All animals all the time
home
Dog
Fish
Cat
Bird
SmallPets
Insects
Shopping


SEARCH

 PET SHOP
 FARM
 โรงเรียนสุนัข
 โรงพยาบาลสัตว์
 ราคากลางสัตว์เลี้ยง
 สินค้าผลิตภัณฑ์
 FOOD

เมื่อถูกงูกัด


-เมื่อรู้สึกตัวว่าโดนอะไรสักอย่างกัดและสสงสัยว่าอาจเป็นงูพิษ สิ่งแรกที่ควรทำคือ สำรวจดูว่าสัตว์ที่กัดนั้นเป็นตัวอะไรกันแน่ เพราะถ้าไม่ใช่งูถึงแม้จะเห็นรอยเขี้ยวชัดเจนก็เพียงแต่รักษาตามอาการเท่านั้น แต่ถ้าเป็นงูกัดการนำตัวมันไปโรงพยาบาลด้วยก็จะมีประโยชน์มาก ในกรณีที่มีพิษรุนแรง ถึงขั้นต้องเอาเซรุ่มรักษา ซึ่งเซรุ่มของงูชนิดใดก็ใช้รักษาแต่พิษของงูชนิดนั้น
-ปัญหามักจะเกิดขึ้นในกรณีที่ถูกงูกัด มีรรอยเขี้ยวแต่ไม่เห็นตัวต้นเหตุ ซึ่งจำเป็นต้องมีการสังเกตุอาการของพิษ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพราะอาการอาจจะไม่แสดงออกในทันที อาการที่ว่านี้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพิษชนิดนั้น ออกฤทธิ์ต่อส่วนไหนของร่างกาย
ส่วนการปฐมพยาบาลเบี้ยงต้น ก็เพียงแค่ทำความสะอาดแผลเท่านั้น แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที


ทางการแพทย์แบ่งชนิดของพิษงูออกเป็น 3 ชนิด
1. พิษต่อระบบประสาท ซึ่งพบในงูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม และงูทะเล พิษชนิดนี้จะทำให้เส้นประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อเสียไป โดยเริ่มจากกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ ที่ตาและลิ้นก่อน ซึ่งทำให้ผู้ถูกกัดมีอาการหนังตาตก ลืมตาไม่ขึ้น และพูดเสียงอ้อแอ้ไม่ชัด หลังจากนั้นจะมีอาการแขนขาอ่อนแรง และหยุดหายใจจากการที่กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ในการทำงานหยุดทำงานได้ ดังนั้นคนที่ถูกงูกัดแล้วเกิดอาการเมาโดยที่ไม่ใด้ดื่มเหล้า ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
2. พิษต่อระบบเลือด ทำให้เลือดออกง่าย จะสังเกตุได้จากแผลที่ถูกกัดมีเลือดชื้นตลอด ถ้าเป็นมากจะมีอาการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะเป็นเลือด จนถึงเลือดออกในสมองทำให้หมดสติเป็นอัมพาตเสียชีวิตได้ งูพิษในกลุ่มนี้ก็คือ งูกะปะ งูแมวเซา และงูเขียวหางไหม้
3. พิษต่อกล้ามเนื้อ จะทำให้เกิดการเน่าตายของกล้ามเนื้อบริเวณที่ถูกกัดได้มาก แผลบวม และปวดมาก งูที่มีพิษชนิดนี้คือ งูทะเล