เทียนวรรณ
พิมพ์ครั้งแรก ๒๔๙๕ (สนพ.รวมสาส์น)

สงบ สุริยินทร์


		เทียนวรรณ เป็นหนังสือชีวิตและงานของเทียนวรรณ หรือ ต. ว. ส. 
	วรรณาโภ (๒๓๘๕-๒๔๕๘) ปัญญาชนคนสำคัญในสมัยรัชกาลที่ ๕  ผู้เรียกร้องระบบประชา
	ธิปไตยแบบรัฐสภาและการปฏิรูปทางด้านสังคมอีกหลายข้อ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้รัฐบาล
	ราชาธิปไตยจับเขาเข้าคุกถึง ๑๗ ปี

		หนังสือเรื่อง เทียนวรรณ ซี่งเขียนโดยสงบ สุริยินทร์ เป็นเรื่องเล่าเชิงพรรณา 
	ที่ผู้เขียนเริ่มเล่าประวัติชีวิตของเทียนวรรณอย่างละเอียด ทำให้ทราบว่า เทียนวรรณ เดิม
	ชื่อ เทียน นามสกุล วัณณาโภ เกิดในปี ๒๓๘๕ ในปลายรัชกาลที่ ๓ ที่บางขุนเทียน มาจาก
	ตระกูลใหญ่ที่มีเลือดผสมระหว่างทหารกับพลเรือน เป็นคนที่มีความจำและไหวพริบดีมา
	แต่เด็ก  ตอนเด็กได้เล่าเรียนที่บ้าน อายุ ๘ ขวบได้ไปเรียนหนังสือไทยกับหนังสือขอมกับ
	พระที่วัดโพธิ์ รวมทั้งได้เรียนวิชามวย และเวทมนตร์คาถาด้วย  ตอนรุ่นหนุ่มเป็นนักเลง
	ประเภทมีศีลธรรม ไม่ข่มเหงผู้ใดก่อน พ่อของเทียนวรรณ เสียตั้งแต่ตอนเขาอายุ ๑๓ ปี 
	และแม่ได้แต่งงานใหม่กับพ่อเลี้ยง ซึ่งเป็นคนดีมีศีลธรรม ผู้ได้กล่อมเกลาให้เขามีนิสัยละ
	มุนละไมขึ้น ประสบการณ์ที่สำคัญคือ การที่เขาเริ่มทำงานค้าขายทางเรือถึงสวรรคโลกและ
	กำแพงเพชร  ตั้งแต่อายุ ๑๘ ปี ตอนอายุ ๑๙ ปีได้ทำงานเรือกำปั่น ได้ไปถึงซัวเถา ฮ่องกง 
	เอ้หมึง และเซี่ยงไฮ้ เป็นเวลา ๑๕ เดือน กลับมาได้ทั้งความรู้และเงินที่เก็บไว้
	
		หลังจากนั้นเขาก็บวชที่วัดบวรนิเวศถึง ๔ พรรษา ได้เรียนทั้งพระธรรมวินัย
	และภาษาอังกฤษ ได้ศึกษาอยู่ท่ามกลางนักปราชญ์ เช่น สมเด็จพระสังฆราช (สา) และรัช
	กาลที่ ๔ สมัยที่ยังทรงผนวชและเสด็จมาประทับที่วัดบวรนิเวศบ่อยครั้ง  เขาลาสิกขาบท
	เมื่ออายุได้ ๒๕ ปี และเป็นคนที่ชอบศึกษาหาความรู้ ฟังข่าวสารการเมือง ซื้อและเช่าหนังสือ
	ใหม่ๆ มาอ่านเสมอ  เมื่ออายุ ๒๖ ปี ได้ไปค้าขายถึงสิงคโปร์ หลังจากนั้นก็วิ่งค้าขายไปๆ 
	มาๆ ตามหัวเมืองต่างๆ ของไทย และคบค้าสมาคมกับเจ้านายและผู้ลากมากดี ผู้พอใจที่
	เห็นเขาเป็นคนฉลาดเฉลียวและมีความคิดใหม่ๆ  เทียนวรรณเริ่มเห็นปัญหาว่า การที่พวก
	เจ้านายและผู้ดีมีเมียมาก เป็นบ่อเกิดแห่งความทุจริต เพราะต้องจับจ่ายใช้สอยมาก รวม
	ทั้งคนแก่ที่มีเมียมาก ก็ไม่สามารถให้ความสุขภรรยาได้อย่างทั่วถึง

		เทียนวรรณ มีภรรยาทั้งหมด ๓ คน แต่ก็มีครั้งละคน คือ หย่าหรือเลิกกับคน
	หนึ่งแล้วจึงมีคนถัดมา

		เทียนวรรณเริ่มเขียนบทความแสดงความคิดเห็นให้ปรับปรุงราชการงาน
	เมือง ตอนที่เขาอายุ ๓๐ ปี โดยมีข้อเสนอที่ก้าวหน้าหลายข้อ เช่น ให้เลิกทาส ให้เลิก
	การพนันบ่อนเบี้ย ให้ปราบปรามการทุจริตฉ้อฉลและความไม่เป็นธรรม ให้มีสภาผู้
	แทน บทความที่เขาเขียนบางครั้งไม่มีหนังสือพิมพ์ไหนลงให้ เขาก็จะยกให้ผู้มีสตางค์
	พิมพ์เป็นหนังสือแจกงานศพบ้าง หรือพิมพ์แจกเอกบ้าง ในช่วงที่เขาไปอยู่จังหวัด
	ตราดและจันทบุรีกับภรรยาคนแรก เขาได้ศึกษากฎหมายด้วยตนเองอย่างจริงจัง และ
	กลับมาอยู่กรุงเทพตอนอายุ ๓๓ ปี  และทำงานเป็นที่ปรึกษากฎหมาย รวมทั้งศึกษา
	ด้วยตนเอง อ่านหนังสือทั้งภาษาไทยและอังกฤษอย่างต่อเนื่องเขาเขียนทั้งบทความ, 
	บันทึกประจำวัน, กาพย์กลอน รวมทั้งไปพูดแสดงความคิดเห็นทั้งตามวังเจ้านายและ
	ตามวัด เขาเป็นคนแรกๆ ที่เห็นความสำคัญของผู้หญิงว่า รัฐบาลควรจะให้การศึกษา
	ทัดเทียมกับชาย เขาทำงานเป็นทนายความแบบนักอุดมคติ ช่วยให้คนจนได้รับความ
	ยุติธรรม

		ตอนที่เทียนวรรณอายุ ๔๐ เขาถูกฟ้องร้อง กรณีเขียนฎีกาให้กับราษฎร
	ผู้หนึ่ง และถูกตัดสินว่าหมิ่นตราพระราชสีห์ ซึ่งเท่ากับหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและ
	หมิ่นประมาทเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรถูกเฆี่ยน ๕๐ ที และ
	ถูกขังคุกโดยไม่มีกำหนด  สงบ สุริยินทร์ (ผู้เขียน) วิเคราะห์ว่าคงจะถูกผู้ใหญ่กลั่น
	แกล้ง  เพราะเทียนวรรณเป็นคนปากโป้ง ชอบเปิดโปง ความชั่วของผู้อื่นอย่างไม่
	กลัวเกรงอิทธิพลใดๆ ในช่วง ๒ ปีแรก  เทียนวรรณถูกขังแบบใส่ขื่อคาครบห้า 
	คือ ทั้งที่คอ มือ และเท้า ซึ่งสร้างความยากลำบากให้กับเขามาก แต่เขาก็ยังมีจิตใจ
	เข้มแข็ง อ่านและทำบันทึก เขียนหนังสือ เขาได้รายงานความทารุณในคุกให้ผู้ใหญ่ 
	คือ กรมหลวงราชบุรีฯ ทราบ  จนมีคำสั่งให้ปลดโซ่ที่คอออกจากนักโทษทุกคน 
	หลังจากนั้นเขาก็มีโอกาสเขียนหนังสือ ทั้งร้อยแก้วร้อยกรอง ส่งไปพิมพ์นอกคุก 
	เขาต้องโทษจำคุกอยู่เกือบ ๑๗ ปี ได้พ้นโทษ เพราะการช่วยเหลือวิ่งเต้นของขุน
	หลวงพระยาไกรศรี (เปล่ง) ระหว่างที่ติดคุกเขียนหนังสือไว้ ๒๘ เรื่องด้วยกัน  ทั้ว
	วิจารณ์ลัทธิเมืองขึ้นของฝรั่ง, ให้เปลี่ยนขนบธรรมเนียมบ้านเมือง และงานชิ้นอื่นๆ 

		หลังจากออกจากคุก เทียนวรรณอายุ ๕๘ แต่ยังมีไฟในการทำงานมีผู้
	อุปการะให้เทียนวรรณยืมเงินเปิดสำนักทนายความขึ้น รวมทั้งเปิดร้านขายยาอีก
	แผนกหนึ่ง เพื่อหารายได้มาจุนเจือ ดำเนินอาชีพทนายได้ ๒ ปี พอปีที่ ๓ คือใน 
	พ.ศ.๒๔๔๓  ก็ได้ออกหนังสือพิมพ์รายเดือนชื่อว่า "ตุลวิภาคพจนกิจ" ซึ่งมีความ
	หมายว่า  หนังสือพิมพ์นี้มุ่งจะเสนอข่าวสารที่ตรงไปตรงมาประดุจตาชั่ง หนังสือ
	พิมพ์นี้อยู่ได้ ๖ ปีก็หยุดเพราะขาดทุน และเพราะเทียนวรรณเหนื่อยอ่อนลงเนื่อง
	จากอายุมาก (อายุประมาณ ๖๒-๖๓ ปี) แต่เขาก็พิมพ์หนังสือขึ้นอีกชุดหนึ่ง (รวม
	๑๒ เล่ม) ให้ชื่อว่า "ศิริพจนภาค" เป็นการรวมงานวรรณกรรมที่เขาเขียนตั้งแต่
	อายุ ๓๓ ปีเป็นต้นมา  ทั้งบทความวิจารณ์การเมือง เรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงการ
	ปกครองเป็นประชาธิปไตย, เรียกร้องให้เลิกทาส, โจมตีการทุจริตฉ้อฉลของ
	ข้าราชการ, เสนอโครงการ ๓๔ ข้อ ให้รัฐบาลปรับปรุงชาติ ซึ่งหลายข้อรัฐบาล
	ก็มาทำในภายหลัง, โจมตีระบบมีเมียมาก, โจมตีการพนัน, ปลุกใจให้คนรักชาติ, 
	เสนอแนะการปราบการทุจริตฉ้อโกงการปฏิรูประบบยุติธรรม, การวิจารณ์สังคม 
	รวมทั้งการวิจารณ์วรรณกรรมไทย เรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่ จนผู้เขียนถือ
	ว่าเทียนวรรณเป็นนักวิจารณ์วรรณกรรมคนแรกด้วย

		เทียนวรรณนั้น เขียนบทความด้วยการใช้ถ้อยคำง่ายชัดเจน ดังจะเห็น
	ได้จากตัวอย่างเช่นที่เขาเรียกว่า โรคของแผ่นดิน หรือโรคของประเทศราชการบ้าน
	เมือง คือ เจ้านายเสนาบดี อธิบดี พนักงานทุกระดับ
	
		"ประพฤติผิดพระราชกำหนดกฎหมาย ใช้อำนาจอันไม่ชอบธรรม
	ทุจริตในใจตน มิได้เมตตาจิตแก่ผู้น้อย และเพื่อนมนุษย.... มิได้มีหิริโอตตับปะ
	ธรรม เกรงบาปหรือกลัวกรรม มุ่งแต่จะหาลาภยศใส่ตนในทางทุจริต กลับ
	ความจริงให้เป็นเท็จ กลับความเท็จให้เป็นจริง"
	
		ขณะเดียวกัน เทียนวรรณก็วิเคราะห์ โรคของสามัญชน อย่างวิพากษ์
	วิจารณ์ตรงไปตรงมาเช่นกัน โดยเขาเขียนว่า 
	
		"ฝูงราษฎรเป็นคนโง่เขลา ปราศจากสติปัญญาวิชาความรู้ มีสันดาน
	หยาบช้าสามาน ประกอบการทุจริตชั่วร้ายต่างๆ เต็มไปด้วยการเล่น พะนันอัน
	ไม่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ศาสนาและบ้านเมืองของตน"
	
	
	แนวคิดของเทียนวรรณ ในด้านต่างๆ 
	
	- ด้านนโยบายต่างประเทศ 
		เขาแนะนำให้รัฐบาลไทยผูกมิตรไมตรีกับจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ และเยอรมัน 
	เพื่อต้านทานจักรพรรดินิยมฝรั่งเศส ในด้านการเมืองเขาเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลง
	การปกครองจากระบอบราชาธิปไตยมาเป็นประชาธิปไตย  
	
	- ด้านเศรษฐกิจ 
		เขาเรียกร้องให้ยกเลิกบ่อนการพนัน  ซึ่งเขาเห็นว่าทำให้พลเมืองโง่เขลา
	ถูกมอมเมา เกียจคร้าน และเป็นต้นเหตุแห่งความชั่วร้ายอื่นๆ  ตามมา และเสนอให้
	เอาเงินหลวงออกให้ราษฎรกู้ไปทำทุน ส่งเสริมการตั้งโรงงาน การค้นคว้าทรัพยากร
	ธรรมชาติ 	

	- ด้านการศึกษา 
		เขาเสนอให้รัฐจัดการศึกษาให้ไพร่ และสตรีอย่างเท่าเทียมกับผู้ดีและ
	บุรุษชักชวนให้ผู้มีเงินหันมาสร้างโรงเรียนแทนวัด ต้านโครงสร้างสังคมที่เขาเห็นว่า
	ต้องปฏิรูประบบราชการเพื่อปราบการทุจริตฉ้อฉล การเล่นพรรคเล่นพวก และ
	ความไม่ยุติธรรม

		นอกจากสงบ สุริยินทร์ (ผู้เขียน) จะนำเรื่องของเทียนวรรณมาเรียบ
	เรียงได้อย่างเข้าใจง่ายและน่าติดตาม ยังได้นำงานบางส่วนของเทียนวรรณมาพิมพ์
	ไว้ในบทท้ายๆ ของหนังสือด้วย 


กลับไปหนังสือประเภทสังคมวิทยา, มานุษยวิทยา, ประวัติศาสตร์สังคม