HeaVy – HardRocK มันส์โคตรรุ่นป๋า
- 10 -
x

สมัยนั้นเขาก็พูดกันว่าวงนี้เป็นวง Underground หรือวงใต้ดิน ความจริง Underground ไม่ได้หมายถึงแนวดนตรี หากแต่หมายถึงกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมแปลกๆ ผิดไปจากปกติ ลักษณะเฉพาะก็คือเป็นคนเฉื่อยๆ ชอบอิสระ เพลงที่ทำก็มีลักษณะแปลกออกไปจากชาวบ้าน เครื่องดนตรีก็มีไม่กี่ชิ้น ซึ่งตอนนั้น เพลง “Are You Ready” ของ Grand Funk Railroad ดังสุดๆ เพลงเยี่ยมทุกเพลงเลย ก็แล้วแต่ฝีมือนักดนตรีวงไหนมีปัญญาแกะเล่น วัยรุ่นอย่างป๋าเล่นมันได้แค่ 2 เพลง คือ “Are You Ready” กับเพลง “Into The Sun” เพลงอื่นๆ ปล่อยให้มืออาชีพเล่นไป ฝีมือดีๆ เขาจะเล่นเพลง “Time Machine”, “Heartbreaker” โชว์ลีลากีต้าร์(ความจริงโชว์มันทุกเพลงนั่นหล่ะ) กับเพลง “T.N.U.C.” โซโลกลองยาวเหยียด เอ้อ ! เพลงหลังนี้ต้องถอดระหัสชื่อหน่อย คือ ให้อ่านกลับหลังเป็น C.U.N.T. แต่อ่านแบบอักษรย่อนะเฟ่ย ! เอ็งอย่างริอ่านอ่านเป็นพยางค์เดียวเด็ดขาด เดี๋ยว “ ป้าเบียบ ” ตบปากเอา !! ลองแปลเนื้อเพลงดูด้วย เพราะเพลงนี้แปลไม่ยาก เล่าเรื่องอะไรที่ง่ายมาก

วงนี้เบสกับกลองล่อกันมันดี ละเอียดทุกเม็ดทุกจังหวะ เสียงกีต้าร์ก็เยี่ยม ตีคอร์ดมีลูกเล่นตลอดเสียงชัด ไม่มัว บางเพลงติดหีบเพลงปากเข้าไปด้วย เสียงคีย์บอร์ดเป็นฝีมือของ Craig Frost ได้ Todd Rundgreen มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ อดีตเคยทำงานให้กับวง The Bad Finger

Grand Funk Railroad มีผลงานออกมาเป็นระยะ ออกมาเมื่อไหร่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเพราะเพลงมันเยี่ยมจริงๆ ฝรั่งอเมริกันชอบเป็นชีวิตจิตใจ หลายเพลงติดตลาดในหมู่นักฟังเพลงทั่วไปด้วยโดยเฉพาะชุดหลังๆ ที่สาวกฉุนกึก ! หาว่าแกจะหนีสไตล์ฮาร์ตร็อคไปทำไมฟ่ะ ของเดิมก็ดีอยู่แล้วไหงมาทำเพลงเต้นรำอย่าง เพลง “We're An American Band” กับเพลง “The Loco- Motion” แหงแซะ ! พอเพลงใหม่ออกมา “ หมู่เฮา ” ก็ก้มหน้าก้มตาแกะเพลงทันควัน ส่วนใหญ่วัยรุ่นเล่นเพลง “Are You Ready”, “Bad Time”, “I'm Your Captain”, “Inside, Looking Out” กับเพลง “In Need”

Grand Funk Railroad ได้รับการยอมรับในหมู่นักดนตรีอาชีพว่าเป็นหนึ่งในวงที่ยอดเยี่ยมในยุทธจักร มีค่าควรซื้อไปฟังหรือไปรื้อฟื้นความหลัง ขอบอก รวมฮิต “Grand Funk Railroad Greatest Hits” ที่วางขายยังขาดเพลงเยี่ยมๆ อีกเป็นกระตั๊กกะตั๊ก เพลงที่ควรคว้ามาฟังเป็นอย่างยิ่ง ..... People Let Stop The War, I'm Your Captain (Croser To Home), Got This Thing On The Move, I Don't Have To Sing The Blues, Nothing Is The Same, Sin's A Good Man's Brother, Some Kind Of Wonderful, Paranoid, Feelin' Alright, Footstompin' Music, Stop Lookin' Back, Inside Looking Out, In Need, We're An American Band, The Loco- Motion, Time Machine, Walk Like A man, Shinin' on, Bad Time, In to The sun, Are You Ready, T.N.U.C., Heartbreaker, To Get Back in, Rock ‘N Roll Soul, Save The Land, ขอแนะนำสานุศิษย์ Speed ลองเสาะหาเพลง “Mark Say's Alright” ฉบับแสดงสดไปฟังดู สามเสือกระหน่ำเสียมันหยด ....ก็บอกแล้ววงนี้ มีเพลงดีๆ เยอะ ไปฟังเถอะไม่ผิดหวังหรอก แกะเอามาซ้อมกีต้าร์ เบส กลองก็ได้ ครบเครื่องดี....มันส์โคตร

ก่อนจะไปต่อต้องพูดถึงวง The Rolling Stone หน่อยเดี๋ยว “ ปู่ลิ้นยาวปากกว้าง ” จากวง “ หินกลิ้ง ” จะโกรธเอา เพราะวงแกดังเอามั่กๆ ดังไม่เคยตกมาตราบเท่าทุกวันนี้ ทุกวันนี้ไม่มีใครออกทัวร์และรวยเท่าวงนี้อีกแล้ว Tiger Woods ก็ Tiger Woods เถอะ ! ไม่รวยไม่จนกว่ากันเท่าไหร่หรอก

The Rolling Stone

วงนี้เป็นวงอังกฤษ ตั้งปี 1961 วงการดนตรีโลกยกย่องว่าเสียงเบสของวงนี้เป็นต้นแบบเสียง Hard Rock หลังปล่อยผลงานเพลงของตนเองออกมาแก่เป็นรองแค่วง The Beatles เท่านั้น สมาชิก 6 คน (1964) มีนาย Mick Jagger ร้องนำ Brian Jones (กีต้าร์) Keith Richards กีต้าร์ Charlie Watts กลอง Ian “Stu” Stewart เปียโน และ Dick Taylor เบส ต่อมามือเบสกลับไปเรียนหนังสือเลยได้ Bill Wyman มาแทน

ใหม่ๆ ก็ Cover เพลงของคนอื่นอุตลุด เลยเป็นแนว Blues และ rhythm and Blues (R&B), Rock ‘n' Roll, ต่อมามีการพัฒนาหรือปรับตัวเสมอ ขยันแต่งเพลงเลยมีทั้ง PoP, Reggae, Punk, Dance, Country หรือแม้กระทั่งแนว Arab ก็ยังมี ...ฮ่า ! ฮ่า ! เพลงดังสุดๆ ยุคนั้นมี “I can't get no” (Satisfaction) ความจริงจะยิ่งใหญ่แค่ไหน สำหรับป๋าแล้วฟังถูกหูแค่เพลงนี้เพลงเดียว ถ้าใครได้ดูหนังเรื่อง Apocalypse Now เพลงที่ทหารหนุ่มแหกปากร้องตามวิทยุทรานซิสเตอร์บนเรือขณะคุ้มกันพระเอกไปส่งในเขตเขมร ก็เพลงนี้นั่นแหละ ส่วนเพลงประกอบหนังเรื่องเดียวกันตอนฝูงบินออกไปเคลียร์พื้นที่เพื่อให้ผู้พันไปดูลูกน้องเล่นกระดานโต้คลื่นริมแม่น้ำโขง ชื่อเพลง “Ride Of The Valkyries” ของวง Apocalypse Now (Wagner-Arr. Starinck) ฉากที่จัดงานปาร์ตี้กลางน้ำและมีสาวๆ จากเพลย์บอยมา Joy ด้วย ชื่อเพลง “Suzei Q.” เวอร์ชั่นของ C.C.R. เห็นมะ เต้นกันระเบิดเถิดเทิง ! เดี๋ยวๆ ยุคนั้นยังมีอีกเพลงนึงของ The Rolling Stone ที่ฮิตมากแต่ทำนองคันทรี่ ชื่อเพลง “As Tears Go By”

Mick Jagger นักร้องและหัวหน้าวงเขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้คนนิยมไปดูแกเล่นคอนเสิร์ตมาก ขึ้นเวทีเมื่อไหร่เป็นไม่อยู่สุข กระโดดโลดเต้นตลอด เหงื่อท้วมจนชอบถอดเสื้อร้องเพลงบ่อยๆ หน้าตาของแกก็ยาวแคบแปลกๆ แหกปากได้สะใจจริงๆ สิ่งนึงที่มาคู่กันกับนักดนตรีและนักร้องยุคฮิปปี้คือ ยาเสพย์ติด เจ้าหมอนี่เป็นหนึ่งที่คนในสังคมสงบ “ หมายหัว ” ไม่อยากให้ลูกหลานเอาอย่าง เนื้อหาเพลงเกี่ยวข้องกับเซ็กซ์ ยาเสพติดและ Rock ‘n' Roll ความจริงไอ้คำหลังนี้มี 2 ความหมายอีกความนึงจะหมายถึงกิจกรรม เอ้อ....บนเตียง !! คำไหนสื่ออย่างไรให้ดูคำร้องของเพลงก็จะรู้

 Led Zeppelin

มาฟังเพลงของ Led Zeppelin กันบ้าง ก็อย่างที่บอกไปแล้วหน่อยนึงว่า หลังวง The Yardbirds แตกเมื่อปี 1968 Jimmy Page ต้องไปรับ Job ให้กับนักร้องนักดนตรีหลายวง ขณะเดียวกันก็คิดทำวงของตัวเองขึ้นมา Page ได้เพื่อนใหม่ชื่อ John Bonham กับ Robert Plant (ร้อง)

อ่านแล้วอย่าแปลกใจนะ ทำไม่ 2-3 ชื่อถึงไปวน - ไปเกี่ยวดองกับวง The Yardbirds เรื่องของเรื่องมีอย่างงี้ วงนี้ตั้งมาตั้งแต่ปี 1962 เล่นเพลงแนว “ British blues ” Lineup (นักดนตรีหลัก) ของ The Yardbirds มีเจ้าเก่าอยู่แล้ว 2-3 คน มีคนเข้าไปเสริม เข้าไปแทนที่คนเดิม โดย Eric Clapton เข้าไปก่อน Jeff Beck เข้าไปเป็นคนที่สองรับหน้าที่เป็นกีต้าร์สีดด้วย เข้าไปในฐานะ “ มวยแทน ” เพราะ Paul Samwell-Smith มือกีต้าร์เกิดป่วยกะทันหัน ขณะที่ Page เข้าวงนี้เป็นคนที่ 3 และตอนออกทัวร์สหรัฐอเมริกา page รับหน้าที่เล่นเบส บังเอิ๊ญ...บังเอิญ Jeff Beck ดันมาป่วยตามมือกีต้าร์ตัวจริงของวง ทำให้ Page ได้โซโลกีต้าร์ตลอดทัวร์ พอกลับอังกฤษ Page ก็ “ เซย์ กู๊ดบาย ” แล้ว Beck ก็ออกไล่หลัง จากนั้น Eric Clapton ก็ลาออกไปด้วย(แล้วตั้งวง Blind Faith) เมื่อมือกีต้าร์ออกไปทั้ง 3 คน เขาเลยไปตามให้ Page กลับไปเล่นด้วยอีกครั้ง รวมแล้ว Page อยู่กับวงนี้ราวสองปี เอาล่ะคิดว่า คงจะเคลียร์แล้วนะ ?

 

Next

Home