มะเร็ง
คือเนื้องอกชนิดร้ายที่เกิดขึ้นใหม่
จากเนื้อเยื่อปกติของร่างกายมีการเจริญเติบโต
และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
นอกเหนือการควบคุมของร่างกาย
จากการสำรวจอัตราการเสียชีวิตของประชากรไทย
พบว่ามะเร็งเป็นสาเหตุที่คร่าชีวิตคนไทยสูงเป็นอันดับ
2
รองจากโรคหัวใจหลายท่านก็กลัวว่าทำไมมีคนเป็นมะเร็งมากขนาดนี้
มะเร็งเป็นโรคร้ายแรงที่น่ากลัว
เพราะว่าเซลล์มะเร็งสามารถแพร่กระจายตัวได้และเพิ่มจำนวนอย่างไม่เป็นระเบียบ
และไม่จำกัดจำนวนอย่างต่อเนื่อง
แต่ถ้าสามารถควบคุมการลุกลามของเซลล์มะเร็งได้
โอกาสที่จะรักษาให้หายก็มีมากขึ้น
ดังนั้นหากท่านไม่อยากตกเป็นเหยื่อของโรคร้ายนี้
ก็ควรดูแลและป้องกันตั้งแต่เนิ่น
ๆ
ควรมีการสำรวจร่างกายของตนเองสม่ำเสมอ
หรือให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างน้อยปีละ
1 ครั้ง
|
|
สาเหตุของการเกิดมะเร็ง
เกิดจากการได้รับสารก่อมะเร็งจากภายนอก
เช่น สารเคมี เชื้อไวรัส
สารพิษ หรือท็อกซิน
พยาธิบางชนิด ฮอร์โมน
รังสี
สิ่งเหล่านี้ทำให้เซลล์ของร่างกายเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเซลล์มะเร็ง
หากร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง
ไม่สามารทำลายเซลล์นั้นได้
เซลล์มะเร็งก็จะแบ่งตัวอย่างรวดเร็วลุกลามต่อไป
สัญญาณอันตราย
7 ประการของมะเร็ง
อาการผิดปกติต่าง
ๆ
ที่อาจเป็นอาหารของโรคมะเร็งในระยะที่เพิ่งเริ่มเป็น
หรืออาจเรียกรวม ๆ ว่า สัญญาณอันตราย
7 ประการ
ถ้าหากเราให้ความสังเกตเอาใจใส่ก็จะเป็นทางหนึ่งที่ทำให้ลดอัตราเสี่ยงจากการเป็นมะเร็ง
แต่ผู้ที่จะวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งหรือไม่นั้นได้แก่แพทย์
ถ้ามีอาการผิดปกติอย่างไรควรปรึกษาแพทย์
ซึ่งถ้าอยู่ในระยะแรกจะมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้
- การเป็นแผลเรื้อรังที่ไม่รู้จักหาย
หรือหายช้า
- การมีตุ่มไตก้อนแข็งใต้ผิวหนังที่ผิดปกติ
- มีอาการไอเรื้อรัง
เจ็บคอ
หรือมีเสียงแหบแห้งอยู่นาน
- กลืนอาหารลำบาก
ท้องอืด ท้องเฟ้อ
หรือท้องผูก
สลับกับท้องเดิน
- มีการเปลี่ยนแปลงของหูด
ไฝ
หรือปานที่มีมาก่อนแล้ว
- การมีน้ำเหลือง
หนอง
หรือเลือดที่ผิดปกติ
ออกจากทวารต่าง ๆ
ของร่างกาย
- มีอาการผิดปกติของประจำเดือนในสตรี
ข้อควรปฏิบัติบางประการเพื่อป้องกันโรคมะเร็ง
- รับประทานอาหารให้ครบ
และควรเลือกอาหารที่มีวิตามิน
เอ ซี
เบต้าแคโรทีนและวิตามินอีสูง
(ผักใบเขียวแก่ ผักสีแดง
เหลือง ส้ม น้ำคั้นผลไม้)
และเลือกอาหารที่มีกากมากได้แก่
ผัก ผลไม้ เมล็ดธัญพืช
พืชตระกูลถั่ว กะหล่ำปลี
- อย่ารับประทานอาหารในปริมาณที่มากเกินไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภทไขมัน
จำกัดเนื้อแดงไม่ให้เกิน
85 กรัม เลือกทานปลา
เนื้อสัตว์ปีก
และเนื้อสัตว์ที่มาจากแหล่งธรรมชาติจะปลอดภัยกว่าเนื้อแดงของสัตว์ใหญ่ที่เลี้ยงแบบอุตสาหกรรม
- ไม่รับประทานอาหารเค็มจัด
ของขึ้นรา ของหมักดอง
รมควัน
และอาหารที่ใส่สารไนเตรท
เช่น เบคอน หมูแฮมรมควัน
เนย เนื้อแข็ง เนื้อเค็ม
- ไม่ควรรับประทานอาหาร
หรือยาชนิดเดียวกัน ซ้ำ ๆ
ซาก ๆ
- อย่าสูบบุหรี่
และไม่ดื่มสุรา ชา กาแฟ
มากเกินไป
และหลีกเลี่ยงการดื่มของร้อนจัด
ๆ
- อย่าตากแดดนานเกินไป
โดยเฉพาะแดดช่วงเที่ยง ๆ
หรือบ่าย ๆ
และควรอาบน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพื่อชำระสิ่งผิดปกติออกไป
การใช้วิธีธรรมชาติบำบัดร่วมกับการรับประทานอาหารเสริม
มียาหลายชนิดที่ใช้ยับยั้งการเพิ่มจำนวนหรือฆ่าทำลายเชื้อมะเร็ง
แต่ยาเหล่านี้จะส่งผลข้างเคียงกับเซลล์ปกติด้วย
เช่นทำให้เซลล์ร่างกายตายไปพร้อมกับเซลล์มะเร็ง
อาหารมีบทบาทต่อมะเร็งเป็น
2 ทาง คือทางหนึ่ง
มีสารอาหารหลายประเภทที่ส่งเสริมให้เกิดมะเร็ง
เช่น อาหารปิ้งย่าง
หมักดอง มีเชื้อรา
หรือสารเคมีปะปน
อีกทางหนึ่งคือสารอาหารที่ช่วยเพิ่มพูนระบบภูมิต้านทานของร่างกาย
รวมถึงอาหารที่มีความสามารถในการทำลายสารก่อมะเร็งด้วย
จึงอาจเป็นทางเลือกเสริมการรักษาหรือเพิ่มช่องทางใหม่
สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
เช่น
- กระดูกอ่อนปลาฉลาม
เนื่องจากกระดูกอ่อนปลาฉลามจะทำหน้าที่เป็นตัวยับยั้งการเกิดโครงข่ายเส้นเลือดฝอย
ที่นำสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์มะเร็งให้เซลล์มะเร็งฝ่อลง
- สาร 10
ไฮดรอกซี 2
เดคซีโนอิคแอซิดในนมผึ้ง
สามารถยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งเต้านม
ลำไส้ใหญ่
ต่อมลูกหมากและตับอ่อน
- สารอโลมิซิน
อละอโลคูติน
ในว่านหางจระเข้
สามารถระงับการขยายตัวของเชื้อไวรัส
ที่ทำให้เกิดมะเร็ง
- น้ำมันปลา
สามารถออกฤทธิ์ต้านน้ำมันพืช
ที่ส่งเสริมการเกิดเซลล์มะเร็ง
- สารประกอบเยอร์มาเนียม
ในเห็ดหลินจือช่วยกำจัดสารพิษ
และสิ่งแปลกปลอมที่เป็นสาเหตุมะเร็ง
- วิตามินซี
สามารถทำปฏิกิริยากับสารไนไตรท์ในอาหารให้เปลี่ยนสภาพไม่ให้เกิดเป็นสารไนโตรซามีน
อันเป็นสารก่อมะเร็ง
และยังเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์
กำจัดอนุมูลอิสระที่จะก่อให้เกิดเซลล์มะเร็งได้
เช่นเดียวกับวิตามินอี
และเบต้าแคโรทีน
หรือโปรวิตามินเอ
- กระเทียม
มีสารซีลีเนียมป้องกันการทำลายเนื้อเยื่อจากอนุมูลอิสระ
(Free Radicals)
มีผลการทดลองล่าสุด
เพิ่งลงตีพิมพ์ในวารสารมะเร็งของสหรัฐ
ระบุว่ากระเทียมสามารถชะลอการลุกลามของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในหนูทดลอง
มะเร็งชนิดนี้มักพบในผู้ที่อายุใกล้
50 ปี
โดยผู้ชายเกิดโรคนี้มากกว่าผู้หญิงถึง
4 เท่า
ถึงแม้ว่าจะมีอาหารเสริม
หรือสารจากธรรมชาติที่สามารถยับยั้งโรคมะเร็งได้
แต่ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรจะปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ด้วย
การใช้อาหารเสริม
หรือสารธรรมชาติรักษาต้องอาศัยระยะเวลาจึงจะเห็นผล
ดังนั้นผู้ป่วยโรคมะเร็ง
จึงต้องการกำลังใจจากคนรอบข้าง
เพื่อที่จะให้เขาสามารถต่อสู้กับโรคร้ายต่อไป
รวมถึงสมาธิจิตใจที่เข้มแข็งด้วย
การเลือกใช้สารอาหารใด
อาจต้องพิจารณาถึงลักษณะกายภาพของมะเร็งแต่ละชนิดว่าแพร่ขยายในรูปแบบใด
อย่างไรก็ตามในระยะรุนแรงของโรค
ควรให้ทั้งเคมีบำบัด
รังสีบำบัด (แล้วแต่ชนิดตามแพทย์แนะนำ)
รวมถึงการผ่าตัดในบางกรณี
ร่วมกับสารอาหารเพื่อส่งเสริมภูมิต้านทานเพิ่มอำนาจทำลายเชื้อมะเร็งในทุกวิถีทาง
ลำพังสารอาหารอย่างเดียว
มักไม่เพียงพอต่อการสร้างภูมิคุ้มกันในระยะลุกลามรุนแรงได้ |