ลักษณะสัมผัสและเสียงท้ายวรรคของกลอน
๘
มาถึงตอนนี้บางท่านอาจรู้สึกว่าการเขียนกลอนแปด
เป็นเรื่องยุ่งยากไม่เบาเลย
พาลจะหมดความสนใจ
เอาดื้อ ๆ ผู้เขียนจึงยากจะขอแนะนำว่า
ขอให้ลืม
เรื่องยุ่ง ๆ ข้างต้น ไปได้เลย
เพราะนั่นเป็นเรื่อง
ของนักเรียนนักศึกษา
ที่จะเรียนรู้ เอาคะแนน
เอาเกรดกัน
เรามาหัดเขียนกลอนแบบภูมิ
ปัญญาชาวบ้านกันดีกว่า
โดยมาเริ่มนับหนึ่ง
กันใหม่ ดังนี้
๑) กลอน ๑ บท มี ๔ บรรทัด
๒) บรรทัดหนึ่ง ๆ
จะเขียน ๗ คำ ๘ คำ หรือ ๙ คำก็ได้
๓) ถ้าแต่งตั้งแต่ ๒
บทขึ้นไป คำสุดท้ายของบรรทัด
ที่ ๔ ในบทต้น
ต้องสัมผัสกับคำสุดท้าย
ของบรรทัดที่ ๒
ในบทถัดไปเสมอ
*** เห็นไหมครับ
ว่าง่าย กว่าข้างต้นเยอะเลย ***
โปรดดูตัวอย่างคอลัมน์ถัดไป
|
สัมผัสนอก สัมผัสใน
บทที่ ๑ "พระดูเดือน
เหมือนวง นลาฏน้อง
สัมผัสผ่อง ชวนจิต พิสมัย
รื่นรื่นกลิ่น ลำดวน รัญจวนใจ
เหมือนเข้าใกล้
กลิ่นนาง
เมื่อกลางวัน"
บทที่ ๒
ซึ้งเอยซึ้ง กวีรัก สร้อยอักษร
หวานมนต์กลอน พระอภัย เคลิ้มใจฝัน
ดื่มด่ำถ้อย สร้อยคำ ที่จำนรรจ์
รักรำพัน เลื่องชื่อ ระบือนาม
คำหรือพยางค์ ที่มี เสียงสระ คล้องจองกัน
ในบท
กลอนเรียกว่า สัมผัส แบ่งเป็น
๒ ชนิดคือ สัมผัสนอก
และ สัมผัสใน
โปรดดูตัวอย่าง บทที่ ๑ คำต่อไปนี้ น้อง สัมผัสกับ
ผ่อง คำว่า สมัย สัมผัสกับ ใจ + ใกล้ คำว่า วัน
คำสุดท้ายบรรทัดที่
๔ ในบทต้น สัมผัสกับ ฝัน คำสุด
ท้าย ของบรรทัดที่ ๒ ในบทถัดไป
(มีต่อกลอนแปด ๒) |