Date:
Fri Jul 2, 2004 4:58 pm
Subject: รายงานกิจกรรม และความเคลื่อนไหว จากเยอรมันค่า
สวัสดี
สวีดัด จากเยอรมนีค่ะ....
ฮะแฮ่ม
เห็นพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่อยู่ในประเทศบ้านเกิดเมืองนอน
มีกิจกรรมดี ๆ มานำเสนอให้พวกเราที่อยู่ที่นี่กันไม่ได้หยุด
ก็เลยเกิดความอิจฉาตาร้อนขึ้นมาตะหงิด ๆ อ่านแล้วก็ให้เกิดอาการอยากหาตั๋วเครื่องบิน
(แต่ต้องราคาถูก ๆ ด้วยนะคะ) บินกลับไปร่วมกิจกรรมที่เมืองไทยบ้างจัง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็จนด้วยปัญญา และเงินตราจริง ๆ ค่ะ
เพราะตอนนี้กระเป๋าของข้าน้อยฉีกแล้วฉีกอีก ชนิดที่ต้องซดมาม่า
อาหารยอดคุณไปอีกหลายอาทิตย์ ..................
แต่อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยค่ะ พี่ ๆ เพื่อนอยากรู้ไหมคะว่า
กระเป๋าฉีกเพราะไปทำอะไรมา ถึงไม่อยากรู้
ก็จะเล่าให้ฟังค่ะ ....... : )
โดยจะขออนุญาตใช้วิธีการ แบบการเล่าเรื่อง เชิงรายงานแจ้งข่าว
ปนสำนวนขี้โอ่หน่อย ๆ ว่า ไอ้ที่กระเป๋าฉีก
ก็เพราะ เดินทางไปร่วมกิจกรรมนักเรียนไทยในต่างประเทศมาแหละค่ะ
๕๕๕๕๕๕๕๕๕ ไม่อยากจะบอกเลยว่า
กิจกรรมนักเรียนไทยที่นี่ก็ไม่ยอมน้อยหน้าพี่ ๆ เพื่อน ๆ
ในเมืองไทยเหมือนกันนะคะ......เอ้อ
เริ่มแรกเลยที่ต้องอวดก็คือ เมื่อประมาณกลางเดือนก่อน
ไปร่วมงานประชุมวิชาการที่ประเทศฝรั่งเศสมาค่ะ แหมงานนี้เด็ดจริง
ๆ เพราะมีหลากรส หลากอารมณ์ เป็นงานประชุมวิชาการนักเรียนไทยในฝรั่งเศสครั้งที่สอง
โดยฝีมือการนำของ น้องโอ นายก ฯ สนทฝ. คนปัจจุบันค่ะ
เขาจัดงานดี ๆ อย่างนี้กันที่เมืองทางใต้ของฝรั่งเศส เรียกกันไพเราะ
ๆ ว่า มองปริเย่ พวกเราที่อยู่ทางฝั่งเยอรมัน
ก็อดไม่ได้ ต้องกระโดดขึ้นสองแถวอากาศ (ไรอันแอร์ แบบว่าถูกน่ะนะ ก็เลยต้องขึ้นไปแย่งที่นั่งกันเอาเองบนเครื่องค่ะ
;) ) บินไปร่วมกันถึง ๕ ชีวิต งานนี้พวกเรากลับมาแบบอิ่มทั้งวิชาการ
และอิ่มทั้งท้องค่ะ งานวันแรกเปิดฉากด้วยเรื่องความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยม้ง
(อืม ที่นู่นเขาเรียก เมือง คน
และมหาลัยว่า เมืองม้ง คนม้ง มหาลัยม้ง กันค่ะ
แบบว่า ฟังแล้วคิดถึง เผ่ารั้ว กะเหรี่ยง
ปากากะญอ และอื่น ๆ อีกมากมายที่บ้านเราขึ้นมาจัง)
ก็มีผู้ทรงคุณวุฒธิ จากมหาลัย และสถาบันวิจัยชื่อดังของม้ง
มาร่วมกันแบบชนิดที่ว่า ผู้เข้าฟังต้องอาย เพราะจำนวนวิทยากรดู
ๆ ไปแล้ว จะมากกว่าคนฟังค่ะ แหะ ๆ
ปิดฉากความร่วมมือ ด้วยอาหารสไตล์ฝรั่งเศสแท้ ๆ แบบว่า
กินแล้วกินอีก ไม่รู้จักจบจักสิ้น ทั้งจานก่อน
จานหลัก ของหวาน ชา กาแฟ แถมไวท์ให้อีกโต๊ะละสองขวด เล่นเอาพวกเราที่อยู่เยอรมันแทบจะนอนตายกันบนโต๊ะแถว
ๆ นั้นกันเลยทีเดียว ๕๕๕๕ ต้องขอขอบคุณเจ้าภาพจริง ๆ
ค่ะ สำหรับอาหารมื้อสุดยอดมื้อนั้น คิดแล้วขนลุกไม่หาย....บลื๊อย
งานนี้ เราประชุมกันริมทะเลด้วยนะคะ (ทะเลที่เป็นทะเลด้วยล่ะ
ไม่เหมือนกับทะเลที่เยอรมัน) คืนวันแรก ก็คุยกันเครียด
ๆ แต่ได้รสชาติ ด้วยหัวข้อ ระบบการศึกษาและการวิจัย แตกต่างกันอย่างไร เมื่อไทยมองเทศ
งานนี้มีผู้ให้ความสนใจถกเถียงกันหน้าแดงหน้าดำค่ะ แต่ก็จบกันไปด้วยความสนุก
(อ้อ พูดแล้วก็ไม่อยากคุยอีกค่ะว่า หัวข้อที่ว่านี้
ที่เยอรมันก็เคยจัดแล้วนะคะ ที่เมืองคัสเซิลล่ะ
ประมาณต้น ๆ ปีนี่เอง สนุกไม่แพ้กันด้วยค่ะ
งานที่คัสเซิลคราวนั้น หนาแน่นไปด้วยอาจารย์จากหลาย ๆ สถาบัน มาร่วมถก
ร่วมวิเคราะห์ วิจารณ์ ระบบการศึกษา และการวิจัยบ้านเราอย่างถึงกึ๊น
ถ้าสนใจลองหา ๆ อ่านได้ในรายงานฉบับเก่า
ๆ จ้า)
วันที่สองที่งานประชุมฝรั่งเศส มีการแยกพาแนลย่อย
สองสายค่ะ คือ สายวิทยาศาสตร์ และสังคมศาสตร์ งานนี้มีข้าพเจ้าสายสังคมไปคนเดียว
ก็เลย แอบอ้างตัวเอง เป็นตัวแทนนักเรียนสายสังคมในเยอรมันเสียเลย
(ได้กินตำแหน่งใหญ่ ๆ เสียด้วยนะเอ้อ) เข้าไปฟังเขามาเสนองานเขียน
งานวิจัยกัน หลากหลายมาก ๆ ค่ะ แต่ จนด้วยปัญญาอีกแล้วที่จะเอาเรื่องสายวิทย์มาเล่าว่า
เขาทำอะไร เพราะตัวเอง มานั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่ในห้องสังคมตลอด
โดยจะขอแอบเอาเหตุการณ์ในห้องสังคม ฯ มาเล่าคร่าว
ๆ แล้วกันค่ะว่า เขามีหัวข้ออะไรมาเสนอบ้าง
ของสายสังคม ก็มี พี่ที่เรียนด้านภาษาฝรั่งเศสมาเสนองานค่ะ
เกี่ยวกับการใช้โปรแกรมคอม ฯ สอนภาษาฝรั่งเศส จากนั้นก็มีเรื่องเศรษฐศาสตร์อีกสองเรื่องสองรส
จากหนุ่มน้าใสแห่งเมือง บอกโด และเมืองเอ็กซอง ฯ ต่อด้วยน้องเฟย์กับงานวรรณกรรมและแนวคิดแบบเซน
งานนี้เล่นเอาหลาย ๆ ท่านฟังแล้วก็เคริบเคลิ้ม ฝันหวานอยากแปลงกายเป็นนักประพันธ์ก๊ะเขามั่ง
ตบตูดกันหนัก ๆ ด้วย กฎหมายค่ะ ในชื่อเรื่อง
นักนิติศาสตร์ไทย : เสริมหรือถ่วงการพัฒนาประเทศ
๕๕๕๕ ตอนแรกแค่ฟังชื่อใจก็แป้วแล้วค่ะ
เพราะไม่รู้ว่าขึ้นเวทีแล้วจะรอดหรือเปล่า (แอบขึ้นไปแจมกะเขาด้วยนะเอ้อ)
แต่สุดท้ายก็ได้พูดคุยกันหลายเรื่อง ทั้งการเมือง วิจารณ์รัฐบาล
รวมไปถึงได้ระบายความอัดอั้นของพวกเรานักกฎหมายตาดำ ๆ ให้คนต่างสาขาฟังด้วยนะคะ
; )
ในตอนท้ายของการสัมมนา ก็เลยแอบโฆษณาประชาสัมพันธ์
งานประชุมนักกฎหมายไทยในยุโรป
ที่น่าจะจัดได้ในเดือนตุลา (เดี๋ยวค่อยเอามาว่าให้ฟังกันอีกรอบ)
แถว ๆ เมืองมิวนิคนี่แหละค่ะ ให้กับเพื่อน ๆ ทางฝั่งฝรั่งเศสกันเสียเลย
สำหรับงานทางสายวิทย์ถ้าเพื่อน ๆ พี่ ๆ อยากทราบต้องรบกวนให้ไปถามคนสายวิทย์กันจ้า
แต่ที่แน่ ๆ มีหลายเรื่องที่เด็ด และเป็นหัวข้อที่แสนจะเข้ากับเมืองไทย
ยกตัวอย่างเช่นเรื่อง เทคโนโลยีพลังงานทดแทนสำหรับบ้านพักอาศัยในประเทศไทย
หรือ ผลของทิศทางและการวางตำแหน่งของตัวบ้านที่มีต่อภาระการทำความเย็น
(กรณีศึกษาบ้านพักอาศัยในประเทศไทย)
เป็นไงคะ เห็นชื่อหัวข้อแล้วก็น้ำลายไหลอยากฟังมาก
ๆ พี่ ๆ เพื่อน ๆ อาจสงสัยว่า ทำไมอยู่ฝรั่งเศสเมืองหนาว
แต่กลับทำเรื่องนี้ได้ ๕๕๕๕ ก็ไม่อยากจะเซดเลยค่ะว่า
ที่ฝรั่งเศสตอนใต้ ทั้ง มองปริเย่
ปัดปิงยง (เมืองของพี่ที่เขาทำวิจัยเรื่องนี้)
เอ็กซองโพว๊องซ์ และอื่น ๆ ร้อนกว่าประเทศไทยเรามากกกกกกกกกกกก
ชนิดที่ว่า พี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่ไปเรียนที่นั่น เวลาหน้าร้อนต้องแอบบินนี้กลับไปพักร้อนที่เมืองไทยกันเลยทีเดียวนะ
ตอนแรกก็แปลกใจค่ะ แต่พอไปอยู่ประมาณ ๕ วัน ก็เห็นความจริงว่า
อืม ร้อนกว่าบ้านเราจริง ๆ ล่วย
เป็นอันว่า กิจกรรมนี้ จบลงด้วยดี ได้ทั้งความรู้ และความอิ่มอร่อย
แถมวันสุดท้ายเจ้าภาพยังพาไปดูโรงงานผลิตไวน์ และชิมไวน์กันจนหน้าแดงไปหลายคน
งานนี้สนุกจริง ๆ ค่ะ
งานที่ ๒ ที่อยากเล่า จัดขึ้นในฝั่งเยอรมันนี่เองค่ะ
เป็นการประชุมพบปะสังสรรค์นักเรียนสามเมืองใหญ่
คือ ไฮเดิลแบก คาร์สรู
และมานฮาม ก็ได้ข่าวมาว่า พบปะกันประสาพี่ ๆ น้อง ๆ เลือกกรรมการเมืองสัมพันธ์ด้วย
กิน ๆ ดื่ม ๆ กันไปด้วย แถมมีการเขียนจดหมายถึงน้อง
ๆ ที่เมืองไทย เกี่ยวกับโครงการทุนการศึกษาที่เมืองไทยด้วย
ก็จบลงด้วยความสนุกสนาน ความสมานฉันท์ แถมยังได้ขีด
ๆ เขียน ๆ ช่วยน้อง ๆ เด็กไทยที่ประเทศไทยด้วยจ้า
งานที่ ๓ อันนี้ไม่อยากบอกว่า จริง
ๆ ก็ไม่ค่อยจะใช่งานเราสักเท่าไหร่ แต่สไตล์นักเรียนไทยในเยอรมัน
ก็เลยแอบไปแจมกันหลายเมือง ก็การต้อนรับนักเรียนไทยในโครงการ
B&B หรือ
โครงการนักเรียนสุดยอดมาทัศนะศึกษาในยุโรปไงคะ เขามาที่เยอรมันด้วยล่ะ
หลาย ๆ เมือง เลยได้ต้อนรับกันไปพอประมาณ พี่หัวเรือใหญ่ในการประสานงานกับเด็กไทยที่นี่ก็คงไม่พ้น
พี่ยู ของเรานี่เอง ส่วนหัวเรือใหญ่ของนักเรียนไทยที่เยอรมันที่คอยประสานงานก็มีหลายท่านค่ะ
ทั้งพี่ชลัท (มึนเช่น) พี่จ๋า (ซาบรึกเค่น) พี่ปิ่น
พี่เม้ง และอีกหลาย ๆ ท่าน
(ขออำภัยไม่ได้เอ่ยนาม) ซึ่งพี่ ๆ เขาก็เลยหนีบพวกเรา
น้อง ๆ ไปช่วยกันด้วย ไอ้พวกเรามันก็นะคะ ได้ยินว่าจะมีนักเรียนไทยมาเยือนตั้งเกือบสามสิบคน
ก็ตื่นเต้นตาโต อยากเจอ อยากคุย
งานนี้ก็จบกันไปด้วยความประทับใจ ปน ๆ
กับความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้ว
ก็ออกมาดีค่ะ เพราะพวกเราหลายคนที่นี่
ทั้งพี่ชลัท น้องทอย น้องเจ
บรรยายประวัติศาสตร์ของเมืองที่ตนเองเรียนได้อย่างละเอียด
ทำให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ นักเรียนไทยที่มา ถึงกับถามเป็นเสียงเดียวกันว่า
ทำไมพี่ ๆ เขารู้เรื่องประวัติศาสตร์ดีจัง
???? แหะ
ๆ ก็พวกนี้เขาแอบศึกษาไว้เป็นไกด์พาสาว ๆ เอ้ย พาเพื่อน ๆ เที่ยวเมืองกันน่ะค่า
ก็เลยรู้มากจริง ๆ ค่ะ และในฐานะที่อยู่เมืองมิวนิค
และได้มีโอกาสไปโผล่หน้าโผล่ตา บวกกับพูดคุยอีกไม่กี่คำ แต่ได้มาม่ามาเป็นลัง
ๆ (อิ อิ) ก็อยากขอบคุณพี่
ๆ ค่ะที่เอากิจกรรมดี ๆ มาบอก โดยเฉพาะที่มึนเช่น
ก็ต้องพี่ชลัท ที่เป็นพ่องาน ติดต่อประสานงานกับทางเมืองไทยและพี่ยูมาโดยตลอด
แล้วก็มาได้น้องทอย เป็นมือขวา คอยช่วยติดต่อสถานที่อีกหลาย
ๆ แห่งจนคณะ ฯ เดินทางกลับบ้านไปด้วยดี...เฮ
และงานสุดท้ายที่จะคุย ซึ่งเป็นงานซ้อน
ๆ กับงานที่สามค่ะ คือ งานเตะฟุตบอลชิงถ้วย ที่เมืองคัสเซิล
โห งานนี้ได้อะไรแยะเลยค่ะ ได้เพื่อนใหม่หลายคน
แถมนักเรียนที่นี่ก็ได้ออกกำลังกายกันอีกด้วย
ไม่เฉพาะนักฟุตบอลประจำเมืองที่ส่งมาแข่งนะคะ
พวกกองเชียร์ที่กระโดดโลดเต้น ลุ้นกันตัวโก่ง ก็กลับบ้านไปนอนคอแหบอีกหลายวัน
งานนี้เยี่ยมจริง ๆ ค่ะ มีนักฟุตบอลจากเมืองต่าง
ๆ ตั้ง หกทีม ทั้งจาก คัลเซิลเจ้าภาพ
อาเค่น ฮันโนเฟอร์ สองทีม
และมึนเช่นอีกสองทีม เตะกันทั้งวัน
ตลอดไม่ได้หยุดเลย จนคนในงานแอบกระซิบกันมาว่า
นักบอลที่มานี่ เตะบอลกันถึกมากกกก ตั้งแต่เช้ายันเย็น
โชคดีค่ะที่เขาเล่นกันแค่ครึ่งละ ยี่สิบนาทีเท่านั้น
แล้วก็แบ่งกันสองสาย ไม่งั้นนักฟุตบอลหลายคน
คงต้องคลานกลับบ้าน หรือไปนอนเจ็บไข่ดันแน่ ๆ
(ขออำภัยหากไม่สุภาพ ) ผลสรุปค่ะ
ทีมที่คว้าถ้วย ก็คือ ทีมน้อง ๆ ทหารจากมึนเช่นนั่นเอง
; ) ได้ข่าวมาด้วยว่า
หัวหน้าทีมนี้เขาบอกว่า ถ้าปีหน้าอยากได้ถ้วยคืนก็ให้ทีมอื่น
ๆ ไปตามเอาเองที่มึนเช่นจ้า เลยผูกมัดตัวเขาเองไปโดยปริยาย
ว่า งานฟุตบอลปีหน้ามึนเช่น ขอจองเป็นเจ้าภาพ.....
(นี่เมื่อวานซืนที่สโมสรนายทหารที่มึนเช่น เขาก็มีงานกริล
เลี้ยงฉลองถ้วยกันด้วยนะคะ น้อง ๆ ที่เมืองมาร่วมกันเพียบ
ทั้งดื่ม ทั้งกิน แถมตบท้ายด้วยการร่วมกันเชียร์บอล คู่ฮอลแลนด์
กับโปรตุเกส ด้วยค่ะ)
ค่ะเป็นไงบ้างคะ พี่ ๆ เพื่อน ๆ ขอโทษค่ะพี่เขียนโม้มาเสียยืดยาววววววววว
กลัวจะเบื่ออ่านกันซะก่อน นี่เป็นแค่งานส่วนหนึ่งที่จัด
และสำเร็จไปแล้วค่ะ ยังมีกิจกรรม
และโครงการอื่น ๆ ที่เพื่อนผองน้องพี่ที่นี่
ที่แม้จะอยู่ใกล แต่หัวใจร้อนแรงไม่แพ้คนที่เมืองไทย
ช่วยกันคิด ช่วยกันจัด ๆ ขึ้นมา เอาเป็นว่า
เดี๋ยวทางฝั่งเรามีอะไรหนุก ๆ จะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ
....อำลา ; )
ด้วยมิตรภาพ
ป้าน
(มึนเช่น)
|