[๒๘]พระมหาโมคคัลลานเถระถามนางเทพธิดาตนนั้น ด้วยคาถานี้ความว่า.
"ดูกรแม่เทพธิดา ท่านเป็นผู้มีวรรณะงามยิ่งนัก มีรัศมีส่องสว่างไสว ไปทั่วทุกทิศ สถิตอยู่เหมือนดาวประกายพฤกษ์
เพราะบุญกรรมอะไรท่านจึงมีวรรณะงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ เพราะ บุญกรรมอะไร?"
นางเทพธิดานั้น อันพระโมคคัลลานเถระถามแล้ว มีความปลาบปลื้มใจ ได้พยากรณ์ปัญหาแห่งผลกรรมที่พระเถระ
ถามนั้นว่า
" ในชาติก่อน ดิฉันเกิดเป็นมนุษย์ในหมู่ในมนุษย์มนุษยโลก ได้พบเห็นพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากกิเลสธุลี มีอินทรีย์
ผ่องใสไม่ขุ่นมัว ดิฉันเกิดความ เลื่อมใส ได้ทูลถวายภิกษาแด่พระองค์ท่านด้วยมือของดิฉันเอง เพราะบุญกรรมอันนั้น ดิฉันจึง
มีวรรณะงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีสว่างไสว ไปทั่วทุกทิศ เพราะบุญกรรมนั้น."
จบ ทุติยภิกษาทายิกาวิมานที่ ๑๑.
๑๑. ภิกษาทายิกาวิมานที่ ๒ ว่าด้วยผลบุญที่ทำให้ไปเกิดในภิกษาทายิกาวิมานที่ ๒
[๒๘]พระมหาโมคคัลลานเถระถามนางเทพธิดาตนนั้น ด้วยคาถานี้ความว่า.
"ดูกรแม่เทพธิดา ท่านเป็นผู้มีวรรณะงามยิ่งนัก มีรัศมีส่องสว่างไสว ไปทั่วทุกทิศ สถิตอยู่เหมือนดาวประกายพฤกษ์
เพราะบุญกรรมอะไรท่านจึงมีวรรณะงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ เพราะ บุญกรรมอะไร?"
นางเทพธิดานั้น อันพระโมคคัลลานเถระถามแล้ว มีความปลาบปลื้มใจ ได้พยากรณ์ปัญหาแห่งผลกรรมที่พระเถระ
ถามนั้นว่า
" ในชาติก่อน ดิฉันเกิดเป็นมนุษย์ในหมู่ในมนุษย์มนุษยโลก ได้พบเห็นพระพุทธเจ้าผู้ปราศจากกิเลสธุลี มีอินทรีย์
ผ่องใสไม่ขุ่นมัว ดิฉันเกิดความ เลื่อมใส ได้ทูลถวายภิกษาแด่พระองค์ท่านด้วยมือของดิฉันเอง เพราะบุญกรรมอันนั้น
ดิฉันจึงมีวรรณะงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีสว่างไสว ไปทั่วทุกทิศ เพราะบุญกรรมนั้น."
จบ ทุติยภิกษาทายิกาวิมานที่ ๑๑.
|