พบกับความเป็นมา 9 หนุ่มหล่อจากแดนตะวันตก หมายเลข 0 ถึง 8 ได้ ณ ที่นี้

            พวกเขาไม่ใช่ตัวประหลาดที่คุณจะได้มองเห็นอีกต่อไปแล้ว      เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาให้เห็นเพียงภาพที่น่ารักซึ่งกำกับด้วยหมายเลข แต่ด้วยพรสวรรค์ที่พวกเขามี    หากแต่ว่าถ้าเขาไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือและเครื่องดนตรีของเขา เขาก็สามารถ go to hell ด้วยน้ำมือของท่านผู้ชม แต่แล้วพวกเขาก็คว้าทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการโดยที่โลกไม่มีทางเลือก และมีไม่พอที่จะให้พวกเขาเลือก ดังนั้นพวกเขาจึงกลายเป็นผู้บริโภคที่ไม่มีสิทธิที่จะเลือก ไม่เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงสาธารณะสุข 

           ณ บัดนี้ พวกเขามาถึงแล้ว พวกเขาคือ SlipKnoT ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่ทราบว่า ท่านผู้ตั้งชื่อวงได้ใช้ส่วนไหนของร่างกายมาคิด

           จากที่เราเอ่ยมาทางด้านต้น คุณก็ไปตัดสินใจเอาเองว่าจะไปยุ่งเกี่ยวกับเขาดีหรือเปล่า แต่ถ้าคุณเข้ามาอ่านที่นี่แล้วก็แสดงว่าคุณอยากจะยุ่งเกี่ยว เราก็เตือนคุณแล้วนะ ถ้าคุณไม่เชื่อก็ตามใจ เพราะถ้าคุณยุ่งมันไปเรื่อยๆ คุณอาจต้องเปลี่ยนอวัยวะที่ใช้ในการคิดของคุณก็ได้ ไม่รู้น้า . . .

            SlipKnoTฟอร์มทีมเมื่อกลางปี 1995 ใกล้ๆกับ Dir en grey      แต่เมื่อกระทำการวิเคราะห์ดูแล้วก็พบว่า  Dir en grey โด่งดังกว่ามาก     พวก SlipKnoT เหมือนหน่วยงานเอกชน ที่มาออก 3 อัลบั้มออกมาในปี 1996 คือ Feed, Kill, Repeat และก็ไม่เคยหยุดยั้งในการทำงานตั้งแต่นั้นมา เขาเรียกว่า พวกตึงอย่างเดียว  อย่าไปเอาอย่างเป็นอันขาด เพราะศาสนาพุทธสอนให้เราเดินทางสายกลาง และในปี 1997 ก็เข้าสู่การบันทึกเสียงของ Ross Robinson's Records ซึ่งเป็นคลื่น AM ( เป็นคลื่นที่ขนานกับพื้นโลก ดังนั้นถ้าความเข้มของคลื่นมากพอ ประเทศไทยก็รับได้นะเฟ่ย ) และเข้าสู่ Studio ใน L.A. แต่ดันไปประจวบเหมาะกับตอนที่ ฮิเด๋ จากเจแปน ไป L.A. พอดี คุณก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม SlipKnoT จึงโด่งดังช้ากว่า Dir en grey    ถ้าคุณไม่เห็นได้ด้วยตาของตัวเอง และได้ฟังด้วยหูของตัวเองคุณอาจจะคิดว่าฮิเด๋นั้นแสนธรรมดา   ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณไปเห็นคุณจะบอกว่า SlipKnoTนั้น . . . แสนรู้

             Shawn คิดเองเออเองไปว่ามันอาจน่าหัวเราะที่พวกเขาทำตัวดีมาตลอด 3 ปีที่แล้ว โดยที่คนอื่นในวงไม่เห็นจะอยากหัวเราะกับเขาด้วย เพราะ ทุกคนมาตรงเวลา มีคนบอกว่า     โคตรน่าเบื่อเลยฟ่ะ !!! แต่มันก็ได้ฝึกฝนจนพวกเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ถ้าลองสังเกตดู คุณอาจจะไม่เห็นพวกเขาทั้ง ๙ คน แต่คุณจะเห็นตัวอะไรก็ไม่รู้ ๑ ตัว ตัวใหญ่ๆ เพราะพวกเขาได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวเสียแล้ว  และถ้าหากว่าวงนี้ขาดเครื่องดนตรีอะไรไป มันก็จะไม่เป็นเพลงที่มีเอกลักษณ์ ของวง แต่ถ้าขาดคนไม่เป็นไร เขาใช้เฉพาะเครื่องดนตรี คนเล่นนั้นไม่จำเป็น ดังนั้นจะเห็นได้ว่า  ดนตรีเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่ไม่รู้จะใหญ่กว่าไอ้ตัวอะไรไม่รู้นั้นหรือเปล่า และดนตรีก็สำคัญมาก เมื่อดนตรีเริ่ม มันจะทำทุกอย่างให้กลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ เพราะมันคือ ...ตื๊ดส์... โดยเมื่อดาวฤกษ์ใกล้สิ้นอายุขัย มันจะขยายออกเรื่อย ๆๆๆๆๆๆ กลายเป็นดาวยักษ์แดง และพอพลังงานมันหมด มันก็จะเริ่มหดตัวจนกลายเป็นดาวแคระขาว แล้วค่อยเป็นดาวแคระดำในที่สุด เหมือนกับ SlipKnoT ที่กำลังใหญ่ !     แต่ในทางกลับกัน หากดาวฤกษ์นั้นมีมวลมากเหลือเกิน มันจะหดตัวอย่างไร้ที่สิ้นสุด และจะดูด ดูด ดูด และดูด ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่แสง ดุจประหนึ่ง Dir en grey ซึ่งมีแรงโน้มถ้วง แรงเดียวที่ควบคุมความเป็นไปของทั่วทั้งจักรวาล แต่ในที่สุด Dir en grey ก็ต้องพ่ายให้กับวงรุ่นพี่อย่าง L'Arc~en~ciel เพราะ วงนี้มีเพลง neo universe คือเขาสร้างจักรวาลใหม่ขึ้นมา แรงของพวกเขาต่างหากที่จะควบคุมความเป็นไปของจักรวาล

            อะ อะ อะ กลับมาที่ SlipKnoT เราลองมาพิจรณากันดูว่ามันมีเหตุผลอะไรที่พวกเขาต้องสวมหน้ากาก เมื่อเรามองไปที่พวกเขา สิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในหน้ากากก็บังเกิดขึ้น    Shawn บอกว่า  พวกเขาทำงานได้และพวกเขาก็มีมัน คือระหว่างการทำงานซึ่งต้องใช้สมาธิ พวกเขาไม่สามารถมองหน้าตัวเขาเองที่แสนจะอัปลักษณ์ได้  ก็เลยไปหาอะไรที่มันดูดีกว่าหน้าตัวเองมาปกปิด           เออ นะ  แต่ว่าพวกเราจะเชื่อ Shawn เพียงเสียงเดียวเหรอ   ก็ดูหน้ากากของพวกเขา  บางคนก็ว่า อุบาตชอบกลนะ แล้วใบหน้าที่แท้จริงเป็นไงล่ะทีนี้    ที่จริงไม่ใช่หรอก  หน้าตาที่แท้จริงของพวกเขาดูดีมาก ๆ   แต่ Shawn ซิ  ไม่รู้เอาอะไรมาดูอีก  เลยอยากให้เพื่อน ๆ ใส่หน้ากาก      อ้า  เราลองมาคิดกันดูซิว่า ถ้าปราศจากหน้ากากแล้ว ทุกคนจะหัวเสียมาก บางครั้งถึงกับเสียหัวไปด้วย และพวกเขาก็เลยเลือกหน้ากากมาใส่กัน   Shawn รู้สึกว่าหน้ากากที่สวมใส่อยู่มันคือบุกคลิกของแต่ละคน พวกเขาก็รู้สึกดีเมื่อได้ใส่หน้ากากสักหนึ่งชั่วโมง เพราะพวกเขาเปิดแอร์กันหนาวเกินไป แต่ไม่มีเสื้อกันหนาวยี่ห้อไหนทำไว้สำหรับปิดหน้า พวกเขาเลยชอบใส่หน้ากากกัน   เมื่อการโชว์ครั่งหนึ่ง ๆ จบลง เขาจะใส่มันกลับ เพราะเขาเหนื่อยจากการโชว์ ความเหนื่อยทำให้เส้นเลือดขยายตัว   ใบหน้าของพวกเขาบานออก พวกเขาจึงหมดสิทธิ์จะถอดหน้ากากในเวลานั้น  

             มาดูกันถึงเรื่องเลข  เลขที่พวกเขาเลือกต่างเป็นเลขที่นำโชคดีสำหรับ SlipKnoT  Shawn พูดว่า " เมื่อมีการเลือกหมายเลข ทุกคนจะตกลงเลือกที่เลขหนึ่งที่ตนต้องการ และไม่เคยมีสักคนในวงที่ต้องถกเถียงกันเรื่องตัวเลขที่เลือกเลย มันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์น่าขนหัวลุกเสียจริง  ขอบคุณสำหรับ Ross Robinson ที่ล่ำสันกำยำ ในงานที่ผลิตออกมาเกี่ยวกับ Slipknot "    Shawn รู้สึกว่า Robinson ถูกจูงใจให้ทำงานนี้ที่มีวง Slipknot ที่ต้องทำงานกับเขา       Shawn คิดว่า  SlipKnoTเป็นวงที่ค่อนข้างแข็งกร้าว และยิ่งแข็งกร้าวเมื่อทำงานเป็นหน่วยเดียวกัน ( ก็เนอะ เพราะว่าดาวแคระขาวมีความหนาแนนของมวลมาก ดูมันเล็กๆ แต่โคตรแข็ง และ หนัก )   แต่ถ้าเราใช้สติพิจรณาดูจริง ๆ จะพบว่า เขาคิดผิด เพราะ วงนี้ดูมีความอ่อนโยน  และเมตตา ปราณีมาก โดยเฉพาะ Corey        ต่อ ดีกว่า Robinson จะพาพวกเขาไปที่ห้องบันทึกเสียง โยนพันช์ให้พวกเขา       Robinson ตื่นเช้าทุกวัน ( ถ้าวันไหนเขาไม่ตื่นละซิ จะแปลกมาก วันนั้นก็คงมีข่าวของเขาลงหนังสือพิมพ์  และชื่อของเขาอาจจะหายไปจากทะเบียนบ้าน ไปอยู่ในใบมรณะบัตรแทน ) และไปที่ห้องบันทึกเสียงเพื่อทำอัลบั้มของพวกเขา    Robinson จะไปที่ Des Moines ด้วยตัวของเขาเอง เมื่อต้องรับแฟนเพลงมากมาย วงดนตรีก็พร้อมที่จะระเบิดออก ( เพราะก็มีทฤษฎีการระเบิดของหลุมดำด้วย แต่ถ้ามันจะเกิดขึ้นจริง มันคงไม่เกิดกับ SlipKnoT เพราะพวกเขาเป็นเพียงดาวแคระดำเท่านั้น ) พวกเราจะไปอยู่ตรง the middle of nowhere ที่ ๆ Slipknot คือตัวตลกและเป็นเสมือน KING

             IOWA ปรุงปรุงใหม่ล่าสุดเมื่อ 3 เม.ย. 2002    ข้าพเจ้ายอมรับว่านี่คือวงดนตรีที่เหนือธรรมดาอีกวงหนึ่ง   บางคนบอกว่ามันดูเข้มแข็งขึ้นด้วยวง SlipKnoT     SlipKnoT นำโลกโดยพายุ ( พายุสุริยะมีอันตรายต่อดาวเทียม และคนที่อยู่ที่สถานีอวกาศ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อระบบการสื่อสารในโลกมนุษย์ การจ่ายกระแสไฟฟ้า แต่ถ้าไปที่ขั้วโลกเหนื่อก็อาจชมท้องฟ้าว่าสวยดี )    ส่วนข้าพเจ้าเองคิดว่าที่ SlipKnoT สามารถทำเสียงดนตรีได้แปลกไปจากธรรมดานั้นมาจาก จุดเด่นที่เป็นการใช้กลองถึง 3 แบบ มีมือกลอง 3 คน  เสียงกลองของวงนี้จะแน่นมาก  เสียงกีตาร์ก็เช่นกัน   อีกทั้งนักร้องก็เสียงดี

             พวกเขาสามารถควบคุมการรวบรวมพลังและเปลี่ยนมาเป็นความคิดสร้างสรรค์ อัลบั้มใหม่ IOWA ของพวกเขาด้วยตัวเลขยอดขายซึ่งยังไม่ได้นำในสัปดาห์แรก ( เพราะไม่ใช่ Dir en grey )  กำลังดังขณะนี้ และไม่มีข้อสงสัยว่าจะแรงอย่างมากเช่นกัน   ส่วนอลบัมต่อไปจะออกในเดือนเมษา หน้าร้อนปี 2548 ข้าพเจ้ายังไม่รู้ชื่อ  แต่ Joey บอกกับเราว่า ทุกคนยังใส่หน้ากากเหมือนเดิม  แม้การแยกย้ายไปทำวงใต้ดิน สมาชิกจะไม่ค่อยยอมใส่หน้ากากกัน   และหน้ากากก็อาจมีการเปลี่ยนรูปแบบนิด ๆ หน่อย ๆ  แต่ก็ไม่ถึงกับที่เราจะจะไม่ได้

ด้านล่างเป็นภาพของ SlipKnoT สมัยก่อนทำ IOWA

สุดท้ายข้าพเจ้ามีอะไรจะบอก คือ

Shawn เคยพูดว่า " ถ้าเด็กต้องการพูดกับเรา เราจะพูดกับเขาเป็นชั่วโมง พวกเขาต้องการเงินหรือไม่ ฉันเคยเห็น Joey ให้เงินเขา 25 เหรียญเพื่อไป  ซื้ออะไรกิน ฉันหมายถึงพวกเราไม่สามารถอยู่แม้แต่ที่นี่ได้ ถ้าขาดพวกเขา "

ถ้าเราเป็นคนที่เคยดูการแสดงของ SlipKnoT แล้ว เราจะพบว่า Corey จะเรียกแฟนเพลงว่า " เพื่อน " และเขามักจะขอบคุณแฟนเพลงเสมอเมื่อจบการแสดง หรือ แฟนเพลงร้องเพลงตามเขา