[๑๒]พระมหาโมคคัลลานะถามว่า
"ดูกรนางเทพธิดาผู้มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่ ท่านได้ขึ้นวิมานมีเสา อันแล้วไปด้วยแก้วไพฑูรย์งดงาม มีแสงระยับตา ในวิมานของ
ท่านนั้นวิจิตรไปด้วยนานาประการ อนึ่ง หมู่นางเทพอัปสรเหล่านี้ มีร่างกายกระทัดรัด มีฤทธิ์นิรมิตตนได้ ฟ้อนรำขับร้องให้ท่านร่าเริงอยู่รอบข้าง
ดูกรนาง เทพธิดาผู้มีอานุภาพมาก ครั้งท่านยังเป็นมนุษย์ ได้ทำบุญสิ่งใดไว้ จึงบรรลุความสำเร็จ ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองถึงอย่างนี้?
และรัศมีกาย ของท่านจึงสว่างไสวไปทั่วทุกทิศเพราะบุญอะไร?"
นางเทพธิดานั้น อันพระมหาโมคคัลลานะซักถามแล้วมีใจยินดี ได้ พยากรณ์ปัญหาแห่งผลกรรมที่ถูกซักถามว่า
"ครั้งดิฉันยังเป็นมนุษย์อยู่ใน หมู่มนุษย์ ได้เป็นอุบาสิกาของพระจักขุมาตถาคตเจ้า เป็นผู้งดเว้นจาก การฆ่าสัตว์ งดเว้นจากการลักทรัพย์
ยินดีเฉพาะสามีของตน ไม่กล่าวคำเท็จและไม่ดื่มน้ำเมา
อนึ่ง ดิฉันมีใจเลื่อมใส ได้ให้ข้าวและน้ำอย่างดีเลิศเป็นทานโดยเคารพ ด้วยผลแห่งการถือสัจจะมั่นในสามีเป็นอาทินั้น ดิฉันจึงมีผิวพรรณ
ถึงเช่นนี้ ด้วยผลแห่งการถือสัจจะมั่นในสามีเป็นเดิม นั้น อิฐผลจึงสำเร็จแก่ดิฉันในวิมานนี้ แลโภคทรัพย์ทั้งหลายอันเป็น ที่รักแห่งใจทุกสิ่งทุกอย่าง
จึงเกิดขึ้นแก่ดิฉัน
ข้าแต่ภิกษุผู้มีอานุภาพ อันยิ่งใหญ่ ดิฉันขอบอกแก่ท่าน ครั้งดิฉันยังเป็นมนุษย์อยู่ได้ทำบุญสิ่งใด ไว้ ดิฉันมีอานุภาพรุ่งเรืองถึงอย่างนี้
และรัศมีกายของดิฉันย่อมสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ ก็เพราะบุญสิ่งนั้น."
จบ ปติพพตาวิมานที่ ๑๒. |