|
ประวัติการก่อตั้ง
สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย ได้พัฒนามาจาก "ศูนย์ชุมนุมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนหูหนวกดุสิต"
(ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนเศรษฐเสถียร) เมื่อวันที่ 21
กรกฎาคม พ.ศ.2512 มีศิษย์เก่าจากโรงเรียนเศรษฐเสถียร โรงเรียนสอนคนหูหนวกทุ่งมหาเมฆ
โรงเรียนสอนคนหูหนวกขอนแก่น โรงเรียนสอนคนหูหนวกตาก และโรงเรียนสอนคนหูหนวกสงขลาจำนวน
93 คนมาร่วมประชุมก่อตั้งศูนย์ฯ ใช้พื้นที่ภายในโรงเรียนเศรษฐเสถียรเป็นสำนักงาน
ศูนย์ชุมนุมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนหูหนวกดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2524 ได้ย้ายสำนักงานออกจากโรงเรียนเศรษฐเสถียรมาเช่าบ้านเลขที่
9/1
ซอยสุขุมวิท 51 และดำเนินการจดทะเบียนโดยได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเมื่อวันที่
6 ตุลาคมพ.ศ.2526 และกองตำรวจสันติบาลได้ออกใบทะเบียนสมาคมฯ
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2527เป็นสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย อีก
2 ปีต่อมาในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2526 ได้ย้ายสำนักงานไปยังเลขที่
34/1 ในซอยเดียวกัน หลังจากนั้นได้ย้ายไปเช่าอาคารเลขที่ 11/3
ซอยพิกุล ถนนสาธรใต้ ต่อมาได้ย้ายไปเช่าสำนักงานอยู่ที่ดินแดง
แล้วย้ายไปเช่าอาคารพาณิชย์แถวถนนปั้น สีลม ในที่สุดสมาคมฯ ย้ายมาเป็นสำนักงานถาวรที่
144/9 หมู่บ้านฐิติพร ซอยพัฒนาการ 29 สวนหลวง กรุงเทพฯ จนกระทั่งปัจจุบัน
|
|
วัตถุประสงค์
1. เพื่อก่อให้เกิดความสามัคคี และเป็นศูนย์กลางของคนหูหนวก
2.เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ และสิทธิอันชอบธรรมของคนหูหนวก
3.เพื่อส่งเสริมสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือทางด้านอาชีพแก่สมาชิก
4. เพื่อพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ ความสามารถ และแสดงความคิดเห็นต่าง
ๆ ระหว่างคนหูหนวกกับสังคมทั่วไป
5.เพื่อส่งเสริมการศึกษาของคนหูหนวกให้มีความก้าวหน้าขึ้น
6. เพื่อส่งเสริมสถานภาพภาษามือไทย
7.เพื่อให้ความร่วมมือกับองค์การหรือสมาคมคนพิการทั่วโลก ทั้งนี้โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
|
|
การบริหารงานของสมาคมฯ
สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย บริหารงานโดยคณะกรรมการที่มาจากการเลือกตั้งในการประชุมสามัญประจำปี
10 ท่าน โดยมีวาระในการดำรงตำแหน่ง 2 ปี นับจากวันเลือกตั้งกรรมการบริหารสมาคมฯ
มีหน้าที่เป็นผู้กำหนดนโยบายการดำเนินงานและควบคุมดูแลเจ้าหน้าที่โดยมีผู้จัดการสมาคมฯ
เป็นผู้รับผิดชอบในการรับนโยบายดังกล่าวไปดำเนินการและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในฝ่ายต่าง
ๆ
การดำเนินงานของสมาคมฯ |
|
การดำเนินงานของสมาคมฯ
แบ่งออกเป็นฝ่ายต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ฝ่ายล่ามภาษามือ
ล่ามภาษามือคือบุคคลที่ช่วยคนหูหนวกในการสื่อสาร โดยการแปลจากภาษมือเป็นภาษาพูดหรือภาษาเขียนใน
กรณีต่าง ๆ ขณะนี้ สมาคมฯ มีล่ามภาษามือประจำ 3 คน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการให้บริการสมาชิกของสมาคมฯ
ประมาณ 2,500 คนได้ ในแต่ละปีมีคนหูปกติและคนหูหนวกขอรับบริการล่ามภาษามือไม่ต่ำกว่า
5,000 คน สมาคมฯ เล็งเห็นว่าล่ามภาษามือเป็นสื่อสำคัญในการลดช่องว่างในการสื่อสารและการเรียนรู้ของคนหูหนวก
จึงได้ริเริ่มโครงการอบรมล่ามภาษามือขั้นพื้นฐานขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อผลิตล่ามภาษามือเพื่อช่วยเหลือคนหูหนวกในการสื่อสารประจำวัน
โดยรับคนหูปกติที่สนใจภาษามือเข้ารับการอบรมเป็นล่ามภาษามือต่อไป
2. ฝ่ายบริการสมาชิก
สมาคมฯ เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารแก่คนหูหนวก
ซึ่งนอกจากให้ข้อมูลข่าวสารแก่สมาชิกแล้ว ยังให้ความช่วยเหลือแก่สมาชิกที่ประสบปัญหาต่าง
ๆ โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการดำเนินการหาแนวทางแก้ไขในกรณีที่เหมาะสม |
|
งานของฝ่ายบริการสมาชิก
2.1 จัดทำทะเบียนสมาชิก รับสมัครและทำบัตรสมาชิก
2.2 บริการจัดหางาน
2.3 บริการล่ามภาษามือช่วยในการสื่อสารในกรณีต่าง ๆ เช่น พบแพทย์,
พบตำรวจ เป็นต้น
2.4 จัดฝึกอบรมให้ความรู้แก่สมาชิก เช่น ฝึกอบรมบาติก, ฝึกอบรมคอมพิวเตอร์,
สอนภาษาไทยแก่คนหูหนวก
ที่ไม่รู้หนังสือ
2.5 เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่คนหูหนวก โดยผ่านจุลสารสายใยโลกเงียบ,
วีดีโอข่าว และจัดประชุม
สมาชิก
2.6 บริการให้คำแนะนำปรึกษาแก่คนหูหนวกและครอบครัวคนหูหนวกที่มีปัญหา
3. ฝ่ายศิลป์ / วีดีโอ
ลักษณะงานเป็นการผลิตสื่อศิลป์ประเภทสิ่งพิมพ์และวีดีโอภาพเพื่อประโยชน์ในการเรียนรู้ของคนหูหนวก
เช่น
การบันทึกการประชุม, สัมมนา, การจัดทำวีดีโอข่าวภาษามือเพื่อเผยแพร่แก่คนหูหนวกในส่วนภูมิภาคและ
ยังรวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์งานฝีมือคนหูหนวกของศูนย์ฝึกอาชีพและพัฒนาคนหูหนวก
ในการจำหน่ายใน
เทศกาลต่าง ๆ เพื่อหารายได้หมุนเวียนสนับสนุนการดำเนินงานสมาคมฯ
ต่อไป
4. ฝ่ายภาษามือ
4.1 และเผยแพร่ภาษามือ สมาคมฯ ได้ดำเนินงานเผยแพร่ภาษามือไทยขั้นพื้นฐาน,
อบรมล่ามภาษามือเพื่อช่วย
ในการสื่อสารแก่คนหูหนวก โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีของคนหูปกติต่อคนหูหนวก,
เพื่อช่วยเหลือในการติดต่อสื่อสารระหว่างคนหูปกติและคนหูหนวก (ครอบครัวคนหูหนวก,
หน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวข้อง)
อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้คนหูหนวก (ครอบครัวคนหูหนวก, หน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวข้อง)
อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้คนหูหนวกยอมรับภาษามือว่าเป็นวัฒนธรรมของคนหูหนวก
4.2 ค้นคว้าและวิจัยภาษามือ เนื่องด้วยคนหูหนวกที่มาจากแต่ละกลุ่ม
จะมีความยากลำบากในการติดต่อสื่อสาร
เพราะภาษาที่ใช้มีความแตกต่างไปแล้วแต่ภูมิภาค สถาบันการศึกษาบางหน่วยงานก็นำภาษามือจากต่างประเทศมาประยุกต์ใช้
เพื่อให้เกิดมาตรฐานทางภาษามือในการสื่อสารกันได้ในประเทศ จึงทำให้เกิดการค้นคว้าและวิจัยภาษามือขึ้น
โดยใช้ข้อมูลของภาษาท้องถิ่นมาปรับใช้ให้เป็นไปตามหลักการการใช้ภาษามือและภาษาสีหน้าท่าทาง
การวิจัยทำโดยคนหูหนวกซึ่งจะเข้าใจความรู้สึกและยอมรับท่าทางแสดงความหมายของแต่ละคำได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันได้ให้ความร่วมมือกับวิทยาลัยราชสุดาในการเข้าร่วมสัมมนาคำศัพท์ภาษามือ
เช่น ภาษาทางสังคม,
ภาษามือทางด้านอาชีพ, ภาษามือคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
5. ฝ่ายฝึกอาชีพ
สมาคมฯ ได้ก่อตั้งสถาบันฝึกอาชีพคนหูหนวกขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2524
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมให้ความรู้ทางด้านวิชาชีพแก่คนหูหนวกที่ไม่ได้รับการศึกษาโดยคนหูหนวก
ที่มีความรู้ความสามารถในงานช่างไม้ งานวาดภาพ งานตัดเย็บเสื้อผ้า
ซิลค์สกรีน เป็นต้น ปัจจุบันสถาบันฯ
ได้เปลี่ยนแปลงชื่อจากเดิมเป็น "ศูนย์ฝึกอาชีพและพัฒนาคนหูหนวก"
ภายใต้การดำเนินงานของสมาคมฯ
นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังจัดส่งสมาชิกคนหูหนวกเข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
โดยพิจารณาจากความต้องการและความเหมาะสมของคนหูหนวกเป็นหลัก ขณะนี้ศูนย์ฝึกอาชีพและ
พัฒนาคนหูหนวกยังไม่มีที่ทำการถาวร สมาคมฯ จึงได้จัดทำโครงการจัดหาทุนก่อสร้างศูนย์ฝึกอบรมและ
ส่งเสริมอาชีพคนหูหนวกขึ้น โดยได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินจำนวน 2
ไร่ บนที่ดินราชพัสดุ คลองหก จ.ปทุมธานี อยู่ระหว่างวิทยาลัยการปกครองและสถานสงเคราะห์บ้านกึ่งวิถี
งบประมาณในการก่อสร้าง 8,000,000 บาท
ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาทุน
6. ฝ่ายการแสดง
โครงการส่งเสริมกลุ่มนักแสดงคนหูหนวก จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำศิลปการแสดงของคนหูหนวก
เป็นสื่อนำความรู้และความบันเทิงสู่ชุมชน ซึ่งนอกจากจะสามารถสร้างความเข้าใจระหว่างคนหูหนวกกับคนปกติแล้ว
ยังส่งเสริมอาชีพและรายได้ของคนหูหนวกอีกด้วย ปัจจุบันการดำเนินงานของกลุ่มนักแสดงยังไม่ประสบความสำเร็จ
เท่าที่ควร เนื่องมาจากปัญหางบประมาณสนับสนุนและปัญหาคนหูหนวกไม่มีเวลาในการฝึกซ้อมและร่วมแสดง
เพราะต้องประกอบอาชีพเพื่อหารายได้เลี้ยงตนเอง |
|
กลุ่มเป้าหมายในการให้บริการ
1.สมาชิกคนหูหนวกทั่วประเทศไทย
2. โรงเรียนสอนคนหูหนวก
3. หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง
4. องค์กรคนพิการทั้งในและนอกประเทศ
5. ครอบครัวคนหูหนวก |
แหล่งเงินทุน
/ ทรัพยากร
1. รายได้ค่าบำรุงสมาชิก
2. รายได้จากการจำหน่ายสลากการกุศลของคนหูหนวก
3. เงินสนับสนุนโครงการจากกรมประชาสงเคราะห์, กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ
4. เงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา, บริษัทห้างร้านต่าง ๆ
5. มูลนิธิช่วยเหลือคนพิการระหว่างประเทศสวีเดน SWEDISH ORGANISATION
OF HANDICAPPED
INTERNATIONAL AID FOUNDATION (SHIA) และสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศสวีเดน
SWEDISH
ASSOCIATION OF THE DEAF (SDR) |
แนวทาง / แผนงานพัฒนาสมาชิกและหรือองค์กรสมาชิก
1. โครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกอบรมและส่งเสริมอาชีพคนหูหนวก
เนื่องด้วยปัจจุบันคนหูหนวกประสบปัญหาการว่างงานสูง ในส่วนที่มีงานทำก็เป็นแรงงานไร้ฝีมือแม้ว่ารัฐบาลได้มีพระราชบัญญัต
ิเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พ.ศ. 2534 ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้คนพิการแต่ละประเภทได้รับโอกาสทางการศึกษา
การทำงาน การดำรงชีวิตในสังคมทัดเทียมกับคนปกติแต่คนหูหนวกส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้ารับบริการต่าง
ๆ จากภาครัฐได้อันเนื่องมาจากปัญหาในการติดต่อสื่อสาร เพื่อส่งเสริมให้คนหูหนวกได้รับความรู้และฝึกฝนทักษะทางวิชาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของ
คนหูหนวกและสภาพทางเศรษฐกิจ เพื่อคนหูหนวกสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณค่า
มีงานทำและได้รับการยอมรับจากสังคมทั่วไป
สมาคมฯ จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1. เพื่อฝึกอาชีพให้แก่คนหูหนวก
2. เพื่อส่งเสริมอาชีพให้แก่คนหูหนวก
3. เพื่อส่งเสริมทักษะในการพึ่งพาตนเอง
4. เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านอาชีพและวิชาการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคนหูหนวก
5. เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและส่งเสริมความร่วมมือกันระหว่างคนหูหนวก
ในด้านอาชีพ การศึกษาและสังคม
และได้ขออนุญาตใช้ที่ดินราชพัสดุ คลองหก จังหวัดปทุมธานี จำนวน
2 ไร่ เป็นที่ตั้งโครงการฯ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินงานจัดหาทุนก่อสร้างอาคารศูนย์ฯ
2.
โครงการจัดพิมพ์และเผยแพร่หนังสือภาษามือไทย (Publishing and
Publicizing Thai Sign Language Books)
ปัจจุบันคนหูหนวกไทยมีปัญหาในการติดต่อสื่อสารเนื่องจากไม่สามารถอ่านและเขียนภาษาไทยได้ดีและมีคนหูปกติ
น้อยมาก
ที่สามารถสื่อสารกับคนหูหนวกได้ด้วยภาษามือ นอกจากนี้ยังประสบปัญหาการขาดแคลนล่ามภาษามือที่จะช่วยคน
หูหนวก
ในการเข้ารับบริการต่าง ๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมให้ภาษามือไทยได้รับการส่งเสริมและเผยแพร่ในชุมชน
และลดช่องว่างระหว่างคนหูหนวกกับคนหูปกติในการสื่อสาร สมาคมฯ
จึงทำโครงการจัดพิมพ์และเผยแพร่หนังสือภาษามือไทย เพื่อใช้ในการเผยแพร่และสะดวกในการเรียนสำหรับคนหูปกติ,
คนหูหนวกที่ไม่รู้หนังสือ, ครอบครัวคนหูหนวกและหน่วยงาน
ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับคนหูหนวก โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาในการดำเนินงาน
3 ปี (2541 - 2543) และได้เสนอโครงการขอรับการสนับสนุนและความร่วมมือจากสหพันธ์คนหูหนวกแห่งประเทศญี่ปุ่น
(Japanese Federation of the Deaf)
3. โครงการพัฒนาผู้นำคนหูหนวกโลก (World Deaf Leadership Program)
เป็นโครงการต่อเนื่องระยะเวลา 3 ปี โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกาลาเดท
วิทยาลัยราชสุดา
และสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย และได้รับทุนสนับสนุนโครงการฯ
จากมูลนิธินิปปอน ประเทศญี่ปุ่นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมและสนับสนุนผู้นำคนหูหนวกในประเทศไทยให้สามารถเข้าร่วมกิจกรรม
กับชุมชนทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง รวมทั้งสามารถฝึกอบรมด้านวิชาชีพให้กับกลุ่มคนหูหนวกอื่น
ๆ
สำหรับเนื้อหาในการฝึกอบรมนั้น จะพิจารณาให้เหมาะสมกับสภาพของท้องถิ่นนั้น
ๆ
โครงการพัฒนาผู้นำคนหูหนวกในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์หลัก 3
ประการคือ
1. เพื่อฝึกสอนคนหูหนวกให้เป็นครูสอนภาษามือไทย
2. พัฒนาหลักสูตรภาษามือไทย และสร้างวัสดุอุปกรณ์สำหรับการเรียนการสอนให้ได้มาตรฐาน
3. เพื่อจัดให้มีการสอนภาษามือไทยในสถาบันอุดมศึกษา
ทั้งนี้ สมาคมฯ จะได้ผลักดันให้มีครูซึ่งสำเร็จการศึกษาจากโครงการพัฒนาผู้นำคนหูหนวกโลกเข้ารับการบรรจุ
เป็นครูสอนภาษามือไทยในโรงเรียนสอนคนหูหนวก และสถาบันการศึกษาต่าง
ๆ ในแต่ละปี โครงการฯ จะรับ
นักศึกษาจำนวน 7-10 คน โดยคนหูหนวก 7 คน จะได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษา
คุณสมบัติผู้ที่จะได้รับคัดเลือกเข้าโครงการฯ
1. อายุ 18 ปี ขึ้นไป
2. เป็นคนหูหนวก
3. เป็นสมาชิกของสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย
4. สามารถใช้ภาษามือไทยได้ดี
5. เข้าร่วมกิจกรรมของชุมชนคนหูหนวกและมีความรู้ในเรื่องของคนหูหนวกเป็นอย่างดี
6. มีความประสงค์ที่จะเป็นครูสอนภาษามือไทย
|
|
ประสบการณ์ในการดำเนินงาน
(ผลงาน, ความสำเร็จ, ความล้มเหลว ปัญหาและอุปสรรค)
ผลงาน
1. จัดตั้งกลุ่มสมาชิกภาค เพื่อส่งเสริมความร่วมมือของคนหูหนวกและเปิดโอกาสในการรับบริการแก
่คนหูหนวกในส่วนภูมิภาค ปัจจุบันมีกลุ่มสมาชิกในส่วนภูมิภาคทั้งสิ้น
4 ภูมิภาคดังนี้
-กลุ่มสมาชิกคนหูหนวก ส่วนภูมิภาคภาคเหนือ จ.เชียงใหม่
- กลุ่มสมาชิกคนหูหนวก ส่วนภูมิภาคภาคใต้ จ.สงขลา
- กลุ่มสมาชิกคนหูหนวก ส่วนภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครพนม
- กลุ่มสมาชิกคนหูหนวก ส่วนภูมิภาคภาคกลาง จ.กรุงเทพมหานคร
2. วิจัย เรียบเรียงและจัดพิมพ์ปทานุกรมภาษามือไทย เพื่อใช้เป็นหนังสืออ้างอิงและใช้ประกอบการสอนภาษามือ
ไทย 2 เล่ม และจัดพิมพ์หนังสือ ก.ไก่ สำหรับภาษามือไทย เพื่อประโยชน์ในการเรียนการสอนระดับเตรียมความพร้อมสำหรับเด็กหูหนวก
3. บริการสมาชิก
- เผยแพร่ข่าวสาร โดยผ่านทางจุลสารและวีดีโอเทปภาษามือ และจัดประชุม
- บริการล่ามภาษามือช่วยในการสื่อสารในกรณีต่าง ๆ เช่น พบแพทย์,
ไปสถานีตำรวจ ฯลฯ
- สอนภาษาไทยให้คนหูหนวกที่ไม่ได้เรียนหนังสือและไม่รู้ภาษามือ
- บริการจัดหางาน
- บริการให้คำแนะนำปรึกษาให้แก่คนหูหนวก, ครอบครัวคนหูหนวกที่มีปัญหา
- จัดฝึกอบรมให้ความรู้แก่คนหูหนวกโดยประสานงานกับหน่วยงานต่าง
ๆ เช่น ฝึกอบรมคอมพิวเตอร์ให้แก่คนหูหนวก,
ฝึกอบรมบาติก เป็นต้น
4. สอนภาษามือให้แก่ผู้ปกครอง, บุคคลทั่วไปและหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับคนหูหนวก
5. เป็นตัวแทนของคนหูหนวกเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารในปัญหาและความต้องการของคนหูหนวก
6. ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมสิทธิที่คนพิการควรได้รับ
เช่น ใบขับขี่สำหรับคนหูหนวก, ตัวอักษรวิ่ง
ในรายการทีวี เป็นต้น สมาคมฯ ได้ร่วมมือกับสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย
ในการผลักดันสิทธิที่คนหูหนวกควรได้รับ
และได้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ปิดกั้นไม่อนุญาตให้คนหูหนวกรับสมัครตั้ง
ซึ่งได้รับการแก้ไขไปแล้ว
ปัญหาและอุปสรรค
1. บุคคลทั่วไปยังขาดความเข้าใจในเรื่องของคนหูหนวก และสมาคมฯ
ยังไม่เป็นที่รู้จักในสังคม ทั้งนี้เนื่องจากขาดแผนการ
ประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึง จึงทำให้มีผลต่อการเสริมสร้างทัศนคติและความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคนในสังคม
มีผลต่อการส่งเสริมอาชีพ, การศึกษา และการมีส่วนร่วมในสังคมของคนหูหนวก
2. นโยบายการดำเนินงานแต่ละฝ่ายของสมาคมฯ ไม่ชัดเจน ไม่ได้มีการวางเป้าหมายและแผนงานในระยะยาว
เพื่อรองรับการเติบโตขององค์กร
3. ระดับการศึกษาของคนหูหนวกไทย โดยส่วนใหญ่ ได้รับการศึกษาสูงสุดเพียงระดับมัธยมศึกษาปีที่
6 และ
มัธยมศึกษาปีที่ 3 คนหูหนวกส่วนใหญ่อ่าน - เขียนภาษาไทยได้ไม่ดี
จึงขาดความรู้ด้านวิชาการและข้อมูลข่าวสาร หลังจากจบการศึกษาคนหูหนวกไทยประกอบอาชีพอิสระ
ขาดประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับคนปรกติ
จึงมีผลต่อมองปัญหา การใช้ทรัพยากรทางสังคมให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาองค์การและพัฒนาคนหูหนวก
4. การดำเนินงานทางด้านวิชาการ, ข้อมูลข่าวสาร, การประชาสัมพันธ์และการบริหารทรัพยากรทางสังคม
ยังต้องอาศัยเจ้าหน้าที่หูปกติในการดำเนินการ
5. คนหูหนวกขาดทักษะในการจัดการและการบริหารองค์กร เช่น การจัดการ,
การบริหารโครงการ, การบริหารเงินทุน,
การพัฒนาบุคลากรในองค์กร, ขาดเป้าหมายในการดำเนินงาน ฯลฯ ให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพเต็มที่
6. ล่ามภาษามือไม่เพียงพอที่จะช่วยในการดำเนินงานหรือขยายการดำเนินงานของสมาคม
และขาดแคลนบุคลากร
ที่มีความชำนาญในสังคมสงเคราะห์ (งานบริการให้คำแนะนำปรึกษา)
7. งบประมาณสนับสนุนและพัฒนาการดำเนินงานไม่เพียงพอไม่สามารถขยายบริการไปยังสมาชิกคนหูหนวกทั้งใน
ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว
8. กลุ่มสมาชิกคนหูหนวกส่วนภูมิภาคขาดแคลนล่ามภาษามือ และเจ้าหน้าที่หูปกติประสานงานทำให้งานส่วนภูมิภาค
ยังไม่เติบโตเท่าที่ควร |
|
รายนามนายกสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งวาระคราวละ 2ปี
สมัยที่ 1 |
นายไพศาล วงศ์ศิริพัฒนกุล |
พ.ศ.2527-2529 |
สมัยที่ 2 |
นายไพศาล วงศ์ศิริพัฒนกุล |
พ.ศ.2529-2531 |
สมัยที่
3 |
นายสุรศักดิ์
จิตติเศรษฐกุล |
พ.ศ.2531-2533 |
สมัยที่ 4 |
นายสุรศักดิ์ จิตติเศรษฐกุล |
พ.ศ.2533-2534 |
สมัยที่ 5 |
นางพนมวรรณ บุญเต็ม
|
พ.ศ.2534-2536 |
สมัยที่ 6 |
นายไพศาล วงศ์ศิริพัฒนกุล |
พ.ศ.2536 (เสียชีวิตก่อนจะครบวาระ) |
สมัยที่ 7 |
นายอนุชา รัตนสินธุ์ |
พ.ศ.2538-2540 |
สมัยที่ 8 |
นายอนุชา รัตนสินธุ์ |
พ.ศ.2540-2542 |
สมัยที่ 9 |
นายอนุชา รัตนสินธุ์ |
พ.ศ.2542-2544 |
สมัยที่ 10 |
นางพนมวรรณ บุญเต็ม
|
พ.ศ.2544-2546 |
สมัยที่
11 |
นางพนมวรรณ
บุญเต็ม |
พ.ศ.2546-2548 |
สมัยที่ 12 |
นายยงยุทธ บริสุทธิ์ |
พ.ศ.2548-2549
(ลาออก) |
สมัยที่ 13 |
นายสุรเชษฐ์ เลิศสัจญาณ |
พ.ศ.2549 -2550
(รักษาการแทน) |
|
กลับไปหน้าแรก
|