พัฒนาการนโยบายรัฐบาล
เกี่ยวกับจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส
 
..
   
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
   

 

หอค้าใต้ปลื้มเวที ผู้ว่าซีอีโอ ได้ทั้งกล่องและบริการที่ดีขึ้น

          หอการค้าภาคใต้เป็นปลื้ม กับการจัดเวที เสี้ยมความคิด เรื่องผู้ว่าซีอีโอของรัฐบาล ชี้จะทำให้ภาคเอกชน คล่องตัวขึ้น แถมมีส่วนร่วม กำหนดยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติอย่างแท้จริง
          สืบเนื่องมาจาก การปฏิรูประบบราชการผู้ว่าฯซีอีโอ รัฐบาลจึงจัดอบรมระหว่างวันที่ 11-16 ก.ย. 2546 ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ การสัมมนา แบ่งออกเป็น 3 รุ่นๆ ละ 200 คน ผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ผู้ว่าซีอีโอ หอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ปลัดกระทรวงต่างๆ เป็นต้น ซึ่งตัวแทนภาคเอกชน ของจังหวัดสงขลาได้แก่ นายบุญช่วย จังศิริวัฒนธำรง ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดสงขลา และนายชาญ ลีลาภรณ์ ประธานหอการค้าภาคใต้ เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้
          นายบุญช่วย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อให้องค์กร ยอมรับการเปลี่ยนแปลง เอาประชาชน เป็นจุดศูนย์กลาง เอื้อประโยชน์ให้กับท้องถิ่นมากที่สุด หาจุดอ่อน จุดแข็งของจังหวัดตน ตั้งเป้าหมายของจังหวัด หากลยุทธ์ แล้วเดินไปสู่เป้าหมายที่วางเอาไว้
          “ต่อไปนี้ ผู้ว่าฯ ต้องเรียกประชุมหน่วยงานต่างๆ เพื่อระดมความคิดทำแผนยุทธศาสตร์ก่อนวันที่ 3 พ.ย. 2546 เพื่อเสนอต่อรัฐบาล ปัญหามีอยู่ว่าเมื่อทำแผนแล้ว มอบอำนาจให้ ก็ต้องมอบเงินให้ด้วย ถ้าเรามีแผนไม่มีเงินก็ทำอะไรไม่ได้” นายบุญช่วยกล่าวและว่า การไปครั้งนี้ตนคิดว่าได้รับความรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนองค์กร การพัฒนาองค์กร การหากลยุทธ์ ในการนำคนเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง
          ในอดีต ผู้ว่าฯ ไม่มีอำนาจสั่งการทุกหน่วยโดยตรง แต่ต่อไปนี้ ผู้ว่าฯ มีอำนาจสั่งการทุกอย่าง ภายในจังหวัด แต่คงยกเว้น เรื่องศาลยุติธรรม ในภาคเอกชน ก็คงสะดวกขึ้น เรื่องการขอใบอนุญาตต่างๆ ที่สามารถขอที่ผู้ว่าโดยตรงได้ แต่คงไม่ทุกจุด อย่าคาดหวังว่าจะได้ 100 % ที่ผ่านมาประชาชนคาดหวังผู้ว่าฯมากเกินไป แต่ผู้ว่าฯไม่สามารถสั่งการได้ทุกอย่าง ต่อไปนี้ผู้ว่าฯต้องรู้ทุกเรื่องในจังหวัด
          นายชาญกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นแนวความคิดที่ดี เพื่อช่วยเหลือผู้ว่าฯ ในการทำยุทธศาสตร์ของแต่ละจังหวัด วิทยากรที่ให้ความรู้เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า การเป็นผู้ว่าฯ ต้องมียุทธศาสตร์ มีเป้าหมาย ประโยชน์ที่ได้ครั้งนี้คือ ทำให้ผู้ว่าฯ และภาคเอกชนมีความเข้าใจ ร่วมมือกันทำแผนยุทธศาสตร์ มีเป้าหมายเดียวกัน เพราะที่ผ่านมา ภาคราชการเป็นผู้กำหนดฝ่ายเดียว ไม่ได้ให้ผู้ปฏิบัติคือภาคเอกชนร่วมลงมือวางแผนด้วย ฉะนั้น แผนที่ออกมา จึงไม่ค่อยถูกทางเท่าไหร
          นายชาญกล่าวว่า หลังจากที่ผู้ว่าฯทำยุทธศาสตร์ส่งให้รัฐบาลภายใน 3 พ.ย แล้ว มีการทำสัญญากับรัฐบาล จากนั้นจึงลงพื้นที่ทำตามแผนที่วางเอาไว้ แล้วประเมินผล หลังจากที่ทำงานไปได้สักระยะว่า เป็นไปตามเป้าหมาย ที่วางไว้หรือไม่ ส่วนเรื่องของงบประมาณ ขึ้นอยู่กับการยื่นเสนอขอไป ว่าเป็นที่ยอมรับของ ครม. หรือไม่ ยุทธศาสตร์ที่เสนอมา มีความเป็นไปได้หรือไม่ ต้องมีเป้าหมายชัดเจน
          “การปฏิรูปครั้งนี้ จะทำให้เอกชนคล่องตัวขึ้น เช่น การขอใบอนุญาตต่างๆ เมื่อก่อนผู้ว่าฯ ไม่มีอำนาจสั่งการ แต่ระบบใหม่ผู้ว่าฯมีอำนาจอนุมัติเต็มที่” นายชาญกล่าวและว่า ต่อไป การบริหารงานของผู้ว่าฯ จะมีทีมที่ปรึกษา ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานต่างๆ เช่น หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สมาคม และชมรมต่างๆ เป็นต้น ฉะนั้น ปัญหาที่ตามมาก็จะลดน้อยลง

ฉบับที่ 299 20-26 กันยายน 2546
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2546 เวลา 09:35:43 น.