เส้นใยอาหารหรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ ไฟเบอร์ (Fiber) นั้น นับเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่เรา
รับประทานกันอยู่ทุกวันและพบว่า เส้นใยอาหารเหล่านี้ จะมีอยู่สูงในอาหารจำพวกผักและผลไม้ แต่
อย่างไรก็ตามพบว่า คนทั่วไปได้รับเส้นใยอาหารจากแหล่งอาหารต่างๆ ดังกล่าวไม่เพียงพอกับความ
ต้องการของร่างกาย ในทางเคมีเราพบว่า เส้นใยอาหารจัดเป็นสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตชนิด
หนึ่ง ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่และซับซ้อน และมีลักษณะที่แตกต่างกันอยู่ 2 ชนิดคือ

1. เส้นใยอาหารชนิดที่ละลายในน้ำได้ (Soluble Fiber) คือ เส้นใยอาหารส่วนที่มีคุณสมบัติในการ
ละลายน้ำได้และสามารถดูดซับสารที่ละลายในน้ำไว้กับตัว เช่น น้ำตาลกลูโคส ฯลฯ

2. เส้นใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำ (Insoluble Fiber) คือ เส้นใยอาหารส่วนที่ไม่ละลายน้ำ แต่จะ
เกิดการพองตัวในน้ำลักษณะคล้ายฟองน้ำ ทำให้มีการเพิ่มปริมาตรของกระเพาะอาหารจึงทำให้รู้สึกอิ่ม
และเพิ่มปริมาตรของอุจจาระที่ส่งผลทำให้รู้สึกอยากถ่ายอุจจาระ ลดปัญหาท้องผูกได้
เส้นใยอาหารเหล่านี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะไม่สามารถถูกย่อยเป็นอาหารได้แต่เนื่องจากคุณสมบัติในการพองตัวและความสามารถ ในการดูดซับน้ำและสารอาหารที่ละลายได้ในน้ำหรือแม้คุณสมบัติในการเกาะติดและห่อหุ้มไขมัน จึงทำให้มีการนำเอาเส้นใยอาหารโดยเฉพาะในรูปแบบที่สกัดเฉพาะเส้นใยอาหารอย่างเดียว มาใช้ประโยชน์ในการควบคุมน้ำหนัก  (Weight Control Program) กันอย่างกว้างขวาง

อย่างที่กล่าวข้างต้นว่าเนื่องจากการที่เส้นใยอาหารเป็นสารอาหารที่ไม่สามารถถูกย่อยได้
ด้วยน้ำย่อยในทางเดินอาหาร แต่สามารถพองตัวได้เมื่อมีน้ำจึงมีคุณสมบัติที่ทำให้เรารู้สึกอิ่ม
เมื่อรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมนอกจากนั้นเส้นใยอาหารยังมีคุณสมบัติในการดูดซึม
สารอาหารที่ละลายได้ในน้ำ ได้แก่น้ำตาลกลูโคส (Glucose)ซึ่งเป็นสาเหตุของไขมันใหม่(New fat) และ ภาวะเบาหวาน (Diabetes)จึงทำให้เราได้รับประโยชน์ในการควบคุมปริมาณสารอาหารน้ำตาล (Glucose) จากอาหารที่เรารับประทานได้ทั้งในผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักตัว หรืออ้วน (Obesity) และสารอาหารบางอย่างถึงแม้ว่าไม่ละลายในน้ำ อย่างเช่นสารอาหารจำพวก ไขมัน ก็ยังพบว่าเป็นสารอาหารที่สามารถถูกกำจัด และถูกขัดขวางการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดย เส้นใยอาหารได้เช่นเดียวกันโดยพบว่า เส้นใยอาหารจะห่อหุ้มสารอาหารจำพวกไขมัน  ไว้กับกลุ่มของเส้นใยอาหารทำให้สารอาหารไขมันไม่สามารถแตกตัวเป็น
โมเลกุลเล็กๆ หรือ กรดไขมัน (Fatty Acids) ที่จะสามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของเราได้ และหลังจากที่เส้นใยอาหารดูดซับสารอาหารน้ำตาล และห่อหุ้มเอาสารอาหารจำพวก ไขมันไว้กับตัวแล้ว เส้นใยอาหารก็จะถูกขับออกไปจากร่างกาย โดยทางอุจจาระอย่างง่ายดาย เนื่องจากการที่เส้นใยอาหารมีการพองตัวทำให้ปริมาตรของอุจจาระเพิ่มขึ้นจึงส่งผลทำให้เรารู้สึกอยากถ่ายอุจจาระและขณะที่เส้นใยอาหารเดินทางออกไปกับอุจจาระนั้นก็ยังพบว่า เส้นใยอาหารจะสามารถกวาดเอาสิ่งตกค้าง หรือสารพิษต่างๆ ที่อยู่ในลำไส้ของเราออกไปกับอุจจาระซึ่งมีผลการวิจัยทางการแพทย์มากมายที่พบว่าเส้นใยอาหาร มีคุณสมบัติในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะมะเร็งของลำไส้ใหญ่ (Colon Cancers)ที่อาจเกิดจากการกระตุ้นของสารพิษตกค้างในลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี

แหล่งของเส้นใยอาหารที่เราพบว่าให้เส้นใยอาหารที่มีคุณสมบัติดี คือ เส้นใยอาหารจากรำข้าวโอ๊ต เส้นใยอาหารจากหัวบีท และเส้นใยจากพืชผักสมุนไพรต่าง ๆ เนื่องจากพบว่าให้อัตราส่วนของเส้นใยอาหารชนิดที่ละลายในน้ำได้ (Soluble Fiber) และเส้นใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายในน้ำ (Insoluble Fiber) ในปริมาณที่เหมาะสม