ร.ร.ค้านขยับเอ็นทรานซ์เป็นเดือน ม.ค.

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ดร.จิรณี ตันติรัตนวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เดินทางไปตรวจเยี่ยมสนามสอบวัดความรู้ประจำเดือน ต.ค. ในการเอ็นทรานซ์ที่โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ซึ่งดร.จิรณีกล่าวว่า วันที่ 8 ต.ค. เป็นการสอบวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และสังคมศึกษา ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่จะพบนักเรียนลืมบัตรประจำตัวผู้สอบ (สกอ.3) เกือบ 10 ราย ส่วนการทุจริตไม่พบแต่อย่างใด ส่วนที่อื่นก็ยังไม่ได้รับรายงาน ด้าน น.ส.อรุณี นาคทัต ผอ.โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดของนางสิริกร มณีรินทร์ รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) ที่เสนอให้เลื่อนการสอบวัดความรู้จากเดือน ต.ค. และ มี.ค. เป็นเดือน ม.ค. และ มี.ค. เพื่อให้เด็กเรียนจบหลักสูตรก่อนว่า หากปรับจะกระทบกับการจัดการและเด็กคนอื่นๆ ที่ไม่ได้สอบ เนื่องจากเดือน ม.ค. ยังอยู่ในช่วงที่มีการเรียนการสอน หากปรับอาจจะจัดสอบได้ในวันเสาร์-อาทิตย์ แต่คงจะยุ่งยาก แต่การสอบในเดือน ต.ค.ก็มีผลกระทบเช่นกัน เพราะเป็นช่วงที่โรงเรียนจัดให้มีการสอบซ่อม ซึ่งก็ต้องเร่งดำเนินการ ทั้งมีผลทำให้เด็กต้องไปกวดวิชา แต่คิดว่าน่าจะกระทบน้อยกว่า ส่วนที่มองว่าโรงเรียนต้องเร่งสอนให้จบหลักสูตรนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะยังจัดตารางสอนให้เด็กจบหลักสูตร 3 ปีตามกำหนด แต่จะติวให้กับเด็กในช่วงเวลาว่างก่อนสอบในวิชาที่จำเป็น อย่างไรก็ตาม หากจะแก้ ปัญหาดังกล่าว คงต้องกำหนดคุณสมบัติผู้สอบให้ ชัดเจนว่าต้องเป็นผู้จบ ม.6 ซึ่งจะทำให้เด็กไม่สามารถสอบเดือน ต.ค.ได้ เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการจัดสอบเดือน ต.ค. ความจริงเป็นการให้เด็กที่สอบในเดือน มี.ค.ได้ไม่ดีได้แก้ตัว แต่ถ้าจะลดการสอบเหลือครั้งเดียว จะดีต่อการจัดการ แต่เด็กคงไม่พอใจ เพราะไม่มีโอกาสแก้ตัว ด้าน น.ส.นวลศิริ พงศ์ถาวรภิญโญ รอง ผอ.ฝ่ายวิชาการ โรงเรียนสายน้ำผึ้ง กล่าวว่า การสอบเดือน ม.ค.ไม่ดีแน่ เพราะเด็กเพิ่งผ่านการสอบกลางภาคในเดือน ธ.ค. ต้องมาสอบวัดความรู้เดือน ม.ค.และต้อง สอบปลายภาคในเดือน ก.พ.อีก แต่การสอบเดือน ต.ค.ก็มีผลทำให้เด็กไปเรียนพิเศษกันเยอะ ทางโรงเรียนก็จัดติวให้ช่วงใกล้สอบ ซึ่งมีเด็กเข้าเรียนถึง 70% ส่วนระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา (แอดมิชชั่น) ขณะนี้มีนักเรียน ม.4 จำนวนมากถามถึงความชัดเจนในเกณฑ์ระบบใหม่ โดย เฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองยิ่งเป็นกังวลและถามกันเยอะมาก.

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ