Private Studio
by Gob "Saovanit Navapan"
HOME
ABOUT GOB
COURSES
STUDIO
NEWS & EVENTS
INSTUCTORS
STUDENTS
Thai
Eng
น้องเอ๋ (ถาม) - ทำไมพี่กบถึงเลือกที่จะร้องเพลงคะ
พี่กบ   (ตอบ)


-
เริ่มจากความรู้สึกที่ชอบเวลาตัวเองสวดมนต์หลังพักเที่ยง โรงเรียนให้สวด
  รู้สึกมีความสุข สนุกในการออกเสียงและพยายามค้นหาว่า
  ทำยังไงให้กังวานเหมือนคนนำสวด

-
ป.5 ที่โรงเรียนเริ่มมีชุมนุมดนตรีเกิดขึ้น เรียนเปียโนอยู่
  ก็เลยไปสมัครเพราะอยากเล่น ครูบอกว่าเล่นไม่แข็ง ให้ไปร้องเพลงแทนแล้วกัน
  ตั้งแต่นั้นก็เลยร้องเพลงมาเรื่อยๆ ชอบซ้อมร้องเพลง รู้สึกว่าอยู่คนเดียวแล้วสบายใจ
  แต่ก็ไม่ได้มุ่งมั่นว่าจะต้องร้องเพลง เพราะตอนเด็กๆขี้อายมากกก ^ ^

-
ม. 1 มีแข่งประกวดร้องเพลงในโรงเรียน ไม่ได้คิดอะไรมาก ไปสมัครตามที่คุณครูแนะนำ
  แข่งเสร็จก็ไม่ได้รางวัลแต่ครูชมว่าเสียงเพราะดี ให้พยายามฝึกซ้อมต่อไป
  ฟังแล้วก็ทำตามด้วยความเป็นเด็กดีประกอบกับการชอบร้องเพลงโดยส่วนตัวอยู่แล้ว

-
ม. 2 แข่งร้องเพลงอีก แล้วก็ได้รางวัลชนะเลิศ
  ตั้งแต่นั้นมาก็เริ่มทำกิจกรรมทุกอย่างในโรงเรียน ร้องเพลง พิธีกร เต้นรำ รำไทย..
  กลายเป็นเด็กกิจกรรมไปโดยปริยาย เนื่องจากอยากทำในสิ่งที่คนอื่นไม่นิยมทำกัน
  (บางคนเรียนอย่างเดียวไม่ทำอย่างอื่นเลย)

-
เริ่มหาที่เรียนร้องเพลงอย่างจริงจัง เนื่องจากฝึกซ้อมเองที่บ้านเป็นประจำอยู่แล้ว
  และผู้ใหญ่ที่บ้านท่านได้แนะนำให้ไปเรียนให้ถูกวิธีและเป็นเรื่องเป็นราว
  แต่เรียนได้แค่ 2 ชั่วโมงก็หยุด เพราะไม่เข้าใจภาษา (สอนเป็นภาษาอังกฤษ)
  และวิธีการเรียนการสอนไม่ตรงกับสไตล์และความต้องการของเรา
  ห้องเรียนเป็นห้องรวม วางของระเกะระกะ
  เหมือนไม่พร้อมสำหรับการทำการเรียนการสอน
  ก็เลยหยุดเรียนตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ประกอบกับยังไม่คุ้นกับการก้าวออกไปเผชิญโลก
  ที่ไม่คุ้นเคยทีเต็มไปด้วยผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักมากมายด้วย

-
ม. 4 ที่บ้านเห็นขยันซ้อมร้องเพลงมาก และไม่เคยเห็นทำการบ้านเลย
  (เพราะทำการบ้านเสร็จตั้งแต่อยู่โรงเรียนแล้ว นี่...ขยันมาก)
  ก็เลยแนะนำให้
ไปแข่ง นิสสันอวอร์ด ของสยามกลการ ปี พ.ศ. 2532
  เริ่มแข่งตั้งแต่อยู่ ม.4 จนขึ้นม. 5 เลยค่ะ (ยาวมาก)
  คุณครูมัธยมที่โรงเรียนประสานมิตรท่านใจดีมากๆ สนับสนุนเต็มที่
  ให้ไปเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน
  และที่สำคัญท่าน
ได้ให้ไปเชิญธงและยืนพูดหน้าเสาธงหลังชนะการประกวดรางวัลดีเด่น
  เป็นการนำชื่อเสียงมาสู่โรงเรียน
  (ในที่สุด ความฝันที่จะได้เชิญธงของด.ญ. เสาวนิตย์ ก็เป็นจริงเสียที 555)

-
ได้ประสบการณ์จากการแข่งขันคราวนี้เยอะมาก
  เป็นการ
จุดประกายในการเดินมาทางสายดนตรีอย่างจริงจัง
  เนื่องจากรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ดีและไม่เหนื่อยหรือเบื่อในการที่จะทำ
  (อยากบอกว่า รางวัลนี้
เป็นรางวัลที่ภูมิใจมากเนื่องจากเป็นผู้ชนะที่มีอายุน้อยที่สุด 555)
  (เค้ารับตั้งแต่อายุ 15 ? 25 ปี ^ ^)

-
ตอนประกวด โชคดีมากๆ ที่ได้มีโอกาสฝึกเข้มก่อนการประกวดโดย
 
อาจารย์ ดุษฎี พนมยงค์ ? บุญยทัศนกุล

-
เลือกที่จะ Entrance เข้าศิลปกรรมศาสตร์
 
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขา ดนตรีตะวันตก เอกขับร้อง
  ที่เลือกเรียนเพราะอยากรู้ว่าดนตรีคืออะไร
  (ตอนนั้นไม่รู้ว่าต้องเรียนร้องเพลงคลาสสิกและต้องสอบทฤษฎีดนตรี)
  ซึ่งตัวเองไม่มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้เลย  แต่ก็ลองดู
  แล้วก็ได้รับความกรุณาจาก
อาจารย์ที่คณะในการให้ความรู้และความกระจ่าง
  ในคำถามทางด้านดนตรีที่ตัวเองคาใจมาตั้งแต่เด็กได้อย่างดีเยี่ยม  -
ขอบพระคุณค่ะ

-
นับว่าเป็นความโชคดีมากที่ได้เรียนร้องเพลงกับอาจารย์ สารา เกษมศรี
 
เพราะอาจารย์สอนให้เรามากกว่าแค่การร้องเพลง แต่ท่านยังได้สอนความเป็นดนตรี
  ความเข้าใจและอะไรอีกมากมายที่นอกเหนือจากแค่ทฤษฎีในหนังสือ (ขอบคุณค่า)
  ในความรู้สึก รู้สึกตัวเองได้รับพื้นฐานที่ดีมากจากความรู้ที่อาจารย์มอบให้
  และรู้สึกปลาบปลื้มมาจนทุกวันนี้และ
ขอบพระคุณในความกรุณาของคุณครู
  ที่มอบความรู้ให้อย่างเต็มที่และไม่เคยอมภูมิเลยค่ะ

-
พอเรียนจบในระดับปริญญาตรีแล้ว ก็ตัดสินใจไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยดนตรี Berklee เลย
  โดยที่ไม่ได้รอรับปริญญาที่เมืองไทย เนื่องจากมีความมุ่งมั่นมาก  
  และกลัวที่จะไม่ได้เรียนต่อ ประกอบกับอยากให้การเรียนต่อเนื่อง 
  (ทุกวันนี้ยังไม่มีรูปใส่ชุดครุยรับปริญญาเลยอ่ะก็แอบเสียดายจิ๊ดนึง
  แต่ก้อเป็นสิ่งที่เลือกอย่างดีแล้ว)
  ด้วยความที่เป็นคนที่
ชอบแนวเพลงของคนผิวดำ เช่น R&B, Blues, Soul, and Funky 
  มาก  (แต่ตอนนั้นรู้จักแต่ R&B นะคะ)
  รุ่นพี่ที่เล่นดนตรีได้แนะนำให้ไปเรียนที่ วิทยาลัย Berklee
  และบอกว่า Jazz ที่นี่ สุดยอด และยังสอนแนวเพลงทุกแนวยกเว้นคลาสสิกได้อย่างดีมาก
  อาจารย์ผู้สอน เครื่องไม้เครื่องมือ และระบบการเรียนการสอนก็เพียบพร้อม
  เหมาะแก่การเรียนอย่างยิ่ง
ก็ไม่ลังเลเลยที่จะไป

-
พอไปเรียนแล้วก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่า เป็นจริงสมคำเล่าลือจริงๆ
  ไปเรียนแล้วรู้สึกว่า
ไม่อยากกลับเลย
  (เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการเอาไว้ค่อยเล่าอีกทีนึงนะคะ......)
Photo by: Veerapoj Assawacharn