ศึกษาผลของโพแทสเซียมคลอเรทในการชักนำการออกดอกในระหว่างการเจริญของต้นกล้าลำไยตั้งแต่ระยะที่เมล็ดกำลังงอกจนกระทั่งเจริญเป็นต้นอ่อนและต้นกล้า
รวมทั้งศึกษาการเจริญในระยะต่างๆ เมื่อเลี้ยงในสภาพปลอดเชื้อเป็นเวลา
1 ปี จากการทดลองไม่พบว่ามีการออกดอกเกิดขึ้นไม่ว่าจะให้สารในระยะใดของการเจริญ
แต่ได้บันทึกผลเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์การงอก เปอร์เซ็นต์การรอด ความสูง
และความยาวรากไว้ดังนี้ เปอร์เซ็นต์การงอก เปอร์เซ็นต์การรอดหลังจากที่แช่เมล็ดในสารละลายโพแทสเซียมคลอเรทความเข้มข้น
2.5 และ 5.0 กรัมต่อลิตร แล้วแบ่งเมล็ดเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำ
ส่วนอีกกลุ่มนำไปปลูกทันที พบว่าเมล็ดมีการงอกในกลุ่มที่เก็บเมล็ดไว้ที่อุณหภูมิต่ำมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เก็บเมล็ดที่อุณหภูมิต่ำและได้รับสารความเข้มข้นสูง
และมีการรอดในกลุ่มที่เก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้เก็บที่อุณหภูมิต่ำที่ทุกความเข้มข้น
นอกจากนี้ยังพบว่า การให้สารโดยการคลุกเมล้ดซึ่งไม่ได้เก็บที่อุณหภูมิต่ำก็มีเปอร์เซ็นต์การรอดต่ำเช่นกัน
สำหรับการทดลองราดสารแก่ต้นอ่อนลำไยอายุ 7 วัน พบว่ากลุ่มที่ได้รับสารความเข้มข้นสูงจะมีความสูงน้อย
แต่มีเปอร์เซ็นต์การรอดเป็นปกติทั้งในกลุ่มที่ได้รับสารความเข้มข้นต่ำและสูง
ส่วนการทดลองพ่นสารโพแทสเซียมคลอเรทความเข้มข้น 0.75 และ 1.5 กรัมต่อลิตรแก่ต้นกล้าลำไยอายุ
3 เดือน พบว่ากลุ่มที่ได้รับสารทั้ง 2 ความเข้มข้นมีความสูงเป็นปกติเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม
จากการศึกษาการเจริญในสภาพปลอดเชื้อในอาหารที่ผสมสารโพแทสเซียมคลอเรทความเข้มข้น
400 และ 600 ?M และ 5- AzaC ความเข้มข้น 250 และ 500 ?M แล้วติดตามผลเป็นเวลา
1 ปี พบว่ากลุ่มที่ได้รับสารแต่ละชนิดที่ความเข้มข้นต่างๆ มีเปอร์เซ็นต์การงอกเป็นปกติ
ส่วนความสูงเมื่ออายุ 1 ปี พบว่ากลุ่มที่ได้รับสารโพแทสเซียมคลอเรท
และกลุ่มที่ได้รับสาร 5- AzaC มีแนวโน้มที่จะมีความสูงน้อยกว่ากลุ่มควบคุม
ความยาวรากของกลุ่มที่ได้รับสารแต่ละชนิดที่ความเข้มข้นต่ำ มีแนวโน้มที่จะมีความยาวรากมากกว่ากลุ่มที่ได้รับสารความเข้มข้นสูง
|