The Rainbow LOVER

 

vol14

***************************

คาเมะนั่งอย่างซังกะตายที่โต๊ะอาหาร ไม่เป็นอันกิน เพราะต้องคอยเฝ้าดูพฤติกรรมของน้องสาวกับผู้ชายอื่นที่ไม่ใช่จุนโนะ เขานึกเป็นห่วงความรู้สึกของจุนโนะอยู่เงียบๆ ถ้าหมอนั่นรู้เข้าจะเสียใจหรือไม่นะ หรือว่าจะไม่แคร์ แต่เขาน่ะแคร์นะ กลัวว่าอีกฝ่ายจะเสียใจ ....
“เฮ้ย...น้องนายออกไปแล้ว” ยูอิจิสะกิดแขนเขายิกๆ
“เออ...เห็นน่า...” คาเมะขอตัว รีบเดินตามยูกิเอะออกไปทันที ตามกันทันที่ริมถนนนอกร้าน ซึ่งยูกิเอะและแฟนใหม่ (ที่ไม่ใหม่) กำลังยืนรอแท็กซี่อยู่
“ยูกิเอะจะไปไหนล่ะนั่น?” คาเมะฉวยแขนน้องสาวเอาไว้ ท่ามกลางสายตาของใครต่อใคร
“เอ๊...พี่เมะนี่ยังไงนะ อย่าฉุดยูกิเอะต่อหน้าคนเยอะๆ นะ”
“จะไปไหน ...พี่ไม่ให้ไปนะ กลับบ้านเรา หรือจะเรียกให้จุนโนะมารับนะ เอามั้ย....” คาเมะเตรียมโทรศัพท์ถึงจุนโนะ แต่ยูกิเอะสลัดแขนจนหลุด ฉวยมือถือคาเมะมาปิดโทรศัพท์ทันที
“พี่คาเมะอย่ามายุ่งได้มั้ย... ฉันเหลืออดแล้วนะ ฉันน่ะจะไปไหนกับใครก็อย่าขัดซิ จุนโนะน่ะเขาไม่ว่าอะไรหรอก ไม่เชื่อไปถามดูเลยปะ...”

คาเมะยืนอึ้ง บทน้องสาวจะดื้อขึ้นมา ใครก็เอาไว้ไม่อยู่ เจ้าหนุ่มหน้าใสนั่นก็อีก ยืนยิ้มตาหยี ปล่อยให้พี่น้องเขาถกเถียงกัน ส่วนตัวเองก็ชะเง้อมองหาแท็กซี่ ไม่สนใจอะไรเลย
เมื่อรถแท็กซี่มาจอดเทียบ หมอนั่นก็แค่แตะข้อศอกยูกิเอะแล้วบอกว่า
“ไปครับ...”
“ไปล่ะนะ พี่คาเมะไว้เจอกันที่บ้านพรุ่งนี้” ยูกิเอะโบกมือบ๋ายบายพี่ชาย ที่ยืนทำหน้าเหวอกับพฤติกรรมของน้องสาวคนสวย
“เฮ้ย...พรุ่งนี้เลยเรอะ” คาเมะตะโกนออกมา แต่ก็สายไปเสียแล้ว เขาได้แต่มองตามท้ายรถแท็กซี่ที่ห่างออกไปเรื่อยๆ
“เฮ้อ.....”
คาเมะถอนหายใจเฮือก เขาก้มลงมองหน้าจอมือถือ เห็นเบอร์จุนโนะโชว์หรา แต่ยังไม่มีการโทรออกแต่อย่างใด
จะโทร. ดีมั้ยนะ หรือว่าปล่อยเอาไว้แบบนี้ ....

*******************

คาเมะยืนกระสับกระส่ายอยู่หน้าภัตตาคารเมื่อตอนที่จุนโนะขี่รถมาถึง ทางด้านพี่ทักกี้และคนอื่นๆ ต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านแล้ว มีเขานี่แหล่ะที่นัดจุนโนะอยู่ที่เดิม
“รอนานมั้ย?” จุนโนะถามขึ้นในขณะที่คาเมะปีนขึ้นไปนั่งบนรถ
“ไม่หรอก...ฉันไม่รู้ว่ายูกิเอะเขาไปที่ไหน แต่ว่าผู้ชายที่ไปด้วยน่ะ เขาชื่ออิคุตะ โทมะ รู้จักหรือเปล่า?” คาเมะถาม กอดเอวคนขี่แน่นเมื่อจุนโนะเร่งเครื่องไปตามถนน
“อยู่ที่อพาร์ตเม้นต์ย่านชิบุย่า” จุนโนะบอก
“เอ...นายก็รู้หรือ?”
“รู้ซิ เพราะโทมะเป็นแฟนเก่าของยูกิเอะ และก็ตอนนี้ก็กำลังกลับมาคบกันใหม่”
“นายรู้......” คาเมะครางเบาๆ
“ทำไมรู้แล้วยังเฉยอยู่ล่ะ ไม่ตามไปเอาตัวแฟนคืนมาเหรอ?”

...................

จุนโนะเงียบไป ...คาเมะได้ยินเขาถอนหายใจด้วย แต่ว่าร่างสูงก็มุ่งหน้าขี่รถพาเขาไปเรื่อยๆ
สงสัยจะเครียดจัดละมังถึงได้เงียบไป คาเมะจึงสะกิดเอวจุนโนะยิกๆ
“นี่ว่าไงทำไมเงียบไป?”
“ช่างฉันเหอะน่า ไม่ใช่เรื่องของนาย!!” จุนโนะหันมาดุ
“เอ๊ะ!!” คาเมะอุทานออกมา


จุนโนะเร่งเครื่องจนมาถึงบ้านของคาเมะ เจ้าของบ้านทำหน้างงตั้งแต่เห็นว่าจุนโนะไม่ยอมไปตามยูกิเอะแล้วล่ะ แต่กลับพาเขามาส่งบ้านแทน
จุนโนะบอกว่า
“ดึกมากแล้ว นอนได้แล้ว อย่าทำเป็นห่วงเรื่องของคนอื่นอยู่เลย น้องนายน่ะเขาจะมีความสุข อย่าเที่ยวยุ่งเรื่องของชาวบ้านจะดีกว่า”
“นายนี่บ้าชะมัดเลย แฟนของตัวเองแท้ๆ ไม่ห่วงกันบ้างหรือไงนะ เป็นคนอย่างไรกันแน่วะ”
“ฉันก็เป็นของฉันอย่างนี้แหล่ะ ฉันจะปล่อยยูกิเอะไป”
“ฉันก็คิดว่านายมันก็คงทำแบบนี้แหล่ะ ผู้ชายเย็นชา..ชริ...” คาเมะว่าพลางจ้องหน้าจุนโนะไม่วางตา แต่พอจุนโนะจะไป เขาก็ผวาเกาะแขนร่างสูงแน่น
“อะไรอีกล่ะ คาเมะ?” จุนโนะเลิกคิ้วถาม
“เอ้อ....นายไม่เป็นไรแน่นะ?”
“จะให้ฉันเป็นอะไร?” ร่างสูงถามกลับ
“นายคงจะเสียใจ แต่ว่าทำใจเถอะนะ”
คนฟังไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่หัวเราะหึๆ เขาเงยขึ้นมองท้องฟ้ายามมืด เห็นแสงดาววับแวมกระจายเต็มท้องฟ้า จากนั้นก็ฉุดแขนคาเมะมาหาเขา และชี้ไปทางเบาะด้านหลัง บอกว่า
“ถ้าไม่อยากเห็นฉันเสียใจก็ไปหาอะไรดื่มรอบดึกกันมั้ย?”
“เอ้อ.....จะดีเหรอ?” ถามออกไปแบบนั้น แต่ในใจคิดว่า บางทีจุนโนะอาจจะกำลังต้องการที่ปรึกษาปัญหาหัวใจซึ่งก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้ในยามนี้ นอกจากเขานั่นแหล่ะ

คาเมะกำลังชั่งใจว่าจะไปดีไหม...แต่พอเห็นจุนโนะทำหน้าเศร้า เขาก็ใจอ่อน ถึงหัวใจตัวเองจะเจ็บเพราะเห็นคนที่ชอบช้ำชอกเพราะหญิงอื่น เขาก็ต้องฝืนทน
“อือ......” เขาตอบตกลง แล้วปีนขึ้นไปนั่งบนเบาะหลัง จากนั้นจุนโนะก็กระชากรถออกทันทีจนคาเมะผวาเกาะเอวร่างสูงแน่น
“จะไปไหนหรือ?” เขาถาม
“ไปหาอะไรกินที่ตลาด” จุนโนะบอกสั้นๆ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก....

*****************

“เบาๆ หน่อยนะ เดี๋ยวขี่รถกลับไม่ได้นะ” คาเมะคว้าแก้วเบียร์ไปจากมือของจุนโนะเมื่อเห็นว่าจุนโนะดื่มเบียร์แก้วนี้เป็นแก้วที่สามแล้ว
“ขอดื่มหน่อยน้า.....มันอยากเมา...” จุนโนะฉวยแก้วเบียร์คืนจนได้ เขาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว แล้วกระแทกแก้วลงบนโต๊ะจนสะเทือน
“เฮ่ย..จุนโนะ ทำใจดีไว้ๆ”
“นายเห็นใจฉันด้วยเหรอ? ไม่สมน้ำหน้าหรือไง?”
“บ้าเด่ะ ใครจะไปสมน้ำหน้านายกัน ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นนะ”
“หึ...หึ...นายเป็นคนดี ฉันมันคนไม่ดี คนเลว คนเย็นชา แต่ความจริงง่ะนะ ใครจะไปรู้ว่าในใจฉันน่ะ ชอกช้ำแค่ไหนที่ถูกผู้หญิงทิ้งน่ะ ...” จุนโนะทุบหน้าอกของตัวเองดังปึกๆ เขาฟุบหน้าลงกับโต๊ะ....คาเมะมองแล้วส่ายหน้า

.......โธ่เอ๋ย.....

ทีก่อนหน้านี้ ทำเป็นอวดดี ทำเป็นเย็นชา แต่พอแอลกอฮอล์เข้าปากหน่อยล่ะก็ มานั่งเสียอกเสียใจ...

เห็นแล้วก็อดสะท้อนใจไม่ได้
จุนโนะคงจะชอบยูกิเอะมากซินะ ถึงได้ตั้งใจจะเมาเพื่อที่จะได้ลืมเรื่องราวอันน่าช้ำใจนี้ เพิ่งจะเห็นผู้ชายคนนี้แสดงอาการอกหักออกมาให้เห็น......
แล้วเขาล่ะ...ยิ่งเห็นแบบนี้ ...ยิ่งรู้ว่าจุนโนะเสียใจเพราะน้องสาวของเขาแบบนี้ ...ทำให้อดเจ็บลึกในใจไม่ได้

เพราะเขาเองก็ปวดร้าวไม่แพ้กัน


เมื่อรู้สึกตระหนักดีว่า จุนโนะคงไม่รู้สึกพิเศษกับเขาจริงๆ ง่ะแหล่ะ....
ตอนนี้น่าสงสารตัวเองชะมัดเลย....
.....หัวใจไม่รักดี....

คาเมะเอื้อมมือมาลูบศีรษะจุนโนะเบาๆ อย่างเห็นใจ

จุนโนะหัวเราะหึๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองคาเมะ
เมื่อคาเมะเห็นหน้าจุนโนะเขาก็ต้องอึ้งเพราะร่างสูงก้มหน้านิ่ง ริมฝีปากขบกันแน่น

.....นี่สินะความรู้สึกที่แท้จริงของจุนโนะ....

คงจะเสียดายยูกิเอะเอามากๆ เลยล่ะ แล้วก็ทำเป็นไม่สนใจเพื่อกลบเกลื่อน

....โธ่เอ๊ย...ผู้ร้ายปากแข็ง......

แต่ว่าดวงตาโศกสลดของคนตรงหน้าทำให้คาเมะกลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่อยากเห็นจุนโนะเจ็บเลย
“นายไปเอาแฟนของนายกลับคืนมาเถอะ ถ้าไม่ทำอะไร นายจะเสียคนรักไปนะ” คาเมะแนะ
“ไม่หรอก...น้องของนายเขาเลือกนายนั่น ฉันไม่อยากขัดใจเขาหรอก”
“นายนี่เป็นอย่างไงกันแน่นะ เจ็บแล้วจะปล่อยไปแบบนี้หรือ?”
“แล้วนายล่ะ ถ้าคนที่นายรักจากไป นายจะทำยังไง” จุนโนะถามกลับ
เล่นเอาคาเมะนิ่งไปเพียงชั่วครู่ แล้วถ้อยคำอันสั่นเครือก็ดังแผ่วๆ
“ฉันก็จะปล่อยเขาไป ...เพราะฉันคงมีความสุขถ้าเห็นเขามีความสุข”
“นายนี่...เป็นคนดีจริงๆ เลยนะ” จุนโนะเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากคาเมะ

ทั้งสองนั่งดื่มกันอีกสักพัก พอจุนโนะเริ่มจะกรึ่ม คาเมะก็แย้งขึ้น
“ถ้าอยากจะเมาล่ะก็ไปดื่มที่ห้องนายดีมั้ย เดี๋ยวจะเมาเกินกว่าจะขี่รถกลับได้หรอก”
“อือ...ถ้าอย่างนั้น นายช่วยอยู่เป็นเพื่อนฉันได้หรือเปล่า?”
“เอ้อ...ฉันจะไปส่งนายแค่นั้นคงจะอยู่ด้วยไม่ได้หรอกนะ” คาเมะพูดเศร้าๆ กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ร่างสูงจับมือของเขามากุมเอาไว้
“น่านะ...อยู่เป็นเพื่อนกันสักนิด หรือว่านายจะทิ้งฉันแบบน้องของนายอีกคน...อือ...ใช่สิ...คนอย่างฉันน่ะ คงไม่มีใครต้องการหรอก” ว่าแล้วจุนโนะก็ปล่อยมือคาเมะลงทันที เขาเตรียมจะสั่งเบียร์มาเพิ่ม แต่ว่าคาเมะห้ามเอาไว้
“เออ..ก็ได้ฟะ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนายเอง แต่นายต้องไม่ดื่มแล้วนะ”
“อือ.....” จุนโนะค่อยยิ้มออก เขาเชื่อฟังคาเมะอย่างว่าง่าย ดังนั้นทั้งสองหนุ่มจึงพากันกลับอพาร์ตเม้นต์ของจุนโนะ

.................

กว่าจะถึงที่อยู่ของจุนโนะได้ก็แทบแย่ คาเมะเองก็เกร็งแล้วเกร็งอีกเพราะจุนโนะขี่รถแบบสโลว์โมชั่นมาก แถมยังไม่ตรงทางอีก คาเมะจึงแนะว่าควรจะขี่ชิดขอบทางมากกว่าจะไปทำอวดเก่งกลางถนน
“นายขี่มั้ย?” จุนโนะบอก
“ไม่...ฉันขี่ไม่เป็น ชอบซ้อนมากกว่า” คาเมะว่า
“ใช่.......อีกหน่อยฉันคงไม่มีใครอยากซ้อนแล้วล่ะ น้องของนายก็ไปกับคนอื่นแล้วนี่” จุนโนะพูดเสียงเศร้า ทำให้ร่างเล็กต้องกดใบหน้ากับแผ่นหลังกว้างอย่างเข้าใจ
“เฮ้อ.....จุนโนะ...ฉันเห็นใจนายนะ”

****************************

ดึกสงัดของคืนนั้น
คาเมะนั่งมองร่างอันเหยียดยาวของจุนโนะ โดยมีมือใหญ่เกี่ยวกุมกับมือของเขา เสียงลมหายใจผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์โชยเข้ามา เส้นผมอันยุ่งเหยิงของชายหนุ่มตกลงมาปรกใบหน้าอันหล่อเหลา ซึ่งคาเมะก็ช่วยเกลี่ยมันให้เข้าที่ เม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นข้างขมับนั้น ทำให้คาเมะต้องเป็นฝ่ายแกะมือของจุนโนะออก และลุกขึ้นเตรียมการเช็ดหน้าเช็ดตาให้ร่างสูง

จุนโนะหลับไปแล้ว แต่เขาล่ะ ทำยังไงก็หลับไม่ลง....
.....ความรักเป็นเช่นนี้เองแหล่ะหรือ ....คนที่อกหักก็แทบจะอยากเมาเป็นบ้าแบบจุนโนะ
แต่คนอกหักอย่างเขาล่ะ .....ต้องทนฝืนกล้ำกลืนความขมขื่นลงคอ ทำตีหน้าพี่แสนดีของแฟนสาวที่หักอกชายหนุ่มผู้นี้งั้นหรือ....


.....ใช่สิ ....ก็เพราะก่อนที่จุนโนะจะปิดเปลือกตาลงนั้น คาเมะได้ยินจุนโนะพึมพำว่า
“นายต้องรับผิดชอบนะที่ยูกิเอะทิ้งฉันไปแบบนี้ ......เพราะนายเป็นพี่ชายของเธอ”

..............

“ฉันก็อยากรับผิดชอบนายหรอกนะ.......ฉันจะดูแลนายเองจุนโนะ” คาเมะพูดใส่แผ่นหลังของจุนโนะขณะเอนตัวลงนอนเคียงข้างร่างสูง เขาพยายามปิดตาลง

วันนี้ทั้งวันสมบุกสมบันเป็นบ้าเลย....แทนที่ร่างกายจะเหนื่อยและง่วง แต่ก็ไม่.....ดวงตาของเขาค้างแข็งทำยังไงก็ไม่หลับ จนต้องซุกใบหน้ากับต้นแขนของจุนโนะ ดีใจที่ได้คลอเคลียเหมือนลูกแมวน้อยที่จุนโนะเคยสั่งให้เขาเป็นเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน


.........กี่วันแล้วนะที่เขาเคยมาอยู่ที่นี่......มาเป็นสัตว์เลี้ยงของจุนโนะสุเกะคนนี้


......จะเดือนหนึ่งแล้ว อีกสองวันก็จะคบหนึ่งเดือนพอดี.....


“นายจะรู้มั้ยนะจุนโนะ ว่าภายในเวลาหนึ่งเดือนสามารถเปลี่ยนแปลงหัวใจได้ถึงขนาดนี้ ฉันเคยไม่ชอบขี้หน้านาย แต่เดี๋ยวนี้น่ะ นายจะรู้มั้ยนะว่า.....ความรู้สึกของฉันที่มีต่อนายน่ะมันทำให้ฉันอยากร้องไห้เหลือเกิน”
คาเมะบ่นเบาๆ ราวกับพูดกับตัวเอง จุนโนะหลับแล้วคงไม่ลุกมานั่งตอบเขาหรอกนะ
แต่ว่า......
คาเมะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อร่างสูงของจุนโนะพลิกกายนอนหงาย มือประสานกันไว้บนอก และนั่นก็ทำให้คาเมะขยับกายขึ้นเล็กน้อย เอาศีรษะหนุนกับหัวไหล่ของจุนโนะพอดิบพอดี
“ราตรีสวัสดิ์จุนโนะ”

***********************

วันรุ่งขึ้น
จุนโนะมาส่งเขาในตอนสาย ก่อนจะลาจากร่างสูงยังถอนหายใจเฮือก ทำหน้าเศร้าและคว้าตัวเขาเข้ามากอดอีกต่างหาก
“ฉันคงจะน่าสมเพชมากใช่มั้ยในสายตาของนาย”
คาเมะไม่ตอบอะไร เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหมองเศร้านั้น เห็นแล้วก็ใจหาย จุนโนะดูเหมือนคนอกหักชะมัดเลย เขาเองก็คงมีสีหน้าไม่ต่างเช่นกัน
“ถ้านายอยากได้คนปลอบใจล่ะก็ มาหาฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ” คาเมะเอ่ยอย่างคนใจดี แต่คนฟังกลับส่ายหน้าปฏิเสธ
“อย่าเลย ถ้ามาแล้ว ฉันก็จะต้องพบกับน้องสาวของนาย อย่าให้ฉันต้องทรมานตัวเองเลยนะคาเมะ”
“งั้นจะให้ทำอย่างไรล่ะ?”
“นายก็ไปอยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยได้มั้ย...จนกว่าฉันจะหายเสียใจ ฉันกลัวว่า ฉันจะคิดฆ่าตัวตายน่ะ”
“เฮ้ย!! พูดอะไรอย่างนั้นนะ คงไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ ใช่มั้ย?” คาเมะจับข้อมือจุนโนะเอาไว้ ดึงมันมากุมไว้แน่น เขาเงยหน้าขึ้นเพื่อจะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเรียวรีของร่างสูง เพื่อที่จะดูว่าที่จุนโนะพูดออกมานั้น เอ่ยออกมาจากใจหรือเปล่า
“นายคงไม่คิดสั้นแบบนั้นหรอกนะ”
“ทำไมนายถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?” จุนโนะถามกลับ
“ไม่รู้สิ แต่คิดว่าคนอย่างนาย ไม่น่าจะกลายเป็นคนอ่อนแอเพียงชั่วเวลาข้ามคืนหรอกนะ”
“เหรอ.....”
“ฮื่อ...” คาเมะพยักหน้ารับ
จุนโนะก้มลงมองใบหน้าของคาเมะ เขาเชยคางของหนุ่มน้อยขึ้น บีบตรงสันจมูกโด่งเบาๆ
“นายไม่เข้าใจความรู้สึกของการเป็นคนอกหักหรอก”
“ทำไมฉันจะไม่เข้าใจ” คาเมะรีบก้มหน้าหลบตาคมของจุนโนะวูบ...เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“นายไม่เข้าใจฉันหรอก จุนโนะ ไม่เข้าใจฉันเลยจริงๆ”


“ฉันไปก่อนนะคาเมะ ฝากไว้ให้คิดนะ ว่านายอยากจะมาอยู่เป็นเพื่อนของฉันหรือเปล่า...ถ้าไม่อยากเห็นฉันลาตายก็มาปลอบใจฉันเถอะนะ”
ชายหนุ่มพูดทิ้งท้ายเช่นนั้น ก่อนจะขี่รถจากไป

................

และนั่นทำให้คาเมะต้องคิดหนัก ...เขาถลำตัวรักจุนโนะจนเต็มหัวใจแล้วในตอนนี้ ถ้าปล่อยใจให้ตัวเองเข้ามาพัวพันกันอีก เขาจะช้ำใจมากกว่านี้มั้ยนะ


บ่ายวันนั้น ยูกิเอะ.....น้องสาวจอมซ่า กลับเข้าบ้านในตอนสายของวันนั้นพร้อมกับชายหนุ่มอิคุตะ โทมะ ที่อี๋อ๋อกันเกินกว่าเหตุ
คาเมะลากข้อมือของน้องสาวเข้ามาในห้องส่วนตัวของเขา
“นี่.....ไม่คิดถึงหัวใจของจุนโนะเลยนะ รู้มั้ยว่า หมอนั่นน่ะเมาไม่เป็นท่าเลย”
แทนที่ยูกิเอะจะเห็นใจ เธอกับยักไหล่อย่างไม่แคร์
“ช่างปะไร...คนน่าเบื่อแบบนั้นน่ะ”
“ยูกิเอะ.....ทำไมพูดแบบนี้”
“พี่คาเมะอย่ามายุ่งเรื่องของฉันหน่อยเลย...ฉันไม่กลับไปหาเจ้าหมอนั่นหรอกน่า....” เธอพูดเสียงสะบัดแล้วก็ดึงมือกลับ คลำข้อมือป้อยๆ เพราะคาเมะเผลอกดน้ำหนักลงไปเพราะความโกรธ
“ถ้าพี่ไม่อยากเห็นเขาเสียใจก็ปลอบกันเองเถอะ แต่ยูกิเอะจะไม่กลับไปง้อเขาหรอก”
“พี่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เธอทำด้วยหรือไง?” คาเมะเสียงชักแข็งขึ้น แต่อาการยักไหล่ของน้องสาวทำให้เขาอดตำหนิในใจไม่ได้เลย
.....นี่ว่าจุนโนะเย็นชา แต่น้องสาวของเขาคงจะยิ่งกว่า เสียงของยูกิเอะดังกระทบหูของเขาดังฉึ่กเมื่อน้องของเขาพูดว่า
“ก็งั้นซิ......เพราะฉันคงไม่กลับไปหาผู้ชายที่ยืนจูบกับพี่ชายของตัวเองในคืนวันนั้นหรอกนะ!!”
“หา?.....ยูกิเอะ!!” คาเมะขนลุกซู่เมื่อได้ยิน

........ให้ตายซิ .....คืนนั้นที่จุนโนะมาส่งเขา ...จูบเขาและกอดเขานั้นน่ะ ไม่คิดว่าจะมีใครเห็นนอกจากยาม แต่ก็ไม่พ้นสายตาของน้องสาวไปได้ ขณะกำลังหาคำแก้ตัวอยู่นั้น ยูกิเอะก็เอานิ้วจิ้มหน้าอกข้างซ้ายของเขาแรงๆ
“พี่น่ะ......ทำให้ฉันตัดสินใจไปคบกับโทมะเหมือนเดิมนะ รู้ตัวเอาไว้ซะซิ เพราะงั้นพี่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่จุนโนะได้รับ”
“แต่จุนโนะเขาชอบเธอนะ......ชอบมากด้วย เพราะเขาคร่ำครวญและกินเหล้าเพื่อดับความทุกข์ใจ ที่จูบกับฉันวันนั้นน่ะ เพราะเรา...เอ้อ....เมาด้วยกันทั้งคู่ และเขาก็คิดว่าพี่เป็นเธอละมัง?” คาเมะแก้ตัวน้ำขุ่น และนั่นก็ทำให้อีกฝ่ายหัวเราะออกมา
“ไม่ล่ะพี่คาเมะ....ยูกิเอะไม่สนเขาแล้วล่ะ”
เด็กสาวเดินไปที่ประตู เธอส่ายหน้าให้พี่ชายและโบกมือให้
“พี่คาเมะต้องรับผิดชอบเขานะ”

****************************

ยูอิจิหัวเสียขนาดหนักเมื่อได้ยินเสียงกดกริ่งที่หน้าประตูบ้าน ในยามนี้คือเวลาที่เขาจะมีเดทกับยามะพี แต่ว่าต้องมารับแขกจนได้ ขอภาวนาว่าน่าจะเป็นแขกของพ่อหรือแม่ แต่เขาก็ต้องถอนหายใจเฮือกเมื่อพบกับสีหน้าเศร้าสร้อยของคาเมะ
“อะไรวะไอ้เมะ ทำหน้าเหมือนคนโดนแฟนทิ้งงั้นแหล่ะ” ยูอิจิเอาศอกกระทุ้งสีข้างของคาเมะ
ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยอ่อน เขาเริ่มต้นเล่าเรื่องเมื่อคืนนี้ให้ยูอิจิฟัง และเพื่อนของเขาก็รับฟังอย่างดีไม่มีข้อสงสัยอะไรเลย คาเมะจบคำเล่าของเขาด้วยการถามว่า
“ฉันควรจะทำอย่างไรดี?”
“นายควรจะเก็บเสื้อผ้าและไปปลอบใจเจ้าหมอนั่นที่อพาร์ตเม้นต์ของเขานะ เพราะนายเป็นพี่ชายของสาวที่หักอกเขา” ยูอิจิตอบโดยไม่ต้องคิดสักนิด และนั่นก็ทำให้คาเมะโวย
“ฉันก็อกหักเหมือนกันนะโว้ย ทำไมไม่มีใครมาปลอบใจฉันมั่งเล่า”
“เออว่ะ...งั้นนายก็ไปให้จุนโนะเขาปลอบใจเด่ะ เออ...ดีเหมือนกันว่ะ ปลอบกันไปปลอบกันมา อย่างงี้ก็เข้าล็อก จับหมอนั่นกดซะก็สิ้นเรื่อง รักเขาใช่มั้ยล่ะ? ทีงี้ก็ได้โอกาสแล้วนี่หว่า”
“ไอ้บ้า....” คาเมะว่า แต่ก็นะ ...ความคิดของยูอิจิฟังดูก็เข้าท่า แต่ว่า ......
“ละอายใจว่ะ...” คาเมะว่า แล้วก็ต่อท้ายด้วยคำว่า
“ฉันไม่อยากเป็นตัวสำรอง”

******************************

เป็นอันว่าวันนั้น คาเมะตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็น มากดกริ่งอยู่หน้าห้องของจุนโนะสุเกะ ...แต่ว่าไม่มีเสียงตอบรับจากด้านในห้อง แสดงว่าจุนโนะไม่อยู่บ้าน ...ชายหนุ่มมองนาฬิกาข้อมือ เกือบจะสองทุ่มแล้ว จุนโนะไปไหน หรือว่ากำลังไปง้อยูกิเอะ...

......อือ...........ถ้าเป็นแบบนั้น.....

เขาเองก็จะดีใจด้วย คนที่รักสองคน จะได้กลับมาคืนดีกันอีกครั้ง

คาเมะรูดตัวลงนั่งพิงหลังกับประตูห้อง รอเจ้าของห้องกลับมา ไม่รู้ว่าเมื่อไร แต่ก็จะรอ อยากรู้เหมือนกันว่า ตอนนี้จุนโนะจะมีสภาพเป็นอย่างไร แต่ไม่คิดว่าจะกินเหล้าเมาเพราะเสียใจหรอกนะ...

..............................

จุนโนะเดินแกว่งกุญแจห้องออกมาจากลิฟต์ เขาชะงักฝีเท้าอยู่ตรงทางเดินระหว่างห้องเมื่อเห็นว่ามีร่างของชายคนหนึ่ง นั่งจุ้มปุ๊กซุกหัวกับหัวเข่า และคงจะหลับด้วยซิ จากเสื้อผ้าและเรือนร่างที่เขาคุ้นตา ทำให้เขายิ้มออกมา
“คาเมะนั่นเอง....” จุนโนะอดหัวเราะไม่ได้ เขาค่อยๆ ย่องมาที่ร่างเล็ก ฝีเท้าแผ่วเบาเข้ามาใกล้แล้ว แต่คาเมะก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะตื่นแต่อย่างใด

รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก.....เป็นยิ้มเจ้าเล่ห์ชนิดที่ถ้าใครเห็นคงจะร้อนซู่ซ่าเป็นแน่

คาเมะมาหาเขาจริงๆ ด้วย มาปลอบใจเขาเพราะเขาขอร้องเอาไว้......
ทีนี้จุนโนะก็จะได้หนุ่มน้อยน่ารักมานอนกอดอีกครั้งหนึ่งแล้ว...

“คาเมะ.....” จุนโนะเอื้อมมือแตะเส้นผมของคาเมะเบาๆ จากเสียงเรียกนั้นทำให้คาเมะสะดุ้งตื่นขึ้น
“จุนโนะ...ะ...” น้ำเสียงงัวเงียของคาเมะขัดกับประกายตายินดีของเจ้าของเสียงเหลือเกิน
คาเมะดีใจที่พบจุนโนะที่มีสภาพยังดีอยู่ ไม่ได้เมากลับมาแต่อย่างใด ร่างเล็กเผลอตัวเอื้อมแขนคล้องรอบคอของจุนโนะ ในขณะที่ร่างสูงเองก็โอบรอบบ่าของคาเมะแล้วดึงตัวให้ลุกขึ้น
.......
“ดีใจจังที่นายไม่ยักกะเมากลับมา” คาเมะว่า เขายังอยู่ในอ้อมกอดของจุนโนะอยู่เลย และฝ่ายนั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยมือจากบ่าของเขาแต่อย่างใด
“ดีใจมากเลยเหรอ?”
“ฮื่อ.......” คาเมะพยักหน้างึกๆ ท้องร้องโครกครากให้จุนโนะได้ยิน ร่างสูงหัวเราะคิก
“หิวหรือไง?”
“ฮื่อ....”
“ถ้างั้น ...เดี๋ยวไปหาอะไรกินกันดีกว่านะ” จุนโนะชวน
คาเมะพยักหน้าอีกรอบ
“ฮื่อ...”
“พูดอย่างอื่นเป็นมั้ย?”
“ฮื่อ...” พยักหน้าขึ้นลงอีกรอบ
จุนโนะหัวเราะกับกิริยานั้น
คาเมะจึงตอบว่า
“ฉันดีใจที่นายกลับบ้าน”
และจุนโนะก็ตอบกลับไปว่า
“บ้านที่มีนายอยู่ด้วย”

**************************

to be con

เม้นต์ที่นี่จ้า