกำลังชะเง้อกระย่องกระแย่งมองตามเขาที่หน้าต่างแหงๆ
แต่ไม่หันไปมองหรอก ...มองให้โง่.......
แต่ว่า เดินยังไม่ถึงรถมอเตอร์ไซค์เลย แขนข้างหนึ่งก็ถูกฉวยเอาไว้
พร้อมกับที่ร่างบางของตัวเองปลิวหวือไปตกอยู่ในอ้อมแขนของใครคนหนึ่งซะแล้ว........
อ๊ะ...?? ยามะพีเบิกตากว้าง อ้าปากค้างเมื่อเห็นฝีมือแข็งแกร่ง ที่ฉวยทั้งแขนและตัวของเขาไว้นั่นก็คือ......
นาย...เดินมาถึงนี่ได้ไง?
ยามะพีกวาดมองยูอิจิทั่วตัว ไม้ค้ำยันที่ร่างสูงเคยใช้หายไปแล้ว และยูอิจิก็ยืนอย่างมั่นคงพอๆ
กับสีหน้าสีตาที่มองเขาอย่างแน่วแน่ และเด็ดเดี่ยว
เฮ้ย! หลอกกันนี่หว่า.....หนอย...แกล้งทำเป็นขาเจ็บเรอะ? ยามะพีโวยแหลก พยายามดันร่างนั้นออกห่าง
แต่ว่ายูอิจิก็แข็งแกร่งพอที่จะไม่ยอมให้ยามะพีสะบัดหลุด
ไม่ทำแบบนี้แล้วคนสวยจะมาหาถึงบ้านเหรอ?
นาย....... มือข้างหนึ่งสะบัดไปที่ซอกแก้มของยูอิจิทันที เสียงเนื้อกระทบเนื้อนั้น
ดังพอควรทีเดียว เล่นเอายูอิจิผงะ แต่ก็ยังคว้าร่างของยามะพีไม่ให้หนีจากไปไหนได้
ฉันชอบนายนะยามะพี ชอบมานานแล้วด้วย นายก็รู้นี่นา
ไม่รู้ว้อย...ไม่อยากรู้!!
ต้องรู้...และฉันจะไม่ยอมปิดโอกาสของตัวเองอีกแล้ว ฉันไม่ได้แกล้งเจ็บนะ ขาเจ็บจริงๆ
ตอนนั้นน่ะ แต่ก็ค่อยยังชั่วแล้ว แต่วันนี้ฉันอยากจะเจ็บขาจริงๆ เพราะนายใจดีกับฉันเหลือเกิน
นายทำซุปแสนอร่อยให้ฉันกินและยังจะเสนอทำเค้กให้อีก แบบนี้ฉันจะปล่อยนายให้กลับไปง่ายๆ
ได้ไงกัน?
ฉันไม่ได้เสนอตัวทำเค้กให้นายนะ อย่าเข้าใจผิด ที่ฉันมานี่ก็เพราะฉันคิดว่าฉัน....เอ้อ...ฉัน...เอ่อ.....เออ
แล้วฉันมาทำไมกันล่ะฟะ? ยามะพีก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
หนุ่มสองคนยืนมองหน้ากันและกันอยู่หน้ารั้วบ้าน จนคนผ่านไปผ่านมาเห็นแล้วก็อดสงสัยไม่ได้
เพราะยืนกอดกันกลม บางคนก็ส่งเสียงหัวเราะคิกออกมา เพราะคิดว่า ไอ้หนุ่มสองคนนี่มันต้องเป็นแฟนกันแหงๆ
และเสียงหัวเราะนั้นก็ทำให้ยามะพีอายจัด ผลักยูอิจิออกจนได้ เขารีบวิ่งไปที่มอเตอร์ไซค์
เพราะคาดว่ายูอิจิคงจะผวาตามมาอีกแน่ๆ แต่ว่าร่างสูงกลับยืนเฉย ปล่อยให้ยามะพีหยิบหมวกกันน็อคมาสวม
ร่างบางกำลังจะสตาร์ตรถขณะหันไปมองยูอิจิเป็นครั้งสุดท้าย หมอนั่นยืนทื่อมะรื่อ
ไม่ได้ขยับตามเขาเหมือนเช่นเคย ร่างบางจึงยักไหล่และขี่รถจากไป
โธ่.....คนสวย.....ไปซะแล้ว...ว....ว... ยูอิจิถอนหายใจเฮือก
....ยังไงซะ ก็ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ หรอก ยิ่งเจอก็ยิ่งหลง ...
....แถมฝีมือทำซุปชนิดเข้าขั้นสุดยอดอีกแบบนี้ ...จะให้หลุดมือไปได้ไง......
*************************************
เสียงน้ำตกสาดซ่าดังก้องไปทั่วบริเวณ โขดหินก้อนใหญ่น้อยเป็นมันปลาบไปด้วยละอองจากสายน้ำ
ดวงอาทิตย์แผดแสงจัดจ้ากระทบกับละอองน้ำตกจนเกิดสายรุ้งงดงาม จุนโนะแหงนมองและชี้ให้คาเมะดู
ด้วยรอยยิ้มร่าเริง คาเมะมองตามแล้วก็เห็นว่ามันก็สวยจริงๆ นั่นแหล่ะ สีรุ้งงดงามทอระยิบระยับ
ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำตกที่สร้างขึ้นมาเอง แต่ก็ยังคงความงามราวกับธรรมชาติได้อย่างไม่บกพร่อง
สวยเนอะ... จุนโนะยิ้มยิงฟันร่า กางแขนออกกว้างรับเอาความชื้นนั้นเอาไว้เต็มๆ
เขาหันมาทางคาเมะแล้วชี้ไปที่โขดหินทางซ้ายมือสุดน้ำตก
นายช่วยไปยืนทางนั้นด้วยได้มั้ย?
ทำไมง่ะ? คาเมะมองตามมือชี้ สุดปลายสายรุ้งพอดีเลย เจ้าหมอนี่อยากให้เขาไปยืนตรงนั้นอีกแล้ว
เหอะน่า ช่วยไปยืนทีเหอะ
ก็ได้... ร่างบางไต่โขดหินขึ้นไป แม้จะไม่สูงมากแต่ก็ลื่นทีเดียวล่ะ
เอาล่ะ หยุดอยู่ตรงนั้นนะ จุนโนะตะโกนบอก พอคาเมะหันมาเท้าเอว ถลึงตาใส่ จุนโนะก็กดแชะถ่ายรูปคาเมะเก็บเอาหลายรูปทีเดียว
จะถ่ายไปทำไมฟะ? คาเมะอดถามไม่ได้ ขยับตัวยุกยิกอยู่บนหินเปียกและลื่น พอได้ยินจุนโนะสั่งให้แหงนขึ้นมองไปบนฟ้า
เขาก็ทำปากยื่นแต่ก็ทำตาม แต่ช่วงที่ขยับตัวนี้เอง ส้นเท้าเกิดลื่นพลัดหล่นจากหินตกลงน้ำเสียงดัง
.........ตูม!!.........
คาเมะตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำ น้ำไม่ลึกมากนักแค่หน้าอก แต่ความตกใจมีมากกว่า
เขาสำลักน้ำไปหลายอึก หางตายังอุตส่าห์เห็นจุนโนะยืนหัวเราะจนตัวงออยู่ริมตลิ่ง
ไม่คิดจะลงมาช่วยเขาเลยสักนิด
โธ่เว้ย หัวเราะทำบื้ออะไรฟะ ไอ้บ้าเอ๊ย!! คาเมะโวยลั่น ตีน้ำใส่ร่างสูงแต่ก็ไม่ถึง
จุนโนะยังหัวเราะอยู่ และกวักมือเรียกหยอยๆ
ขึ้นมาเหอะน่า น้ำตื้นจะตาย
ซวยชะมัดเลย เปียกหมด คาเมะบ่นกระปอดกระแปด ลุยน้ำขึ้นมาจนจะถึงตัวจุนโนะอยู่แล้ว
เห็นมือใหญ่ยื่นมาจะช่วยฉุดเขาขึ้นจากน้ำ
แต่เรื่องอะไรจะเปียกคนเดียวให้โง่.......
คาเมะกระตุกมือจุนโนะอย่างแรง ทำให้ร่างสูงเสียหลัก หล่นน้ำไปด้วยอีกคน...
ฮ่า...ฮ่า.... คาเมะตบมือ กระโดดหยองแหยงอยู่ตรงนั้น แต่แค่นั้นยังไม่สะใจ
เขากดหัวจุนโนะให้จมหายไปในน้ำอีก
อึก......อึก... จุนโนะเป็นฝ่ายตะเกียกตะกายพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำ หัวหูแดงก่ำเพราะสำลักเข้าไปเต็มๆ
เห็นคาเมะหัวเราะร่าก็หรี่ตามอง
ร่างสูงยื่นแขนออกมานิดเดียวก็ตวัดร่างบางของคาเมะเอาไว้ ลากมาปะทะอกแกร่ง ก่อนที่จะจับหัวคาเมะกดลงกับพื้นน้ำบ้าง
นี่แน่ะ ซ่าดีนัก จุนโนะกดและดึงคาเมะขึ้นมา ฝ่ายนั้นก็หัวหูแดงไม่แพ้กัน กำปั้นน้อยๆ
ทุบบนอกเขาอย่างแรง จนจุนโนะชักจะจุก ต้องรีบลากตัวคาเมะขึ้นมาบนฝั่ง
ไอ้บ้า.... คาเมะตะโกนหอบจนตัวโยน คลานไปไอริมตลิ่ง น้ำเย็นจัดทำให้เขาสั่นสะท้าน
และจุนโนะเองก็หนาวไม่แพ้กัน
กลับห้องเหอะ หนาวแล้ว จุนโนะฉุดแขนคาเมะขึ้น คาดว่าจะโดนสะบัดจากฝ่ายนั้น
แต่คาเมะกลับลุกขึ้นเดินตามไปแต่โดยดี
เพราะนายคนเดียว ร่างบางยังไม่วายบ่น
ก็นายอยากตกน้ำทำไมล่ะ
แล้วนายหัวเราะเยาะฉันทำไม? คาเมะเถียงกลับ
ตลกดี จุนโนะหัวเราะหึๆ ยิ้มตามหลังคาเมะไป
ทั้งสองมุ่งหน้าจะกลับสู่ห้องพักเดิม มีคาเมะเดินนำหน้า จุนโนะเดินหลัง
เห็นเสื้อผ้าของคาเมะเกาะแนบกับลำตัวบางแล้วก็เกิดความรู้สึกประหลาด ดูเอาเถอะ
แค่เห็นทรวดทรงองค์เอวของผู้ชายตัวเล็กคนนี้ ก็ทำให้หัวใจของเขาอ่อนโยนขึ้นมาอีกแล้ว
ดูๆ ไปเจ้าตัวเล็กนี่ก็ให้ความรู้สึกเซ็กซี่ดีจริงๆ เชียว
ระหว่างทางก็เห็นสะโพกเล็กกับก้นงอนเล็กน้อยจนแทบเห็นทะลุไปถึงเนื้อในเพราะตัวเปียก
จุนโนะเหลือบมองแล้วเอื้อมมือมาสัมผัสแก้มก้นเปียกชื้นนั้น พอคาเมะหยุดเดินแล้วหันขวับมามอง
เขาก็บอกว่า
เอาใบไม้ออกให้น่ะ มันติดก้นนายมา
อ๋อ....เหรอ.. ร่างเล็กยักไหล่ พึมพำขอบใจ
คาเมะแหงนมองใบหน้าของจุนโนะ เห็นรอยยิ้มบางๆ ฉาบฉายอยู่ชัดเจน จุนโนะตัวเปียก
ผมเปียกลู่ติดหนังศีรษะ ปอยผมบางส่วนตกลงมาปรกใบหน้า ทำให้ดูเข้มไปอีกแบบ ร่างบางกวาดสายตาลงต่ำ
เห็นแผงอกกว้างที่อยู่ภายใต้เสื้อกล้ามสีดำ ลำตัวเปียกชื้นนั้นทำให้สามารถเห็นยอดอกของจุนโนะนูนเด่นออกมา
คาเมะกลืนน้ำลายดังเอื๊อก รีบเบนสายตาออกทันที แต่ก็สะดุ้งเฮือกเมื่อกลับพบกับสายตาหรี่ปรือของจุนโนะมองหน้าเขาเขม็ง
สายตาแบบนั้นน่ะ ทำให้คาเมะรีบเมินหนี ก็มันทั้งคมและเว้าวอนอยู่ในที แบบนี้มันหยั่งเชิง
หยั่งอารมณ์กันใช่มั้ยนะ
<<<....ทำไมเจ้าหมอนี่มันถึงได้เซ็กซี่แบบนี้ฟะ?.....>>>
คาเมะอดคิดไม่ได้
เขาหันกลับ และเดินอย่างรีบเร่งเพื่อให้พ้นสภาวะล่อแหลมนี่โดยเร็วที่สุด ขืนอยู่ด้วยมันอันตรายใช่มั้ยล่ะ?
*************************
พอมาถึงที่ห้อง จุนโนะก็แปลกใจเมื่อพบว่าห้องข้างๆ ของพวกเขานั้น
มีคนมาอยู่แล้ว ทำให้ร่างสูงอดสงสัยไม่ได้ เพราะห้องนั้นนอกจากพ่อของเขาแล้วก็ไม่น่ามีใครมาพักได้
เอ.......หรือว่า พ่อจะมา จุนโนะจรดฝีเท้า เอาหูแนบผนังทำกรุด้วยกระดาษวาดลวดลายสวยงามนั้น
ตั้งใจฟังเผื่อจะได้ยินอะไรบ้าง
ไม่ถอดชุดเปียกออกก่อนเหรอ? เสียงคาเมะดังขึ้น ทำให้จุนโนะรีบหันมาจุ๊ปาก
เงียบๆ เขาหันไปให้ความสนใจห้องข้างๆ ต่อ โดยมีคาเมะแอบย่องมาฟังอยู่ข้างๆ
ด้วยเหมือนกัน
เสียงที่ได้ยินจากห้องนั้น ทำให้หนุ่มทั้งสองขนลุก นั่นมันเสียงแสดงความรักต่อกันนี่นา
เสียงแหบห้าวของชาย กับเสียงครางกระเส่าของชายอีกคน
พ่อฉันแหล่ะ..... จุนโนะกระซิบกับคาเมะ เมื่อแน่ใจว่า พ่อคงจะพากิ๊กคนใดคนหนึ่งมาเสพสมที่นี่
นี่จะรู้มั้ยนะว่าลูกชายรูปหล่อก็มาพักที่เดียวกันนี่เอง แต่ก็คงจะรู้ง่ะ
เพราะเจ้าหน้าที่ด้านหน้าคงจะเสนอหน้ารายงานเรียบร้อยแล้ว และก็คงจะบอกด้วยอีกว่า
มีหนุ่มน้อยหน้าสวยพ่วงมาด้วย
อื๊ย...ย..ย.. เป็นเสียงคาเมะนั่นเอง ร่างบางนั่งแปะกับพื้นห้อง เอาหูแนบผนังให้ชิดเสียจนหัวแทบจะทะลุออกไปอีกห้องหนึ่ง
จุนโนะเห็นคาเมะหน้าแดง
นี่คงจะจินตนาการเอาเองซินะ ว่าห้องโน้นเขาทำอะไรบ้าง? จุนโนะค่อนคาเมะ
แล้วนายไม่อยากรู้หรือไง? คาเมะอดเถียงไม่ได้ เสียงซี๊ดซ้าดของการร่วมอภิรมย์ทำให้ความคิดที่จะรีบอาบน้ำถอดเสื้อผ้าเปียกๆ
นี้ออก แทบจะไม่หลงเหลืออยู่เลย
ของแบบนี้เป็นของแปลกใหม่ ประเภทผู้ชายทำอะไรกันบ้างแบบหนุ่มสาวนั้นน่ะ
เขาเองอยู่ใกล้จุนโนะมากๆ เข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันนี่นา
ปลายหางตาเห็นจุนโนะเดินไปยังขอบกั้นระหว่างผนัง ใช้มีดปลายแหลมกรีดเนื้อกระดาษออกตรงรอยตะเข็บ
จากนั้นรูๆ เล็กก็ถูกทำขึ้นมาพอที่จะส่องเห็นเหตุการณ์ด้านในของห้องพ่อของเขาได้
เฮ้ย...ทำไรง่ะ? คาเมะขยับเข้ามาใกล้จุนโนะ เห็นร่างสูงจรดจ้องอย่างไม่วางตา
พอสักพักก็ทนไม่ไหว เอื้อมนิ้วมาสะกิดจุนโนะยิกๆ
ดูมั่งเด่ะ
เอ้า...ตามสบาย ดูแล้วอย่าทำเสียงตามล่ะ จุนโนะกดหัวคาเมะให้ตาแนบรูกระดาษ
ส่วนตัวเองก็ลุกขึ้น เดินไปยังห้องน้ำ
อึ้ย...ย... มีอย่างงี้ด้วย...อึ๊ย..ย...ย... คาเมะเข่าอ่อนยวบ ขณะมองเห็นภาพพ่อของจุนโนะ
ไม่รู้ว่าคนไหน เพราะมันนัวเนียเกินกว่าจะเห็นหน้าชัดๆ ได้ แต่ว่าภาพที่เห็นน่ะ
มันชวนให้น่าหวาดเสียวจริงๆ หัวใจแทบจะปะทุออกมานอกอก
ทำไมพ่อของจุนโนะถึงได้มาทำอะไรกันแบบนี้ ในตอนกลางวันแสกๆ ด้วย
และเสียงเซ็กซี่นั่นอีก ทำให้คาเมะนั่งตัวอ่อนระทดระทวย ...นึกไปถึงบทพิศวาสระหว่างชายกับชายแล้วก็คิดว่า...มันทำไปได้ไงฟะ...แล้วจุนโนะล่ะ
จะเคยทำแบบนี้กับไอ้หนุ่มที่ไหนบ้างหรือเปล่า
คาเมะคิดแล้วก็อดใจไม่ไหว มองรูกระดาษเข้าไปส่องเหตุการณ์เซ็กซี่ในห้องนั้นต่อ
***********************
to be con