ร่างข้อบังคับสภาวิทยุสมัครเล่นประเทศไทย (ฉบับที่2 ) พ.ศ. 2543
ร่าง
ข้อบังคับสภาวิทยุสมัครเล่นประเทศไทย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ ................................... เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ จึงเห็นสมควรให้จัดตั้งสภาวิทยุสมัครเล่นประเทศไทยขึ้น เพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมกิจการวิทยุสมัครเล่นและเป็นองค์กรตัวแทนในการประสานงานกับหน่วยงานที่ทำหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลและหรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกิจการวิทยุสมัครเล่น หมวดที่ ๑ บททั่วไป ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า " ข้อบังคับสภาวิทยุสมัครเล่นประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๓" ข้อ ๒ ให้ใช้ข้อบังคับนี้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบสภาวิทยุสมัครเล่นประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๒ ข้อ ๔ สภานี้มีชื่อว่า "สภาวิทยุสมัครเล่นประเทศไทย" เรียกโดยย่อว่า " สวลท." และให้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า "THAILAND AMATEUR RADIO LEAGUE" เรียกโดยย่อว่า "TARL" ข้อ ๕ เครื่องหมายของสภาวิทยุสมัครเล่นประเทศไทยเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ภายในมีสัญลักษณ์ของสายอากาศ ตัวเก็บประจุ ขดลวดและสายดิน เชื่อมกันอยู่ตรงกลาง ที่มุมทั้งสี่มีอักษรย่อภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ โดยมีอักษร T อยู่มุมบน อักษร A อยู่มุมซ้าย อักษร R อยู่มุมขวา และ อักษร L อยู่มุมล่าง รูปเครื่องหมายของสภาวิทยุสมัครเล่นประเทศไทย ข้อ ๖ ในข้อบังคับนี้ ( ๑ ) "สภาวิทยุ" หมายความว่า สภาวิทยุสมัครเล่นประเทศไทย ประกอบด้วยองค์กรเครือข่าย คือ สภาวิทยุสมัครเล่นเขตและสภาวิทยุสมัครเล่นจังหวัด ( ๒ ) "องค์กรเครือข่าย" หมายความว่า เครือข่ายของสภาวิทยุ ประจำแต่ละเขตและประจำแต่ละจังหวัด ( ๓ ) "สภาวิทยุเขต" หมายความว่า สภาวิทยุสมัครเล่นเขต ที่เป็นองค์กรเครือข่ายของสภาวิทยุ ( ๔ ) "สภาวิทยุจังหวัด" หมายความว่า สภาวิทยุสมัครเล่นจังหวัด ที่เป็นองค์กรเครือข่ายของสภาวิทยุเขต ( ๕ ) "ประธานสภาวิทยุ" หมายความว่า ประธานคณะกรรมการสภาวิทยุสมัครเล่นประเทศไทย ( ๖ ) "กรรมการ" หมายความว่า กรรมการสภาวิทยุ ( ๗ ) "องค์กรสมาชิก" หมายความว่า สมาคม ชมรม กลุ่ม หรือ องค์กรชื่ออื่น ที่ได้แสดงความประสงค์เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสภาวิทยุสมัครเล่นจังหวัดเป็นลายลักษณ์อักษร ( ๘ ) "สมาคม" หมายความว่า สมาคมที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวข้องกับกิจการวิทยุสมัครเล่น ( ๙ ) "ชมรม" "กลุ่ม" หรือ "องค์กรชื่ออื่น" หมายความว่า องค์กรของพนักงานวิทยุสมัครเล่นซึ่งดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกิจการวิทยุสมัครเล่นและมีสมาชิกตั้งแต่ห้าสิบคนขึ้นไป ข้อ ๗. สำนักงานของสภาวิทยุ ตั้งอยู่ที่เลขที่ ๔๐/๕๔ ซอยอินทามระ ๘ ถนนสุทธิสาร แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ ๑๐๔๐๐ หมวดที่ ๒ วัตถุประสงค์ ข้อ ๘. สภาวิทยุ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ( ๑ ) เพื่อส่งเสริมให้การดำเนินกิจการวิทยุสมัครเล่นมีประสิทธิภาพ การใช้ความถี่วิทยุสมัครเล่นเกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาประเทศและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ( ๒ ) เพื่อพัฒนาและเผยแพร่ การวิจัย การศึกษาค้นคว้า การทดสอบ การทดลองทางวิชาการเกี่ยวกับการแพร่กระจายคลื่นวิทยุ ( ๓ ) เพื่อช่วยเหลือ แนะนำและฝึกฝนพนักงานวิทยุสมัครเล่นให้มีความรู้ความชำนาญในการเป็นข่ายวิทยุสื่อสารสาธารณะสำรอง ในยามฉุกเฉินหรือยามเกิดภัยพิบัติ ( ๔ ) เพื่อดำรงไว้และขยายความร่วมมือในการปรับปรุงแบ่งปันการใช้คลื่นความถี่วิทยุในกิจการวิทยุสมัครเล่น ( ๕ ) เพื่อประสานงานและช่วยเหลือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแลกิจการวิทยุสมัครเล่น ( ๖ ) เพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการติดต่อประสานงานและประชุมในระดับสากล ( ๗ ) เสริมสร้างความสามัคคี ผดุงเกียรติและศักดิ์ศรีของพนักงานวิทยุสมัครเล่น ( ๘ ) เพื่อสร้างชื่อเสียงของนักวิทยุสมัครเล่น ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล หมวดที่ ๓ สมาชิก ข้อ ๙. สภาวิทยุประกอบด้วยองค์กรเครือข่ายของสภาวิทยุ ดังนี้ ( ๑ ) สภาวิทยุเขต ๑ ประกอบด้วย สภาวิทยุสมัครเล่นจังหวัดชัยนาท นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สมุทรปราการ สระบุรี สิงห์บุรี และอ่างทอง ( ๒ ) สภาวิทยุเขต ๒ ประกอบด้วย สภาวิทยุสมัครเล่นจังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง และสระแก้ว ( ๓ ) สภาวิทยุเขต ๓ ประกอบด้วย สภาวิทยุสมัครเล่นจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ( ๔ ) สภาวิทยุเขต ๔ ประกอบด้วย สภาวิทยุสมัครเล่นจังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี ( ๕ ) สภาวิทยุเขต ๕ ประกอบด้วย สภาวิทยุสมัครเล่นจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน และอุตรดิตถ์ ( ๖ ) สภาวิทยุเขต ๖ ประกอบด้วย สภาวิทยุสมัครเล่นจังหวัดกำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และอุทัยธานี ( ๗ ) สภาวิทยุเขต ๗ ประกอบด้วย สภาวิทยุสมัครเล่นจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และสุพรรณบุรี ( ๘ ) สภาวิทยุเขต ๘ ประกอบด้วย สภาวิทยุสมัครเล่นจังหวัดกระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต ระนอง และสุราษฏร์ธานี ( ๙ ) สภาวิทยุเขต ๙ ประกอบด้วย สภาวิทยุสมัครเล่นจังหวัดตรัง นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา และสตูล ( ๑๐ ) สภาวิทยุเขตกรุงเทพมหานคร หมวดที่ ๔ คณะกรรมการสภาวิทยุ ข้อ ๑๐. คณะกรรมการสภาวิทยุประกอบด้วย (๑) ตัวแทนสภาวิทยุเขตมาจากการคำนวณจากนักวิทยุสมัครเล่นที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตนั้นจำนวน ห้าพันคนให้มีกรรมการได้หนึ่งคนและเศษของห้าพันคนถ้าเกินกว่าสองพันห้าร้อยคนให้เพิ่มตัวแทนได้ อีกหนึ่งคน โดยนับจำนวนจากการออกใบอนุญาตของพนักงานวิทยุสมัครเล่นขั้นต้นในวันสุดท้ายของปี ก่อนการเลือกตั้ง ( ๒ ) บุคคลภายนอกจำนวนไม่เกินห้าคน ตามมติของคณะกรรมการใน ข้อ ๑๐. ( ๑ ) ข้อ ๑๑. ตำแหน่งในคณะกรรมการสภาวิทยุคัดเลือกจากกรรมการตามข้อ ๑๐ (๑) ดำรงตำแหน่งประธานสภาวิทยุหนึ่งคน รองประธานสภาวิทยุสี่คน เลขาธิการสภาวิทยุหนึ่งคน และ ตำแหน่งอื่นตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร ให้เลขาธิการสภาวิทยุเป็นเลขานุการสภาวิทยุ ข้อ ๑๒. กรรมการสภาวิทยุต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ ( ๑ ) เป็นสมาชิกสามัญขององค์กรสมาชิก ( ๒) มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย ข้อ ๑๓. คณะกรรมการสภาวิทยุ มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสามปี นับแต่วันเปิดสมัยประชุมสภาวิทยุ ข้อ ๑๔. กรรมการสภาวิทยุสมัครเล่นประเทศไทยจะพ้นจากตำแหน่งเมื่อ ( ๑ ) พ้นตำแหน่งตามวาระ ( ๒ ) เสียชีวิต ( ๓ ) ลาออก ( ๔) เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ ( ๕) เป็นบุคคลล้มละลาย ( ๖ ) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ( ๗) ขาดการประชุมสภาวิทยุติดต่อกันสามครั้งโดยไม่แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร ( ๘) ขาดคุณสมบัติ ( ๙ ) คณะกรรมการไม่น้อยกว่าสามในสี่ของกรรมการทั้งหมดมีมติให้ถอดถอนจากตำแหน่ง ( ๑๐) สมาชิกสภาวิทยุอย่างน้อยหนึ่งพันคนเข้าชื่อเสนอให้ถอดถอนและได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการอย่างน้อยสามในสี่ของกรรมการทั้งหมด ข้อ ๑๕. ในกรณีที่กรรมการพ้นจากตำแหน่งตาม ข้อ ๑๔. ให้ดำเนินการคัดเลือกหรือเลือกตั้งใหม่แล้วแต่กรณีของการได้มาซึ่งกรรมการในตำแหน่งที่ว่างลงภายในสามสิบวันนับแต่วันพ้นจากตำแหน่งและดำรง ตำแหน่งจนครบวาระของผู้ที่ตนแทน หมวดที่ ๕ อำนาจและหน้าที่ ข้อ ๑๖. ให้สภาวิทยุมีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการเลือกตั้ง คณะทำงาน คณะอนุกรรมการ หรือ มอบหมายให้พนักงานวิทยุสมัครเล่นปฏิบัติหน้าที่ หรือ หน้าที่อันเกี่ยวเนื่องกับกิจการวิทยุสมัครเล่นและหรือปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการมอบหมายให้ลุล่วงไป ข้อ ๑๗. ให้คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้ ( ๑ ) นำนโยบายและแผนแม่บทกิจการวิทยุสมัครเล่นซึ่งกำหนดโดยองค์กรของรัฐที่ว่าด้วยกิจการวิทยุสมัครเล่นมากำกับดูแลให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่กิจการวิทยุสมัครเล่น ( ๒) เสนอแนะวิธีการกำกับ ดูแลการดำเนินการกิจการวิทยุสมัครเล่น การสอบเพื่อรับประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่น แก่องค์กรของรัฐที่เกี่ยวกับกิจการวิทยุสมัครเล่น ( ๓) ติดตาม ตรวจสอบและให้คำปรึกษา แนะนำเกี่ยวกับการดำเนินการกิจการวิทยุสมัครเล่นขององค์กรเครือข่าย ( ๔ ) เสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบที่เหมาะสมให้กับองค์กรของรัฐที่เกี่ยวกับกิจการวิทยุสมัครเล่น ( ๕) ส่งเสริม สนับสนุนการวิจัยและพัฒนากิจการวิทยุสมัครเล่นอย่างต่อเนื่อง ( ๖ ) กำกับ ดูแล ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรด้านกิจการวิทยุสมัครเล่น ( ๗ ) ออกระเบียบเกี่ยวกับการจัดตั้ง องค์กรเครือข่าย องค์กรสมาชิก และการดำเนินงานอื่นๆ ของสภาวิทยุ ( ๘ ) พิจารณาเงินงบประมาณรายรับ รายจ่าย ของสภาวิทยุ ( ๙ ) จัดทำรายงานผลการดำเนินงานเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เผยแพร่ต่อนักวิทยุสมัครเล่นอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ( ๑๐) ให้คำแนะนำแก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเกี่ยวกับกิจการวิทยุสมัครเล่น ( ๑๑) ปฏิบัติการอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์ขององค์กรของรัฐที่เกี่ยวกับกิจการวิทยุสมัครเล่น หมวดที่ ๖ การประชุมคณะกรรมการ ข้อ ๑๘. ให้คณะกรรมการสภาวิทยุจัดประชุมอย่างน้อยหนึ่งครั้งในทุก ๆ สี่เดือน ( ๑ ) ที่ประชุมคณะกรรมการจะครบองค์ประชุมได้ต้องมีกรรมการเข้าประชุมอย่างน้อย กึ่งหนึ่ง ( ๒ ) การประชุมคณะกรรมการเมื่อถึงเวลาแล้วผู้ที่มิได้เข้าประชุมถือว่าขาดการประชุม ( ๓ ) การเรียกประชุมครั้งที่สองจากการไม่ครบองค์ประชุม ถ้ามีกรรมการเข้าร่วมประชุมตั้งแต่หนึ่งในสามถือว่าครบองค์ประชุม ( ๔) ให้ประธานสภาวิทยุ เป็นประธานในที่ประชุมสภาวิทยุ ในกรณีที่ประธานไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้เลือกรองประธานตามลำดับ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ในกรณีที่รองประธาน ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ให้เลือกประธานที่ประชุมโดยมติของคณะกรรมการที่เข้าประชุม หมวดที่ ๗ การเงิน ข้อ ๑๙. สภาวิทยุ อาจมีรายได้ ดังต่อไปนี้ ( ๑ ) ค่าสมาชิก ค่าบำรุง ค่าอบรม และค่าธรรมเนียม ( ๒) เงินอุดหนุน ( ๓) รายได้จากทรัพย์สินหรือกิจการอื่น ( ๔) ทรัพย์สินที่มีผู้บริจาค ข้อ ๒๐. การเงินของสภาวิทยุ อยู่ในความรับผิดชอบร่วมกันของคณะกรรมการโดยให้เปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันและหรือบัญชีออมทรัพย์ ไว้กับธนาคารพาณิชย์ของรัฐบาลในนาม "สภาวิทยุสมัครเล่นประเทศไทย" การจ่ายเงินของสภาวิทยุไม่ว่าจากบัญชีใดๆ ต้องประทับตราของสภาวิทยุ โดยมีประธานสภาวิทยุ รองประธาน หรือ เลขาธิการ ลงลายมือชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่าสองคน และมีเหรัญญิกหนึ่งคน โดยกำหนดการเบิกจ่ายได้ครั้งละไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาท (สามหมื่นบาทถ้วน) หากมากกว่านี้ ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการก่อน การเงินและการบัญชี ให้ดำเนินการตามหลักการบัญชีโดยเคร่งครัดและให้มีการตรวจสอบบัญชีของสภาวิทยุโดยบุคคลที่ไม่ได้เป็นกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของสภาวิทยุ และได้รับการรับรองจากคณะกรรมการ หมวดที่ ๘ การแก้ไขข้อบังคับ ข้อ ๒๑. ข้อบังคับจะแก้ไขเพิ่มเติมได้โดยมติของที่ประชุมคณะกรรมการ ซึ่งมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการ บทเฉพาะกาล ข้อ ๒๒. ให้คณะกรรมการชุดปัจจุบัน (๑) ดำเนินการจัดตั้งสภาวิทยุเขต สภาวิทยุจังหวัด เพื่อเปิดทำการจดทะเบียนและรับสมัคร สมาชิก ตลอดจนการทำทะเบียนสมาชิก (๒) จัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการสภาจังหวัด แต่งตั้งสภาวิทยุเขต ให้แล้วเสร็จภายใน ๑๘๐ วัน ถัดจาก วันที่ระเบียบนี้ประกาศใช้ ข้อ ๒๓. การดำเนินการเลือกตั้งตาม ข้อ ๒๒. ให้ดำเนินการโดยจัดตั้งคณะกรรมการเลือกตั้งและให้หมดวาระลงเมื่อเสร็จสิ้น ประกาศ ณ วันที่ พ.ศ. ๒๕๔๓ (นาย สมิทธ ธรรมสโรช) ประธานสภาวิทยุสมัครเล่นประเทศไทย ตัวแทนสภาวิทยุเขตจำนวน ๓๑ คน ดังนี้ ( ๑ ) ตัวแทนคณะกรรมการสภาวิทยุเขต ๑ จำนวน ๔ คน ( ๒) ตัวแทนคณะกรรมการสภาวิทยุเขต ๒ จำนวน ๓ คน ( ๓) ตัวแทนคณะกรรมการสภาวิทยุเขต ๓ จำนวน ๒ คน ( ๔) ตัวแทนคณะกรรมการสภาวิทยุเขต ๔ จำนวน ๒ คน ( ๕) ตัวแทนคณะกรรมการสภาวิทยุเขต ๕ จำนวน ๓ คน ( ๖) ตัวแทนคณะกรรมการสภาวิทยุเขต ๖ จำนวน ๒ คน ( ๗) ตัวแทนคณะกรรมการสภาวิทยุเขต ๗ จำนวน ๓ คน ( ๘) ตัวแทนคณะกรรมการสภาวิทยุเขต ๘ จำนวน ๒ คน ( ๙) ตัวแทนคณะกรรมการสภาวิทยุเขต ๙ จำนวน ๒ คน ( ๑๐) ตัวแทนคณะกรรมการสภาวิทยุเขตกรุงเทพฯ จำนวน ๘ คน |