WELCOME TO THE WWW.GEOCITIES.COM/GUIDE_7WW

 

7 สิ่งมหัศจรรยของโลก The seven wonders of the world    
เข้าเยี่ยมชม webboard ได้ที่นี่ครับ

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคต้น
The seven wonders of the ancient world

ไปล่างสุด

   

 


สุสานของกษัตริย์โมโซรุส



      สถานที่ตั้ง เมืองฮาลคาร์นาซซัส ประเทศตุรกี  
    เป็นสุสานเก่าแก่ของพระเจ้ามุสโซลุส กษัตริย์แห่งเอเซียไมเนอร์
    สร้างโดย พระมเหสีชื่ออาเตมีสเซีย ด้วยความตายของพระสวามี
   ทำให้พระนางเสียพระทัยมากจึงสร้างสุสานไว้เป็นที่ระลึก ในเวลาต่อมา
     สุสานเก่าแก่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนี้เป็นผลงานของ
     นายช่างผู้สร้างสรรค์ ทั้ง 4 คน คือ ฟิดิอัส,ชาติรัสบายฮาซีส,สโคปปาส
    และ ทิโมทิอัสสร้างด้วยหินอ่อน ในปี ค.ศ. 156 - 190
     มีขนาดสูงถึง 140 ฟุต ฐานโดยรอบยาวถึง 460 ฟุต
    บนยอดสุดเป็นพื้นเหลี่ยม เล็กกว่าฐานล่าง ได้ปั้นเป็นรูป
    ราชรถและม้า 1 ชุด กำลังวิ่งและมีกษัตริย์พระมเหสียืนอยู่บนราชรถม้า
   ประกอบด้วยลวดลายสวยงามมาก  ในปัจจุบันนี้เหลือแต่ซากปรักหักพังบางส่วน
   เพราะเกิดแผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 12 - 13    ชิ้นส่วนเหล่านี้ถูกนำไปไว้      
   ที่พิพิธภัณฑ์ของประเทศอังกฤษชื่อ บริทิช มิวเซียม



:::::กลับด้านบน:::::


 



สวนลอยแห่งกรุงบาบิโลน


สวนลอยกรุงบาบิโลนแห่งนี้เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นเหนือพื้นที่กึ่งทะเลทราย ก่อสูงซ้อนกันเป็นชั้นๆ สูงถึง 100 ฟุต แต่ละชั้นปลูกไม้ดอก ไม้ใบนานาชนิดไว้สวยงามมาก อีกทั้งมีน้ำตกและมีการชลประทานด้วย
สวนลอยกรุงบาบิโลน มีอายุประมาณ 4,000 ปีมาแล้ว อยู่ริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส พระเจ้าเนบูชาค์ เนซซาร์ โปรดให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับพักผ่อนอิริยาบทของพระองค์ และพระมเหสี
กล่าวกันว่า ยุคพระเจ้าเนบูชาค์ เซซาร์ เป็นยุคกรุงบาบิโลนรุ่งเรืองสุดขีด พระองค์ได้ขยายเขตพระนครออกไป ได้ตกแต่งพระราชวัง โบสถ์วิหาร สร้างกำแพง และประตูเมือง ให้ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งและสวยงามที่สุด
น่าเสียดายที่สวนย่อมมหัศจรรย์แห่งนี้ ปัจจุบันพังทลายสูญสิ้น ไม่หลงเหลือแม้แต่ซากให้อนุชนรุ่นหลังได้เห็น จะปรากฏอยู่เพียงชื่อและกิตติศัพท์แห่งความยิ่งใหญ่ในอดีตเท่านั้น
กรุงบาบิโลน ปัจจุบันรวมเข้ากับอีรัค ซึ่งประกอบด้วย อัศซีเรีย และแคลเดีย มีเมืองหลวงชื่อกรุงแบกแดด
ชาวบาบิโลน เป็นผู้สนใจดาราศาสตร์เป็นพิเศษ ปฏิทินที่กำหนดว่า ปีหนึ่งมี 12 เดือน ซึ่งใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นความคิดของชาวบาบิโลน นี่เอง และที่นี่ยังจัดเป็นสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลกยุคต้น


 



หอประภาคารโรส


สถานที่ตั้ง เกาะฟาโรส เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์
ปัจจุบัน ไม่เหลือซาก ประภาคารนี้ทำด้วยหินอ่อนสีขาวสลีกลวดลาย วิจิตรงดงาม ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน ท่าเรือของเกาะฟาโรส สร้างในสมัยพระเจ้าปโตเลมีที่สองของอียิปต์ช่วงปี 270 ปีก่อนคริสตกาล ออกแบบโดยสถาปนิกชาวกรีกชื่อโซสตราโตส
ตามหลักฐานคาดว่าประภาคารนี้สูงถึง 440 ฟุต
หรือ 134 เมตร ช่วงล่างเป็นรูปสี่เหลี่ยม ช่วงกลางเป็นรูปแปดเหลี่ยม และช่วงบนเป็นทรงกลม ยอดบนสุดกของประภาคารนี้ มีภาชนะสำหรับใส่ถ่าน ซึ่งลุกโชติช่วงทั้งวันทั้งคืนเพื่อเป็นไฟสัญญาณไฟบนยอดประภาคารนี้เห็นได้ไกลในทะเลเมดิเตอเรเนียนถึง 25 ไมล์ หรือ 40 กิโลเมตร
และช่วงบนมีกระจกขนาดใหญ่ ตามตำนานเล่าขานกันมา กระจกนี้สะท้อน เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกรุงคอนสแตนติโนเปิ้ล ข้ามไปจนถึงภาคตะวันออกของทะเลเมดิเตอเรเนียน และเอเชียไมเนอร์ ยังมีการเล่าต่อกันมาอีกว่ากระจกนี้ยังมีอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชสำคัญสะท้อนแสงอาทิตย์ไปเผา เรือศรัตรูในทะเล เพราะเรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมาเหล่านี้ ทำให้ประภาคารแห่งเมืองอเล็กซานเดรียนี้มีชื่อเสียง เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แม้ว่าไม่ใช่ประภารแห่งแรกในทะเลเมดิเตอเรเนียนแต่ก็เป็นอันที่ใหญ่ที่สุด ประภาคารนี้ได้ชื่อมาจากชื่อเกาะที่มันตั้งอยู่ คือ ฟาโรส และกลายมาเป็นชื่อเรียกประภาคารในภาษาต่าง ๆ ประภาคารฟาโรสตั้งตระหง่านนำทางสัญจรของเรือเข้าสู่เมืองอเล็กซานเดรียมาเป็นเวลา 9000 ปี จนกระทั่งพวกอาหรับเข้ายึดครองเมืองประภาคารก็ถูกรื้อทิ้งไปเล่ากันมาว่พวกอาหรับถูกสายลับซึ่งจักรพรรดิแห่งคอนสแตนติโนเปิ้ลส่ง
มาหลอกลวงให้ทำลายประภาคารเสีย เพื่อไม่ให้ใช้มันเป็นประโยชน์ในการเดินเรือของพวกมุสลิม สายลับอ้างว่าข้างใต้ประภาคารมีขุมทรัพย์ฝังอยู่ แต่หลังจากประภาคารถูกทำลายไปแล้วพวกอาหรับถึงตระหนักว่าเสียรู้ ในช่วงนั้นกระจกขนาดใหญ่ก็หล่นร่วงลงมาและแตกละเอียดเป็นผุยผง มีบางส่วนของประภาคารหลงเหลือ และส่วนนี้ก็ยังคงมีอยู่ให้เห็นจนปี ค.ศ. 1375 จนแผ่นดินไหวในเมืองอเล็กซานเดรียพังประภาคารชื่อดังก็ทลายลงมาจนสิ้นซาก


  :::::กลับด้านบน:::::

 



มหาวิหารเดียนา

สิ่งมหัศจรรย์เก่าแก่ของโลกสิ่งหนึ่ง คือ มหาวิหารเดียนา อยู่ที่เมืองเฟฟิอุส
ประเทศกรีซ มหาวิหารเดียนา สร้างขึ้นด้วยหินอ่อน เพื่อถวายเทพเจ้าอาร์เทมิส ผู้เสด็จมาจากสวรรค์
มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏ แต่ถูกบูรณะซ่อมแซมในปี ค.ศ. 186 เพราะถูกไฟไหม้
มหาวิหารเดียนา มีเนื้อที่กว้างถึง 54,720 ตารางฟุต ตัววิหารกว้าง 160 ฟุต ยาว 342 ฟุต มีเสาหินอ่อนด้านละ 20 ต้น ด้านหน้าและด้านหลัง 8 ต้น แต่ละต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 ฟุต สูง 60 ฟุต หลังคามุงด้วยกระเบื้องหินอ่อน เป็นวิหารที่สวยงามที่สุดในขณะนั้น จัดเป็นสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลกยุคต้น

:::::กลับด้านบน:::::

   

 



เทวรูปเทพเจ้าเฮลิฮอส (อะพอลโล่)

 

 

 

:::::กลับด้านบน:::::

 สถานที่ตั้ง เกาะโรดส์ ประเทศกรีซ
ปัจจุบัน ไม่เหลือซาก
เป็นรูปของเทพเจ้าเฮลิออส หรือ อพอลโล สูงถึง 105 ฟุต หรือ 32 เมตร ละหนักถึง 295 ตัน หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ในท่ายืน ตัวเทวรูปตั้งอยู่บนฐานทั้งสองข้างของปากอ่าว องค์เทวรูปยืนถ่างคร่อมปากอ่าว ให้เรือลอดไปมาได้ มีกระจกบานใหญ่ติดอยู่บน อกทำให้เรือที่แล่นออกจากอียิปต์มองเห็นได้ชัดเจน
ประวัติความเป็นมาของรูปปั้นมหึมานี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยปี 312 ก่อนคริสตกาล ชาวเกาะโรดส์ได้ตัดสินใจ ร่วมรบกับพระเจ้าปโตเลมีแห่งอียิปต์ จากการรุกรานของชาวแมซีโดเนียน พวกแมซีโดเนียนเข้าล้อมเกาะไว้ด้วยเรือและทหาร มากมาย แต่ชาวเกาะโรดส์ก็ได้ตีกลับ และเกิดการปะทะกันอยู่เกือบปีจนได้รับชัยชนะ ในบรรดาผู้ที่ร่วมปกป้องเกาะโรดส์ก็มี ปฏิมากรผู้หนึ่งชื่อว่า ชาเรส แห่ง ลินดัส ด้วยความยินดีปรีดาของชาวโรดส์ และเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการหลุดพ้นจากชาว แมซีโดเนียน ชาร์เรส จึงได้รับมอบหมายให้สร้างรูปปั้นบรอนซ์มหึมาของเทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์หรืออพอลโล
เฮลิออส หรือ อพอลโล เป็นเทพเจ้าแห่งศิลปะของชาวกรีกและโรมันสมัยโบราณ ถือกันว่าสวยที่สุดในจำพวกผู้ชาย รูปปั้นนี้มีชื่อว่า โคลอสซัส หล่อขึ้นมาจากโลหะต่าง ๆ ที่เหลือจากการสงครามและชาวแมซีเนียนทิ้งไว้ ชาเรสทำงานหนักตลอดเวลา 12 ปี ทุ่มเทให้กับรูปปั้นนี้ แต่มีเรื่องเล่าว่าพอรูปปั้นนี้เสร็จเขาก็ได้พบว่าคำนวณสัดส่วนผิดไป ชาเรสผิดหวังมากถึงกับปลิดชีพตัวเอง แต่รูปปั้นโคลอสซัสนี้ก็มีชื่อเสียงมากถึงกับเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
รูปปั้นโคลอสซัสมีอายุสั้นที่สุดเพียว 56 ปีเท่านั้น แผ่นดินไหวเมื่อ 224 ปีก่อนศริสกาลทำให้รูปปั้นมหึมาพัง ทลายลงมาระเนระนาด ชิ้นส่วนต่าง ๆ ยังคงหลงเหลืออยู่ในต้นศตวรรษแรกเมื่อพวกอาหรับยึดครองเกาะโรดส์ในสมัย ศตวรรษที่ 7 รูปปั้นโคลอสซัสถูกขายต่อไปยังพ่อค้าชาวยิว การขนย้ายต้องใช้อูฐเป็นร้อยและวนเวียนถึงเก้าเที่ยว


 



เทวรูปเทพเจ้าซีอุส

สถานที่ตั้ง เมืองโอลิมเปีย ประเทศกรีซ
ปัจจุบัน ไม่เหลือซาก
อนุสาวรีย์นี้เป็นรูปสลักเทพเจ้าซีอูส นั่งบนบัลลังก์สีทองที่แกะสลักด้วยงาช้างจำนวนมากมาประกอบกันขึ้น ผู้ที่ปั้นเทวรูปซีอุสนี้ เป็นปฏิมากรเอกชาวกรีก ชื่อ ฟีดีอัส เป็นคนเดียวกับที่สร้างวิหารพาเธนอน ในกรุงเอเธนส์ และสนามกีฬาโอลิมปิค
เทวรูปซีอุส เป็นสิ่งมหัศจรรย์ยุคเก่าแก่สิ่งหนึ่งของโลก คือ สร้างขึ้นประมาณ 2,400 ปีก่อน ระหว่งปี ค.ศ. 53 - 111 ตามตำนานที่จารึกไว้ได้ระบุว่าเทวรูปทำจากงาช้างสูง 58 ฟุต มีขนาดใหญ่กว่าคนปรกติถึง 8 เท่า พระหัตถ์ซ้ายทรงคทา พระหัตถ์ขวารองรับ รูปปั้นแห่งชัยชนะ (A small figure of Victory ) มีเครื่องประดับ ประดาด้วยทองคำล้วน
ชาวโรมันเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า จูปีเตอร์ ชาวกรีกได้เรียกเทวรูปนี้ว่า ซุส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นผู้นำแห่งเทพเจ้า ชาวกรีกนับถื่อมากที่สุดในยุคนั้น ใครจะออกเดินทางไปเมืองใดต้องมาพรจากพระองค์เสียก่อน
แต่บัดนี้ไม่มีหลักฐานให็เป็นที่ชมได้เพราะได้ถูกไฟเผาไหม้หมดทั้งองค์ในปี ค.ศ. 476 คงเห็นภาพในเหรียญ ตราโบราณ และจากจินตนาการที่ได้มาจากคำบอกเล่า หรือ นิยายปรัมปราเท่านั้น แต่ความงาม ความใหญ่โตศักดิสิทธิ์ ยังคงเป็นที่ยกย่องเล่าลือมาจนถึงปัจจุบันนี้


 



พีระมิดแห่งเมืองกิเซห์




สถานที่ตั้ง เมืองกิเซห์ ประเทศอียิปต์
ปัจจุบัน สามารถเข้าเยี่ยมชมได้
พีระมิดเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์อียิปต์ในสมัยโบราณ
ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์
ห่างไปทางตอนใต้ของเมืองอเลกซานเดรีย ประมาณ 160 กิโลเมตร สร้างด้วยหินเป็นรูปกรวยเหลี่ยม เมื่อประมาณ 3500 ปี ก่อนคริสตกาล กินเนื้อที่ในบริเวณพีระมิด 131 เอเคอร์ พีระมิดนี้ สูงถึง 147 เมตร ฐานกว้างด้านละ 230 เมตร ใช้ก้อนหินในการก่อสร้าง 2500000 ก้อน หนักก้อนละ 2 ตันครึ่ง บางก้อนหนักถึง 16 ตัน รวมน้ำหนักกว่า 6,000,000 ตัน มีการเตรียมการสร้างถึง 10 ปี ใช้กรรมกรก่อสร้างประมาณ 100000 คน มาใช้แรงงานถึง 20 ปี เพื่อสร้างพีระมิดดังกล่าวให้สำเร็จจนลุล่วง ปัจจุบันส่วนยอดของพีระมิดทรุดโทรมลงจนมีความสูงเพียง 137 เมตร

กลับด้านบน


เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง           ::          HOME / หน้าแรก          ::        webmaster
ติชมเว็บไซต์คลิกที่นี่   

© Copyright 2004. Dr. Guide's website. All Right Reserved.
เพื่อความสวยงามควรปรับหน้าจอให้เป็น 1024 x 768 pixel  และปรับ text site เป็น medium ครับ