[๒๓]พระมหาโมคคัลลานเถระ ได้สอบถามนางเทพธิดาตนหนึ่งด้วยคาถาความว่า
" ดูกรแม่เทพธิดา ท่านมีวรรณะงามยิ่งนัก มีรัศมีส่องสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ สถิตอยู่เหมือนดาวประกายพฤกษ์ เพราะทำบุญ
อะไรไว้ ท่านจึง มีผิวพรรณงามเช่นนี้
เพราะทำบุญอะไรไว้ อิฐผลสำเร็จแก่ท่านในวิมานนี้และโภคทรัพย์อันเป็นที่รักแห่งใจทุกสิ่งทุกอย่างจึงเกิดขึ้นแก่ท่าน
แน่ะ แม่เทพธิดาผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามท่าน เมื่อท่านยังเป็นมนุษย์ ได้กระทำบุญสิ่งใดไว้ และเพราะบุญกรรมอะไร
ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองถึงเพียงนี้ และมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ?"
นางเทพธิดานั้น อันพระโมคคัลลานเถระถามแล้ว มีความปลาบปลื้มใจ ได้พยากรณ์ปัญหาแห่งผลกรรมที่ถูกถามนั้นว่า
" ดิฉันเป็นอุบาสิกาอยู่ใน พระนครนาลันทา ชนชาวนาลันทานครรู้จักดิฉันว่า โสณทินนาเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศรัทธาและศีล
ยินดีแล้วในทานบริจาคเสมอ ได้ถวายผ้านุ่งห่ม ภัตตาหาร เสนาสนะ และประทีปพร้อมด้วยเชื้อ ในพระอริยเจ้าผู้มีจิตเที่ยงธรรมเป็นอันมาก
ด้วยจิตอันผ่องใส
ดิฉันได้เข้ารักษา อุโบสถศีลอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ทุกวัน ๑๔-๑๕ ค่ำ และวัน ๘ ค่ำ แห่งปักษ์ และตลอดปาฏิหาริย
ปักษ์ด้วย เป็นผู้สำรวมด้วยดีในองค์ศีลทุกเมื่อ เป็นผู้งดเว้นจากปาณาติบาต เว้นห่างไกลจากอทินนาทาน และการประพฤติผิดในกาม
สำรวมจากมุสาวาท และจากการดื่มน้ำเมา
ดิฉันเป็นอุบาสิกาของพระสมณโคดมผู้มีพระจักษุ และ พระเกียรติยศ เป็นผู้ยินดีในสิกขาบททั้ง ๕ มีปัญญาเฉลียวฉลาดในอริยสัจ
ดิฉันจึงมีรัศมีงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศเพราะบุญนั้น."
จบ โสณทินนาวิมานที่ ๖.
|