มุญจิตุกัมมยตาญาณ

ญาณที่ ๖

ญาณนี้ให้พิจารณาเพื่อใคร่ให้พ้นจากสังขาร

ทั้งนี้เพราะอาศัยที่เห็นแล้วจากญาณต้น ๆ ว่า เกิดแล้วดับก็มีความดับเป็นปกติ เป็นเรือนร่างที่เต็มไปด้วยความทุกข์เพราะโรคภัยไข้เจ็บ จนเกิดความเบื่อหน่าย เพราะหาความเที่ยงความแน่นอนไม่ได้  ท่านให้พยายามหาทางพ้นต่อไป ด้วยการพยายามหาเหตุที่สังขารจะพึงเกิดขึ้น เพราะถ้าไม่มีสังขารแล้ว ความทุกข์ความเบื่อหน่ายทั้งหลายเหล่านี้จะมีไม่ได้เลย การที่หาทางเบื่อหน่ายท่านให้แสวงหาเหตุของการเกิดดังต่อไปนี้

    ๑. ชรา ความแก่ มรณะ ความตาย เป็นต้น มีขึ้นได้เพราะชาติ คือความเกิด
    ๒. ชาติ ความเกิด มีได้เพราะภพ คือความเป็นอยู่
    ๓. ภพ คือภาวะความเป็นอยู่ มีขึ้นได้ เพราะอาศัยอุปาทาน ความยึดมั่น
    ๔. อุปาทาน ความยึดมั่น มีได้เพราะอาศัยตัณหา คือความทะยานอยาก คือ อยากมี อยากเป็น อยากปฏิเสธ
    ๕. ตัณหามีได้ เพราะอาศัยเวทนา คืออารมณ์ที่รู้สึกสุข ทุกข์ และเฉย ๆ
    ๖. เวทนา มีขึ้นได้ เพราะอาศัย ผัสสะ คือการกระทบกระทั่ง
    ๗. ผัสสะ มีขึ้นได้ เพราะอาศัยอายตนะ ๖ คือ ตาเห็นรูป หูฟังเสียง จมูกสูดกลิ่น ลิ้นลิ้มรส กายถูกต้องสัมผัส และอารมณ์ที่เป็นอารมณ์ชอบใจและไม่ชอบใจที่เรียกว่า ธัมมารมณ์ คืออารมณ์ที่เกิดแก่ใจ
    ๘. อายตนะ ๖ มีขึ้นได้เพราะอาศัย นาม และรูป คือขันธ์ ๕ สิ่งที่เห็นได้ด้วยตา คือร่างกายเรียกว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นนาม ท่านรวมเรียกทั้งรูป ทั้งนามว่า นามรูป

    ๙. นามรูป มีขึ้นได้เพราะอาศัยวิญญาณปฏิสนธิ คือเข้ามาเกิด วิญญาณในที่นี้ท่านหมายเอาจิต ไม่ได้หมายเอาวิญญาณในขันธ์ ๕
    ๑๐. วิญญาณ มีขึ้นได้ เพราะมีสังขาร
    ๑๑. สังขาร มีได้เพราะอาศัยอวิชชา คือความโง่เขลาหลงงมงาย มีความรักความพอใจในโลกวิสัยเป็นเหตุ
    ๑๒. อวิชชา ความทุกข์ทรมานที่ปรากฏขึ้น จนต้องหาทางพ้นนี้ อาศัยอวิชชา ความโง่เป็นสมุฏฐาน ฉะนั้น การที่จะหลีกเร้นจากสังขารได้ ก็ต้องตัดอวิชชาความโง่ออก ด้วยการพิจารณาสังขารให้เห็นเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ได้แน่นอน จึงจะพ้นสังขารนี้ได้

 

http://www/oocities.com/samadhinet