ประวัติและปฏิปทา

หน้าแรก ประวัติและปฏิปทา ธรรมและคำสอน รูปภาพ

โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

๓๓. รับบัญชาคณะสงฆ์

หลวงปู่ดูลย์ อยู่ที่วัดสุทัศนาราม จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อช่วยกิจการอุปัชฌายะ ในขณะที่กำลังก่อสร้างโบสถ์ ด้วยภารกิจด้านการปกครองและให้การอบรมภิกษุสามเณร และการเป็นพระกรรมวาจาจารย์บวชนาค รวมเป็นเวลา ๖ ปี จนกระทั่งการก่อสร้างพระอุโบสถเสร็จเรียบร้อย

เมื่อหลวงปู่เห็นว่าภาระที่รับปากพระอุปัชฌายะเสร็จลงแล้ว จึงเตรียมการที่จะออกธุดงค์ แสวงหาความวิเวกตามป่าเขาลำเนาไพร ตามที่ตั้งใจไว้แต่เดิมต่อไป

แต่แล้ว เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามความประสงค์ จึงต้องเลิกล้มความตั้งใจเดิมอย่างฉับพลัน

ด้วยท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสฺโส อ้วน) ในสมัยที่ยังดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมปาโมกข์ เจ้าคณะมณฑลนครราชสีมา ร่วมกับคณะสงฆ์ ได้สถาปนาวัดบูรพาราม ขึ้นเป็นวัดธรรมยุตแห่งแรกของจังหวัดสุรินทร์ในปี พ.ศ. ๒๔๗๖

มีบัญชาให้ พระมหาพลอย อุปสโม ป.ธ.๖ จากวัดสัมพันธวงศาวาส กรุงเทพฯ เดินทางมาจัดการฟื้นฟูการศึกษา

ขณะเดียวกัน ก็มีบัญชาให้ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล มาช่วยท่านอีกแรงหนึ่งด้านวิปัสสนาธุระ

ในขณะนั้น วัดบูรพาราม กำลังอยู่ในสภาพที่ชำรุดทรุดโทรมมาก เนื่องด้วยก่อสร้างมานานร่วม ๒๐๐ ปี ต้องการการบูรณะซ่อมแซมเพื่อให้กลับฟื้นคืนสู่สภาพที่ดี และให้เป็นศูนย์การศึกษาทางพระพุทธศาสนาทั้งฝ่ายปริยัติและฝ่ายวิปัสสนา ตามความดำริของคณะสงฆ์

ด้วยเหตุที่หลวงปู่ดูลย์ อตุโล นั้นเป็นพระภิกษุผู้เจริญด้วยคุณธรรม มีความเป็นผู้ว่านอนสอนง่าย จึงไม่อาจขัดบัญชาของพระเถระผู้บริหารการคณะสงฆ์ได้ จึงต้องเดินทางกลับจังหวัดสุรินทร์ เพื่อปฏิบัติศาสนกิจตามที่ได้รับมอบหมาย

เป็นอันว่า ความประสงค์ที่จะออกธุดงค์ เพื่อบำเพ็ญคุณธรรมส่วนตัวให้ยิ่งขึ้นไป ซึ่งได้รั้งรอไว้ถึง ๖ ปี จำเป็นต้องยกเลิกไปโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ต้องเดินทางกลับมาตุภูมิ เพื่อบำเพ็ญประโยชน์แก่ปวงชน โดยมีเป้าหมายแห่งศาสนกิจสำคัญ รออยู่ข้างหน้า ที่ วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ได้บันทึกไว้ด้วยมือของท่านเองเอาไว้ว่า

"มาอยู่วัดบูรพาราม เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๗ เป็นเจ้าคณะอำเภอรัตนบุรี เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙"

หน้าต่อไป