นาย เอกรินทร์ อารีกุล
1. สายอากาศ รับสัญญาณโทรทัศน์เข้ามา
เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า
2. วงจรเลือกคลื่น
เลือกช่องที่ต้องการ
3. วงจรขยายและเปลี่ยนความถี่
จะขยายสัญญาณให้แรงขึ้น
และลดความถี่ลงให้เป็นความถี่ลงเป็นความถี่กลาง ซึ่งจะขยายได้ง่าย
4. วงจรขยายความถี่กลาง
จะขยายความถี่กลางให้แรงขึ้นและกรองสิ่งรบกวนออก
คงให้สัญญาณของช่องที่ต้องการผ่านไปได้เพียงสถานเดียว เพื่อตัดการรบกวน
แล้วส่งสัญญาณไปให้วงจรเลือกความถี่ภาพ
5.
วงจรเลือกความถี่ภาพ
จะแยกความถี่ภาพออกแล้วขยายให้แรงขึ้นแล้วส่งไปยังหลอดภาพ
6. วงจรเลือกความถี่เสียง
จะแยกความถี่ออกแล้วขยายให้แรงขึ้นแล้วส่งไปยังลำโพงเกิดเป็นเสียงขึ้นมา
7. วงจรเลือกสัญญาณซิงค์ จะเลือกสัญญาณซิงค์
แล้วแยกเป็นสัญญาณซิงค์ในแนวตั้งและแนวนอน
แล้วส่งสัญญาณซิงค์ในแนวตั้งไปบังคับวงจรเปลี่ยนทิศทางอิเล็กตรอนในแนวตั้ง
ส่งสัญญาณซิงค์ในแนวนอนไปบังคับวงจรเปลี่ยนทิศทางอิเล็กตรอนในแนวนอนให้ทำงานในจังหวะเดียวกับเครื่องส่ง
8.
วงจรแยกซิงค์ของสี จะแยกซิงค์ของสี
ไปบังคับการทำงานของวจรสีให้ทำงานในจังหวะเดียวกันกับเครื่องส่ง
9.
วงจรขยายสัญญาณสี จะแยกสัญญาณสีแล้วขยายให้แรงขึ้น
แล้วแยกสีออกเป็น สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน
โดยนำสีน้ำเงินกับสีแดงลบออกจากสีขาวจะได้สีเขียว
ส่งสีทั้งสามเข้าหลอดภาพ
โดยให้
สีแดงไปบังคับปืนอิเล็กตรอนสีแดง
สีเขียวไปบังคับปืนอิเล็กตรอนสีเขียว
สีน้ำเงินไปบังคับปืนอิเล็กตรอนสีน้ำเงิน
ก็จะได้ภาพออกมาเหมือนที่เครื่องส่งมา
10.
หลอดภาพสี หลอดภาพโทรทัศน์สีจะมีจุดเล็กๆ
ที่ทำด้วยวัตถุเรืองแสง 3 สีคือ แดง เขียว
น้ำเงิน จะอยู่เป็นสามจุดใดก็ได้ หรือจะอยู่เป็น 3
แถบก็ได้
เนื่องจากความเฉื่อยของสายตา และดูไกลๆ ทำให้ภาพดูสวยงาม แต่ถ้าใช้แว่นขยายส่องดูใกล้ๆ จะเห็นจุดสีเล็กๆ เป็นสีแดง เขียว น้ำเงินเต็มไปหมด
หลอดภาพสี มีหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณภาพให้กลายเป็นภาพสีเหมือนที่เครื่องส่งมา
ข้อมูลอ้างอิงจาก หนังสือความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิทยุโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช