เครียดเด็กไทยคิดแต่อยากรวย

เครียดเด็กไทยคิดแต่อยากรวย จากการเสวนาเรื่อง"คุณภาพเด็กไทยที่ใจเราต้องการ" เมื่อวันที่ 29 ก.ย. รศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตนเห็นว่าการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความคิด วิธีการ เทคนิค พฤติกรรมและค่านิยม หรือแม้แต่การศึกษามักจะลอกเลียนแบบมาจากต่างประเทศ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้เราจะพัฒนาสังคมได้อย่างไรและคงต้องวิ่งตามต่างประเทศตลอด โดยส่วนตัวตนจึงเห็นว่าเด็กไทยที่เราจะสร้างใหม่ควรจะมีทั้งความคิด วิเคราะห์ วิจารณญาณ คิดในสิ่งใหม่ ๆ มีผลงานและมีความรับผิดชอบทั้งต่อตัวเอง พ่อแม่ สังคม และโลก นายทองแทน เลิศลัทธากรณ์ ประธานกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร.ร.สมุทรสาครบูรณะ กล่าวว่า ป’จจุบันเด็กฉลาดที่จะเรียนรู้ แต่ผู้ใหญ่กลับคิดไม่ทันเด็ก ส่วนครูก็อยู่แค่ในรั้วสี่เหลี่ยม ผู้บริหารก็อยู่แค่ที่ทำงานคิดแต่ว่าจะขึ้นแท่งไหนดี จะมีเงินเดือนขึ้นเท่าไหร่ ส่วนเขตพื้นที่การศึกษาก็คิดแต่ว่าจะมีอำนาจเหนือสถานศึกษาอย่างไร หรือทำหน้าที่เพียงบุรุษไปรษณีย์ที่รับส่งข่าวสารจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทั้งที่เขตพื้นที่ฯ น่าจะเป็นตัวแทน ศธ. ในการพัฒนาการศึกษา ดังนั้นหากเขตพื้นที่ฯ ยังตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไป และสถานศึกษามีความเป็นนิติบุคคลก็จะทำให้เขตพื้นที่ฯ ไร้ค่า ดังนั้นเขตพื้นที่ฯ จะต้องพัฒนาตัวเองให้มีประสิทธิภาพ ส่วนโรงเรียนในฝันเท่าที่สัมผัสทราบว่าบางโรง ที่ได้มาเพราะล็อบบี้ผู้ใหญ่ และสร้างภาพให้เข้าเงื่อนไขที่จะได้รับเลือก ซึ่งเป็น การความล้มเหลวเพราะโกหกกันตั้งแต่คัดเลือกเข้ามาแล้ว นางชาตรีญา พุ่มรัก ผู้ประเมินสถานศึกษาจากภายนอก กล่าวว่า เมื่อถามเด็กหลายคนจะบอกว่าอยากรวย ซึ่งแม้แต่เด็กอนุบาลก็บอกอยากรวย ดังนั้นเราน่าจะมาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรการศึกษาจึงจะลดค่านิยมของเด็กที่คิดแต่จะรวย และสอนให้เด็กรู้ว่าชีวิตที่สมบูรณ์ไม่ใช่มองเพียงตัวเองแต่ต้องช่วยเหลือสังคมรอบข้างด้วย น.ส.กุสุมา บังคม นักเรียนชั้น ม.5 ร.ร.ระยองวิทยาคม กล่าวว่า สิ่งที่เด็กไทยควรจะมีคือประสบการณ์ความรู้ สามารถเอาตัวรอดได้ในสังคม มีความรู้ สามารถมาพัฒนาประเทศ แต่การที่ปฏิรูปการศึกษาให้เด็กเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้จะไม่มีทางสำเร็จ เพราะครูปล่อยให้เด็กเรียนเอง ไม่มีผู้ชี้นำถึงการนำความรู้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งตนอยากให้เพิ่มการสอนภาคปฏิบัติมากขึ้นเพื่อเด็กจะได้เรียนรู้สังคมโลกจริง ไม่ใช่รู้แต่ทฤษฎีเท่านั้น.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์