- คำว่าอุทลุม(อ่าน
อุ ทะ ลุม) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ให้ความหมายว่า
"การห้ามฟ้องเพราะถือว่าผิดประเพณี
เช่นลูกฟ้องพ่อแม่ยังโรงศาลไม่ได้เป็นอุทลุม"
- จากความหมายดังกล่าวข้างต้นพอจะขยายความได้ว่า
บุตรหลานจะฟ้องร้องบิดามารดาปู้ย่าตายาย
เป็นคดีในศาลไม่ได้ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายลักษณะรับฟ้อง ซึ่งมีบังคับใช้มาแต่โบราณกาล
ตามความ
ในบทที่ 21 ประการที่ 5 ว่า "อนึ่งในการฟ้องนั้นคนเป็นอุทลุมมิได้รู้คุณพ่อแม่ปูย่าตายายอันหาความแก่
พ่อแม่ปู่ย่าตายายก็ดีให้ยกฟ้องเสีย" ซึ่งแนวทางของกฎหมายดังกล่าวยังคงใช้บังคับจนถึงปัจจุบัน
ดัง
ความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1562 ซึ่งบัญญัติว่า "ผู้ใดจะฟ้องบุพการีของตนเป็น
คดีแพ่งหรือคดีอาญามิได้ แต่เมื่อผู้นั้นหรือญาติสนิทของผู้นั้นร้องขออัยการจะยกคดีขึ้นว่ากล่าวก็ได้"
- คำว่าบุพการี ก็เป็นที่ทราบอยู่แล้วว่าหมายถึงพ่อแม่
ปู่ย่า และตายายของผู้นั้น ซึ่งนอกจากกฎหมายจะคุ้ม
ครองบิดามารดาปู่ย่าตายายแล้ว บางกรณียังคุ้มครองไปถึงผู้รับมอบอำนาจจากบิดามารดาปู่ย่าตายาย
ด้วยเช่นกัน เช่นกรณีบุพการีโอนทรัพย์ให้ผู้อื่นปกครองแทน บุตรหลานจะฟ้องเรียกทรัพย์จากผู้รับโอน
โดยไม่กล่าวหาว่ากระทำผิดไม่ได้ ถือว่าเป็นอุทลุม แต่ถ้าโอนทรัพย์สินนั้นไปโดยไม่สุจริต
คือฉ้อบุตรหลาน
โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้วบุตรหลานก็ฟ้องผู้รับโอนได้ ไม่ถือเป็นอุทลุม หรือลูกสะไภ้ฟ้องเรียกมรดก
ของสามีจากพ่อแม่สามีได้อย่างนี้ไม่เป็นอุทลุม(ดู ฎีกา 246/2471)
- ซึ่งอย่างไรก็ตามแม้กฎหมายจะปกป้องคุ้มครองบุพการี
เนื่องจากประเพณีของคนไทยที่ให้บุตรหลานมี
ความเคารพในบุพการี แต่กฎหมายก็ยังเปิดช่องทางให้ฟ้องได้ โดยให้บุตรหลาน หรือญาติสนิทของบุตร
หลานร้องขอต่อพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาหรือคดีแพ่งแทนบุตรหลานได้
ในกรณีที่บุตร
หลานถูกข่มเหงหรือถูกทำร้ายอย่างไม่เป็นธรรม เช่นกรณีบิดามารดาประพฤติไม่สมควรในการรักษาทรัพย์
ของบุตร อัยการฟ้องให้ส่งทรัพย์สินให้ผู้อื่นรักษาแทนได้