บริการเด่น เน้นหลักการ งานคุณภาพ
ทำไมต้องประกันคุณภาพ
ขั้นตอนในการทำประเมินผลภายในสถานศึกษา
ภาระกิจของงานประกันคุณภาพการศึกษาจะช่วยให้การศึกษา
นักเรียน นักศึกษามีคุณภาพีขึ้นอย่างไร
ความจำเป็นของการประกันคุณภาพการศึกษา
การประกันคุณภาพการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ. 2542
ทำไมต้องประกันคุณภาพการศึกษา....???
สุรพล ฝั้นศิริ วท. มหาสารคาม
กศ.ม. การวัดผลการศึกษา
E- mail : fsurapon@hotmail.com
ICQ : 147680473
การที่เราจะทราบว่าสิ่งใดมีคุณภาพ
มีขีดความสามารถในการใช้งาน ดีในระดับใดนั้น คงต้องมีการวัด และการประเมินในสิ่งนั้นๆอย่างมีกระบวนการที่ถูกต้องเป็นสากล
การศึกษาก็คล้ายกัน ต้องมีการนำเสนอให้ทราบว่ามีคุณภาพอย่างไร อะไรคือตัวชี้วัด
วัดได้อย่างไร วัดได้แค่ไหน ใครเป็นคนทำ ใครเป็นคนวัด มีการนำเสนอโดยวิธีการอย่างไร
เมื่อใด เพื่อให้ผู้ใช้มีความมั่นใจว่าสิ่งนั้นเขาสามารถนำไปใช้ได้ตรงตามความต้องการ
และไห้ประโยชน์กับผู้ใช้มากที่สุด ประการแรก และที่สำคัญคือตาม พ.ร.บ กาศึกษาแห่งชาติ
ปี 2542 ได้กำหนดให้สถานศึกษาทุกแห่ง ทุกระดับต้องปฏิบัติเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ในหมวด 6 เพื่อรับการประเมินภายนอกอย่างน้อย 1 ครั้งทุกระยะ 5 ปี และควรให้ดำเนินการภายในปี
2543 ซึ่งต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพเป็นเบื้องต้นดังนี้
1.
การประเมินเป็นการให้ข้อมูลที่ช่วยให้มีการปรับปรุงตนเองให้ทำงานได้ดีขึ้น
2.
การประเมินเป็นงานที่ต้องทำให้วงจรการทำงานอยู่แล้ว ไม่ใช่การเพิ่มภาระ
3.
การประเมินเป็นงานที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
4.
การประเมินเป็นงานของทุกคนไม่ใช่การสร้างผลงานทางวิชาการของใคร
5.
การประเมินเป็นงานที่ต้องทำด้วยใจเป็นกลาง สะท้อนผลงานตามความเป็นจริง
6.
การประเมินเป็นงานที่ทุกคนต้องทำด้วยความเต็มใจ และอยากทำ
7.
การประเมินเป็นงานที่ต้องทำให้ถูกต้องตามหลักวิธีการ ผู้ทำต้องมีความรู้ในการประเมิน
8.
การประเมินเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันทำให้เสร็จ
9.
การประเมินเป็นงานที่ต้องเอาผลไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง
10.
การประเมินเป็นงานที่ต้องเผยแพร่ผลการประเมินให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทราบ
(คู่มือการประเมินภายในฯ สถาบันส่งเสริมการประเมินฯ สำนักนายกรัฐมนตรี 2543)
ขั้นตอนในการทำการประเมินผลภายในสถานศึกษา
ในการดำเนินการประเมินผลภายในนั้นพอสรุปขั้นตอนในการทำได้ดังนี้
1.
แต่งตั้งคณะทำงาน
2.
ศึกษาเกี่ยวกับวิธีการประเมินผลภายใน
3.
ศึกษาตัวบ่งชี้ และเกณฑ์ให้แตกฉาน
4.
ลำดับความสำคัญของตัวบ่งชี้
5.
ประเมินเบื้องต้น (หาจุดอ่อน จุดแข็งของสถานศึกษา)
6.
กำหนดโครงการหรือแผนในการดำเนินงานเพื่อคุณภาพ
7.
ประเมินผลภายใน
8.
เปรียบเทียบผล กับการประเมินภายนอก
ภาระกิจของงานประกันคุณภาพการศึกษาจะช่วยให้การศึกษา
นักเรียน นักศึกษามีคุณภาพีขึ้นอย่างไร
- การประกันคุณภาพการศึกษาจะช่วยเป็นหลักประกันให้ผู้เรียน
และสังคมมีความมั่นใจว่าจะได้รับการบริการจากสถานศึกษาตามมาตรฐานที่กำหนด และเป็นการช่วยให้สถานศึกษามีการพัฒนาคุณภาพที่ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
มั่นใจได้อย่างไรว่ามีการประเมินคุณภาพการศึกษา แล้วคุณภาพของสถานศึกษาจะดีขึ้น
- การประเมินเปรียบเสมือนกระจกส่องดูสภาพของตนเอง
ทำให้ทราบถึงจุดอ่อน จุดแข็ง การแก้ไขจุดอ่อน และพัฒนาจุดแข็งจะเป็นการเสริมสร้างคุณภาพให้ดีขึ้น
การประเมินคุณภาพภายในจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคุณภาพ โดยมีการประเมินคุณภาพภายนอกเป็นแรงกระตุ้นให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ใครได้รับประโยชน์จากการประเมินคุณภาพภายนอก
- ประชาชนทุกคน ตั้งแต่นักเรียนนักศึกษา
ครู อาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน ตลอดจนองค์กรหน่วยงานของรัฐ และเอกชน
จะได้รับผลประโยชน์จากการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ มีกระบวนการที่จะรักษาคุณภาพไว้
และปรับปรุงให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้นตลอดเวลา ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญในการสร้าง
คน ที่มีคุณภาพให้แก่ประเทศชาติ
การประกันคุณภาพภายในกับการประเมินคุณภาพภายนอก แตกต่างกันอย่างไร
- การประกันคุณภาพภายในเป็นกระบวนการบริหารที่สถานศึกษาต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ทั้งการวางแผน กำหนดเป้าหมาย และวิธีการ การลงมือทำตามแผน ประเมิน และปรับปรุงแก้ไขพัฒนาคุณภาพ
และจัดทำรายการ การประเมินตนเองเป็นประจำทุกปี
- ส่วนการประเมินคุณภาพภายนอกเป็นการประเมินที่มีความต่อเนื่องกับการประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษา
เป็นการยืนยันผลการประเมินว่าการจัดการศึกษามีคุณภาพอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานที่กำหนด
การประกันคุณภาพภายใน และการประเมินคุณภาพภายนอกจึงเชื่อมโยงกันด้วยมาตรฐานการศึกษาเป็นหลัก
มาตรฐานการศึกษาคืออะไร
- มาตรฐานการศึกษาคือ ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะคุณภาพที่พึงประสงค์
และเป็นเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่งเพื่อใช้เป็นหลักในการเทียบเคียงสำหรับการส่งเสริม
กำกับดูแล ตรวจสอบประเมินผล และประกันคุณภาพการศึกษา
ความจำเป็นของการประกันคุณภาพการศึกษา
การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ
และได้มาตรฐานเป็นภาระกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาประเทศทั้งระยะสั้น
และระยะยาว ประเทศไทยมีการได้มีการกำกับมาตรฐาน และพัฒนาคุณภาพของผลผลิตทางการศึกษามาโดยตลอด
แต่การดำเนินงานยังไม่เป็นระบบครบวงจร และต่อเนื่อง ทั้งในด้าน
การควบคุมคุณภาพ ด้านการตรวจสอบ ประเมินคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษา จึงยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นหรือประกันได้อย่างเต็มที่แก่สาธารณชน
และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่าการดำเนินภารกิจดังกล่าวให้ผลผลิตทางการศึกษาที่มีคุณภาพ
และได้มาตรฐาน
ปัจจุบันมีปัจจัยนอก
และในประเทศหลายประการที่ทำให้การประกันคุณภาพการศึกษาเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินการ
อาทิ การตื่นตัวในเรื่องการประกันคุณภาพการศึกษา ในประเทศต่างๆ การสื่อสารที่ไร้พรมแดน
การเปิดเสรีด้านการค้า และการบริการ ความคาดหวังของสังคม สิทธิ และเสรีภาพของประชาชนในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารตลอดจนข้อจำกัดในด้านงบประมาณของประเทศ
ปัจจัยเหล่านี้ได้กระตุ้นให้ผู้ที่อยู่ในวงการศึกษาตระหนักถึงเรื่องการประกันคุณภาพการศึกษา
ซึ่งสะท้อนออกมาในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
การประกันคุณภาพการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
พ.ร.บ
การศึกษาแห่งชาติ ปี 2542 ได้กำหนดจุดมุ่งหมาย และหลักการของการจัดการศึกษา ที่ต้องมุ่งเน้นคุณภาพ
และมาตรฐาน โดยกำหนดรายละเอียดไว้ในหมวด 6 มาตรฐาน และการประกันคุณภาพการศึกษา
ซึ่งประกอบด้วย ระบบการประกันคุณภาพภายใน และ ระบบการประกันคุณภาพภายนอก
สำหรับการประกันคุณภาพภายในนั้นหน่วยงานต้นสังกัด
และสถานศึกษาจะต้องดำเนินการให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษา ที่กระทำอย่างต่อเนื่องตลอดจนจัดทำรายงานเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นประจำทุกปี เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพ
และมาตรฐานการศึกษา เพื่อรองรับการประเมินคุณภาพภายนอกโดย สำนักงานรับรองมาตรฐาน
และประเมินคุณภาพการศึกษา (สมส.)
การประกันคุณภาพภายนอกที่รับผิดชอบโดย
สมส. นั้นกำหนดให้สถานศึกษาทุกแห่งต้องได้รับการประเมินคุณภาพภายนอกอย่างน้อย
1 ครั้งในทุกระยะ 5 ปี การประเมินคุณภาพภายนอก รอบแรกสำหรับสถานศึกษาทุกแห่งจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน
6 ปี นับตั้งแต่วันที่ พ.ร.บ การศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ. 2542 มีผลบังคับใช้คือ ภายในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2548
( Copy
right @ 2001 by Quality Assurance Mahasarakham Technical College Office
)
If You Suggestion
and Comment to Email : pornchai_t@hotmail.com
Webmaster and desing by
Mr.Pornchai Thong-in