พัฒนาการนโยบายรัฐบาล
เกี่ยวกับจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส
 
..
   
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
   

 

โอฬาร ชี้รัฐต.ค.นี้ ทุบทิ้งสภาธุรกิจใต้หากรัฐเมินข้อเสนอปรับรื้อใหญ่

           ท่ามกลางความเงียบเหงา ในการขับเคลื่อนโครงการ IMT-GT ของรัฐนาวาทักษิณและพลพรรคไทยรักไทย “โอฬาร อุยะกุล” ทนหงอย บนตำแหน่งประธานสภาธุรกิจชายแดนใต้ไม่ไหว ร่อนหนังสือถึง “กร ทัพพะรังสี” จี้ให้รัฐบาลปรับโครงสร้างใหม่ พร้อมของบประมาณสนับสนุนด้วย ขีดเส้นตายสิ้น ต.ค.นี้หากไม่มีผลจะยุบองค์กร และกรรมการรวมถึงสมาชิกทุกคนก็พร้อมเปิดหมวกลา
           นายโอฬาร อุยะกุล ประธานสภาธุรกิจชายแดนใต้ เปิดเผย “โฟกัสภาคใต้” ว่าถึงกรณี ที่ตนได้ทำหนังสือลงวันที่ 20 มิ.ย. 2546 ถึงนายกร ทัพพะรังสี รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอให้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ของสภาธุรกิจชายแดนใต้ใหม่ รวมถึงได้ขอการสนับสนุนงบประมาณ จากรัฐบาลด้วยว่า ตนและคณะกรรมการ ได้ปรึกษากันแล้วว่า จะรอคำตอบจากรัฐบาลในเรื่องนี้ถึงสิ้น ต.ค.นี้เท่านั้น หากไม่มีความชัดเจนก็จะยุบองค์กร แล้วคณะกรรมการ และสมาชิกทั้งหมด จะแยกย้ายไป
           ความจริงสภาธุรกิจได้หารือเรื่องนี้กันมานานแล้ว ก่อนหน้านี้ องค์กรเคยอยู่ในภายใต้การดูแล ของศูนย์อำนวยการ บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) แต่หลังจาก ศอ.บต.ถูกยุบไป มีการพูดคุยกันว่า จะไปในทิศทางใด ซึ่งการเสนอปรับโครงสร้างใหม่ ก็เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กร โดยมีองค์ประกอบ ของการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน หน่วยงานรัฐในพื้นที่ และส่วนกลางที่เกี่ยวข้องกับโครงการ สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ชัดเจน
           “ที่ผ่านมาเรามีส่วนช่วยยกระดับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าการลงทุนใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ เชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน มาตลอด โดยเฉพาะด้านการนำเข้า และส่งออก ที่มีกว่าแสนล้านบาท และยังเป็นตัวกลาง ในการสนับสนุนและแก้ปัญหาด้วย แต่ก็ไม่ได้รับการสนับสนุน จากภาครัฐเท่าที่ควร เราทำหน้าที่เหมือนตัวประสาน ดูแลการค้าการลงทุน เงื่อนไขและข้อจำกัดระหว่างประเทศต่างๆ” นายโอฬารกล่าว
           ต่อข้อถามที่ว่า คิดว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีพรรคไทยรักไทย เป็นแกนนำ จะสนองตอบข้อเรียกร้องที่เสนอไปหรือไม่ นายโอฬารกล่าวว่า ตนไม่มั่นใจ เพราะขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลว่า จะเห็นความสำคัญ ของสภาธุรกิจชายแดนใต้หรือไม่ เช่นเดียวกันที่ผ่านๆ มาก็ขึ้นอยู่นโยบายของแต่ละรัฐบาลเช่นกัน
           นายโอฬารกล่าวด้วยว่า งบประมาณที่ได้ยื่นเสนอขอไปนั้นเป็นวงเงินไม่มากนัก โดยต้องการนำไปจ้างมืออาชีพ เข้ามาดูแลองค์กรอย่างจริงจัง ซึ่งผลงานที่ผ่านมาก็ได้สร้างประโยชน์ ต่อประเทศชาติไว้มาก โดยเฉพาะ การที่ภาคเอกชนของไทย คุยกับเอกชนของต่างชาติโดยตรง สิ่งนี้จะทำให้ลงรายละเอียดได้ลึกกว่ารัฐคุยกับเอกชน
           “ผลงานเด่นๆ ของเราก็เช่น การผลักดันให้มีการเปิดด่านชายแดน ก็ทำให้การค้าขาย บริเวณชายแดนดีขึ้น ราคาค่าขนส่งทางเรือ ระหว่าประเทศลดลง ที่สำคัญเป็นตัวแทนภาคเอกชน พูดคุยกัน ทำให้เห็นถึงท่าทีของมาเลเซีย อย่างชัดเจนว่า เรื่องใดที่มาเลเซียยอมได้ หรือเรื่องใดที่ยอมไม่ได้ เพราะอะไร ในอนาคต สภาธุรกิจชายแดนใต้ จะรวมเอานครศรีธรรมราช และตรัง เข้ามาด้วย เพื่อการขยายธุรกิจการค้า ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น” นายโอฬารกล่าว

ฉบับที่ 295 23-29 สิงหาคม 2546
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2546 เวลา 15:28:13 น.