|
|
|
ชื่อเรื่องไทย |
อิทธิพลของปุ๋ยและน้ำต่อการเจริญเติบโตของลำไยที่ยังไม่ให้ผลผลิต
(อายุ 1-4 ปี) |
|
ชื่อเรื่องอังกฤษ |
ไม่ปรากฏ
|
|
ผู้แต่ง |
ดุสิต มานะจุติ, สุชาติ จิรพรเจริญ, โชคชัย ไชยมงคล,
อัสนี นิมมลังกูล, สมศักดิ์ จีรัตน์
|
|
สาขาวิจัย |
รายงานวิจัย |
|
สถาบัน |
ภาควิชาปฐพีศาสตร์และอนุรักษ์ศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
|
ปีที่พิมพ์ |
2544 |
|
ประเภท |
เขตกรรม |
|
บทคัดย่อ
|
การเจริญเติบโตของลำไยในด้านความสูง ความกว้างของทรงพุ่ม และเส้นผ่าศูนย์กลางลำต้นเฉลี่ยเนื่องจากอิทธิพลของตำรับปุ๋ยและระบบน้ำต่างๆ
ในช่วง 10 เดือน(กรกฎาคม 2543 - เมษายน 2544) สรุปไว้ในตารางที่
7 ซึ่งพบว่า ในด้านความสูงของลำต้นโดยเฉลี่ยแล้ว ตำหรับปุ๋ยที่ประกอบด้วยทั้งปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีที่ใส่มากครั้ง
(T 6,T7) จะมีความสูงมากกว่าตำหรับอื่นๆ แต่โดยทั่วไปความสูงจะไม่แตกต่างกันมากนักและมีความผันผวนบ้าง
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างกันให้น้ำแบบมินิสปริงเกอร์และน้ำหยด แต่การให้น้ำแบบน้ำหยดจะมีความสูงของทรงต้นลำไยไม่ผันผวนแตกต่างกันมากนัก
โดยจะเพิ่มขึ้นตามลำดับปุ๋ยที่สูงขึ้น ตั้งแต่ต่ำสุดใน T1 และสูงสุดใน
T7 ความกว้างของทรงพุ่มของลำไยพบว่าในระบบการให้น้ำแบบมินิสปริงเกอร์จะมากที่สุดในตำหรับที่
5 และต่ำสุดในตำหรับปุ๋ยที่ 1 แต่จะมีความกว้างทรงพุ่มที่ผันแปรลดลงในตำหรับปุ๋ยที่
6 และ 7 โดยมีความกว้างของทรงพุ่มที่น้อยกว่าตำหรับปุ๋ยที่ 5 ในการให้น้ำแบบหยดพบว่าในตำหรับปุ๋ยที่
7 จะมีความกว้างมากที่สุดและน้อยที่สุดในตำหรับปุ๋ยที่ 1 ความแตกต่างของความกว้างของทรงพุ่ม
เนื่องจากระบบน้ำที่แตกต่างกันจะแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย สำหรับผ่าศูนย์กลางของลำต้นนั้นพบว่า
ทั้งตำหรับปุ๋ยและระบบน้ำที่แตกต่างกันจะมีความผันแปรแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย
เนื่องจากต้นลำไยยังมีอายุน้อยและมีการเจริญเติบโตของต้นด้านลำต้นไม่มากนัก
โดยสรุปแล้วในช่วงระยะเวลาของการทดลอง 10 เดือน ความแตกต่างของการเจริญเติบโตของลำไยทั้งทางด้านความสูง
ความกว้างทรงพุ่มและเส้นผ่าศูนย์กลางลำต้น มีความผันแปรแตกต่างยังเห็นไม่ชัดเจนนักเนื่องจากเป็นระยะเริ่มแรกของงานทดลองและระบบการให้น้ำทั้งสองระบบยังไม่สมบูรณ์แบบ
คือปริมาณการให้น้ำยังไม่สามารถควบคุมให้มีปริมาณที่ส่ำเสมอกันได้ตลอดเวลา
ประกอบกับสภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินและความสามารถในการอุ้มน้ำของดินไม่ค่อยดี
เป็นดินทรายที่ความสามารถในการอุ้มน้ำได้ต่ำและมีความอุดมสมบูรณ์อยู่ในระดับที่ต่ำถึงต่ำมาก
งานทดลองในระยะที่นานขึ้นในปีที่สองและสามจะเห็นผลได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
|
|