Home
ประเทศที่ผลิตปืนลมชนิดเป็นล่ำเป็นสันนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายประเทศ อเมริกานั้นถึงแม้จะผลิตปืนลมออกมามากแต่ก็มักจะเป็นปืนระดับยิงกระป๋องซะเป็นส่วนมาก จีนเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ผลิตปืนลมส่ง ออกมากแต่ก็เป็นปืนที่เน้นราคาถูกมากกว่าจะเน้นคุณภาพ ในบรรดาผู้ผลิตปืนลมทั้งหมด อังกฤษและเยอรมัน ดูเหมือนจะเป็นสองประเทศที่ผลิตปืนลมชั้นดีออกมาแข่งกันอย่างไม่ขาดสาย สาเหตุที่สองประเทศนี้ชำนาญในการผลิตปืนลม ส่วนหนึ่งก็เพราะว่ากฎหมายของทั้งสองประเทศนี้ค่อนข้างจะจำกัดสิทธิที่จะเป็นเจ้าของปืนที่ใช้ดินขับ (Fire arm) แต่กลับเปิดกว้างสำหรับปืนลมโดย ถือว่าเป็นอาวุธทุกคนสามารถซื้อได้โดยไม่ต้องขออนุญาตเยอรมันนั้นมีบริษัทผู้ผลิตปืนลมชั้นนำอยู่หลายบริษัทแต่ยี่ห้อที่รู้จักกันแพร่หลายที่สุดในบ้านเรายี่ห้อหนึ่งก็คงเป็น Diana Diana นั้น ผลิตปืนลมหลายระดับตั้งแต่ปืนยิงเล่นไปจนถึงปืนแข่งขันระดับสากล แต่ความถนัดของ Diana นั้นอยู่ที่เป็นปืนลมสปริงระดับใช้งานทั้งปืนสั้นและปืนยาว Model 52 นี้นับว่าเป็นรุ่นสุดยอดของปืนลมใช้งานจากสายการผลิตของ Diana ในปัจจุบัน ที่เล่ามายืดยาวนี้ก็เพื่อจะให้ท่านผู้อ่านทราบว่าในฉบับนี้เราจะทำการทดสอบปืนลมสปริงระดับสุดยอดของผู้ผลิต ชั้นนำของประเทศที่เป็นเจ้าปืนลมกันไม่ใช่ยอ่ยเลยทีเดียวใช่มั๊ยครับปืนกระบอกนี้นักเลงปืนลมทั้งหลายมักจะใช้คำว่า แม็กนั่ม กับปืนลมที่มีระดับความแรงตั้งแต่ 12-15 ฟุต-ปอนด์ขึ้น ไป Diana M 52 กระบอกนี้สามารถจัดอยู่ในระดับปืนลมแม็กนั่มได้อย่างไม่ขัดเขินแต่อย่างใด เพราะความเร็วปากลำกล้องของ M 52 เบอร์ 2 อยู่ที่ระดับ 900 ฟุต/วินาที ซึ่งคำนวณเป้นพลังงานได้ถึงกว่า 20 ฟุต-ปอนด์เลยทีเดียวในปัจจุบัน Diana ผลิต Model 52 ในสามขนาดคือ .177 (เบอร์ 1) .22 (เบอร์ 2) และขนาด .25 ในบ้านเรา ดูเหมือนจะมีแต่เบอร์ 2 เข้ามาขาย นอกจาก M 52 แล้ว Diana ยังมีปืนลมที่ใช้โครงสร้างเดียวกันนี้อีกหลายรุ่น เช่น M 48 ซึ่งใช้กลไกเหมือน M 52 ทุกอย่างเว้นแต่การตกแต่งของพานท้าย ซึ่งก็ทำให้ราคาย่อมเยาลงไป M 48 B เป็น่รุ่น ที่ใช้พานท้ายโพลิเมอร์สีดำ เพื่อลดน้ำหนัก และเพิ่มความทนทานต่อสภาพอากาศ M 52 Deluxe เป็นรุ่นที่ใช้ไม้วอลนัทคัดพิเศษที่ให้ลายไม้สวยงามมาก แต่ราคาก็สูงเป็น 2 เท่าของรุ่นธรรมดา รุ่นที่สุด ยอดจริงๆ เห็นจะเป็น M 54 ซึ่งก็เป็นระบบเดียวกับปืน FWB 300 S ซึ่งเป็นปืนลมยาวแข่งขันของ Feinwerkbau ซึ่งครองสนามแข่งขันอยู่นานหลายปี
Diana M 48 ลูกพี่ลูกน้องของ M 52 กลไกเหมือนกันทุกอย่าง แต่เรียบง่ายและย่อมเยากว่า
Diana M 48 ดูดุดันและไฮเทคตามสมัยนิยมด้วยพานท้ายโพลิเมอร์สีดำสนิท
Diana M 52 Deluxe พานท้ายไว้วอลนัทคัดลายพิเศษแต่กลไกก็ไม่ต่างจาก M 52 ธรรมดาครับ
Diana M 54 Air King กระบอกนี้น่าสนใจ แรงระดับแม็กนั่มและไม่มีแรงรีคอยล์ติอย่างเดียวคือน้ำหนักมากไปซักนิด
M 52 จัดเป็นปืนลมสำหรับผู้ใหญ่อย่างแท้จริง โครงสร้างแข็งแรงบึกบึน พานท้ายทำด้วยไม้เนื้อแข็งเต็มไม้เต็มมือ น้ำหนักปืนปาเข้าไปถึง 8.5 ปอนด์ (3.8 กิโลกรัม) หนักกว่าปืนไรเฟิลขนาดใหญ่บาง กระบอกซะอีก ฝีมือในการทำถือว่าอยู่ในระดับสุดยอดกระโจมมือและคอปืนมีการอัดลายเช็คเกอร์เรียบร้อยสันพานท้ายมียางรองราวกับไรเฟิล .375 เอชแอนด์เอช แม็กนั่ม ศูนย์หน้าตั้งอยู่บนฐานอย่างแข็งแรง สามารถเลื่อนปรับสูงต่ำได้ศูนย์หลังแบบไมโครมิเตอร์แบบมีคลิกสามารถปรับสูงต่ำและซ้ายขวาได้อย่างละเอียด
ศูนย์หน้าอยู่บนฐานที่แข็งแรง (มาก) สามารถปรับสูงต่ำได้โดยคลายน๊อตที่ตัวศูนย์แล้วเลื่อนขึ้นลง
ศูนย์หลังแบบไมโครมิเตอร์ปรับได้ทั้งซ้ายขวาและขึ้นลง
คันง้างสปริงทำงานโดยการง้างมาทางด้านหลัง คานง้างทำได้แข็งแรงดีมาก การง้างต้องใช้แรงค่อนข้างมากทีเดียวตามคู่มือบอกว่าต้องใช้แรงง้าง 39 ปอนด์ ผู้เขียนไม่รู้จะเอาอะไรมาวัดก็คงต้องเชื่อ ไปตามที่ฝรั่งเขาว่า บอกเพิ่มเติมได้แต่ว่ายิงสัก 100 นัด ติดต่อกันคงแขนห้อยแน่ๆ ก็ดีเหมือนกันครับถือว่าได้ออกกำลังไปในตัว Diana รุ่นนี้มีระบบป้องกันการตีกลับของคันง้าง ถ้าผู้ยิงหมดแรงซะก่อน ฝรั่งเขาเรียกตัวนี้ว่า Bear Trap เพราะมีลักษณะเป็นฟันปลาคล้ายกับดักสัตว์ เมื่อง้างสุดแล้วต้องใช้มือกดเพื่อกดกระเดื่องให้ เจ้าฟันปลานี้จมลงจึงสามารถดันคันง้างกลับเข้าที่ได้เมื่อง้างสุดแล้วสามารถใส่กระสุนเข้าไปที่ท้ายลำกล้องโดยตรง วิธีใส่กระสุนแบบนี้ว่ากันว่าให้ความ แม่นยำกว่าแบบอื่น ที่มีรอยต่อระหว่างช่องบรรจุกระสุน และลำกล้องคิดดูแล้วก็มีเหตุผลน่าเชื่อถืออยู่บ้างเมื่อง้างคันง้างจนสุดเซฟจะเข้าเองโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากปืนลั่นขณะกำลังบรรจุ กระสุนอยู่ซึ่งจะทำให้คานง้างตีกลับและกระบอกสูบหนีบมือผู้ยิง(ขาดแน่) ได้ก่อนยิงต้องปลดเซฟก่อนทุกครั้ง
ก่อนดันคันง้างเข้าที่ต้องกดปุ่มล็อคฟันปลาซึ่งอยู่ด้านซ้ายลงเสียก่อน
เซฟจะเข้าเองทุกครั้งที่ขึ้นลำ ก่อนยิงต้องปลดโดยการดันขึ้นข้างบน
หลังจากขึ้นคันง้างแล้วก็จะสามารถใส่กระสุนเข้าที่ท้ายลำกล้องโดยตรงในภาพจะเห็น ฟันปลา หรือ Bear Trap ป้องกันคันง้างตีกลับ โปรดสังเกตอีกอย่างว่าใบศูนย์หลังสามารถเปลี่ยนได้เพื่อเลือกความกว้างและรูปทรงได้
ไกปรับได้ทั้งน้ำหนักและระยะลากโดยการไขสกรูที่อยู่ภายในโกร่งไก
การทดสอบ
พอดีว่าเพื่อนๆ ของผู้เขียนได้มีการนัดกันไปยิงปืนลมเล่นที่บ้างของเพื่อนในกลุ่ม ประกอบกับว่าคนหนึ่งในกลุ่มนี้คือคุณไกรสรมี Diana M 52 ขนาด .22 อยู่ในครอบครอง ผู้เขียนจึงได้ขอยืมปืนมาทำ การทดสอบเสียเลยไม่ต้องไปยืมปืนจากร้านค้าเรานัดกันเพื่อไปยิงเป้าเหล็กรูปสัตว์ (Silhouette) กันในตอนบ่ายๆ วันอาทิตย์ อากาศวันนั้นเป็นใจ มาก เพราะแดดร่มลมเย็นสบาย การยิงก็เป็นแบบเพื่อนฝูงไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว ปืนที่ใช้ยิงก็แบ่งเป็นปืนสั้นและยาวมีขนาดตั้งแต่ FWB 300 S ติดกล้อง Anschutz หักลำกล้อง และ Diana M 52 พระเอกของเราในตอนนี้ Diana M 52 เหมาะมากสำหรับการยิง Silhouette เพราะการยิง Silhouette นี้นอกจากจะต้องการความแม่นยำแล้ว ยังต้องการปืนที่มีความแรงปะทะพอที่จะผลักให้เป้าเหล็กล้มได้ที่ระยะไกลสุดถึง 50 หลา เพื่อที่จะได้ทดสอบความแม่นยำที่แท้จริงของ M 52 ผมจึงทำการติดตั้งกล้อง Bushnell Trophy 6-18 เท่า ซึ่งเป็นกล้องที่ทำมาสำหรับปืนลมเข้ากับเจ้า Diana M 52 ผมใช้ฐานกล้องของ B-Square สำหรับปืนลมที่มีสมอล็อค เพื่อป้องกันฐานเคลื่อนมาให้ด้วย จากนั้นก็ใช้แหวนรัดกล้องแบบวีฟเวอร์ แค่นี้ก็ป้องกันกล้องเคลื่อนได้อย่างแน่ใจ บางท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องพิถีพิถันนักกับแค่กล้องปืนลม ต้องขอเรียนให้ท่านทั้งหลายทราบกันซะก่อนครับว่า แรงรีคอยล์ ของปืนลมสปริงนั้นถึงแม้จะไม่รุนแรงเหมือนปืนแม็กนั่มใหญ่ๆ แต่ก็มี ลักษณะพิเศษที่จะทำให้กล้องเคลื่อนหรือกล้องพังง่ายๆ เจ้าของ M 52 กระบอกนี้ยังยืนยันว่าเคยลองใช้ขากล้องธรรมดากับปืนกระบอกนี้มาแล้ว ปรากฎว่า 3 นัด หลุด! เอาไว้ผมจะเขียนเรื่องการติด กล้องกับปืนลมกันสักครั้ง ตอนนี้กลับกันมาว่ากันถึงการทดสอบปืนกันต่อดีกว่า
โครงปืนมีฐานกล้องอย่างดีติดมาให้พร้อมรูสำหรับลงสมอกันฐานกล้องเลื่อน
ขันฐานกล้องให้แน่นด้วยประแจหกเหลี่ยม
แหวนรัดกล้องแบบวีฟเวอร์ที่มีแกนขวางกันกล้องเดินหน้าถอยหลัง
ฐานกล้อง B-Square ทำมาสำหรับใส่ปืนลมโดยเฉพาะ มีสมอล็อคกับฐานกล้องป้องกันกล้องเคลื่อน
ใช้ประแจหกเหลี่ยมขันสมอให้ล็อคกับรูฐานน๊อตตัวนี้สามารถใช้ปรับกล้องสูงต่ำได้ด้วย
การยิง Silhouette สำหรับปืนลมยาวจริงๆ นั้นจะต้องยิงกันตั้งแต่ไก่ที่ระยะ 20 หลาไปจนถึงแพะภูเขาที่ 50 หลา แต่เนื่องจากพื้นที่จำกัดเราจึงจัดการย่อส่วนลงมายิงที่ระยะไก่ 10 หลา หมู 12 หลา ไก่งวง 16 หลา และแพะที่ 20 หลา ผมจัดการปักเสาติดเป้ากระดาษเพื่อทดสอบศูนย์ไว้ด้วยในทุกระยะหลังจากที่ได้ประกอบกล้องเรียบร้อย ผมก็เริ่มยิงปรับศูนย์ที่ระยะ 10 หลา ไกที่ตั้งมาจากโรงงานค่อน ข้างหนักไปนิด สำหรับยิงเป้าละเอียด แต่ก็สามารถปรับตั้งได้ง่ายๆ ทั้งน้ำหนักไกและระยะลาก โดยการไขสกรูข้างหน้าไกหลังจากที่ยิงนัดแรก ผมบอกได้เลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมโดนปืนลม "ถีบ" ขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสจนรับไม่ได้แต่อย่างใด ออกจะให้ความรู้สึกสะใจเสียด้วยซ้ำไปหลังจากปรับกล้องได้ที่ผมจึงได้ทดสอบความแม่นยำกับเป้ากระดาษอีกครั้ง โดยการพาดหมอนยิง อย่างง่ายๆ ไม่ผิดหวังเลยครับ ทุกคนค่อนข้างทึ่งที่เจ้า Diana M 52 สามารถส่งกระสุนเข้ารูเดียวกันที่ระยะ 10 เมตรได้อย่างง่ายดาย ถ้าไกเบากว่านี้สักนิดคงจะสามารถยิงกลุ่มได้เล็กกว่านี้ เมื่อเลื่อนระยะยิงเป็น 16 และ 20 เมตร กลุ่มกระสุนก็ไม่โตมากนัก แต่กลับสูงขึ้น 1/4 นิ้วที่ระยะ 16 เมตร และ 3/4 นิ้วที่ระยะ 20 เมตร ซึ่งก็แปลว่ากระสุนยังไม่เริ่มโค้งลงที่ระยะ 20 เมตร นอกจากนี้ กลุ่มกระสุนจึงออกไปทางด้ายซ้ายมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็น่าจะเกิดจากการที่ติดตั้งกล้องไม่ได้เป็นแนวเดียวกันกับลำกล้องปืน
3 นัดรูเดียว (แต่โตหน่อย) ที่ระยะ 10 เมตร
3 นัดที่ระยะ 15 เมตร กินสูงขึ้น 1/4 นิ้ว
3 นัดที่ระยะ 20 เมตร กินสูงขึ้นไปอีก
เมื่อรู้วิถีกระสุนแล้วพวกเราจึงได้ผลัดกันยิงเจ้า Diana กระบอกนี้กับเป้าเหล็ก กล้องถูกตั้งไว้ที่ 8 เท่าแต่นี้ก็เพียงพอสำหรับการยิงระยะ 20 เมตร น้ำหนักปืน 4 กิโลกรัม ช่วยทำให้ถือปืนในท่ายืนได้นิ่งดีมาก แรงปะทะของกระสุนจาก Model 52 มีมากมายเหลือเฟือสำหรับการยิง Silhouette เราเห็นเป้ากระเด็นหวือทุกครั้งที่กระสุนกระทบเป้า เมื่อเดินไปดูจึงพบว่าเป้าไก่กระเด็นไปไกลร่วม 3 เมตรหัวกระสุนก็บานออกจนเต็มที่
เป้าเหล็กรูปสัตว์หรือ Silhouette ตั้งที่ระยะต่างๆ กันแต่เนื่องจากพื้นที่จำกัดจึงตั้งไก่ที่ 10 เมตร หมู(ป่า)ที่ 12 เมตร ไก่งวงที่ 15 เมตร และแพะภูเขาที่ 20 เมตร อยู่ในเงามืดข้างหลังโน่นเป้ากระดาษที่ปักไว้ข้างๆ เอาไว้ทดสอบวิถีกระสุนก่อนยิงจริง
คุณยุทธดนัย เจ้าของบ้านขอลองบ้าง
ของเล่นอีกอย่างของนักเลงปืนลมที่น่าหาไว้ยิงเล่น เป้าเหล็กรูปสัตว์สำหรับระยะ 10 เมตร พอยิงล้มหมดแล้วมีเชือกดึงให้กลับขึ้นมาตั้งโดยไม่ต้องเดิน
คุณไกรสร เจ้าของปืนกำลังทดสอบกับเป้า Silhouette
บรรยากาศการยิง Silhouette กันในระหว่างเพื่อนฝูง
หลังจากที่ยิงเป้าเหล็กกันอยู่นานร่วม 3 ชั่วโมงแล้ว ผมจึงกลับมาทดสอบ Diana M 52 กันอีกครั้งเพราะเหตุที่ว่าท่านที่ซื้อปืนรุ่นนี้ไปอาจนำมันไปใช้กำจัดสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค เช่น หนูได้เป็นอย่าง ดี ผมจึงได้เอาเป้าหนูไปติดที่ระยะ 20 เมตรแล้วทดลองยิงจากท่านั่งใน 2 เป้าแรก ผมสามารถส่งกระสุนเข้าจุดตายของหนูได้เป้าละ 3 นัดอย่างไม่ยากเย็น แต่พอมาถึงเป้าสุดท้าย แรงชักจะเริ่มหมด เพราะไหนจะต้องขึ้นลำ ไหนจะคอนน้ำหนัก 4 กิโลกว่าของเจ้า M 52 จึงทำให้กลุ่มกระสุน กระจายออกจากกันและมีนัดหนึ่งหลุดออกไปจากตัวหนู ความผิดของคนยิงครับไม่ใช่ปืน
ยืนยิงเป้าละ 3 นัด เข้าจุดตายเกือบหมดยกเว้นนัดสุดท้ายที่คนยิงหมดแรงยกปืน
บทสรุปDiana Model 52 เป็นปืนลมสปริงระดับแม็กนั่มที่มีความแม่นยำเกือบจะเท่าปืนลมแข่งขัน ฝีมือการ ทำอยู่ในขั้นดีมาก ข้อเสียถ้าจะมีอยู่บ้างก็คงจะเป็นเรื่องน้ำหนัก 4 กิโลกรัมของมันที่จะทำให้ท่านไม่อยากจะแบกมันไปยิงเล่นที่ไหนไกลๆ ปืนรุ่นนี้และลูกพี่ลูกน้องของมันคือ Model 48 นั้นเหมาะมากสำหรับการยิงเป้า Silhouette หรือการยิงเป้าระยะไกลอื่นๆ รวมทั้งการกำจัดสัตว์พาหนะนำโรคทั้งหลาย ระยะหวังผลถึง 50 เมตร ผมไปเดินย่านหลังวังเมื่อไม่นานมานี้พบทั้ง Model 48 B, 52 และ 54 ซึ่งเป็นรุ่น Recoiless วางโชว์อยู่หลายร้านราคาก็ไม่แพงเกินไปนักเทียบกับคุณภาพของปืนตามที่ได้ทดสอบมาน่าสนใจมากครับ โดยเฉพาะ Model 54 ซึ่งน่าจะให้ความแม่นยำที่ดีขึ้นไปอีก ไม่แน่ว่ากว่าหนังสือฉบับนี้จะวางแผงผมอาจจะไปเอาเจ้า M 54 มายิงเล่นแล้วก็เป็นได้
ธัชรวี หาริกุล
ตีพิมพ์ในนิตยสาร กันส์เวิลด์ ไทยแลนด์ ปีที่ 3 ฉบับที่ 18 เดือนกุมภาพันธ์ 2542
ติดตามอ่านบทความล่าสุดได้ที่นิตยสาร กันส์เวิลด์ วางตลาดทุกสิ้นเดือน
คุยกันรอบกองไฟ
เซ็นสมุดเยี่ยม
สมัครสมาชิก Thailand Outdoor ฟรี