ชื่อทั่วไป
: ยาเค (Ketamine)
ชื่ออื่น ๆ
: เคตาวา (Ketava) ,
เคตาลา (Ketalar)
หรือ
คาริบโซ่ (Calypzo)
สารเคมีที่ออกฤทธิ์
: คีตามีน
ลักษณะทางกายภาพ
:
มีลักษณะเป็นผงสีขาว
ผลึก หรือ
เป็นน้ำบรรจุอยู่ในขวดสีชา
ประวัติความเป็นมา
ยาเค
เป็นยาที่มีอันตรายสูงที่แพทย์จะจ่ายให้กับผู้ป่วยเฉพาะเมื่อมีความจำเป็นจริงเท่านั้น
ยาเคถูกสังเคราะห์ขึ้นเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์โดยใช้เป็นยาสลบมีชื่อ
เรียกในวงการแพทย์ว่า
"KETAMINEHL"
การนำไปใช้นั้นปกติแพทย์จะใช้ฉีดเข้าเส้นเลือดในอัตรา
1 ถึง 2
มิลลิกรัม
ต่อน้ำหนักตัว
1 กิโลกรัม
โดยยาจะออกฤทธิ์ทำให้หมดสติภายในเวลา
1 นาที
หรืออาจใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
แต่วิธีนี้จะใช้ปริมาณยามากกว่าการฉีดเข้าเส้นเลือดประมาณ
3 เท่า
อาการหมดสติจากการใช้ยาเคจะเป็นอยู่นานประมาณ
10 - 15 นาที
เท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ยาเคจึงถูกนำมาใช้ในกรณี
ของการผ่าตัดที่ใช้ระยะเวลาสั้น
ๆ
หรือใช้ทำให้ผู้ป่วยสลบก่อนที่จะผ่านไปสู่การใช้ยาสลบชนิดอื่น
ประเภทของยา
:
จัดเป็นยาควบคุมพิเศษตามพระราชบัญญัติยา
พ.ศ. 2521
การแพร่ระบาด
:
มีการลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ
โดยกลุ่มนักค้าชาวต่างประเทศ
และกลุ่มคนไทยที่ไปศึกษาต่อต่างประเทศ
มีลักลอบจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป
มีการแพร่ระบาดตามเมืองใหญ่
และเมืองท่องเที่ยว
เมืองชายทะเลของประเทศ
แพร่ระบาดในกลุ่มเยาวชนที่มีการศึกษาสูง
ฐานะค่อนข้างดี
สาเหตุที่ทำให้ยาเคกลายเป็นปัญหาเพราะวัยรุ่นบางกลุ่มได้นำยาเคมาสูดดมเพื่อเกิดอาการมึนเมา
และมักพบว่ามีการนำยาเคมาใช้ร่วมกับยาเสพติดร้ายแรงชนิดอื่น
เช่น ยาอี
และ โคเคน
การออกฤทธิ์
:
ยาเค
เป็นยาที่ออกฤทธิ์หลอนประสานอย่างรุนแรง
เมือเสพเข้าไปจะรู้สึกเคลิบเคลิ้ม
(Euphoria)
รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจพิเศษ
(Mystical)
มีอาการสูญเสียกระบวนการทางความคิด
ความคิดสับสน
การรับรู้และตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมทั้งภาพ
แสง สี
เสียงจะเปลี่ยนแปลงไป
ตาลาย
ร่างกายเคลื่อนไหวไม่สัมพันธ์กันหากใช้ปริมาณมากจะเกิดการติดขัดในการหายใจ(Respiratory
depression)อาการที่ไม่พึ่งประสงค์เหล่านั้น
(Bad Trip)
จะปรากฎให้เห็นคล้ายกับอาการทางจิต
ซึ่งหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะปรากฎอาการ
เช่นนี้อยู่บ่อย
ๆ เรียกว่า
Flash back
ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว
จะทำให้ผู้เสพประสพกับสภาวะโรคจิต
และกลายเป็นคนวิกลจริตได้
ผลต่อร่างกาย
:
การนำยาเคมาใช้ในทางที่ผิดย่อมก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้
โดยนำให้เกิดผล
ดังนี้
1.
ผลต่ออารมณ์
มีความรู้สึกเคลิบเคลิ้ม
มึนงง
หรือที่เรียกว่าอาการ
"Dissociation"
2.
ผลต่อการรับรู้จะเปลี่ยนแปลงการรับรู้ทั้งหมดในขณะเสพ
ไม่ค่อยตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งภาพ สี
แสง
3.
ผลต่อร่างกายและระบบประสาท
เมื่อใช้ยาเคในปริมาณมาก
ๆ
ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดอาการติดขัด
ในการหายใจเท่านั้น
ยังทำให้เกิดการทางจิต
ประสาทหลอน
หูแว่ว
กลายเป็นคนวิกลจริตได้