เด็กไทยไม่เป็นรองใคร
ใน โอลิมปิกวิชาการ
ตั้งแต่ประเทศไทยส่งทีมผู้แทนฯ เข้าแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระหว่างประเทศ ตั้งแต่ปี
2532-2545 ได้รับรางวัลแล้วทั้งสิ้น 198 รางวัล เป็นเหรียญทอง 17 เหรียญ เหรียญเงิน
53 เหรียญ เหรียญทองแดง 93 เหรียญ และเกียรติคุณประกาศ 35 รางวัล มีเพียงวิชาคณิตศาสตร์เพียงวิชาเดียวเท่านั้น
ที่ทีมไทยยังไม่เคยมีโอกาสได้รับเหรียญทอง ข่าวนักเรียนไทยคว้า 3 เหรียญทองเคมีโอลิมปิก
3 เหรียญทองชีววิทยาโอลิมปิก กับอีกเหรียญเงินสาขาละ 1 เหรียญ สร้างความชื่นมื่น
ชื่นใจให้กับคนไทยทุกๆ คน เพราะอย่างน้อยก็ถือว่า ในเวทีโลกเด็กไทยไม่เคยเป็นรองใคร
โดยเฉพาะในวิชาชีววิทยา ผลงานของทีมไทยอยู่ในอันดับ 1 เคียงคู่ยักษ์ใหญ่ ประเทศจีน
ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแชมป์กวาดเหรียญทองโอลิมปิกวิชาการแทบทุกประเภท พร้อมด้วยประเทศ
รัสเซีย ที่ทำผลงานได้เท่าเทียมกัน ทุกๆ ปี ในช่วงเดือนกรกฎาคม คนไทยมักจะได้รับข่าวดีเช่นนี้อย่างสม่ำเสมอ
เพราะการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการจะจัดขึ้นในช่วงเดือนดังกล่าว สำหรับกำเนิดของการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ
เกิดขึ้นจากกลุ่มนักวิชาการกลุ่มหนึ่งมีความคิดและความเชื่อว่า ในทุกประเทศย่อมมีเยาวชนผู้มีอัจฉริยะทางปัญญาอยู่เป็นจำนวนมาก
และเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ หากจัดให้เยาวชนเหล่านั้นมาแข่งขันกันในด้านวิชาการ
เช่นเดียวกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ก็น่าจะเป็นการพัฒนาความสามารถพิเศษทางปัญญาของเยาวชน
ให้มีความสามารถยิ่งๆ ขึ้นไป อันจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว จากแนวคิดดังกล่าว
ในปี พ.ศ. 2502 ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมโรมาเนีย จึงได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกขึ้นเป็นครั้งแรก
จากจุดเริ่มต้นนี้เองทำให้นานาประเทศเห็นคุณค่าและประโยชน์ของการจัดการแข่งขันนี้
จึงได้จัดส่งเยาวชนของตนเข้าร่วมการแข่งขันเพิ่มมากขึ้นทุกปี และได้มีการแข่งขันวิชาการต่างๆ
เพิ่มขึ้น คือ ฟิสิกส์ เริ่มในปี พ.ศ. 2510 เคมี เริ่มในปี พ.ศ. 2512 คอมพิวเตอร์เริ่มในปี
พ.ศ. 2532 และชีววิทยาเริ่มในปี พ.ศ. 2533 และดาราศาสตร์ เริ่มในปี พ.ศ.2540 ตามลำดับ
ประเทศไทยส่งผู้แทนเข้าร่วมแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศเป็นครั้งแรก
ในปี พ.ศ. 2532 เป็นต้นมา โดยมี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ทรงให้การสนับสนุนโครงการมาโดยตลอด ได้ประทานเงินส่วนพระองค์สนับสนุนโครงการ เสด็จประทานเกียรติบัตร
แก่นักเรียนที่ผ่านการอบรมเข้ม ครั้งที่ 2 และนักเรียนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันระหว่างประเทศ
และทรงประทานพระอนุญาตให้จัดตั้งมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการ และพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาในพระอุปถัมภ์
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา เพื่อโครงการโอลิมปิกวิชาการและชมรมโอลิมปิกวิชาการ
ประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันเป็นครั้งแรก ในปี 2532 โดยส่งผู้แทนประเทศไทย จำนวน 6
คน ไปร่วมแข่งขันคณิตศาสตร์ โอลิมปิก ครั้งที่ 30 ณ ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน
จากนั้น พ.ศ. 2533 เข้าร่วมแข่งขันคณิตศาสตร์ โอลิมปิก ครั้งที่ 31 เคมีโอลิมปิก
ครั้งที่ 22 และฟิสิกส์ โอลิมปิก ครั้งที่ 21 ในปี พ.ศ. 2534 เข้าร่วมแข่งขันครบ
5 วิชา คือ คณิตศาสตร์โอลิมปิก ครั้งที่ 32 เคมีโอลิมปิก ครั้งที่ 23 ฟิสิกส์ โอลิมปิก
ครั้งที่ 22 คอมพิวเตอร์ โอลิมปิก ครั้งที่ 3 และชีววิทยา โอลิมปิก ครั้งที่ 2
ปัจจุบัน ประเทศไทยส่งผู้แทนเข้าร่วมแข่งขันครบทั้ง 5 วิชา ต่อเนื่องกันมาทุกปี
คือ คณิตศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ คอมพิวเตอร์ และชีววิทยา และในอนาคตประเทศไทยมีโครงการจะส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิกด้วย
ส่วนการคัดเลือกผู้แทนประเทศไทย เพื่อเข้าแข่งขันคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โอลิมปิกระหว่างประเทศนั้น
จะเริ่มจากการแข่งขันคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ โอลิมปิกแห่งประเทศไทย มีการสอบคัดเลือกนักเรียน
2 รอบ โดยเปิดรับสมัครนักเรียน ที่กำลังศึกษาในระดับมัธยมศึกษา จากทั่วประเทศ และสอบคัดเลือกไว้วิชาละ
20 - 25 คน จากนั้นจะฝึกอบรมเข้ม 3 ครั้ง โดยจัดฝึกอบรมเข้มแก่นักเรียนที่คัดเลือกไว้ในขั้นตอนแรกเพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์
และจะคัดเลือกนักเรียนเหลือ 10-15 คน ก่อนที่จะคัดเอาเพียง 4-6 คน เพื่อเป็นผู้แทนเยาวชนไทยไปแข่งขันระหว่างประเทศต่อไป
ซึ่งงบประมาณที่ใช้ในการส่งเด็กเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ นับตั้งแต่การคัดเลือกตัว
จนสิ้นสุดการแข่งขันจะใช้งบประมาณ 12-15 ล้านบาทต่อปี โดยเด็กทุกคนที่ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัน
จะได้รับทุนการศึกษาที่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) เป็นผู้จัดหาให้ไปศึกษาต่อในต่างประเทศระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก
ใช้งบประมาณเฉลี่ยปีละ 1 ล้านบาทต่อ 1 คน แต่มีเงื่อนไขว่า จบออกมาต้องทำงานในประเทศไทย
เป็นนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์หรือเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ตั้งแต่ประเทศไทยส่งทีมผู้แทนฯ
เข้าแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระหว่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2532-2545 ได้รับรางวัลแล้วทั้งสิ้น
198 รางวัล เป็นเหรียญทอง 17 เหรียญ เหรียญเงิน 53 เหรียญ เหรียญทองแดง 93 เหรียญ
และเกียรติคุณประกาศ 35 รางวัล มีเพียงวิชาคณิตศาสตร์ เพียงวิชาเดียวเท่านั้น ที่ทีมไทยยังไม่เคยมีโอกาสได้รับเหรียญทอง
ในปี 2546 ไทยยังเหลือการแข่งขันฟิสิกส์และคอมพิวเตอร์โอลิมปิกอีกสองรายการที่จะมีการแข่งขันในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม
ขณะที่คณิตศาสตร์แข่งขันเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอเพียงการลุ้นคะแนน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจข้อสอบ
คาดว่าอีกไม่กี่วันก็คงทราบผล ส่วนเคมีและชีววิทยาทราบผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สถิติการคว้ารางวัลของทีมไทยจะเป็นอย่างไร
เชื่อว่าคนไทยทุกคนต่างรอลุ้นและเป็นกำลังใจให้กับ ผู้แทนประเทศไทย ทุกๆ คน และพร้อมจะต้อนรับการกลับสู่มาตุภูมิของผู้แทนไทยทุกคนด้วยความอบอุ่นอย่างเสมอภาคกัน
แม้ไม่ได้เหรียญรางวัลใดๆ ติดมือมาเลยก็ตาม
ที่มา : หนังสือพิมพ์เสรีรายวัน