ชื่อสามัญBarberton Daisy, Transval, Gerbera
ชื่อวิทยาศาสตร์Gerbera jamesonii, Hook
เยอบีร่าเป็นไม้ตัดดอกที่ปลูกและเลี้ยงง่าย สามารถเจริญเติบโตได้ดีเกือบทุกภาคและทุกฤดูกาล จึงทำให้ดอกมีจำหน่าอยู่ในท้องตลาดตลอดทั้งปี ดอกมีความสวยงาม หลากหลายสี ก้านดอกยาวและทนทาน เหมาะกับงานพิธีต่าง ๆ แม้ว่าราคาจะไม้สูงนักแต่ก็ทำรายได้ให้เกษตรกรอย่างสม่ำเสมอ
ลักษณะทั่วไป
เยอบีร่าเป็นไม้เนื้ออ่อน ลำต้นอยู่ใต้ดิน การเจริญเติบโตแตกเป็นกอ ใบสีเขียวเข้มปรกดินเป็นพุ่ม ขอบแฉก ขนาดไม่เท่ากัน มีขนบางๆ อยู่ใต้ใบและก้านใบ ช่อดอกมีลักษณะเป็นรูปหัว (head) ประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กเป็นจำนวนมากอัดแน่นอยู่บนฐานรองดอก ดอกย่อยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ดอกย่อยชั้นนอกเป็นดอกตัวเมีย เรียงอยู่รอบนอก 1-2 ชั้นหรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้ ส่วนดอกชั้นในเป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีขนาดเล็กและสั้น เรียงกันหนาแน่นอยู่กลางใจดอก
พันธุ์
เกษตรกรในประเทศไทยปลูกเยอบีร่าพันธุ์ลูกผสมไว้ตัดดอกขาย ซึ่งความสวยงามไม่แพ้พันธุ์ต่างประเทศ เช่น
กลุ่มดอกสีขาว ได้แก่ พันธุ์ขาวครีม พันธุ์จักยาว พันธุ์จักสั้น
กลุ่มดอกสีแดง ได้แก่ พันธุ์แดงลักแทง พันธุ์แดงตาเปิ่น พันธุ์แดงใหญ่ พันธุ์หมื่นหาญ
กลุ่มดอกสีเหลือง ได้แก่ พันธุ์เหลืองถ่อ พันธุ์เหลืองพังสี พันธุ์สีดา พันธุ์นวลละออ
กลุ่มดอกสีส้ม ได้แก่ พันธุ์สุรเสน พันธุ์สีอิฐ พันธุ์จำปา พันธุ์กุมารทอง พันธุ์ร้อยฟ้า
กลุ่มดอกสีชมพู ได่แก่ พันธุ์ลูกรัก พันธุ์บัวหลวง พันธุ์มณฑา
การปลูก
เยอบีร่าชอบดินร่วนซุยมีค่า pH ประมาณ 6.5-7.5 การเตรียมแปลงเกษตรกรควรขุดดินตากไว้ประมาณ 1 เดือน เพื่อให้แสงแดดเป็นตัวฆ่าเชื้อโรคพร้อมกับย่อยดินและเก็บวัชพืชออก ซึ่งระยะนี้เกษตรกรควรใส่ปุ๋ยคอกควบคู่กันไปในอัตรา 1 ปุ้งกี๋ต่อตารางเมตร การปลูกเยอบีร่านิยมปลูกเป็นแปลงยาว ยกร่องหน้าแปลงกว้าง 2.75 เมตร ทางเดินและคูน้ำกว้างประมาณ 80 ซม. ความสูงของร่อง 50-60 ซม. ส่วนความยาวตามความยาวตามความเหมาะสมของพื้นที่ ระยะห่างระหว่างต้น 30x30 ซม. หรือ 40x40 ซม.ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงลักษณะพันธุ์ด้วย เมื่อเตรียมแปลงเรียบร้อยแล้วให้ใส่ปุ๋ยรองก้นหลุมสูตร 14-14-14 ประมาณ 1/2 ช้อนชา แล้วกลบดินเล็กน้อยก่อนปลูกการปลูกจะใช้เยอบีร่า 1 ต้นต่อ 1 หลุม เมื่อปลูกเสร็จเรียบร้อยแล้วควรรดน้ำให้ชุ่ม คลุมด้วยฟางข้าว เศษใบไม้แห้ง หรือเปลือกถั่ว เพื่อรักษาความชื้นเนื่องจากน้ำเป็นปัจจัยที่สำคัญในการแตกหน่อและออกดอก ควรให้น้ำ 1-2 ครั้งต่อวัน เว้นแต่ฤดูฝนก็ไม่จำเป็นต้องให้ทุกวัน การใส่ปุ๋ยควรใส่ทุกๆ 15 วัน ใช้สูตรเดียวกับปุ๋ยรองก้นหลุม
การขยายพันธุ์
ทำได้ 2 วิธี คือ การเพาะเมล็ดและการแยกหน่อ สำหรับประเทศไทยแล้วการเพาะเมล็ดไม่ค่อยนิยม เพราะทำได้ช้าและเสียเวลาในการออกดอก วิธีนี้เหมาะกับการปรับปรุงพันธุ์และหาพันธุ์ใหม่ๆ ออกดอกสู่ตลาด ส่วนการแยกหน่อนั้นนิยมมาก เพราะทำงานและสะดวก เพียงขุดหรือแยกหน่อจากกอล้างรากให้สะอาด ตัดใบและรากออก 2 ใน 3 ส่วนของความยาวรากและใบแล้วนำไปปักชำในกระบกที่ร่มมีแสงประมาณ 15 % ประมาณ 1 เดือน เยอบีร่าก็จะแตกรากใหม่และให้ดอก
โรคและแมลง
โรคใบจุด เกิดจากเชื้อรา อาการเป็นวงสีม่วงอมน้ำตาลตามแผ่นใบโรคนี้ระบาดในช่วงฤดูฝน การป้องกัน ฉีดด้วยสารเคมีแคปแทน ซีแนป ไดโฟลาแทน ทุกสัปดาห์ และตัดใบที่เป็นโรคทิ้งหรือเผาไฟ
โรคดอกเขียว เกิดจากเชื้อไวรัส ต้นที่เป็นโรคเมื่อออกดอกแล้วจะสังเกตเห็นกลีบดอกเปลี่ยนเป็นสีเขียวลักษณะคล้ายใบและเจริญเป็นยอดหรือต้นเล็กๆ อยู่บนช่อดอก เมื่อพบควรขุดนำไปฝังหรือเผาทำลาย
เพลี้ยไฟ จะดูดน้ำเลี้ยงจากดอกและใบ ทำความเสียหายมาก ถ้าเกิดกับดอกทำให้มีรอยด่างขาว ถ้าหากทำลายที่ใบจะทำใบหงิกงอ หยาบกร้าน ต้นเล็ก ส่วนมากระบาดในช่วงที่อากาศร้อนแห้ง ป้องกันโดยการฉีดพ่นด้วยโตกุโธออนและบาซูดิน